ชมวิวทิวทัศน์ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

ชาวเชียงใหม่ มองไปข้างหน้า สรรหาระบบขนส่งมวลชนเพื่อเมืองที่น่าอยู่ ...แล้วจังหวัดท่าน มองกันแล้วยัง



คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับว่าเมืองเชียงใหม่รถติดมากขึ้นทุกปี เราคงไม่ต้องรอไปอีก 4-5 ปีเพื่อให้รถติดจนขยับไปไหนกันไม่ได้ใช่ไหมครับหนทางหนึ่งที่จะบรรเทาปัญหารถติดได้นั่นคือการจัดให้มีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้ประชาชนใช้การขนส่งสาธารณะ

วันนี้ ChiangMai City Update จึงขอเชิญทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็น"เชียงใหม่ควรมีระบบขนส่งมวลชนได้หรือยัง และควรมีแบบไหน?"แสดงความคิดเห็นกันได้อย่างเต็มที่ภายใต้การเคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของกันและกันนะครับคอมเม้นท์ได้ที่ใต้รูปภาพเลยนะครับ

ใครแสดงความเห็นแล้วกรุณาช่วยแชร์ไปยังไทม์ไลน์ของท่าน เพื่อให้ได้ความคิดเห็นที่มากขึ้นและหลากหลายนะครับ ในลิ้งก์ด้านล่างนี้ครับ https://www.facebook.com/chiangmaicityupdate/photos/a.129495183900868.1073741829.129484707235249/352236894960028/?type=1&theater

Credit :Chiang Mai City Update




 

Create Date : 10 ธันวาคม 2557    
Last Update : 10 ธันวาคม 2557 12:30:56 น.
Counter : 1140 Pageviews.  

แนะนำราดหน้าเจ้าอร่อย ที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าแป๊ะโก๊ะ



ชวนอร่อย โดย อ.เจริญ ตันมหาพราน (วิทยากร และนักประวัติศาสตร์ชุมชนที่ลงพื้นที่ชุมชนประวัติศาสตร์ และได้ลิ้มลองอาหารจากหลายร้าน)

ร้านก๋วยเตี๋ยวราดหน้าแป๊ะโก๊ะที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ขายอยู่ที่บ้านไม้เก่าแก่ไม่มีเสน่ห์แต่รสชาติของฝีมือแป๊ะโก๊ะจัดจ้าน แสนอร่อย ทำให้มีลูกค้าเข้าไปอุดหนุนตลอดทั้งวันเพราะราดหน้าของที่ร้านนี้แปลกและแตกต่างจากร้านอื่น ตรงที่เส้นจะผัดแบบห่อไข่แล้วใส่จานต่างหาก ส่วนน้ำราดจะแยกใส่อีกจานหนึ่งแถมด้วยเกี๊ยวกรอบไว้เพิ่มเติมความอร่อยลูกค้าที่สามารถเลือกตัดสินใจว่าจะตัดสินใจเลือกอย่างไหนก่อน ราดหน้าเส้นหรือเส้นราดหน้า เติมแต่งด้วยเกี้ยวกรอบทันที หรือใส่ลงไปก่อนเพื่อให้เกี้ยวกรอบนิ่มชวนกิน หรือกินกันแบบกรอบๆนุ่มปากนุ่มลิ้น ลูกค้าที่เข้าไปในร้านนี้จึงมีวิธีปรุงที่ไม่เหมือนกันถนัดใคร ถนัดมัน

แป๊ะโก๊ะขายก๋วยเตี๋ยวมานานกว่า ๓๐ ปีแล้ว จนต้องพ่ายสังขารตัวเองแต่ก็มิได้ยอมแพ้ โดยจะคอยต้อนรับแขกเข้าร้านพร้อมกับนั่งกำกับบุตรสาวผัดมิให้ผิดพลาดตามขั้นตอนตลอดทั้งวันจะมีลูกค้าเข้ามาเต็มร้าน แต่ทุกคนก็มิได้เบื่อเพราะอาหารแต่ละจานรสชาติถูกใจจริงๆ













ลูกผู้ชายนามกร...แป๊ะโก๊ะ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อภายหลังจากที่ได้ประชาสัมพันธ์ร้านก๊วยเตี๋ยวราดของแป๊ะโก๊ะปรากฏว่ามีคนเดินทางไปพิสูจน์ว่า มันจะจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่? ทำให้จากเดิมมีคนเยอะอยู่แล้ว ก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น

การเดินทางไปตลาดชุมแสงของผมคราวนี้ โอกาสกินก๋วยเตี๋ยวราดหน้าสูตรของแป๊ะโก๊ะเลยต้องใช้เวลามากขึ้นทำให้มีโอกาสนั่งสนทนากับแป๊ะโก๊ะ

“แป๊ะโก๊ะ...ลื้อไปเอาสูตรก๋วยเตี๋ยวราดหน้ามาจากกรุงเทพฯร้านไหนทำไมอร่อยจัง” ผมถาม

“กรุงเทพฯ หน้าตายังไง อั๊วยังไม่เคยเห็น ตลอดชีวิตของอั๊ว ๗๐ปีกว่าอยู่แต่ตลาดชุมแสง จะไปก็จังหวัดใกล้ๆที่ติดกัน ถ้ามีใครบอกลื้อว่าสูตรก๊วยเตี๋ยวราดหน้าร้านแป๊ะโก๊ะมาจากร้านโน้น ร้านนี้ ลื้ออย่าไปเชื่อความจริงมาจากที่นี่” พูดจบแป๊ะโก๊ะเอานิ้วเคาะไปที่กะโหลกของเขาเอง

“แล้วที่บอกว่า ไม่เคยไปกรุงเทพฯ ไปแต่จังหวัดใกล้เคียง ไปทำอาชีพอะไร”

“ไอ๊โก๊ะสู้สิบทิศ ไม่มีถอย เอาทุกอย่างที่ขวางหน้าและได้เงินมาจุนเจือชีวิตตั้งแต่ ตีไก่พนัน ชกมวย ลูกน้องเขา รวมทั้งเป็นกรรมกร”

ชีวิตในวัยเรียน อั๊วเรียนหนังสือเก่งมาก ๒ ปีเรียนจบชั้นประถม ๔เพราะเรียนข้ามชั้นถึงสองปีซ้อน แต่พ่อให้ลาออกมาทำงาน แม้ว่าครูจะมาขอกับพ่อให้เรียนต่อก็ไม่สำเร็จพ่อบอกว่าลูกคนจีนเรียนสูงไปก็แค่นั้น สู้ลาออกมาทำมาหากินดีกว่า

งานแรกในชีวิตไอ้โก๊ะ คือ เด็กล้างจานร้านอาหาร เงินเดือน ๓บาท

แต่ความขยัน อดทน ทำอยู่นาน จนกระทั่งคิดหาทางขยับชั้นเป็นพ่อครัวพอมีโอกาสก็ไปสารภาพกับพ่อครัวประจำร้าน สิ่งที่ให้ก็คือ ถูกด่ากลับมา ไอ้ตี๊ลื้อจำไว้ สุภาษิตจีนสอนว่า“ก่าเจี๊ยะ บ่อก่าเจาะ”(สอนกินไม่สอนทำ) ไอ้โก๊ะเดินคอตกกลับมาอย่างผิดหวัง

ต่อมาพ่อครัวคนเดิมได้ถึงเวลากินข้าวร่วมโต๊ะกับไอ้โก๊ะ จึงได้เอ่ยปากว่า“ไอ้ตี๊ ถ้าลื้ออยากเป็นเถ่าชิ้ว(มือหนึ่ง)จะต้องหมั่นสังเกตไม่ใช่ขยันถามอย่างวันนี้ แล้วก็ใช้วิธีการครูพักลักจำเอามาใช้

นับแต่วันนั้นมาไอ้โก๊ะได้ลองผิดลองถูกทุกครั้งที่มีโอกาสจนกระทั่งขยับหน้าที่จากเด็กล้างจานมาเป็นพ่อครัวเคียงคู่มากับลูกชายเถ้าแก่และกลายเป็นเพื่อนรักกัน

วันหนึ่งทั้งสองเกิดสนใจชะตาชีวิตในอนาคต จึงพากันไปดูหมอที่ตลาดซินแส(หมอดู)ทำลายไอ้โก๊ะ “ชะตาของลื้อนะ ไม่รวย แต่ก็ไม่จนทำเท่าไหร่ก็ไม่มีเหลือ” ส่วนลูกชายเถ้าแก่จะรวยยิ่งๆขึ้นไปอีกเหตุการณ์ก็เป็นจริงดังคำทำนาย แม้ลูกชายเถ้าแก่ฝีมือจะสู้ไอ้โก๊ะไม่ได้ แต่ก็สามารถซื้อตึกแถว๒-๓ ห้องเป็นของตนเอง ทำให้ไอ้โก๊ะเกิดน้อยใจ ลาออกจากพ่อครัวมารับจัดโต๊ะเอง

บ่อยครั้งมีผู้มาว่าจ้างให้ไปจัดโต๊ะจีนจำนวน ๑๐๐ โต๊ะในชุมแสงบ้างตามต่างจังหวัดบ้าง ไอ้โก๊ะสามารถจัดการได้ราบรื่น เพราะฝีมือเชี่ยวชาญของตนเองและพรรคพวกคอยช่วยเป็นลูกมือ เสร็จงานได้รับค่าจ้างมาเป็นเงินก้อนโตแต่ต้องจ่ายค่าแรงพรรคพวกจำนวนมาก เหลือติดตัวมาเพียงนิดหน่อยสมดังคำทำนายของซินแส“ลื้อไม่รวย แต่ก็ไม่จน”

หนักเข้าไอ้โก๊ะเกิดความเบื่อหน่าย หันมายึดอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยความที่เป็นคนมีพรสวรรค์ จับอาชีพผู้คนให้ความสนใจสามารถตัดเย็บกางเกงให้เสร็จภาย ๒.๓๐ ชั่วโมงต่อหนึ่งตัว ตัวหนึ่งค่าแรง ๕๐ บาทสามารถตัดเย็บกางเกงได้วันหนึ่ง ๗ ตัว หลายคนที่มาเที่ยวชุมแสง ตอนเย็นอาบน้ำเสร็จใส่เสื้อกางเกงที่ไอ้โก๊ะตัดให้ใหม่ใส่กลับบ้านได้เลย พอเศรษฐกิจไม่ดีงานก็ลดน้อยลง ได้เดินทางเข้าตัวเมืองเพื่อทำงานเป็นลูกน้องช่างตัดเย็บร้านที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งปรากฏว่าทางร้านตอบปฏิเสธ ทั้งๆที่ยังไม่เคยทดสอบฝีมือโดยบอกมีช่างตัดเย็บหลายสิบคน จนไม่มีตำแหน่งว่าง

ไอ้โก๊ะคอตกเป็นครั้งที่สอง แต่พอท้องก็หิว ข้าวต้องกิน จึงได้ยึดอาชีพเดิมคือ“ล้างจาน”

จากนั้นก็หันมายึดอาชีพ ตีไก่ กัดปลา ชกมวย ผู้คนเรียกว่า“ไอ้โก๊ะสู้สิบทิศ ไม่มีถอย”

ด้านตีไก่ไม่ได้เลี้ยงไก่เอง อาศัยไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ไปพนันไอ้โก๊ะสามารถดูลักษณะของไก่ ตัวไหนจะแพ้หรือชนะได้ อีกทั้งสามารถทำให้ไก่ที่จะแพ้กลับมาชนะ โดยไม่ต้องพึ่งยาชูกำลัง

ฝึกทักษะการปั้นหมัด การยืน การชกต่อย การศอก การเข่า การเตะใช้ผ้าขาวม้าพันหมัดทั้งสองหมัดพาดผ่านคอด้านหลัง ยกหมัดตั้งท่าและเคลื่อนที่ก้าวเท้าพร้อมกับเคลื่อนหมัดขึ้นลงตามท่าที่ครูมวยสอนใช้ผ้าขาวม้าพันมือชกกับคู่ ใช้ลูกมะนาว ๑๐ ลูกผูกกับด้ายแขวนห้อยกับราวไม้รวกให้ต่อยและศอกโดยไม่ให้ลูกมะนาวหลุดไม่ให้ด้ายพันกันและไม่ให้ลูกมะนาวถูกหน้า

ไอ้โก๊ะยืนหยัดอยู่บนเวทีอยู่ แม้จะชนะบ้าง แต่ก็กลับลงมาพร้อมกับความบอบช้ำไม่นานก็หันหลังให้กับเวทีมวย มีเงินอยู่ก้อนหนึ่งเดิมตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต แต่มีแม่ค้าขายล๊อตเตอรี่คนหนึ่งนำเลข ๕๐จำนวน ๓๐ คู่มาขายให้ ไอ้โก๊ะตัดสินใจซื้อด้วยจำนวนเงินที่มีอยู่

ครั้นวันหวยออก กองสลากประเทศทางวิทยุว่า หมายเลขที่ออกได้แก่ ๕๐

ไอ้โก๊ะ ร้องลั่นด้วยความดีใจเพื่อนฝูงที่ทราบข่าวที่ทราบข่าวต่างพากันมาแสดงความดี ไอ้โก๊ะตอบแทนน้ำใจพวกเขาด้วยการเลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้งชั่วระยะเวลาไม่ถึงเดือนลาภก้อนโตจาการถูกล๊อตเตอรี่ก็หดหายไปพร้อมกับตีจากของพรรคพวก

สมดังคำทำนายของซินแส“ลื้อไม่รวย แต่ก็ไม่จน”

ไอ้โก๊ะหวนคืนกลับชุมแสงถิ่นเดิม แต่นิสัยติดการพนันของเขาทำให้การครองเรือนคนแล้วคนเล่าพังทลายไปสิ้น เวลาจะไปเล่นพนันตามต่างจังหวัดเดิมทีตั้งใจจะไป ๓ วัน เมียคนไหนเอ่ยปากห้าม ไอ้โก๊ะจะไปเพิ่มเป็น ๓๐ วันไม่มีเมียคนไหนเอาเขาอยู่ แล้วไอ้โก๊ะก็อยู่กับเมียคนไหนไม่ได้นาน

ในชีวิตอั๊วชนะมาทุกอย่าง สุดท้ายก็มาแพ้ใจเมียคนนี้ แป๊ะโก๊ะและชี้ไปที่เมียที่อยู่ในร้าน“พูดอะไร อีนิ่งอย่างเดียวและทำงานไปเรื่อยๆ เหมือนไม่มีอั๊วอยู่ในโลกนี้อั๊วถึงมานั่งเสียใจ ไม่ควรทำตัวเป็นคนเสเพลอีกต่อไป เพราะมีลูกมาด้วยกันถึง ๖คนแล้ว เดิมทีตั้งใจให้ให้ครบ ตั้งทีมฟุตบอลล์ได้ แป๊ะโก๊ะพร้อมกับหัวเราะชอบใจ

แป๊ะโก๊ะยึดอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวราดหน้าอยู่ตลาดสดเทศบาลชุมแสงในตอนเย็นคำทำนายของซินแส“ลื้อไม่รวย แต่ก็ไม่จน” ทำให้เขามีเงินลงทุนซื้อแค่เครื่องมือทำมาหากิน เช่น ตู้ กระทะ ถ้วยชาม ฯลฯแต่เครื่องมือทำกินมีเยอะ รถเข็นคันเดียวไม่พอจำเป็นต้องขอยืมใช้จากพ่อค้าในตลาดด้วยที่ขายตอนเช้า แป๊ะโก๊ะไม่ได้ขโมยแต่เข็นมาโดยไม่ได้บอกเจ้าของ พอเจ้าของรู้ก็ตามมาทวงคืน พร้อมกับด่าพอเป็นพิธี

แป๊ะโก๊ะขายก๋วยเตี๋ยวจนเป็นที่ติดอกติดใจของชาวชุมแสงจนสามารถซื้อเครื่องมือทำมาหากิน ไม่ต้องไปขโมยเขาอีกต่อไปพร้อมกับได้เช่าบ้านไม้อยู่ในตลาด เปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวราดหน้าแต่ไม่มียี่ห้อร้านเหมือนใครทั่วไป แม้ร้านจะเก่าแก่ ไม่มีเสน่ห์ แต่รสชาติของฝีมือแป๊ะโก๊ะจัดจ้านอร่อย ทำให้มีลูกค้าเข้าไปอุดหนุนตลอดทั้งวัน

ทุกวันนี้แป๊ะโก๊ะทำไม่ไหว เพราะความชราภาพแล้วจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกสาวแทน อั๊วคนมีบุญนะ ที่ลูกๆทุกคนเป็นคนดีขยันทำมาหากิน แต่อั๊วไม่กล้าด่าพวกอี กลัวพวกมันไม่ช่วย อั๊วอดตายแน่ พูดจบหัวเราะชอบใจฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

แป๊ะโก๊ะ ลื้อไม่มีชื่อร้าน แล้วตัวลื้อมีชื่อจริงไหม? ผมถาม

“มีสิ พ่ออั๊วตั้งชื่อให้ว่านายบักย้ง แซ่จัง” แต่ไม่มีใครรู้จัก ชอบเรียกแต่ แป๊ะโก๊ะ กันทั่วบ้านทั่วเมือง

.......................................................

หมายเหตุ เกี่ยวกับ ราดหน้า

ราดหน้า เป็นก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่ง ที่ทำโดยการใช้เส้นลงไปผัดกับน้ำมันอ่อนๆก่อนแล้วพักไว้ น้ำที่ใช้ราด เป็นน้ำต้มกระดูกผสมกับแป้งมันมีความข้นเหนียวเนื้อสัตว์นิยมใช้ เนื้อหมู และ กุ้ง หรือเนื้อสัตว์อื่นๆซึ่งถ้าเป็นเนื้อหมูจะนิยมหมักกับกระเทียมก่อน เพื่อให้เหนียวนุ่ม ผักนิยมใช้ผักคะน้า หรือจะใช้ผักอย่างอื่น เช่น ผักกวางตุ้ง หรือ ผักกาดขาว ก็ได้

เส้นที่ใช้ทำราดหน้า มีหลายเส้น โดยมาก หากเป็นเส้นใหญ่จะผัดกับน้ำมันและซีอิ๊วดำก่อน นอกจากนี้ยังมีหมี่ขาว หมี่เหลืองซึ่งโดยมากจะเป็นเส้นทอดกรอบ นอกจากนี้แล้วราดหน้าบางครั้งยังสามารถใส่ไข่ลงไปได้ด้วย อาจจะผสมลงไปในน้ำราดหน้าหรือทอดแยกออกมาโปะหน้าต่างหากแบบไข่เจียวหรือไข่ดาว ก็ได้

ราดหน้าที่เข้ามาแพร่หลายในไทยได้รับอิทธิพลจากอาหารจีน เริ่มนำเข้ามาขายโดยชาวจีนโดยเฉพาะชาวจีนแต้จิ๋วราดหน้ายุคแรกๆ ห่อใบตองขาย ใส่ผักกวางตุ้งและหน่อไม้ ราดน้ำราดแต่น้อยต่อมาจึงมีการปรับรูปแบบไปต่างๆกัน ราดหน้าที่แพร่หลายในไทยนั้นมีที่มาจากราดหน้าของจีน ๓ แหล่งดังนี้

ราดหน้าแบบฮ่องกง น้ำราดหน้าไม่ใส่เต้าเจี้ยว ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย

ราดหน้าแบบกวางตุ้ง น้ำราดหน้าใส่เต้าเจี้ยว กระเทียม ใช้ผักคะน้าเป็นหลัก

ราดหน้าแบบแต้จิ๋ว น้ำราดสีเข้ม ใส่เต้าเจี้ยวเป็นเม็ด ไม่ใส่น้ำมันหอยและใส่คะน้าผัดไปกับน้ำราดด้วย





 

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2557 8:37:22 น.
Counter : 2307 Pageviews.  

ชวนเที่ยวทริป "กราบพ่อตากสิน เยือนถิ่นเมืองชุมแสง ชมตลาดเก่า 100 ปี" 20-21 ธันวาคม 57




ชวนเที่ยว รายการส่งท้ายปีเก่า เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗

กำหนดการเดินทางสู่ดินแดนดงดอกไม้ สายน้ำยม-น่าน ผ่านไอหมอก

รวม 2 วัน (เสาร์ที่ 20- อาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2557)

วิทยากร โดย อ.เจริญ ตันมหาพราน ผู้เชี่ยวชาญ และนักประวัติศาสตร์ชุมชน

วันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗

๐๖.๐๐ น. พร้อมกัน ณ ห้างสรรพสินค้าริเวอร์ซิตี้ ท่าน้ำสี่พระยา

๐๗.๐๐ น. ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร สู่ จ.นครสวรรค์

๑๑.๐๐ น. ถึง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ชมโบสถ์เทวดาสร้างแห่งวัดจอมคีรีนาคพรตและทะเลน้ำข้าว รัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จประพาสมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๔

๑๑.๓๐ น. กราบไหว้ศาลเจ้าเทพารักษ์, ชมต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา(ปิง, วัง, ยม, และน่าน)

๑๒.๐๐ น. รับประทานก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ร้านแป๊ะโก๊ะ ข้างตลาดสดเทศบาลชุมแสง

๑๓.๐๐ น. สักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, ฟังวีรกรรรมการต่อสู้ปราบชุมนุมเจ้าพิษณุโลก, ชมตลาดเก่าแก่อายุร้อยปีริมแม่น้ำน่าน, เดินข้ามสะพานหิรัญนฤมิตรที่สวยงามที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง

๑๔.๐๐ น. กราบไหว้ศาลเจ้าพ่อชุมแสง ชมเรือนหอเจ้าแม่เกยไชย

๑๕.๐๐ น. กราบนมัสการพระบรมธาตุ ที่วัดเกยไชยเหนือ, ชมพิพิธภัณฑ์ต้นน้ำ, ฟังตำนานไอ้ด่างเกยไชยจระเข้ดุร้ายที่สุด, ดูการไหลมาบรรจบกันของแม่น้ำสองสีแม่น้ำน่านสีแดง และแม่น้ำยมสีเขียว

๑๖.๐๐ น. ยลสถานีรถไฟชุมแสงร้อยปี สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๘ชุมทางแห่งการขนส่งในสมัยก่อน

๑๗.๐๐ น. เดินชมวิถีชีวิตชาวชุมแสง ทักทายพ่อค้าแม่ขายจับจ่ายซื้อสินค้าพื้นเมือง และลองลิ้มชิมรสอาหารพื้นเมืองหลายรสหลายแบบ

๑๘.๐๐ น. เข้าสู่ที่พัก เคียงน่านรีสอร์ท อากาศเย็นสบายชิลๆริมแม่น้ำน่านอันเงียบสงบ

วันอาทิตย์ที่ ๒๑ ธันวาคมพ.ศ.๒๕๕๗

๐๘.๐๐ น. รับประทานอาหารเช้า

๐๙.๐๐ น. เดินชม“สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์” ฟังตำนาน“บ่อหกบาท” บ่อน้ำกว้างใหญ่ ปกคลุมไปด้วยป่าละเมาะนับร้อยๆไร่ในอดีต

๑๐.๐๐ น. เข้าชมวัดท่าไม้ นมัสการ“หลวงพ่อสวน” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชาวท่าไม้ พร้อมกับเสมาธรรมจักร ทำจากหินชนวนมีลวดลายสวยงาม เดิมตกอยู่ในน้ำ ชาวประมงไปทอดแหหาเจอ

๑๑.๐๐ น. เยี่ยม“พิพิธภัณฑ์ฉลอง อินทร์น้อย” ชมนาฬิกาแมงดากว่าร้อยเรือน, กังไส เบญจรงค์, โต๊ะตั่ง เก้าอี้ประดับมุก รวมทั้งพระพุทธรูปเก่าแก่จำนวนมาก, มีขนมจีนน้ำยา น้ำพริก น้ำเงี้ยว ผลไม้พื้นเมืองเลี้ยงรับรอง

๑๒.๐๐ น. รับประทานอาหารมื้อเที่ยงร้านเจ๊เช้ง ก๋วยเตี๋ยวอร่อยจนคุณไม่อยากอิ่ม

๑๓.๐๐ น. เข้าห้างแฟรี่แลนด์ ขึ้นชั้น ๕ ชมนิทรรศการย้อนอดีตปากน้ำโพ

๑๔.๐๐ น. นมัสการพระพุทธรูปคู่อริ ที่วัดนครสวรรค์

๑๕.๐๐ น. ขึ้นเขากบ ชมทิวทัศน์เมืองนครสวรค์ เจดีย์เก่า พระพุทธไสยาสน์ยุคทวาราวดี ไหว้หลวงพ่อกบ และศาลตากบและยายเขียด

๑๖.๐๐ น. เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ

๒๐.๐๐ น. ถึงริเวอร์ซิตี้ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

(เวลาและสถานที่กำหนดเอาเองอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างตามความเหมาะสม)

....................................................................

อัตราค่าบริการนี้รวม

๑.ค่ารถตู้ปรับอากาศ ๒.ค่าอาหารมื้อเช้า ๒ มื้อ ๓.อาหารกลางวัน ๒ มื้อ๔.ค่าวิทยากรและมีมงาน ๕.ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

๑.หักภาษี ณ ที่จ่าย ๓% (กรณีเป็นนิติบุคคล)

การจองทัวร์

ราคา ๓,๕๐๐ บาท(สามพันห้าร้อยบาทถ้วน)โอนเงินค่าทัวร์ ๑๐๐% เข้าธนาคาร ดังนี้

ธนาคารกสิกรไทย สาขาเยาวราช บัญชีออมทรัพย์ ชื่อ นายเจริญ ตันมหาพราน เลขที่ 024-2-02861-9 รับจำนวนจำกัด ๑๐ ท่านเท่านั้น

ติดต่อสอบถามรายะละเอียดได้ที่...เบอร์โทร.089-770-8337 ให้เก็บสลิปโอนเงินไว้เพื่อยืนยันวันเดินทางด่วนดร.ทิพวรรณ อินนันทนานนท์ มีพระเครื่อง”กำแพงลีลา”แจกจำนวนหนึ่ง สำหรับผู้ที่ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ฉลองอินทร์น้อย” และผมมีหนังสือ”พ่ออยู่หัวตากสิน”มอบแก่ผู้ที่พลาดหวังทุกท่าน











 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2557 10:07:39 น.
Counter : 1718 Pageviews.  

ชวนเที่ยวทริป เสริมสร้างประสบการณ์ตามโครงการวันเดียวเที่ยวกรุงเทพฯ ตอน “ลาดกระบัง กำลังดี"



ชวนเที่ยวทริป กิจกรรมการเรียนรู้เสริมสร้างประสบการณ์ตามโครงการวันเดียวเที่ยวกรุงเทพฯ ตอน “ลาดกระบังกำลังดี”

เครดิตภาพ : manageronline ตามลิ้งก์ //www.manager.co.th/Travel/viewNews.aspx?NewsID=9550000123811


ประกาศๆๆ มาแล้ว มาช้าแต่ชัวร์จ้า ..ไม่ใช่โปรโมชั่นแต่เป็นกิจกรรมลาดกระบังกำลังดี วันอาทิตย์นี้จ้า 2 พฤศจิกายน2557 ที่เก่าเวลาเดิม ... *รับจำนวน40 คน*

****จองมาที่ comment ในแฟนเพจ “เครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาสังคม” ถ้าไม่อยากให้เบอร์โทร.ออกอากาศก็ส่งเบอร์มาทางอินบอกซ์ได้ ***

ตามลิ้งก์ https://www.facebook.com/thaitourismsociety/posts/745943022137901

หมายเหตุ : ชุมชนขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย ท่านละ 150 บาท

ชวนเที่ยวทริป กิจกรรมการเรียนรู้เสริมสร้างประสบการณ์ตามโครงการวันเดียวเที่ยวกรุงเทพฯ ตอน “ลาดกระบังกำลังดี”

สัมผัสศิลปวัฒนธรรม วิถีชุมชน ย่านการค้าเก่าในลาดกระบังเยี่ยมชุมชนเกษตรเพื่อแผ่นดินที่หนองจอก , สร้างสำนึกร่วมด้านจิตอาสาที่บ้านดนตรีหลวงแพ่ง

วันอาทิตย์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

ณ ศูนย์การเรียนรู้วิถีชาวสวน หนองจอก ตลาดหัวตะเข้ และตลาดหลวงแพ่งลาดกระบัง

………………………………………………

๐๗.๓๐ น. พร้อมกันที่ กองการท่องเที่ยว (ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร)/ลงทะเบียน รับเอกสาร

๐๘.๐๐ น. ออกเดินทางสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ตะวันออก

๐๙.๑๕ น. ถึงชุมชนฮาซานุดีน หนองจอก ใกล้ซอยผดุงพันธ์ 29 ชมวิถีเกษตรของ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ชีวภาพชุมชน ฮาซานุดินเรียนรู้การพึ่งพาตนเองผ่าน “ศูนย์ค้าชุมชน” เพื่อรักษาอัตลักษณ์ท้องถิ่น ท่ามกลางการรุมล้อมของกระแสทุนนิยม อุดหนุนพืชผัก สินค้าการเกษตรของชุมชนที่สะอาด ปลอดภัย แถมยังได้ ช่วยอุดหนุนและสนับสนุนชุมชน พร้อมร่วมพูดคุยสนทนาฯ

๑๐.๑๕ น. ออกเดินทางไปยัง ย่านลาดกระบัง

๑๐.๔๕ น. ถึง วิทยาลัยช่างศิลป์ ลาดกระบังสำนักตักศิลาที่บ่มเพาะผู้สืบสานศิลปะชาติมากว่า ๖๐ ปี สักการะรูปเคารพพระพิฆเณศวรอันเป็นที่เคารพของชาวช่างศิลปะทั้งมวล ถอดแบบจากงานปั้นของ “ศิลป พีระศรี”

ชมหอศิลป์ ภาพจิตรกรรม ผลงาน ฯลฯ ของอาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัยช่างศิลป

๑๑.๔๕ น. เดินเท้าเข้าสู่ ตลาดหัวตะเข้ ริมคลองประเวศบุรีรมย์ชมบรรยากาศตลาดไม้โบราณสุดคลาสสิคที่บ่งบอกความรุ่งเรืองในอดีตของการค้าย่านลาดกระบัง - ชมบรรยากาศ “ตลาดนัดศิลปะ” อุดหนุนงานศิลปะ ภาพวาด ภาพพิมพ์ และของที่ระลึก/ สัมผัสวิถีชีวิต อาชีพเก่าแก่ อาทิ การทำว่าว เครื่องมือจับปลาอุปกรณ์ทำการเกษตร - ชมภาพพระบรมฉายาลักษณ์ และงานศิลปะที่ร้านกรอบรูป

ชมบรรยากาศสงบๆ สุขุมแบบตลาดโบราณ ที่มาชื่อ “ลาดกระบังกำลังดี”

**รับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย**

๑๓.๑๕ น. *ลงเรือหางยาวไปตามคลองประเวศร์บุรีรมย์ ไปยังบ้านดนตรีไทยตลาดหลวงแพ่ง

– สนทนากับพลเรือโทประชา ศิลป์ศรีกุลและคุณอารี ศิลป์ศรีกุล ผู้มีจิตสาธารณะ ที่ใช้บ้านพักริมคลองหลวงแพ่งเป็นสถานที่ถ่ายทอดการเล่นดนตรีแก่เด็กในชุมชนโดยไม่หวังผลตอบแทน

๑๕.๑๕ น. *นั่งเรือออกไปยัง ตลาดหลวงแพ่ง ชมตลาดไม้โบราณ อดีตที่ยังมีชีวิตพบปะพูดคุยกับคนในชุมชน เดินข้ามคลองมายัง ร้านเต๊กจือโอสถร้านขายยาเก่าแก่ที่ดำเนินกิจการมากว่า ๖๐ ปี

๑๖.๓๐ – ๑๗.๐๐ น. เดินทางกลับสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยสวัสดิภาพ

.........................................................

*กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม*

ดำเนินการโดย กองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวร่วมสนับสนุนโดย กลุ่มชุมชนคนรักหัวตะเข้

(ตลาดหัวตะเข้) ,ชาวตลาดหลวงแพ่ง และเครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาสังคม

*กองการท่องเที่ยวจัดบริการรถโดยสารโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย*

**แต่ชุมชนขอรับการสนับสนุนการดำเนินงานของตลาดหัวตะเข้ค่าวิทยากรท้องถิ่น, ค่าสนับสนุนกิจกรรมชุมชน,

ค่าการบริการเรือรับจ้างจากตลาดหัวตะเข้ – บ้านดนตรีไทย และบ้านดนตรีไทย – ตลาดหลวงแพ่ง ฯลฯ (ชำระในวันเดินทาง) ค่าใช้จ่ายคนละ ๑๕๐ บาท

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองการท่องเที่ยว โทร. ๐ ๒๒๒๕ ๗๖๑๒–

ติดตามข่าวสาร : เฟสบุค เครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาสังคม


ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ชีวภาพชุมชน ฮาซานุดิน เรียนรู้การพึ่งพาตนเองผ่าน“ศูนย์ค้าชุมชน” หนองจอก


ประติมากรรมลอยตัว ที่ลานกลางแจ้ง วิทยาลัยช่างศิลป์..



บรรยากาศของตลาดหลวงแพ่ง




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2557    
Last Update : 29 ตุลาคม 2557 17:40:43 น.
Counter : 1757 Pageviews.  

ชวนไป อิ่มบุญ เพลินตา ณ ลำน้ำคลองลำปลาทิว ประเพณีตักบาตรพระร้อยทางเรือ ที่สวยงาม ณ วัดสุทธาโภชน์



ขอเชิญร่วมงานประเพณีตักบาตรพระร้อยทางเรื­ กับประเพณีตักบาตรพระร้อยทางเรือของชาวมอญลาดกระบังวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2557 พบกันที่วัดสุทธาโภชน์ ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง

เขตลาดกระบังขอเชิญร่วมงาน “ประเพณีตักบาตรพระร้อยทางเรือ”

นายสิน นิติธาดากุล ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง แจ้งว่า สำนักงานเขตลาดกระบังสภาวัฒนธรรมเขตลาดกระบัง วัดสุทธาโภชน์ และชาวชุมชนเลียบคลองมอญ เขตลาดกระบังขอเชิญร่วมงาน “ประเพณีตักบาตร พระร้อยทางเรือและแข่งขันเรือพาย ประจำปี 2557” ในวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2557 เริ่มเวลา 06.00 – 15.00 น. ณ คลองลำปลาทิว (หน้าวัดสุทธาโภชน์) ถนนฉลองกรุงแขวงทับยาว เขตลาดกระบัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 089-987-9872, 081-452-1699

“สำหรับประเพณีตักบาตรพระร้อยทางเรือถือเป็นวัฒนธรรมประเพณีของชาวรามัญ หรือชาวมอญที่สืบทอดมายาวนานคู่ชาวไทยเชื้อสายมอญในชุมชนเลียบคลองมอญ เขตลาดกระบัง และคำว่าพระร้อยหมายถึงการนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 100 รูป มารับบิณฑบาตรทางเรือลักษณะเป็นการตักบาตรคล้ายกับการตักบาตรเทโวโรหณะ แต่ใช้เรือมาดเป็นพาหนะมารับบิณฑบาตซึ่งเป็นเรือที่เก็บรักษาและอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีโดยประชาชนจะนั่งคอยใส่บาตรพระเรียงรายอยู่ริมตลิ่งตามแนวคลองลำปลาทิวยาวนับหลายร้อยเมตรซึ่งเป็นภาพที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจและนับวันจะหาดูได้ยากหลังจากที่ตักบาตรเสร็จสิ้นแล้วจะมีการถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์จุดเด่นคือชาวบ้านจะจัดสำรับคาวหวานอย่างสวยงามเป็นสำรับโบราณเก่าแก่หลากหลายรูปแบบจำนวนนับร้อยชุดบางชุดเป็นมรดกตกทอดมีอายุกว่า 100 ปีและในช่วงบ่ายจะมีการแข่งขันเรือพายพื้นบ้านของชาวบ้านและชุมชนใกล้เคียงอย่างสนุกสนานเป็นการแสดงวิถีชีวิตสืบเนื่องกับการอาศัยอยู่ริมคลองตลอดจนความรักความสามัคคีของชุมชนได้เป็นอย่างดี”

เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอันดีงามจึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงานประเพณี และเที่ยวชมการแข่งขันเรือพายประเภทต่างๆตามวัน เวลาดังกล่าว

บรรยากาศ ปีก่อนๆ ตามลิ้งด้านล่างนี้เลยคร้าาา :

https://www.facebook.com/ladkrabangdistrict/media_set?set=a.406935396038592.94549.100001664049056&type=3

เครดิต สำนักงานเขตลาดกระบัง และเครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาสังคม

Download ฉบับเต็ม คู่มือ “กิจกรรมท่องเที่ยวเขตลาดกระบัง”

ตามลิ้งก์ //www.mediafire.com/view/ead0u93h0xbpqkf/Ladkrabang_Trip.pdf

ภาพประกอบพอสังเขป











 

Create Date : 27 กันยายน 2557    
Last Update : 27 กันยายน 2557 15:53:17 น.
Counter : 1364 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  

เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และอนาคต และความเป็นไปของเกาะรัตนโกสินทร์
เล่าเรื่องทริป ที่สุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว มัน อเมซิ่ง มากมาย
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.