ทดลองเตาอบ # 1/2

และแล้ว เมื่อทดสอบเตาอบครั้งที่หนึ่งผ่านไป.........
ก็ต้องมี ภาคต่อมา ครั้งที่ 1 / 2 กับ สปองจ์เค้ก ก ก ก ก ก

มาถึง สูตรสปองจ์เค้ก ยอดนิยมประจำห้องก้นครัวค่ะ
ขอบคุณพี่แหม่ม Tiara ค๊า อร่อยสมใจ สมคำล่ำลือจริงๆจ้า........
ส่วนผสม
1. แป้งเค้ก 100 กรัม
2. ผงฟู 3/4 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 120 กรัม
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. น้ำ 40 กรัม
6. นมข้นจืด 30 กรัม
7. ไข่ไก่ 3 ฟอง
8. เนยสดละลาย รสเค็ม 70 กรัม
9. สารเสริม SP 10 กรัม
10. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
-------------------------------------------
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งกับผงฟู พักไว้
2. วอร์มเตา
3. ตัดกระดาษไขรองก้นพิมพ์เค้ก ไม่ต้องทาไขมันใด ๆ ทั้งสิ้น



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

4. ใช้เครื่องตีไข่กับหัวตีรูปตะกร้อ ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่ และน้ำลงไป และเอา SP ปาดที่หัวตะกร้อ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตีให้น้ำตาลละลาย



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

5. ใส่แป้งลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที ใช้พายยางช่วยให้เข้ากันได้ค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

6. ปาดอ่าง เปลี่ยนเป็นตีด้วยความเร็วปานกลาง 5 นาที เพื่อให้ส่วนผสมขึ้นฟู และข้นเหนียว
7. ปาดอ่าง ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที แล้วใส่นมข้นจืดที่ผสมกลิ่นวานิลลาไว้แล้ว



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตามด้วยเนยสดละลาย



++++++++++++++++++++++++++++++++++++

8. ปาดอ่างเบา ๆ อีกครั้ง และตีด้วยความเร็วต่ำจนเนื้อเค้กเนียน ไม่มีฟองอากาศ นำส่วนผสมออกมาเทใส่พิมพ์



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ส่วนผสมที่ดี เวลาที่เรายกออกมาเทใส่พิมพ์ จะต้องไม่เหลวเป๋วจนเป็นน้ำนะคะ
เทออกมาแล้ว มันจะพับไปพับมา แบบนี้ล่ะค่ะ
แหล่ม….. แน่ๆ.......



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

9. เคาะก้นพิมพ์เบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศครั้งสุดท้าย



++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วเอาใส่เตาเลยค่ะ อบด้วยไฟล่างอย่างเดียว อุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลาอบ 25-30 นาที
10. สังเกตว่าหน้าเค้กจะนูนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 20-25 นาที ไม่ต้องตกใจค่ะ 5 นาทีสุดท้ายของการอบให้เปลี่ยนไฟในการอบเป็นไฟบนอย่างเดียว แล้วลดอุณหภูมิของเตาให้เหลือ 150 องศา หน้าเค้กจะเริ่มยุบลง…………เย๊เย่



+++++++++++++++++++++++++++++++++++

11. เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว นำออกจากเตาทันที กระแทกพิมพ์ 1 ครั้งบนโต๊ะ เพื่อให้โครงสร้างเค้กอยู่ตัว แล้ววางไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท
12. เมื่อเค้กเย็นสนิทแล้ว ใช้มีดปลายแหลมแซะข้างขอบพิมพ์ คว่ำเนื้อเค้กลงบนตะแกรง ดึงกระดาษออกจากก้นเค้ก
13. ใช้ตะแกรงอีกอันวางทับบนเนื้อเค้ก เพื่อพลิกหน้าเค้กขึ้นมาค่ะ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอดี มีส่วนผสมเหลือนิดหน่อย ก็เลยได้แบ่งใส่ ถาดฟรอยด์สี่เหลี่ยม ด้วยค่ะ........



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แต่ !!! อันนี้มันเล็กกว่าพิมพ์ตะกี้ ก็เลยต้องลดเวลาการอบลงไปด้วย
เดียร์ทดลองอบ 20 นาทีค่ะ แล้ว 3 นาทีสุดท้ายเปลี่ยนเป็นไฟบน
และลดอุณหภูมิเป็น 150 ตามสูตรเด๊ะๆๆ.................^^



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เนื้อเค้กอร่อยเริ่ดอยู่แล้วล่ะคะ
ตอนแรกกะว่าจะปั่นบัตเตอร์ครีม เอาไว้แต่งหน้าบรรดาคัพเค้ก
แต่...........!!! ปรากฎว่า เค้กหายแว๊บ....หมดไปแล้ว -_-“
ก็เลย เอาเป็นว่า ตีครีมเอาไว้ปาดสปองจ์เค้กแทนก็แล้วกัน .....^^
ขอบคุณสูตรอร่อยของคุณพี่แหม่ม Tiara อีกแล้วค๊า.......อร่อยชัวร์ป๊าบๆ
ขอลอกมาเลยแล้วกันค่า..
ครีมแต่งหน้าเค้ก
ส่วนผสม
1. เนยสดรสจืด 225 กรัม
2. เนยขาว 150 กรัม
3. น้ำตาลทราย 330 กรัม
4. เกลือ 10 กรัม
5. นมข้นจืด 75 กรัม
6. น้ำ 90 กรัม
7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (ขอเพิ่มลงไปเพื่อความหอมค่ะ )

ก่อนอื่นต้องมาทำน้ำเชื่อมซะก่อน
1. เทน้ำตาลทราย เกลือ นมข้นจืด กลิ่นวานิลลาและน้ำผสมกันในหม้อสแตนเลส นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวด้วยพายไม้อย่าหยุดมือ จนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด ไม่ต้องรอให้ข้นเหนียวนะ เดี๋ยวเวลาเอามาปาดบนเนื้อเค้กจะตึ๋งหนืดหมด

2. เมื่อน้ำตาลละลายหมดแล้ว ก็ทิ้งไว้ให้เย็น



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

3. หันไปตีเนยสดด้วยเครื่องตี ตีจนเนยสดกระจายตัว อย่าให้จับกันเป็นก้อน เอาพายยางช่วยได้.

4. หลังจากกระจายตัวและขึ้นฟูเล็กน้อยแล้ว ก็เอาเนยขาวใส่ลงไปเลย ตีด้วยความเร็วปานกลางเหมือนกัน ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาในการตีนานหน่อย ประมาณ 20 นาที ดูจนกระทั่งส่วนผสมกลายเป็นสีขาว ขึ้นฟู และเข้ากันดี เราใช้วิธีสังเกตว่าเนยจะขึ้นฟู โดยดูที่ขอบอ่าง เนยจะฟูขึ้นมาเป็นรูปก้นหอยเล็ก ๆ หากเห็นว่าส่วนผสมยังไม่เข้ากันก็ต้องหยุดเครื่องแล้วปาดอ่างเป็นระยะ ๆ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

5. เมื่อเห็นว่าใช้ได้แล้ว ก็นำน้ำเชื่อมที่เราละลายไว้มาเทลงในส่วนผสม โดยไม่หยุดเครื่องตี ยังคงตีไปเรื่อย ๆ เวลาเทให้เทช้าที่สุด แบบเป็นสายเล็ก ๆ ต่อเนื่องกัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเชื่อมเกาะกันเป็นกลุ่ม



++++++++++++++++++++++++++++++++++

6. ตีต่อไปอีกระยะหนึ่ง อาจปาดอ่างช่วยอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเข้ากันดีแล้วก็ใช้ได้เลย เก็บส่วนผสมที่ได้ไว้รอเค้ก อนุญาตให้ใช้นิ้วจิ้มชิมรสชาติได้
วิธีเก็บรักษาครีมที่ตีไว้แล้ว ให้เก็บในตู้เย็น ใช้ภาชนะปิดสนิท เวลาจะใช้ต้องตั้งไว้ให้ละลายในอุณหภูมิห้อง อย่าใช้ความร้อน ไม่อย่างนั้นเนยจะละลายหมด



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เฉือนแบ่งเค้ก แล้วปาดทับด้วยบัตเตอร์ครีมบางๆ
แล้วโบ๊ะ!!!ด้วย บลูเบอร์รี่ย์สอดไส้ตามชอบค่ะ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เสร็จแล้วก็นำเค้กอีกเลเยอร์ ปิดทับ แล้วปาดครีมให้คลุมเค้กค่ะ
โดยส่วนตัว ไม่เคยปาดครีมได้เรียบซักกะทีเลย ต้องอาศัย ลายๆ เข้ากลบเกลื่อนค่ะ ^^’
โอม………..!?! จงตาลายๆๆ......ฮ่าๆ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แต่งหน้า ออกมาได้ เพียงเท่านี้ ตามสติปัญญา และความสามารถ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

และแล้วก็ทำอีกก้อนค่ะ
อันนี้ ทดลองทำไส้สอดตรงกลางโดยใช้ ครีมชอคโกแลต มอลต์
(ดัดแปลงสูตรเพิ่มเติมจาก หนังสือ Good Cake For Good Health) ค่ะ

ครีมชอคโกแลต มอลต์
1. เครื่องดื่มชอกโกแลตมอลต์
ชนิด UHT(หรือจะชงเองก็ได้ค่ะ ชิมให้ออกเข้มข้นตามชอบ พักให้เย็น) 200 กรัม
2. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา
3. โกโก้ผง 2 ช้อนชา (เดียร์เพิ่มลงไปเพื่อให้ได้สีและรสที่เข้มขึ้นค่ะ)
4. เจลติน 1 ช้อนชา (เดียร์เพิ่มลงไปเพื่อทำให้ไส้อยู่ตัว ไม่เหลวเยิ้มเกินไปค่ะ)
วิธีทำ
ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน คนให้แป้งและเจลตินละลายเข้ากันก่อน
แล้วจึงนำไปตั้งไฟอ่อนมากๆ หมั่นคนๆ จนส่วนผสมข้น เดือด(ระวังหม้อก้นไหม้)
พักไว้ให้อุ่น ใช้สำหรับสอดไส้เค้กค่ะ
-----------
ปาดบัตเตอร์ครีมบนเลเยอร์เค้กชิ้นแรก แล้วโบ๊ะไส้กลางด้วยครีมชอคโกแลค มอลต์
แล้วจึงวางเค้กอีกเลเยอร์แล้วปาดทับด้วยบัตเตอร์ครีมให้คลุมทั้งก้อน
แล้วแต่งหน้า ได้ตามอัทธยาศรัย ค๊า...........
เดียร์ทำออกมาได้ แบบนี้............
.......สูตรมั่วจัด..............รูปเบลอเลย ขนาดกล้องยังรับไม่ได้เลย คิดดู....... ^^”

แช่เย็นก่อนทาน อร่อย อย่าบอกคราย ...........เอิ๊กๆๆ



+++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกท่านๆ ที่ติดตามดม((ดู + ชม)) จ้า........^^
แหะๆๆ

Create Date : 09 กันยายน 2550 Last Update : 10 กันยายน 2550 13:01:13 น. Counter : 1011 Pageviews.		8 comments
Share Tweet