วรรณกรรมของหมื่นลี้
Group Blog
 
All Blogs
 
บทที่ 14 ปล่อยให้สายน้ำเชี่ยวไหลผ่านไป

“เมื่อกระแสน้ำไหลหลั่งถั่งโถมเข้ามา จงปล่อยให้ไหลไปตามทางอย่าขวางกั้น เพราะน้ำที่ไหลเชี่ยวนั้นมีพลังที่แรงกล้านัก แต่เมื่อไรที่น้ำเริ่มอ่อนแรง จึงจะสร้างเขื่อนกั้นเพื่อล้อมกักเอาไว้ใช้สอยต่อไป”

เป็นคำกล่าวของตี๋น้อยก่อนที่จะลับหายไปจากแนวป่า เพื่อเข้าสู่การฝึกวิชาของตนเองในที่ลึกลับกลางป่าดงดิบ โดยไม่ได้สนใจเหล่ากองทัพที่กำลังไล่ล่า เพื่อรอวาระ และโอกาสที่จะมาถึงในเวลาไม่นานนี้

ภายในป่าดงดิบ เหล่าผู้เล่นใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านวิชาการทหาร แม้บางคนจะเคยเรียนทางทฤษฏีมาแล้ว แต่เมื่อมาพบกับสภาพที่โหดร้ายของป่าดงดิบ ก็ต้องเดิน ๆ หยุด ๆ เนื่องจากไม่ได้เตรียมการสำหรับจะผจญกับภัยอันตรายในป่าแห่งนี้นั่นเอง

“อี่เทียน พวกเราจะไม่ไหวแล้วนะ ตัวเอง” เจิงเจิน 1 ใน 16 นงคราญพยุงร่างอันใหญ่โตโซเซมายังอี่เทียนที่กำลังกางแผนที่อ่านอยู่บนหลังม้า

“เราพึ่งเดินมาได้ไม่กี่ลี้เอง ถ้าเดิน ๆ หยุด ๆ อย่างนี้ เมื่อไรเราจะสามารถจับกุมเจ้าตี๋น้อยกลับไปให้ท่านโจโฉได้”

อี่เทียนมองนงคราญเทียมอย่างเจิงเจินแล้วอึดอัด การเรียนโรงเรียนจอมฟ้าแม้ว่าจะมีระบบการเรียนการสอนที่ดีเลิศ แต่เสียอยู่อย่างเดียวคือ ให้นักเรียนสบายเกินไป ทำให้ไม่สมบุกสมบั่นเหมือนในยุคแรก ๆ ดังนั้น เมื่อนักเรียนเรียนจบออกไปจึงไปรับราชการมากกว่าการบุกเบิกแนวทางตัวเองเหมือนนักเรียนรุ่นแรก ๆ

“เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังเถอะนะ ตอนนี้แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อนเถอะ ไม่รู้ว่าเป็นไร เหมือนจะหมดแรงอย่างไรไม่รู้ ไม่เคยเป็นมาก่อน”

เจิงเจินหน้าเริ่มซีดขาว และเหงื่อเริ่มทะลักออกมาเต็มหน้า แต่ทว่า อี่เทียนไม่ได้สังเกตสนใจในรายละเอียดของลูกน้อง คิดแต่ว่าลูกน้องชอบอู้ จึงสั่งให้เดินทางต่อไป จนกระทั่ง......

โครม..........................

ร่างที่ใหญ่ยักษ์อย่างเจิงเจินได้ล้มฟาดลงกับพื้น ทำให้ขบวนทหารที่เดินอย่างมีระเบียบต้องหยุดยั้งลงทันที

“อี่เทียนหยุดก่อนค๊า” เจิงจิน พยุงหุ่นนักซูโม่ของตนวิ่งตามม้าที่เดินออกหน้าทหาร

“อี่เทียน เจิงเจินเป็นลม รีบมาช่วยกันก่อนเถอะ”

“16 นงคราญอยู่พยาบาลพรรคพวกของตัวเองก่อน แล้วที่เหลือเร่งเดินทางค้นหาเป้าหมายต่อ” สิ้นเสียงสั่งของอี่เทียน เจิงจินแทบล้มทั้งยืน แต่ยังฝืนใจร้องถามด้วยน้ำตาคลอว่า

“ทำไม.....ทำไมไม่เห็นใจพวกเรา”

“ในกองทัพ ทุกคนต่างมีหน้าที่ และถ้าหากใครไม่รักษาหน้าที่ของตนเองย่อมมีโทษตามกฎของกองทัพ บัดนี้ข้าอุตส่าห์ผ่อนผันให้กับพวกเจ้า ไม่ลงโทษที่ทำให้งานล่าช้า เพราะฉะนั้น จงสำนึกเอาไว้ด้วย”

อี่เทียนบอก พลางสั่งกองทัพเพื่อให้ค้นหา โดยการจัดแถวเป็นหน้ากระดาน ใช้หอกและดาบค้นหาเป้าหมายตามที่รกทึบราวกับไล่ล่าโจรป่าที่หมดทางสู้จนต้องซุ่มซ่อนตัวในที่รกทึบ ซึ่งยิ่งทำให้ทหารมีความยากลำบากมากกว่าปกติ และเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าเดิม และพบอันตรายได้มากกว่าปกติ

“เกิดอะไรขึ้นกับยัยเจิน”

เจิงจินที่เดินคอตกกลับมา เห็นเสื้อผ้าของเจิงเจินที่สลบอยู่ถูกถอดออก และมีรอยเลือดที่ขาทั้งสองข้างจนเลือดโชก และข้าง ๆ นั้น เพื่อน ๆ กำลังช่วยกันก่อไฟ

“ทาก” เจิงเชียน หรือที่เพื่อน ๆ พากันเรียกใหม่ว่า นังหมีน้อย พูดสั้น ๆ เล่นเอาเจิงจินขนหัวลุก

นังหมีน้อยได้ใช้ท่อนไม้เล็ก ๆ เท่านิ้วมือ จ่อเข้ากับกองไฟเพื่อให้ไฟติดลุกแดงที่ปลายไม้ จากนั้นก็นำมาจ่อเข้ากับตัวทาก

ฟู่..................ฟู่......................ตุบ...........................

เมื่อทากโดนความร้อนก็งอตัว และหลุดจากขาของเจิงเจินร่วงหลุดลงพื้น และโดนเหล่าเพื่อน ๆ เจิงเจินที่โกรธแค้นคว้าดุ้นฟืนมาเผาจนตาย มองเห็นนังหมีน้อยได้ใช้น้ำล้างแผลของเจิงเจิน และทายาให้จนเลือดหยุดไหล

“เฮ้อ.....กระเทยใหญ่ โดน กระเทยเล็กกัดจนได้เรื่อง” นังหมีน้อยพูดขึ้น จนคนที่เหลือทำหน้าสงสัย

“เอ๊า.....มัวแต่สงสัยอยู่นั่นแหละ ถอดชุดออกสิ คนที่ทั้งเหนื่อยทั้งโดนทากดูดจนเลือดไหลไม่หยุดมันก็จะเกิดโรควูบได้นะ”

สิ้นเสียงของนังหมีน้อย ทั้งหมดก็ถอดชุดออกมา สำรวจร่างกายตนเอง พบว่า โดนทากกัดที่ขาไป 3 คน โดนเจาะที่คอไปอีก 1 คน เล่นเอาวี๊ดว๊ายกระตู้หู้กันไปเป็นแถว ๆ

“เป็นไงยะ เคยแต่ดูดคนอื่น โดนดูดมั๊งเป็นไงละ พวกทากนี่มันก็เหมือนพวกเรานะแหละ มีสองเพศในตัวเอง เรียกว่ากระเทยจิ๋วก็ได้” นังหมีน้อยสาธยายสรรพคุณของสัตว์ประเภทเดียวกับตนเอง จนคนฟังทำหน้าแหยเก

“มัวแต่ว่าคนอื่น ไม่เห็นแกถอดชุดเลย ปานนี้มันไม่เจาะเข้าไปในช่องแปลงเพศแกแล้วหรอ นังหมีน้อย” เจิงเจิง หรือ นังเจิงของเพื่อน ๆ สวนกลับนังหมีน้อยทันที ทำให้คนที่รู้จักกับทากรีบถอดเสื้อผ้าทันที

“ว๊าย ๆ ๆ โดนเหมือนกัน ดูสิ เลือดแดงเถือกไปหมด ยี้.......” นังหมีน้อยเต้นกรี๊ด ๆ ก่อนที่คนอื่นจะมีจับไว้ และเพื่อนอีกคนชื่อเจิงจิง หรือนังจิง เอาเกลือมาโรยใส่ทาก จนทากตกลงพื้นตายทันที

“ตายง่ายจัง มีวิธีนี้ด้วยหรอ” นังหมีน้อยอ้าปากค้าง เพราะนึกว่าจะโดนไฟจี้ซะแล้ว

“มีวิชาแต่ตัวเองหรือไงย่ะ คนอื่นก็มีเหมือนกันนะ เราเห็นมันคล้าย ๆ ปลิง ก็เลยลองใช้วิธีเดียวกับปลิงดู ใช้ได้ด้วย” นังจิงกระโดดโลดเต้นใหญ่ที่รู้ แต่แล้วกลับทำหน้าเศร้า แล้วร้องไห้ทันที

“ฮือ ๆ ๆ ๆ”

“เย้ย....ร้องไห้ทำไมอะ” เพื่อน ๆ สงสัย

“ก็พวกเราถูกทิ้งนะสิ สาวสวยทั้ง 16 คน โดนทิ้งไว้กลางป่าลึก ฮือ ๆ ๆ” พอคนหนึ่งร้องไห้ อีก 15 คนที่เหลือก็พากันร้องไห้ตามทันที จนเสียงร้องไห้ระงมไปทั้งป่า

มีคนกล่าวว่า อำนาจ ชื่อเสียง และทรัพย์สินเงินทอง ทำให้มนุษย์เปลี่ยนไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้มนุษย์เราเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย แต่....มันทำให้คน ๆ นั้นมีความเป็นตัวของตัวเองเด่นชัดขึ้นจนเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมาต่างหาก

ด้วยว่า อำนาจ ชื่อเสียง และ ทรัพย์สินเงินทอง จะทำให้สิ่งที่กักเก็บไว้ในจิตใจไม่ว่าด้านดี หรือด้านชั่ว ปรากฏเด่นชัดออกมา ดังเช่นกรณีของอี่เทียน....


“มากันครบหรือยัง” เอี้ยฮุ้นที่เดินทางออกทางประตูทิศใต้ และได้มาที่จุดนัดพบชายป่าดงดิบทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับที่ตี๋น้อย และกองกำลังไล่ล่าทั้ง 900 คนใช้เดินทาง

“ครบแล้วครับ ทั้งเหล่าทหาร และบรรดาครอบครัวของพวกเขา” อุ้ยต่งจิ้นกล่าวรายงาน

“เราจะเข้าไปตั้งหลักอยู่ที่เทือกเขาลี่ซาน ที่ทอดจากทิศตะวันออก ทอดผ่านลงไปทางใต้ ให้นายกองทั้ง 3 นำทหารซึ่งเป็นอดีตนักโทษ และครอบครัวทหารไปทางใต้ ตั้งค่ายอยู่แถบภูเขา ซึ่งจะมีแม่น้ำไหลผ่าน ให้รออยู่ที่นั่นจนกว่าพวกเราจะไปรับ และอย่าลืมจัดทีมลาดตระเวนเสบียงให้เรียบร้อย อย่าให้ขาดเหลือ หรือมีใครอดอยาก” เอี้ยฮุ้นสั่งการ

“ครับท่าน” เดงยี ตองสู และเชนบี ซึ่งเป็นนายกองของทหารรักษาคุกลับน้อมรับ

“ส่วนที่เหลือ เราจะเข้าไปตั้งทัพเพื่อปิดทางถอยของพวกทหารใหม่ที่ไปไล่ล่าท่านตี๋น้อย และให้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วสัก 15 คน หลีกหลบทัพทหารเหล่านี้ตรงไปสมทบกับท่านตี๋น้อย และนำพาท่านมาที่นี่ เพราะจะได้หารือยุทธวิธีด้วยกัน” เอี้ยฮุ้นสั่งการขึ้น ทำให้เอี้ยวจิ้งเจิง อดีตหัวหน้าโจรเขาไท่ซานกล่าวเสริมขึ้นว่า

“หน่วยเคลื่อนที่เร็วคงต้องรบกวนท่านเอี้ยสักครั้ง เพราะว่าคนอื่น ๆ ไม่รู้จักท่านตี๋น้อย นอกจากท่านคนเดียว”

“จริงสิ ข้าลืมไป งั้นข้าขอตัวเลี่ยงเซินไปด้วยนะ จะขอพึ่งดาบไวของเขาสักหน่อย” เอี้ยฮุ้นพยักหน้าให้กับเอี้ยวจิ้งเจิงในความรอบคอบ

“ได้สิ งั้นข้าจะสร้างค่ายชั่วคราวหลบมุมในดงทึบนั่น จากประสบการณ์ของข้าแล้ว เหล่ากองทัพแม้ผ่านมาทางนี้ก็ไม่มีทางรู้หรอกว่า พวกเราตั้งค่ายอยู่ที่นี่”

“อืม...แล้วแต่การวินิจฉัยของท่าน และข้าขอให้ท่านจัดกำลังพลออกล่าเสบียงเตรียมไว้ให้มากหน่อย ข้าเชื่อว่า ไม่นานเสบียงเหล่าทหารใหม่ต้องหมดลง เมื่อนั้น เราอาจได้ใช้เสบียงมาซื้อตัวทหารเหล่านั้นก็เป็นได้” เอี้ยฮุ้นแนะนำ ทำให้เอี่ยวจิ้งเจิงหัวเราะขึ้นมา

“ท่านนี่มีนิสัยมองการณ์ไกลจริง ๆ ข้าชอบ แบบนี้สิ การร่วมงานของเราจะได้สนุกยิ่งขึ้น”

“แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งเราได้ท่านตี๋น้อยมาเป็นพวกด้วยแล้ว พวกเราจะเป็นพยัคฆ์ติดปีกทันที และความยิ่งใหญ่รอเราอยู่เบื้องหน้าอย่างแน่นอน เชื่อข้าเถอะ สายตาข้าแจ่มใสมองคนไม่ผิดหรอก”

สิ้นคำของเอี้ยฮุ้น อดีตหัวหน้าโจรหัวเราะชอบใจในเจ้านายที่เขาไม่เคยเห็นหน้า แต่สามารถสร้างความนับถือเลื่อมใสให้ผู้มีปัญญาและฝีมือเช่นนายพันทหารคนนี้ และยังสามารถสร้างความพะวักพะวง และความระแวงให้เกิดขึ้นกับโจโฉได้ นี่น่าจะเป็นเรื่องที่สนุกสนานในโลกนี้ต่อไป


“อุ้ยตี๋ ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับขงหยง มันใช่ไร้ปัญญาหรือไม่ ที่ส่งทหารมาตายเช่นนี้” เอี้ยฮุ้นที่ตามรอยของทหารมา พร้อมกับหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งคัดมาแต่ทหารชั้นยอดจำนวน 15 คน

เมื่อเห็นร่องรอยของการเดินทัพของฝ่ายทหารใหม่เมืองฝึกฝน ทำให้เห็นความไร้ปัญญาของผู้นำทัพหลัก และความด้อยประสบการณ์ของทัพรอง ซึ่งระดับผู้เชี่ยวชาญด้านพิชัยสงครามอย่างเอี้ยฮุ้นย่อมหยั่งรู้ถึงอนาคตของทหารกลุ่มนี้ได้ไม่ยากนัก

“มันเป็นคนที่เยือกเย็น เหี้ยมเกรียม ฉลาด แต่ขาดเฉลียว เพื่อให้เป้าหมายสำเร็จไม่สนใจในวิธีใช้” คำตอบของอุ้ยต่งจินทำให้อดีตนายพันต้องถามขึ้นว่า
“หมายความว่าอย่างไร”

“หลักการตามล่าคนในป่าดงดิบ ต้องใช้พรานนำทางที่เชี่ยวชาญเส้นทางในป่าเดินนำหน้าเหล่าทหารหน่วยชาญศึก นอกจากนั้นแล้ว ต้องวางกำลังเสริมตามจุดต่าง ๆ ที่เป็นจุดหลัก ๆ ในป่า และเชื่อมโยงติดต่อกันให้ตลอดทั้งแนว เมื่อนั้น คนที่อยู่ในป่าดงดิบก็จะไปไหนไม่รอด” อุ้ยต่งจินวิเคราะห์หลักการให้ฟัง ทำให้เอี้ยฮุ้นต้องถามอีกว่า

“หลักการนี้ขงหยงน่าจะรู้ไหม”

“นี่เป็นหลักการประยุกต์ที่ผู้เล่าเรียนพิชัยสงครามต้องรู้จักอยู่แล้ว เมื่อเหล่าทหารชาญศึกจำนวนพันคนมา พวกมันคงจะใช้แผนการนี้ แต่ที่ข้าว่ามันขาดเฉลียวก็เพราะว่า มันคิดจะให้เหล่าทหารใหม่ไปหยั่งเชิงปัญญาท่านตี๋น้อย ซึ่งในที่สุดอาจเป็นการส่งกำลังคนไปให้กับท่านตี๋น้อย ทำให้แผนการล่าคนในป่าดงดิบต้องมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน”

ทั้งสองคุยกันแผ่วเบา แต่ทหารที่เหลือก็ได้ยิน และให้ความสนใจด้วย เพราะล้วนแต่ผ่านการรบมาอย่างโชกโชนมาทั้งสิ้น

“พวกเราไม่เห็นการปะทะกันของทหารใหม่ กับท่านตี๋น้อย นี่หมายความว่า ท่านตี๋น้อยจะหนีหัวซุกหัวซุนหรืออย่างไรครับท่านอุ้ย” เลี่ยงเซิน อดีตมือปราบวังหลวงกล่าวขึ้นอย่างสงสัย

“อย่าเรียกข้าว่าท่านเลย เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า ข้าอาจจะรู้พิชัยสงคราม แต่ด้านฝีมือการสู้รบยังต้องพึ่งพาท่านอีกมาก” อุ้ยต่งจิ้นกล่าวถ่อมตัว ก่อนที่จะตอบคำถามว่า

“นี่เป็นหลักพิชัยสงครามของการรบนอกแบบที่เรียกว่า น้ำเชี่ยวให้ถอยหลบ เมื่อศัตรูอ่อนแรงให้ก่อกวน เมื่อศัตรูไม่อาจสู้รบจึงสยบให้ยอมแพ้” คำตอบของอุ้ยต่งจินทำให้คนทั้งหมดพยักหน้าเห็นด้วย

“ผู้ที่มีปัญญา และไม่หวั่นไหวแม้มีกำลังเพียงคนเดียว นี่นับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามแล้ว” เลี่ยงเซินกล่าวด้วยความรู้สึกที่นับถือ

“พวกเรารีบออกเดินทางกันเถอะ ข้าแน่ใจว่า ท่านตี๋น้อยต้องอยู่บนภูเขาสูงซึ่งเหล่าทหารกลุ่มนี้มองข้าม และไม่อาจจะขึ้นไปได้” อุ้ยต่งจิ้นกล่าวแนะนำ

“เพราะอะไร” ทั้งเอี้ยฮุ้น และเลี่ยงเซินถามขึ้นพร้อมกัน

“ฝึกฝนฝีมือ ซุ่มดูเหตุการณ์ ใช้ความสดชื่น รอคอยศัตรูที่เหนื่อยล้า และรอคอยจุดอ่อนของศัตรูที่เกิดขึ้นจากตัวของศัตรูเอง”

ดวงตาของอุ้ยต่งจิ้นฉายแววแห่งปัญญาออกมา เขาวิเคราะห์จากหลักของความเป็นมือใหม่ของตี๋น้อยที่ต้องฝึกฝนฝีมือ ความเป็นผู้มีปัญญาและเชี่ยวชาญพิชัยสงคราม ที่ต้องติดตามสถานการณ์ข้าศึก และใช้ความสดชื่นรอคอยความอ่อนล้าของข้าศึก

แม้เขาจะเป็นนายกองเล็ก ๆ ในมุมหนึ่งของประเทศ แต่ปัญญาเช่นนี้ไม่ด้อยกว่าใครเด็ดขาด เพราะบนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ ผู้ที่มีปัญญา และฝีมือ แต่ไร้ซึ่งชื่อเสียงและไร้ซึ่งโอกาสย่อมมีอยู่ในทุกที่ พวกเขาขาดเพียงโอกาสเท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่ปัญญา และรู้จักคุณค่าของพวกเขาจึงใช้แค่การหยิบยื่นโอกาสให้กับพวกเขาก็สามารถสร้างความเคารพนับถือให้เกิดขึ้นกับพวกเขาได้


Create Date : 15 ตุลาคม 2554
Last Update : 15 ตุลาคม 2554 16:01:58 น. 0 comments
Counter : 248 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Muen Li
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Muen Li's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.