ชมวิวทิวทัศน์ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

(พิษณุโลก)ชม Street Art วาดรูปสามมิติลงบนพื้นลานหินที่สวนเฉลิมพระเกียรติ



ชม streetart ในประเทศไทยกันครับกลุ่มรณรงค์ลดโลกร้อนพิษณุโลก นำโดย

คุณสาคร/คุณต้อ และคณะ นำจิตรกรผู้ชำนาญ

วาดรูปสามมิติลงบนพื้นลานหินที่สวนเฉลิมพระเกียรติ สามแยกเรือนแพจังหวัดพิษณุโลก วาดเสร็จจะถ่ายรูปส่งไปปารีส ฝรั่งเศส ทราบว่าพรุ่งนี้ (29 พ.ย.)จะเสร็จและเปิดให้ท่านที่สนใจเข้าชมและบันทึกภาพได้ (ภาพจากเพจกลุ่ม Phitsanulok 2020 โพสต์ โดยคุณ Champsport)



เครดิตภาพ Beaukam Beaukig

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1526077634382653&set=p.1526077634382653&type=3&theater



เครดิตภาพ วิโรจน์ รอดเสส

https://www.facebook.com/rodses/posts/1022030524528187?pnref=story





เครดิตภาพ วิโรจน์ รอดเสส

https://www.facebook.com/rodses/posts/1022030524528187?pnref=story






เครดิตภาพ วิโรจน์ รอดเสส

https://www.facebook.com/rodses/posts/1022030524528187?pnref=story









 

Create Date : 01 ธันวาคม 2558    
Last Update : 1 ธันวาคม 2558 6:51:21 น.
Counter : 1946 Pageviews.  

(ภูเก็ต) "คมนาคม" เดินหน้าสร้างรถราง (Tram) จ.ภูเก็ต หนุนท่องเที่ยว-แก้จราจรติดขัด


ยินดีกับชาวภูเก็ตล่วงหน้าที่เลือก Tram รถรางที่วางรางบนผิวถนนเป็นระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่วิ่งเชื่อมต่อภายในเมือง เพราะ Tram สร้างเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน ในหลายร้อยเมืองทั่วโลกในปัจจุบันส่งเสริมการเดิน และการปั่น เพราะเชื่อมต่อกันอย่างลื่นไหล สร้างเสริมชุมชนแห่งการเดินส่งเสริมการพาณิชยกรรมโดยรอบที่รถรางพาดผ่าน ไม่ทำลายทัศนียภาพเมือง ไม่สร้างมลภาวะเพราะใช้ไฟฟ้า บ้านเมืองจะมีอากาศบริสุทธิ์ เพราะรถรางเป็น Green transportation

เข้าสู่บทความ(เครดิต กรุงเทพธุรกิจ)

"คมนาคม"เดินหน้าสร้างรถราง จ.ภูเก็ต หนุนท่องเที่ยว-แก้จราจรติดขัด ด้าน สนข. ระบุจีน-ยุโรป-เกาหลี สนใจขอลงทุนระบบ

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่าที่ประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าภูเก็ตได้เห็นชอบให้มีการจัดสร้างรถรางไฟฟ้า เนื่องจากไม่ต้องเวนคืนที่ดินสามารถสร้างรางร่วมกับถนนที่รถปกติวิ่งได้ อีกทั้งยังมีความกลมกลืนกับเมืองและใช้วงเงินลงทุนและบำรุงรักษาต่ำ โดยหลังจากนี้ สนข.ไปหารือเพื่อจัดทำรายละเอียดโครงการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวงกรมทางหลวงชนบท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) และองค์กรปกครองท้องถิ่นเพื่อนำรายละเอียดกลับมาเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในปีนี้ ก่อนเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป

ทั้งนี้โครงการจะใช้เงินลงทุน 23,499 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จัดหาพื้นที่และจะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน(พีพีพี)เบื้องต้นมีภาคเอกชนจากจีน เกาหลี และยุโรปแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนระบบการเดินรถบ้างแล้ว ส่วนแนวเส้นทางรถรางไฟฟ้าจะเริ่มจากบริเวณสถานีรถไฟฟ้าท่านุ่นไปสิ้นสุดทางเหนือของห้าแยกฉลอง ระยะทาง 60 กม. มีสถานี 23 แห่ง ตั้งเป้าเปิดให้บริการในปี 64

"โครงการนี้ช่วยแก้ไขปัญหารถติดในภูเก็ตได้โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องใช้เวลาเดินทางไปสนามบินนานถึง 3 ชั่วโมง คาดว่าปีแรกมีผู้ใช้บริการวันละ 68,000 คน สามารถสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจภาพรวมได้ 5,288 ล้านบาท และในปีที่30 จะสร้างผลตอบแทนเศรษฐกิจได้สูงถึง 15,719 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยานพาหนะลดเวลาการเดินทาง ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน และมลพิษจากการขนส่ง"นายชัยวัฒน์ กล่าว

ที่มาบทความ //www.bangkokbiznews.com/news/detail/675230

ขอขอบพระคุณ มาณ ที่นี้ครับ








 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2558 11:46:54 น.
Counter : 1057 Pageviews.  

ใครอยู่ปทุม คงปวดหัว น่าดู.. ผู้บริหารเมือง ไม่พร้อมรับขนส่งมวลชนดีๆ ขนคนได้คราวละมากๆ



เกริ่นนำ

ใครอยู่ปทุม คง “ปวดหัว” น่าดู....ผู้บริหารเมือง ไม่พร้อมรับระบบขนส่งมวลชนดีๆขนคนได้คราวละมากๆ (บอกว่าไม่พร้อมประเทศไทยคงจะเจริญกันแน่ล่ะคราวนี้ เพราะระบบขนส่งมวลชนไปถึงไหนก็สร้างความเจริญไปที่นั่น ไม่มีระบบขนส่งมวลชน ก็เดินทางกันด้วยรถยนต์อย่างเดียวเผาผลาญพลังงานกันไปวันๆ )อยากให้ประชาชนชาวปทุมธานี มองกันให้ยาวๆ ครับ เพราะถ้าตัดสินใจกันผิดมันกระเทือนไปทั้งประเทศ และจังหวัดใกล้เคียงด้วยครับ ทำให้การพัฒนา “ตีบตัน” เหมือนโดน “บอนไซ”จากคนไม่กี่กลุ่มครับ

ทั้งๆที่ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สนับสนุนเต็มที่เพราะปทุมธานีรถติดมากและมีพื้นที่เชื่อมต่อกับ กทม. ทาง สนข.ได้ศึกษาแนวทางกันมานานแล้ว ในมุมกลับกันในหัวเมืองใหญ่ๆ ในหลายจังหวัด เช่น ขอนแก่น ภูเก็ต พิษณุโลก เชียงใหม่และอุดรธานี กลับมีความกระตือรือร้นจากภาคผู้บริหารเมืองและภาคประชาสังคมทุกกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะให้มีระบบขนส่งมวลชนขนคนคราวละมากๆ ในเมืองของตนเองเพื่อยับยั้งวิกฤตการณ์ทางด้านการจราจรในอนาคตและกลุ่มจังหวัดเหล่านี้เปิดอ้าแขนต้อนรับ สนข. (สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร)

ลองอ่านข่าวจากไทยรัฐ กันดูครับ ใครอยู่ปทุมธานี คงต้องกิน”พาราเซ็ตตามอล” แก้ปวดหัว วันละ 2 เวลากันหน่อยแล้วครับ ถ้าผู้บริหารเมืองปทุมธานี ยังไม่เข้าใจเรื่องระบบขนส่งมวลชนเพื่อคนจำนวนมาก ก็น่าจะเป็นเวรเป็นกรรมครับ เพราะระบบขนส่งมวลชนทุกเมือง ระยะยาวสร้างเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนทุกเมืองในโลกครับ

(ชมคลิปท้ายบทความ กับจังหวัดอื่นๆที่มีความกระตือรือร้นในการผลักดันระบบขนส่งมวลชน เพื่อเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน)

เข้าสู่บทความจาก ไทยรัฐออนไลน์ 20 ตุลาคม 2558 ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้

//www.thairath.co.th/content/533471





นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รอง ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)

เครดิตภาพ จากไทยรัฐออนไลน์ 20 ตุลาคม 2558

สนข.ศึกษาเสียเงินเปล่า-จังหวัดไม่พร้อม, รฟม.ไม่ทำ

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รอง ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่าเนื่องจากปัจจุบันจังหวัดปทุมธานีมีปัญหาจราจรติดขัดทั้งภายในจังหวัดและจุดต่อเชื่อมกรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้สนข.ได้จ้างที่ปรึกษาศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านการจราจร ได้ข้อสรุปว่า แนวทางที่ดีที่สุดควรจะก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าขนาดเบา หรือรถไฟฟ้า โมโนเรล เน้นการขนคนมากกว่าขนรถ ก่อสร้างบนถนนสายหลักจำนวน 2-3 เส้นทาง โดยทำเป็นโครงการต้นแบบการแก้ไขปัญหาจราจรนำร่องหรือปทุมโมเดล

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สนข.เสนอผลการศึกษาให้กับทางจังหวัดไปพิจารณาดำเนินการนั้น ทางจังหวัดแจ้งว่าไม่พร้อมทำตามโครงการดังกล่าว ทั้งเรื่องงบประมาณ และการคัดค้าน จากมวลชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน และการประกอบธุรกิจด้านขนส่งมีทั้งรถสองแถว รถเมล์ที่วิ่งให้บริการเส้นทางต่างๆจึงเสนอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)รับไปดำเนินการแทน แต่ รฟม.แจ้งว่ายังไม่สามารถทำได้เนื่องจากมีภารกิจที่จะต้องก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าอีกหลายเส้นทางทำให้ขณะนี้ปทุมโมเดล จึงยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดขณะที่การจราจรภายในจังหวัดปทุมและเขตรอยต่อกรุงเทพมหานคร มีปัญหามากขึ้นหากไม่ดำเนินการแก้ไขโดยเร็วปัญหาก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ


(เชียงใหม่) พลิกโฉมขนส่งมวลชน...เชียงใหม่ รฟม.ลุยระบบราง TRAM-เทศบาลฟื้นรถเมล์

//www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1441185293

เครดิตประชาชาติธุรกิจ



(ขอนแก่น) รถไฟฟ้าขอนแก่นคืบ สนข.เจียดงบฯ30ล.ศึกษาเส้นทาง เอกชนลงขันตั้งต้น200ล.ปี60ตอกเข็ม

//www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1438261559

เครดิตประชาชาติธุรกิจ

พิษณุโลก 2020 เขตเศรษฐกิจใหม่สี่แยกอินโดจีน 




 

Create Date : 24 ตุลาคม 2558    
Last Update : 24 ตุลาคม 2558 10:31:55 น.
Counter : 1677 Pageviews.  

Count Down สู่อาเซียน ก.ท่องเที่ยวจับมือ สตช.จัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ!



เครดิตเพจ ท่าน รมต.ท่องเที่ยวและการกีฬา (นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร)

KobkarnSuriyasat Wattanavrangkul Official

Count Down สู่อาเซียนก.ท่องเที่ยวจับมือสตช.จัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ!

เกริ่นนำ

สำหรับผมแล้วถือว่านโยบายและข้อปฏิบัติ 10 ประการนี้ เป็นไปในเชิงรุกสำหรับท่องเที่ยวไทยครับและขออนุญาตแชร์ แบ่งปันมาเผยแพร่ผ่านบล็อกครับ

เข้าสู่บทความรายละเอียดครับ

ถือเป็นปฏิบัติการ 10 กลุ่มต้องห้ามเพื่อขับเคลื่อนแผนงานท่องเที่ยวไทยปลอดภัยใน "ภาคปฏิบัติ" ค่ะเพราะความเชื่อมั่น เป็นเรื่องสำคัญเราจึงทำงานหนักร่วมกันกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำทุกวิถีทางไม่ให้ 10เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น

- ทัวร์ด้อยคุณภาพจากนี้ ทัวร์เถื่อน ไกด์เถื่อน ทัวร์ศูนย์เหรียญต้องไม่มีในเมืองไทย

-หลอกลวงสินค้าและบริการอาทิ การหลอกลวงซื้อจิวเวอรี่ด้อยคุณภาพ หลอกให้ตัดสูทด้อยคุณภาพ ไม่ควรเกิดขึ้น

-ยานพาหนะเอารัดเอาเปรียบนักท่องที่ยว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเช่าเรือเจ็ทสกี กลุ่มเช่ารถยนต์การให้บริการเรือรับจ้างฯ

-สถานบริการผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นบาร์ชาร์ท การขายบริการทางเพศ ลักลอบค้ามนุษย์ โชว์ลามก

-จัดระเบียบจราจร

-ยาเสพติดในแหล่งท่องเที่ยว

-อาชญากรรมข้ามชาติและลักลอบหนีเข้าเมือง

-คดีอาชญากรรมที่สำคัญที่เกิดกับนักท่องเที่ยว

-ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลมาเฟีย พกพาอาวุธบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว

มาตราการทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นจริงก็จากความเอาจริงและกวดขันของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานพร้อมๆกับการที่คนไทยช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพื่อร่วมกันดูแลประเทศของเราค่ะ

#kobkarnofficial










 

Create Date : 20 ตุลาคม 2558    
Last Update : 20 ตุลาคม 2558 17:30:27 น.
Counter : 866 Pageviews.  

7 เมืองในโลกที่ไม่มีรถยนต์แม้แต่คันเดียว มีเพียงเรือ จักรยาน ม้า และรถม้าเท่านั้น





7 เมืองในโลกที่ไม่มีรถยนต์แม้แต่คันเดียวมีเพียงเรือ จักรยาน ม้า และรถม้าเท่านั้น ลองชมกันครับ

เครดิต บทความในแฟนเพจ Khon-Kool-Klong ที่น่าสนใจผมขออนุญาตคัดลอกมาเผยแพร่ครับ

เครดิต เพจ คน คู คลอง

เรื่องจริง ที่มีอยู่จริงบนโลก 7เมืองในโลกที่ไม่มีรถยนต์แม้แต่คันเดียว มีเพียงเรือ จักยาน ม้า และรถม้าเท่านั้นลองดูกันค่ะว่ามีเมืองอะไรบ้าง

ลองจินตนาการดูคร่าวๆ นะคะถ้าสมมติว่าวันหนึ่งบ้านเราไม่มีรถยนต์บนท้องถนนเลย แต่ปรับเป็นอย่างอื่นแทน เช่นจักรยาน หรือเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยเเม่น้ำลำคลองอย่าง กรุงเทพมหานครก็น่าจะเหมาะไม่น้อย ที่จะมีการสัญจรทางเรืออย่างสะดวกสบาย

#คลอง #การขนส่งสาธารณะ #เมืองที่ไม่มีรถยนต์

เครดิตภาพ Businessinsider.com

1. Giethoorn, Netherlands

Inthe Nordic town of Giethoorn, instead of roads, they have canals. Known astheVenice of the North, Giethoorn has become a huge attraction for tourists whowant to enjoy the simpler pleasures of life, and who want to enjoy adestination with no cars.

Thetown was founded by a group of fugitives in 1230. When they stumbled across theland, they immediately noticed a pile of goat horns, presumably left from anarea flood. So they named the area Giethoorn, “meaning goat horn.”

Theremarkable feature of this town is the system of canals that the locals use fordaily transportation. Colonists formed the canals when they discovered theabundance of peat in the area. Needing a way to access the peat, they carvedout narrow waterways in which they could row their boats, and these waterwaysbecame the canals that make the town famous.

Today,boats with small electric motors float serenely through canals, providing dailytransportation for the locals and tours for the visitors. In the winter, thecanals freeze over and thousands of tourists flock to the area for excellentice skating.



เครดิตภาพ Businessinsider.com

2. Mackinac Island, Michigan

Fivehundred people live on Lake Huron’s Mackinac island permanently, but thatnumber rises over the summer as tourists flood the northern Michigan resorttown’s cottages and hotels. But, a reminder to all the visitors: no carsallowed.

Theisland outlawed motorized vehicles in 1898, so if you want to get anywhere now,you have to walk, ride a bike or hop in a horse-drawn buggy.

Beforethe ban, tourists brought cars to island, and it spooked the horses and ruinedthe sense of quiet that the residents of the peaceful island love. So, thetownspeople banded together and banned cars. Now, the only cars that are on theisland are solely there for emergency circumstances.



เครดิตภาพ 

https://misshaileyjane.wordpress.com/2014/12/07/dream-dinner-destination-hydra-greece/

3. Hydra, Greece

Inthe Aegean Sea, between the Saronic and Argolic Gulfs, sits an island calledHydra. The main city, Hydra port, as it’s simply called, is the classic Greektown: white houses covering the hills of the area and a pure, clear oceannearby.

What’skept the island so pristine is its preservation law which doesn’t allow theinstallation of new buildings that would take away from the appearance of thetown. On top of that, there are no cars in the town because the roads are toonarrow and steep to drive on. So, Hydra is in much the same state as it was 50years ago.



เครดิตภาพ 

//activerain.com/image_store/uploads/6/5/1/7/3/ar130668533437156.JPG

4. Fire Island, NY

Noone is quite sure where Fire Island got its name. Some say it was due toamisspelling on a deed, others insist that the name originates from an instancewhenpirates set fire to loot on the island’s shores. But the island off thecoast of Long Island isn’t known for its name; it’s known for its size.Although it’s 31 miles long, it spans only a quarter mile wide at its widestspot.

Theisland is simply not wide enough for cars. The people of the island forgo carsfor bikes. The lack of cars also means that people lug everything everywhere. Aweeklong vacation equals a week of clothes, but without car trunks, residentsand visitors uselarge wagons to carry their things. Instead of parking spotsfor cars, Fire Island haswagon parking lots.



เครดิตภาพ

https://ciudadmaravillosa.files.wordpress.com/2015/03/paqueta.jpg

5. Paqueta, Brazil

Thisisland off the coast of Brazil was originally home to the Tamoio Indian tribe.The Tamoio were a primarily hunting tribe, sustaining themselves by living offthe land. When the French invaded their land, the Tamoio joined with thePortuguese and defeated their rivals, but this all but wiped out the Tamoio.This conflict marked the turn of the island from the hunting and gatheringisland that the Tamoio knew to an island that farmed to produce fruit,vegetables and timber.

Today,with its cobblestone streets and absence of vehicles, Paqueta maintains its oldtime charm.



เครดิตภาพ

//foundtheworld.com/venice-italy/

6. Venice, Italy

Probablythe most famous of all the car-less cities is the empire that is Venice. Veniceis known for its wide canals and luxurious architecture. But how did Veniceeven become a city?

Inthe 5th century A.D., the Roman civilization had fallen, and barbarians weretaking advantage of the chaos by raiding Rome’s former territories. The Romansdecided to flee their homes and establish temporary settlements on the marshesof Torcello, Iesolo and Malamocco, the area that came to be known as Venice.

Thesetemporary settlements eventually became permanent, and refugees from otherparts of the fallen empire came and set up camp in the marshes. Today, Veniceis actually 118 separate islands connected by canals and bridges, eachoriginally formed by a specific group of refugees.



เครดิตภาพ

//content.time.com/time/specials/packages/article/0,28804,1924149_1924154_1924430,00.html

7. Vauban, Germany

Thissmall progressive town in Germany was created to be a sustainable place forpeople to live. The town was purposefully planned in a way that wasenvironmentally, economically and socially sustainable.

Whendesigning the town, the city council had a number of goals in mind. Theirprimary goal was to design the city in such a way where the city center wascompletely free of cars. Other goals included creating businesses, publicparks, schools and homes in a way that created a convenient way of life forthose who chose to live in Vauban.

Thoughthe city center doesn’t allow cars, those who choose to have cars are requiredto park them in a lot on the periphery of the residential area, thus creating a‘parking-free’ area where the citizens live. The 40 percent of citizens whochoose to forgo cars altogether are given a monetary reward or free use of thetram.

Today,Vauban has 5,000 inhabitants and 600 local jobs.


เครดิตข่าว

//www.businessinsider.com/7-cities-that-dont-have-any-cars-2015-10?utm_content=buffer0ddd0&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2558    
Last Update : 18 ตุลาคม 2558 14:53:25 น.
Counter : 1476 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  

เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และอนาคต และความเป็นไปของเกาะรัตนโกสินทร์
เล่าเรื่องทริป ที่สุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว มัน อเมซิ่ง มากมาย
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.