วรรณกรรมของหมื่นลี้
Group Blog
 
All Blogs
 
บทที่ 33 จะจับแสร้งปล่อย พร้อมกลยุทธ์สาวงาม

บทที่  33 จะจับแสร้งปล่อย พร้อมกลยุทธ์สาวงาม

“ไม่มีไฟใดเสมอด้วยไฟราคะไม่มีโทษใดเสมอด้วยโทสะ ไม่มีทุกข์ใดเสมอด้วยเบญจขันธ์ ไม่มีสุขใดเสมอด้วยความสงบ”พุทธสุภาษิต

ที่หน้าสนามที่ทำการของเจ้าเมือง ขงหยงและหญิงสาวที่เขาพึ่งรับมาเป็นภรรยา ได้ยืนคอยอยู่ด้านหน้า พร้อมกับจ้าวเซวียนหยวนและขบวนเกียรติยศ เพราะวันนี้คือวันที่คือวันที่จะต้องกลับเมืองหลวงแล้วแต่ขณะที่รอคอยอยู่นั้น สองขุนพล และผู้ติดตามก็ก้าวเข้ามารายงานตัว

“คารวะท่านขงหยง และฮูหยิน”ทั้งหมดกล่าวขึ้นพร้อมกัน

“เตรียมพร้อมกันหรือยัง”ขงหยงกล่าวขึ้น เมื่อเห็นสองขุนพลมาพร้อมกับผู้ติดตามสองคน พร้อมกับชายแปลกหน้าร่างใหญ่ยักษ์ในชุดองครักษ์ 16 คน

“ตอนนี้เกิดเหตุขึ้นนิดหน่อยครับขอท่านขงหยงช่วยคลี่คลายให้ด้วย”วังกงลู่เข้ามารายงานด้วยสีหน้ากังวล

“มีเรื่องอันใดหรือ ท่านขุนพล”

“เหล่าทหารชาญศึกที่จะติดตามเรากลับเมืองเกิดทำเรื่องขอทำการอยู่ที่นี่ครับ”

“ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ หือท่านขุนพล” ขงหยงถามอย่างสงสัย

“พวกเขาสมัครใจที่จะอยู่ที่นี่มีสองสาเหตุ หนึ่งคือ เพราะเหนื่อยหน่ายกับการเดินทาง คิดที่จะปักหลักปักฐานและบุกเบิกพื้นที่ภาคใต้ให้กับท่านโจโฉ และอีกสาเหตุหนึ่งคือ เพราะหลงเสน่ห์สาวงามของที่นี่ ซึ่งข้าก็ไม่รู้ว่าจะห้ามอย่างไรเพราะพวกเขากรำศึกมานับสิบปีแล้ว” วังกงลู่รายงานขึ้นทำให้ขงหยงทำหน้าแปลกใจ

“แล้วท่านจะไปกับข้าแค่ไม่กี่คนคงจะไม่ไหวหรอกมั๊ง เพราะในพื้นที่ที่จะผ่านไปลกเอี๋ยงนั้น ต้องผ่านแคว้นอิจิ๋วซึ่งก๊กของอุยเอี๋ยนปกครองอยู่ด้วยด้วย ถ้าพวกมันรู้ว่าพวกเราผ่านทางไปพวกเราจะมิถูกจับก่อนหรือ” ขงหยงกล่าวอย่างเป็นกังวล ด้วยห่วงชีวิตของตน และภรรยาสาวที่พึ่งได้มาใหม่

แม้ว่า ในเกมสามก๊ก ออนไลน์นี้จะมีระบบที่ป้องกันการล่วงเกินเพศหญิง แต่เพื่อความสมจริงสำหรับบรรดาชาวเมืองที่เป็นเอไอนั้น เหล่าผู้เล่นสามารถที่จะแต่งงานด้วยและกระทำต่อร่างกายภรรยาในระดับภายนอกได้และเมื่อทำเช่นนั้นก็จะทำให้หญิงสาวคนนั้นตั้งครรภ์ได้เพราะชาวเมืองที่นี่สืบเผ่าพันธุ์กันตามธรรมชาติ คือตั้งท้อง 9 เดือนและกำเนิดเป็นทารก เพียงแต่ทารกที่นี่จะโตเร็วมากกว่าปกติในอัตรา 1 : 1.5 เท่าของทารกทั่วไป คือในเวลา 10 ปี เด็กที่นี่จะเท่ากับเวลา 15ปีในโลกแห่งความเป็นจริง

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เล่นเกมนี้จึงต้องมีความระมัดระวังในการเข่นฆ่าสังหารผู้คน เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้คนล้มหายตายจากจนกลายเป็นเมืองร้างได้และผู้ที่ยินดีที่สุดในการนี้ก็คือ บรรดาเหล่านักยุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญกลยุทธสาวงาม

“ข้อนี้ไม่ต้องเป็นห่วงมากหรอกท่านเพราะทางเมืองขุมทรัพย์ได้ส่งมอบมือดีที่สุดในการป้องกันเมืองมามอบให้เรานี่เป็นอาวุธลับที่สำคัญที่ตี๋น้อยเคยใช้เพื่อเอาชนะต่อกองพันปีศาจจนต้องตัดสินกันด้วยการดวลเดี่ยวกับท่านขุนพลจูสือว่านทำให้ท่านขุนพลสามารถชนะได้อย่างเฉียดฉิว ไม่อย่างนั้น สถานการณ์ก็คงจะเปลี่ยนไป” วังกงลูเอ่ยขึ้น ทำให้ฮูหยินขงต้องกล่าวว่า

“ถ้าอย่างนั้นท่านพี่ไม่ลองดูฝีมือของหน่วยนี้ก่อนคะ แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีหนึ่ง”เสียงออดอ้อนอ่อนหวานนั้น ทำให้ขงหยงขอให้หน่วยป้องกันที่ดีที่สุดนั้นปรากฏตัว

“นี่ครับท่าน แนวป้องกัน 16 คนแห่งเมืองฝึกฝน”

วังกงลู่ที่เปลี่ยนฉายาของ 16นงคราญเอ่ยขึ้น จากนั้น ทั้ง 16 คน จึงทยอยเข้ารายงานตัว ด้วยสุ้มเสียงแกร่งกร้าวและห้าวหาญ ทำให้ขงหยงพอใจในระดับหนึ่ง

“อืม.....ท่าทางทะมัดทะแมง เข้มแข็ง และห้าวหาญท่านขุนพลจัดนักสู้ให้มาต่อสู้กับคนทั้ง 16 คนนี้สิ”

“เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเองก็แล้วกันท่านขงหยง เพื่อท่านจะได้ดูประสิทธิภาพของเกาะแห่งนี้ที่จะแบ่งเบาภาระของท่านโจโฉพร้อม ๆ กับการที่ท่านจะได้องครักษ์คู่ใจด้วย”

จ้าวเซวียนหยวนเอ่ยขึ้น พลางสั่งหน่วยสังหารแ ละหน่วยทำลายเข้าโจมตีท่านขงหยงทันที ทำให้ฮูหยินตกใจเข้ากอดขงหยงไว้แน่น

หน่วยจู่โจมของเมืองขุมทรัพย์ถูกฝึกให้มีความสามารถด้านธนูและกระบี่ เหมาะสำหรับการเข่นฆ่าสังหารในระยะไกล และการก่อกวนในระยะใกล้เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยทำลายเข้ากวาดล้างอีกทีหนึ่ง

เฟี้ยว.......................เฟี้ยว..........................

ฝูงธนูถูกยิงเข้ามาทุกทิศทางเนื่องจากหน่วยสังหารได้เข้าล้อมท่านขงหยง และขบวนที่จะเดินทางจุดเด่นของหน่วยนี้ก็คือ ธนูที่รวดเร็ว รุนแรง และต่อเนื่องกันราวกับสายน้ำ

ติง.....................ตัง.................................

แต่แล้วลูกศรหัวเหล็กเหล่านั้นก็ถูกหยุดไว้ด้วยโล่เหล็กสีดำใหญ่ที่ตั้งค่ายป้องกันรายรอบทิศทาง

“ฮูหยินและท่านผู้ตรวจการไม่ต้องกลัว เชิญทัศนาการรุก และการรับอย่างสบายใจเถิดท่านเพราะบัดนี้ ท่านเหมือนอยู่ในปราการเหล็ก ป้อมทองแดงแล้วขอรับ”

วังกงลู และกวัวจินเทียนได้ปราดเข้ามาคุ้มครองด้านซ้ายขวา ของขงหยง พร้อมกับร้องบอกให้ขงหยงและฮูหยินดูฝีมือของท่านสองฝ่าย

“ฮูหยินดูสิธนูหนาแน่นราวกับฝนเหล็กแต่ฝนเหล็กนี้กลับไม่อาจที่จะสาดผ่านเข้ามาได้เลยแม้แต่ดอกเดียว นี่เป็นการป้องกันที่สมบูรณ์แบบจริงๆ”

ขงหยงค่อยสงบใจได้จึงชี้ชวนให้หญิงงามที่สมัครใจที่จะมาอยู่เคียงข้างศัตรู เพื่อบ้านเมืองตนเองในนามฮูหยินขง

“ไม่ใช่แค่การป้องกันที่สมบูรณ์แบบนะเดี๋ยวข้าจะให้ดูการบุกแบบตั้งรับของพวกเขา”

เสียงจ้าวเซวียนหยวนดังกังวานราวกับยืนพูดอยู่ตรงหน้าจนทุกคนในวงล้อมได้ยินชัดเจน แม้ว่าเสียงฝนธนูที่กระทบกับโล่เหล็กจะดังกังวานและคนพูดจะยืนอยู่นอกวงล้อมก็ตามทำให้ทุกคนในวงล้อมรู้สึกสะท้านกับความสามารถที่ลึกล้ำของท่านเจ้าเมืองคนใหม่

“หน่วยทำลายเข้ากวาดล้างพื้นที่” สิ้นเสียงสั่งของจ้าวเซวียนหยวนฝนธนูก็หยุดลง และทุกคนก็ชักกระบี่คอยเสริมหน่วยทำลายทันที

กุบ.................กับ........................

เสียงปานฟ้าฟาดเมื่อเหล่าทหารม้าซึ่งเคยอยู่ในสังกัดกองพันปีศาจประมาณ 50 คน ควบม้าพร้อมทวนยาวพุ่งเข้าใส่ขบวนของขงหยง ด้วยอานุภาพราวกับสายน้ำเชี่ยวที่จะกวาดล้างสิ่งที่ขวางทางเดินของมัน

“ข้ากลัว”

ฮูหยินกอดขงหยงไว้แน่นทำให้ขงหยงรวบใบหน้าที่สวยงามไร้ที่ตินั้นเข้ามาแนบอกของตนเองและยืนดูการพุ่งทะยานของเหล่าทหารชาญศึกเหล่านั้นอย่างไม่หวาดหวั่นด้วยความอ่อนแอของสตรีช่วยเสริมให้เกิดความฮึกเหิมขึ้น

“ฮูหยิน และท่านขงหยงไม่ต้องตกใจคอยดูพวกข้าจะกวาดล้างพวกนี้ให้กับพวกท่านเอง”

เจินเจิน หรือชื่อใหม่คือ เตียวต๋ง กล่าวขึ้นพลางเก็บโล่เหล็กไว้ พร้อมกับวิ่งเข้าปะทะกับขบวนม้าศึก พร้อม ๆ กับเหล่าเพื่อน ๆอีก 15 คน ทำให้ฮูหยิน และเหล่าสตรีที่ยืนดูต่างส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดเสียว

ทั้ง 16คนพลันพุ่งทะยานเข้าหาทวนที่แหลมคมราวกับจะฆ่าตัวตายแต่พริบตาที่ทวนนั้นจะแทงเข้าใส่ ร่างของพวกเขาก็เอียงออกนิดหนึ่งและมือของพวกเขาก็คว้าหมับเข้าที่ด้ามทวน พร้อม ๆกับดีดตัวเองขึ้นโจมตีทหารชาญศึกที่อยู่บนม้า

ทหารเหล่านั้นเมื่อเห็นจวนตัวและเท้าของคู่ต่อสู้ก็สะบัดมาอย่างรวดเร็ว จึงปล่อยทวน และใช้มือต้านเท้าไว้แต่ด้วยแรงช้างของเหล่า 16 คนมีหรือที่การต้านรับแบบฉุกระหุกจะสามารถต้านรับได้

ดังนั้น เหล่า 16นงคราญจึงพากันเตะคู่ต่อสู้ร่วงจากม้า และชิงม้าเข้าขวางทางข้าศึกจากนั้นจึงบังคับม้าให้เข้าขวางทางเหล่าทหารหน่วยทำลายจนเกิดความระส่ำระสายจึงเป็นโอกาสของ 16นงคราญที่อาศัยช่วงชุลมุนพากันพุ่งทะยานลอดช่องว่างของทวนคู่ต่อสู้พร้อมกับตวัดเท้าออกอย่างรวดเร็ว และสวยงามส่งผลให้สามารถเตะคู่ต่อสู้ร่วงจากหลังม้าได้ทั้งหน่วยในเวลาไม่นาน

หน่วยจู่โจมเมื่อเห็นดังนั้นก็พากันพุ่งเข้าใส่คนทั้ง 16 คนที่ต้องตั้งป้อมป้องกันรอบตัวของขงหยงทันที หน่วยจู่โจมเหล่านี้ถ้าจะนับวิชาเกาทัณฑ์ก็นับว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดินแล้วแต่วิชากระบี่ยิ่งล้ำลึกนัก เพราะเพียบพร้อมทั้งการรุก การรับ และหลอกล่อก่อกวนเพียบพร้อม

แต่เหล่า 16 นงคราญก็ไม่ใช่ย่อยอาศัยแค่สองมือสองเท้าก็สามารถต้านรับไม่ให้บรรดามือกระบี่เหล่านี้ได้เปรียบแต่อย่างใดด้วยท่าเท้าที่เหมือนล่องลอยในอากาศได้ และสองมือที่รวดเร็วและทรงพลังราวกับจอมพลังทำให้ต่างฝ่ายต่างก็ไม่อาจที่จะทำอะไรกันได้

“เอาละ พอได้แล้ว”

จ้าวเซวียนหยวนเมื่อเห็นว่าได้แสดงแสนยานุภาพของหน่วยป้องกัน และหน่วยจู่โจมให้ขงหยงและฮูหยินที่อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงในฝีมือของทหารทั้งสองหน่วยแล้วก็สั่งให้หยุดมือ

“เป็นอย่างไรครับ ท่านขงหยงฝีมือของหน่วยป้องกันนี้ แม้ข้าศึกจะเข้ารุมล้อมเป็นร้อยเป็นพันก็สามารถป้องกันให้พวกท่านปลอดภัยได้อย่างเพียงพอ”จ้าวเซวียนหยวนให้เหล่าทหารเข้าประจำหน่วย พลางเข้ามารายงานกับขงหยง

“ยอดเยี่ยมจริง ๆท่านเจ้าเมือง แต่ว่า....” ขงหยงกล่าวอย่างครุ่นคิดทำให้จ้าวเซวียนหยวนก้มหัวให้ พลางกล่าวว่า

“ท่านขงหยงต้องการสิ่งใดข้าจะจัดให้กับท่าน”

“ท่านจะว่าอะไรไหมถ้าข้าอยากได้หน่วยจู่โจมเหล่านั้นไปด้วย”

ขงหยงพูดขึ้นด้วยความต้องการที่อยากจะได้เพราะได้เห็นฝีมือของทหารหน่วยนี้ แม้จะมีแค่ 50 คน แต่สามารถโจมตีได้ต่อเนื่องถ้านำมาผนวกเข้ากับหน่วยป้องกัน ก็จะทำให้คล้ายกับรถถัง และป้อมปืนใหญ่ในสมัยใหม่ทันที

“ต้องขออภัยท่านขงหยงด้วยหน่วยนี้เป็นหน่วยที่จำเป็นในการจู่โจมข้าศึกและข้าก็ฝึกหัดมาได้เพียงหน่วยนี้หน่วยเดียวถ้าจะฝึกฝนขึ้นใหม่ก็เกรงว่าจะใช้เวลานาน และใช้ทรัพยากรมาก ทั้ง ๆที่ข้าก็อยากยกให้กับท่าน แต่จนใจด้วยรับภาระที่หนักอึ้งจนยากจะสำเร็จได้ถ้าไม่มีพวกเขา”จ้าวเซวียนหยวนมีสีหน้าลำบากใจจนเห็นได้ชัด ทำให้ขงหยวนมองดูอย่างชั่งใจ

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำหนังสือให้ท่านนำไปมอบให้กับเจ้าเมืองเกรียนเงียบซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเองจิ๋ว เพื่อให้ทหารท่านยืมสัก 1 กองพันและให้เร่งอพยพราษฎรมาบุกเบิกที่ดินใหม่ราวสัก สิบหมื่นคน จะดีไหม”

ขงหยงเสนอสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้กับเจ้าเมืองแต่จ้าวเซวียนหยวนยังอิดออดอยู่ จนฮูหยินที่อยู่ข้าง ๆ กระซิบขงหยงเบา ๆ ที่หูทำให้หน้าตาของขงหยงขึ้นหื่นแวบหนึ่ง ก่อนที่จะสะกดกลั้นไว้พลางปลดเข็มขัดจอมปราชญ์ ซึ่งภายในบรรจุด้วยข้อมูลมหาศาลและอาวุธเซทนิลกาฬออกมาให้กับจ้าวเซวียนหยวน เพราะสำหรับนักยุทธศาสตร์แล้วอาวุธไม่สำคัญเท่ากับทหารที่ชาญศึก

“ถ้าอย่างนั้นถือว่าท่านตกลงและเพื่อเป็นการขอบใจท่าน ข้าจะเสนอให้ท่านเป็นเจ้าเมืองชั้นเอกและขอมอบสมบัติที่สำคัญชิ้นนี้ให้กับท่าน ซึ่งท่านก็คงจะรู้ดีว่ามันมีประโยชน์อย่างไรเมื่อท่านเห็นเข็มขัดนี้ ก็เท่ากับเห็นข้ายืนหยัดอยู่เคียงข้างเจ้าเพื่อให้ภาระที่หนักอึ้งของท่านสำเร็จลงได้ด้วยดี”

“ขอบคุณท่านขงหยงไม่นานท่านจะได้ข่าวดีแน่นอน และข้าขอมอบกองร้อยจู่โจม และองครักษ์ส่วนตัวทั้ง 16คนนี้ให้กับท่าน ขอท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ และรุ่งเรืองด้วยอำนาจ วาสนาและบารมีด้วย”

จ้าวเซวียนหยวนคุกเข่าคำนับขงหยงทำให้ขงหยงดีใจยิ่งนัก ปราดเข้าประคอง พลางใส่เข็มขัดจอมปราชญ์ให้ด้วยความรักใคร่ราวกับเห็นเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา

“ข้าขอให้คำอวยพรนี้ย้อนกลับมาหาท่านด้วยเช่นกันและหวังว่าจะได้รับใช้ท่านโจโฉด้วยกันเมื่อท่านสยบแผ่นดินทั้งหมดแล้วท่านจะเป็นมือซ้าย และข้าจะเป็นมือขวาของท่านโจโฉ”

“ขอบคุณท่านมากข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย”จ้าวเซวียนหยวนกล่าววาจาออกมาด้วยความตื้นตันใจพลางออกเดินนำหน้าขบวนของขงหยงไปยังท่าเรือ

ในที่สุด ขบวนของขงหยงก็ขึ้นเรือใหญ่พร้อมกับมีขบวนเรือพิฆาตขนาดกลาง แล่นคุ้มครองอีก 5 ลำ จากนั้นก็ออกเดินทางเพื่อกลับสู่เมืองหลวง ที่ ๆจะกลายเป็นตำนานการผจญภัยครั้งใหม่ของเอี้ยวจิ้งเจิง เลี่ยงเชิน และเหล่า 16นงคราญ ที่จะกลายเป็น 16 ขันทีซึ่งจะกุมอำนาจแทนโจโฉในเวลาต่อมา




Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 6:41:40 น. 0 comments
Counter : 577 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Muen Li
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Muen Li's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.