ชมวิวทิวทัศน์ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

ชวนชิม ปิงข้าวหมูแดง ร้านอร่อย สาขา 2 ย่านพระราม 2 ไปช้า อาจหมด อดชิม ขอรับกระผม





วันนี้มาย่านฝั่งธน แวะมากินข้าวหมูแดง หมูกรอบ และบะหมี่ เกี๊ยว(เกี๊ยวก็อร่อย เนื้อแน่น เจ้าของร้าน บอกหมักหมู ด้วยความใส่ใจรสชาติถึงเยี่ยมยอด)


ร้านปิงข้าวหมูแดง (เคยรีวิวไปรอบหนึ่งแล้ว ในสาขาแรก เมื่อหลายปีก่อน)ตอนนี้มาเปิดสาขา 2 เลยตามลายแทงความอร่อย มาครับ ร้านใหม่อยู่ในซอย 56 ถนนพระราม2 จำง่ายๆ อยู่ข้างๆ ที่ทำการสำนักงานเขตบางขุนเทียน และโรงพยาบาลนครธน




วันนี้มาถึงช่วง 11 โมง คนก็เต็มร้านแล้ว กินไป 2 ชาม ข้าวหมูแดง หมูกรอบไข่ต้มยางมะตูม และบะหมีเกี๊ยว (ความจริง อิ่มตั้งแต่ข้าวหมูแดงแล้ว แต่อยากกินเลยเบิ้ลด้วยบะหมี่เกี๊ยว) ราคาไม่แพงครับ ชามเดียวก็อิ่มได้ว่างั้นเถอะเพราะร้านนี้ ทั้งคุณภาพ และปริมาณอย่างเหมาะสมครับ หมูกรอบก็ห๊อม หอมไม่มันมากครับ เคี้ยวกรุ๊บๆ กำลังดี



คุณปิง เจ้าของร้าน (ประจำการสาขา 2) ส่วน สาขา 1ภรรยาประจำการ







ลูกค้าแน่นร้าน ระหว่าง 11 โมง ถึง ประมาณบ่ายโมง



เกี๊ยวหมู ลูกใหญ่ เนื้อแน่น อร่อยกำลังดี


วันนี้อยู่ถึงบ่ายโมงกว่าๆ ก็ขายหมดพอดี ผมถึงบอก ท่านใดอยากมาลองชิมก็น่าจะมาถึงซักประมาณ 10 โมงครับ คนยังไม่แน่นเท่าไหร่ เพราะประมาณ 11 โมง ถึงบ่ายโมง คนจะเยอะมาก เพราะติดเที่ยง อาหารกลางวันพอดีของคนทำงาน



ลูกค้า ทั้งกินที่ร้าน และห่อไป บอกรสชาติอร่อย กด Like ให้เลยครับ

ท่านใดสนใจ ติดตามไปลองชิมกันได้ครับ 2 สาขา ตามแผนที่และร้านเค้ายังรับทำข้าวกล่องงานเลี้ยง งานสัมมนา และเทศกาลต่างๆ สั่งอาหารล่วงหน้าหรือบริการออกร้านนอกสถานที่

โทร. 085-8251818, 086-5559956 ตามนามบัตร

หรือเข้าไปดูในหน้า Facebook ตามลิ้งก์ครับ https://www.facebook.com/pingmoodang/



บทความอื่นๆ (รีวิวร้าน)ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับร้านปิงข้าวหมูแดง หมูกรอบ

//www.oknation.net/blog/thaitourismsociety/2014/05/26/entry-1

https://www.wongnai.com/reviews/d068ee1b2467462cb662bbf167aa8308




แผนที่ความอร่อย 2 สาขา


สาขาที่ 2 ถนนพระราม 2 ซอย 56 ข้างที่ทำการสำนักงานเขตบางขุนเทียน (ตามบทความนี้)



สาขาที่ 1 บางบอน







 

Create Date : 01 เมษายน 2559    
Last Update : 1 เมษายน 2559 19:37:52 น.
Counter : 2659 Pageviews.  

ชวนเที่ยวทริป ชมโบราณสถานเมืองเก่าลพบุรีกับคุณนิรุตต์ แฟนพันธุ์กรุงศรีฯ และ อ.จุลภัสสร



ท่านใดที่สนใจเมืองลพบุรี ไม่ควรพลาดงานนี้

กิจกรรม “...ยลถิ่น แผ่นดินพระนารายณ์...” โดย เพจประวัติศาสตร์สยาม

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559 (ปิดรับลงทะเบียน7 กุมภาพันธ์)

โดยวิทยากรพิเศษถึง 2ท่าน คือ อาจารย์ จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา และ คุณนิรุตต์โลหะรังสี สุดยอดแฟนพันธุ์แท้กรุงศรีอยุธยา

“ ชมโบราณสถาน เยือนถิ่นฐานบรรพบุรุษ “

เดินทางโดย รสบัสปรับอากาศอย่างดี

ร่วมเดินทางไปในดินแดนประวัติศาสตร์ ที่บรรพชนสร้างไว้

สัมผัสเมืองลพบุรี หรือ ละโว้เมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมามากกว่า 1000 ปี มาเจริญสูงสุดสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงสถาปนาลพบุรี เป็นราชธานีแห่งที่ ๒รองจากกรุงศรีอยุธยา ร่วมเดินทางสู่ ราชธานีแห่งที่ ๒รองจากกรุงศรีอยุธยาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุดและร่วงโรยภายในข้ามคืนหลังจากที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จสวรรคต

https://www.facebook.com/siripong.champa/videos/922922307790549/?pnref=story

กำหนดการ

- 6.30 พร้อมกัน ณ จุดนัดพบ

- 9.30 ยลวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ มหาธาตุประจำเมืองลพบุรีชมศิลปะแบบขอมลพบุรี องค์พระปรางค์ และเจดีย์ต่างๆ มากมายฟังเรื่องราวมากมายจากวิทยากรทั้ง2ท่าน

- 10.30ยลวัดนครโกษา ศาสนสถานที่สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย เดิมคงเป็นเทวสถานของขอมมีพระปรางค์แบบลพบุรีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 17 อยู่ด้านหน้าแต่พระพุทธรูปปูนปั้นแบบอู่ทองบนปรางค์นั้นคงสร้างเพิ่มเติมขึ้นภายหลังได้พบเทวรูปหินขนาดใหญ่แบบลพบุรี ซึ่งมีร่องรอยดัดแปลงเป็นพระพุทธรูป 2 องค์(ปัจจุบันนำไปไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์) ส่วนพระอุโบสถ วิหารสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาในสมัยที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชสร้างเมืองลพบุรีและสันนิษฐานว่าเจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก)เป็นแม่งานดำเนินการในครั้งนั้นจึงได้ชื่อว่า "วัดนครโกษา"

- 11.30 ยลศาลพระกาฬ หรือเดิมเรียกว่า ศาลสูงเนื่องจากศาลตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงที่อยู่สูงจากพื้นดินเป็นศาสนสถานที่เป็นฐานศิลาแลงขนาดมหึมาสันนิษฐานกันว่าฐานศิลาแลงดังกล่าวเป็นฐานพระปรางค์ที่ยังสร้างไม่เสร็จหรือสร้างสำเร็จแต่พังถล่มลงมาภายหลังโดยมิได้รับการซ่อมแซมให้ดีดังเดิมศาลพระกาฬเป็นสิ่งก่อสร้างของขอมสืบเนื่องมาจากเมืองลพบุรีในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของขอมโบราณซึ่งได้กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองของขอมในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างไรก็ตามฌ็องบวสเซอลิเยร์ ได้สันนิษฐานจากฐานพระปรางค์ที่สูงมากนี้ว่าเขายังมิได้ข้อยุติว่าเป็นสถาปัตยกรรมขอมโบราณพุทธศตวรรษที่ 16"อาจเป็นฐานพระปรางค์จริงที่สร้างไม่เสร็จ หรือเสร็จแล้วแต่พังทลายลงมา"ทั้งนี้มีที่ศาลสูงมีการค้นพบศิลาจารึกศาลสูงภาษาเขมร หลักที่ 1และศิลาจารึกเสาแปดเหลี่ยม (จารึกหลักที่ 18) อักษรหลังปัลลาวะภาษามอญโบราณรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงให้สร้างศาลเทพารักษ์ขนาดย่อมก่ออิฐถือปูนมีลักษณะสถาปัตยกรรมตามพระราชนิยมทรงตึกเป็นแบบฝรั่งหรือเปอร์เซียผสมผสานกับไทยบนฐานศิลาแลงเดิมตัวศาลเป็นอาคารชั้นเดียวหลบแดดขนาดสามห้อง ภายในบรรจุทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์กับเทวรูปสีดำองค์หนึ่ง ประมาณกันว่าเป็นศาลประจำเมืองก็ว่าได้

- 12.30 พักรับประทานอาหาร ณ ร้าน “ แพบ้านริมน้ำ “ ร้านอาหารเลื่องชื่อลือนามเรื่องความอร่อยและบรรยากาศสบายๆ

- 13.30 ประเดิมช่วงบ่าย ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 ณเมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมืองพระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวังแห่งนี้ประมาณ 8-9เดือนในช่วงปลายรัชกาลและเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์และชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ ปัจจุบันได้จัดแสดงศิลปโบราณวัตถุตามอาคารและพระที่นั่งต่างๆภายในพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนกว่า 1,864 รายการ

- 15.30 ยลบ้านหลวงรับราชทูต บ้านวิชเยนทร์บ้านหลวงรับราชทูตแบ่งได้ 3 ส่วน ด้านตะวันออกเป็นบ้านพักของคณะทูตชาวฝรั่งเศสส่วนด้านตะวันตกเป็นบ้านพักของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ขุนนางชาวกรีก และท้าวทองกีบม้าภรรยา ส่วนกลางเป็นที่ตั้งของโบสถ์ของคริสต์ศาสนาที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Renaissence ผสมสถาปัตยกรรมไทย แห่งแรกของไทย และของโลก

- 16.30ยลพระที่นั่งไกรสรสีหราช หรือ พระที่นั่งทะเลชุบศรป็นพระที่นั่งที่ประทับอีกแห่งหนึ่งของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ เมืองลพบุรีสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงสร้างเพื่อทรงสำราญพระราชอิริยาบถโดยสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อน พ.ศ. 2228นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ดาราศาสตร์ของประเทศไทย เนื่องจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชใช้เป็นสถานที่ศึกษาจันทรุปราคาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2228ร่วมกับบาทหลวงเยซูอิตและบุคคลในคณะทูตชุดแรกที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสส่งมาเจริญสัมพันธไมตรี

- 17.30 เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

- 20.00 ถึงกรุงเทพมหานคร

ไปในครั้งนี้คุณจะได้อะไรจากเรา.....

คุณจะได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่ทางเพจได้มอบให้จากวิทยามากความรู้ มากประสบการณ์ อ.จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา และ คุณ นิรุตต์โลหะรังสี วิทยากรจะนำคุณไปสัมผัสประวัติศาสตร์ที่หลายคนมองข้าม หรือไม่รู้ลองร่วมเดินทางไปกับเราสักครั้งแล้วคุณจะติดใจและพิเศษสุดที่คุณจะได้รับคือ......ของที่ระลึกที่ทางเพจจะเตรียมไว้ให้ครับ.......

การเดินทางนั้นเดินทางโดย..........รถบัสปรับอากาศ........ไปตลอดเส้นทางคุณจะมีเวลาอยู่กับประวัติศาสตร์นานขึ้น ได้ฟังข้อมูล ได้เก็บภาพความทรงจำมากขึ้น

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2400 บาท (ค่ารถบัสโดยสารปรับอากาสอย่างดี+ ค่าอาหารว่างตอนเช้า และ อาหารกลางวัน+ค่าวิทยากรทั้ง2ท่าน + ค่าเข้าชมโบราณสถาน + ค่าเอกสารประกอบ )

สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 098-714-9981 ศิริพงศ์หรือเฟสบุค SiripongChampa

https://www.facebook.com/siripong.champa

*กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

ลายละเอียดการจองที่นั่งเข้าร่วมกิจกรรม

นำชมโดย : จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท)วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม และ คุณนิรุตต์ โลหะรังสี

การสำรองเข้าร่วมสัญจร รับจำนวนจำกัด

๑.โอนเงิน เข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย (จำกัด) มหาชนสาขา สถานีขนส่งถนนบรมราชชนนี ในนาม นาย ศิริพงศ์ จำปา เลขที่บัญชี 780-0-14866-1ภายใน วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559

๒.เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาโทรศัพท์หรือส่ง SMS ยืนยันเข้าร่วมกิจกรรมที่ โทร.098-714-9981 หรือทางกล่องข้อความ(inbox)ในเฟซบุ๊ค siripong champaโดยระบุชื่อ-นามสกุลชื่อเล่น หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อสะดวก อีเมล์แอดเดรส และชื่อในเฟซบุ๊คเพื่อความสะดวกในการแจ้งข่าวสารกิจกรรมให้ท่านทราบต่อไปพร้อมแนบภาพถ่ายสลิปรายการโอนเงินมาด้วยหรือจะนำสลิปรายการโอนเงินมาให้ในวันที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยเขียนชื่อ-นามสกุลหมายเลขโทรศัพท์ของท่าน รวมถึงของผู้ร่วมคณะท่านในใบสลิปอย่างชัดเจนเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบของผู้จัดกิจกรรม

๓.หากท่านได้โอนเงินมาแล้วแต่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมตามที่แจ้งไว้ได้ อาจมอบให้ผู้อื่นมาแทนได้

โดยแจ้งให้ผู้จัดทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันก่อนวันจัดกิจกรรม หากไม่แจ้งตามกำหนดดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน

๔.รับเฉพาะผู้สนใจชาวไทย

รับจำนวนจำกัด

ระเบียบในการเข้าชมสถานที่

๑.กรุณาแต่งกายสุภาพเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ซึ่งไปเข้าเยี่ยมชมเป็นศาสนสถาน(งดกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น และเสื้อแขนกุด)

๒.กรุณาปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ทุกแห่งที่เข้าไปเยี่ยมชมเช่น ไม่ล่วงล้ำและถ่ายภาพบางพื้นที่





 

Create Date : 26 มกราคม 2559    
Last Update : 26 มกราคม 2559 23:28:43 น.
Counter : 1272 Pageviews.  

(ภูเก็ต)คมนาคมสั่งรฟม.ศึกษาสร้างรถรางไฟฟ้าภูเก็ต ระยะทาง60ก.ม. งบ 2 หมื่นล้าน



ที่มาข่าว ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 17 มกราคม 2559 ขอขอบพระคุณ มา ณที่นี้ครับ


ปลัดคมนาคมให้รฟม.ศึกษาโครงการรถรางไฟฟ้าบนเกาะภูเก็ต ระยะทาง 60 ก.ม. รวม 23 สถานี วิ่งเชื่อมสนามบิน-ขนส่ง และจุดสำคัญๆ คาดใช้วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท แต่ต้องศึกษาปัญหาจุดตัดและสัญญาณจราจรให้ดี


นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวหลังประชุมติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตว่าสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นเห็นควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดำเนินโครงการจัดสร้างเป็นรถรางไฟฟ้าหรือ‘แทรม’

นำร่องเส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต-ห้าแยกฉลองก่อนระยะทาง 60 กิโลเมตร รวมจำนวน 23 สถานี โดยมีความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รูปแบบการเดินรถนั้นอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะก่อสร้างเป็นช่องทางพิเศษเฉพาะหรือจะใช้ช่องทางร่วมกับรถยนต์ปกติแต่จะใช้รูปแบบไหนก็ยังมีปัญหาเรื่องของจุดตัดซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากคือจุดตัดทางแยกรวม 39 จุด และจุดตัดทางกลับรถ 37 จุด เบื้องต้นจึงมอบหมายให้ สนข. กรมทางหลวง(ทล.)และกรมทางหลวงชนบท(ทช.)ไปหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาจุดตัดให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

โดยต้องกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะก่อสร้างเป็นสะพานยกระดับหรือทางลอดบริเวณจุดตัดไหนหรือให้ใช้ทางร่วมกับรถยนต์ มีระบบสัญญาณจราจรควบคุมสับหลีกการเดินรถทั้ง 2 ระบบ ฯลฯ

ส่วนปัญหาจุดตัดบริเวณทางเข้าท่าอากาศยานภูเก็ตนั้นจะแก้ปัญหาด้วยการก่อสร้างเป็นทางยกระดับเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ภายในสนามบินมีระยะทางเดินเชื่อมจากสถานีและอาคารผู้โดยสารยาวประมาณ 150 เมตร

“รฟม.จะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการโครงการ เบื้องต้นต้องแก้ปัญหาจุดตัดทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อนภายใน 1 เดือนหรือเดือนก.พ. จากนั้นจึงจะนำไปสู่การออกแบบก่อสร้างส่วนรูปแบบการลงทุน รฟม.ต้องกลับไปศึกษาความเหมาะสมเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียว่าจะเปิดให้เอกชนลงทุนทั้งหมดหรือให้เอกชนเข้าร่วมทุนในรูปแบบไหน”

รายงานข่าวกล่าวว่าผลการศึกษาเบื้องต้นของสนข.ประมาณการเงินลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 60 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีให้บริการ 23 สถานี เช่นสถานีท่านุ่น สถานีท่าอากาศยานภูเก็ต สถานีถลางสถานีอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร สถานีเกาะแก้ว สถานีขนส่งผู้โดยสารภูเก็ตแห่งที่2 เป็นต้น

ที่มาข่าว ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 17 มกราคม 2559 ขอขอบพระคุณ มา ณ ที่นี้ครับ

//www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1453034826





 

Create Date : 18 มกราคม 2559    
Last Update : 18 มกราคม 2559 21:47:07 น.
Counter : 822 Pageviews.  

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมแผนปรับผังเมืองใหญ่ รองรับสังคมผู้สูงอายุ บ้านเรา วางแผนกันแล้วยัง



รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมแผนปรับผังเมืองใหญ่รองรับสังคมผู้สูงอายุ

เกริ่นนำ

สังคมสูงวัยในประเทศญี่ปุ่น มันช่างสุขีสโมสรจริงๆ รัฐบาลเข้าใจสังคมผู้สูงวัย และการวางผัง ออกแบบเมือง ก็มีความยืดหยุ่นให้ความสำคัญกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะสังคมสูงวัยที่เคยเป็นผู้สร้างประเทศมาก่อน และส่งมอบสิ่งดีๆให้คนรุ่นหลัง

มองญี่ปุ่น แล้วมองบ้านเรากันครับบ้านเราผู้สูงวัย จะค่อนข้างมีข้อจำกัดในการเดินทาง เกี่ยวเนื่องกับการออกแบบเมืองวางผังเมือง โดยให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่รถยนต์เป็นอย่างมาก แต่ในญี่ปุ่นเค้ามองคนละทางกับบ้านเรา ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ก็ตาม(ส่วนใหญ่เค้าจะส่งออก เพราะการซื้อรถยนต์ในบ้านเค้า เป็นเรื่องไม่ง่ายนักถึงแม้ว่าจะมีเงิน)

เข้าสู่บทความกันดีกว่าครับ

กระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคมและท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (MLIT) ประกาศแผนปรับผังเมืองเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุโดยใช้ประโยชน์จากการที่ภาคเอกชนผู้ประกอบธุรกิจรถไฟมีแนวโน้มสร้างสิ่งอานวยความสะดวกต่างๆเช่น ห้างสรรพสินค้า และศูนย์ให้บริการทางการแพทย์รวมถึงที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟ ซึ่งกระทรวงฯ มองว่า รัฐบาลจำเป็นต้องปรับผังเมืองสำหรับเมืองใหญ่ๆและเขตใกล้เคียงให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยสะดวกไม่ต้องอาศัยการขับรถยนต์ รวมถึงต้องพิจารณาปรับกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วยนอกจากนั้น ต้องปรับผังเมืองเพื่อรองรับภัยพิบัติต่างๆ เช่นการก่อสร้างอาคารใหม่โดยใช้วัสดุทนไฟในพื้นที่ที่มีสิ่งปลูกสร้างแออัด และการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมอื่นๆด้วย

เครดิตสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโอซาก้า

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

//www.60plusthailand.com/




 

Create Date : 16 มกราคม 2559    
Last Update : 16 มกราคม 2559 9:18:36 น.
Counter : 1014 Pageviews.  

เมียนมาร์เริ่มกลับมาให้บริการรถรางเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี (สำนักข่าวไทย)



ที่มาภาพ //issuu.com/myanmarnewspaper/docs/11_jan_16_gnlm

เมียนมาร์เริ่มกลับมาให้บริการรถรางเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี

เกริ่นนำ

ก้าวเล็กๆ ก้าวแรก ของเมียนมาร์ ในความพยายามแก้ปัญหาเรื่องการจราจร และมลพิษและการส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนในเมือง

(Tram วางรางบนผิวถนนส่งเสริมการเดิน การปั่น ส่งเสริมการพาณิชยกรรม ลดมลพิษ ไม่ทำลายทัศนียภาพเมือง)

.........................................................................

ผู้บริหารเมือง ในเมียนมาร์ มองการณ์ไกล เล็งเห็นว่า Tram เป็นตัวเลือกที่สำคัญในการเชื่อมต่อการสัญจรอย่างลื่นไหลในระยะยาวการพาณิชยกรรมบนเส้นทางที่ Tram พาดผ่านก็จะได้อานิสงค์อย่างถ้วนหน้าครับ เพราะคนโดยสารคือลูกค้าจะมองเห็นร้านค้าในระดับแนวราบ ระดับสายตาทุกร้านรวงทีเดียว ...Tram จอดตามป้ายครับ ฉะนั้นจึงส่งเสริมการเดินอย่างแน่นอนเพราะการขึ้น-ลงตามป้าย ไม่ได้ส่งถึงประตูหน้าบ้าน หรือร้านค้าคนโดยสารจึงต้องเดิน เท่ากับบังคับกายภาพให้คนออกกำลังกายไปในตัว

Tram ไม่ก่อมลพิษ เมืองจะสะอาดขึ้น อากาศจะบริสุทธิ์ขึ้น เพราะTram ใช้ไฟฟ้า เป็นแรงขับเคลื่อน ...ขนคนครั้งละมากๆค่าโดยสารไม่แพงอย่างแน่นอนครับ ...Tram สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงระบบสัญจรมากกว่าอีกหลายระบบครับ



เข้าสู่บทความ

ย่างกุ้ง 11 ม.ค. – กระทรวงรถไฟของเมียนมาร์แถลงว่าเมียนมาร์เริ่มกลับมาให้บริการรถรางเป็นครั้งแรกหลังจากระงับบริการไปกว่า 70 ปี

การบริการรถรางระยะทาง 5.6กม.บนถนนสแตรนด์ในนครย่างกุ้งเริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดและเพิ่มทางเลือกใหม่ให้แก่ประชาชนในการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเส้นทางรถรางจะมีระยะทางทั้งสิ้น 11 กม. หลังจากการพัฒนาระยะที่ 2 แล้วเสร็จโครงการรถรางเป็นผลมาจากการทำข้อตกลงระหว่างการรถไฟเมียนมาร์และบริษัทเวสต์คอร์ปอเรชั่นในญี่ปุ่น มูลค่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยมีการลงนามเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว

เมียนมาร์เคยมีรถรางให้บริการจนถึงปี 2447โดยให้บริการในนครย่างกุ้งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2แต่หยุดให้บริการในช่วงที่เกิดสงคราม

ขอบคุณ บทความ และภาพจาก สำนักข่าวไทย

//www.tnamcot.com/content/377675








ชมคลิป วีดีโอ วันเปิดรถราง11 มกราคม 2559 




 

Create Date : 13 มกราคม 2559    
Last Update : 13 มกราคม 2559 8:38:26 น.
Counter : 939 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  

เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และอนาคต และความเป็นไปของเกาะรัตนโกสินทร์
เล่าเรื่องทริป ที่สุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว มัน อเมซิ่ง มากมาย
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.