--- สุ ด ชี วิ ต : แอลิซ มันโร ---
'เราพูดถึงบางสิ่งไม่น่าให้อภัย
หรือสิ่งที่เราไม่มีทางให้อภัยกับตัวเอง
แต่เราก็ยังทำ...
เราทำเช่นนั้นกันอยู่ตลอดเวลา'
สุ ด ชี วิ ต
แอลิซ มันโร
::
ปีที่แล้ว ฉันอ่านรวมเรื่องสั้นทั้ง 14 เรื่องของแอลิซ มันโร แปลโดย อรจิรา โกลากุลและ วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา จบไปแล้ว
แต่ไม่ได้เขียนถึง นั่นเพราะไม่มีเวลาหรือไปทำอะไรที่อยากทำมากกว่า (ไม่ค่อยแน่ใจ)
ปีนี้ฉันมีหนังสือที่ซื้อมาอ่านหลายเล่ม แต่ยังไม่ได้เปิดอ่านเป็นส่วนใหญ่ อาจจะเพราะได้จัดตู้หนังสือ จึงเห็นหนังสือบางเล่มที่ยังค้างคาอยู่ในใจ อยากอ่านแต่เล่มเดิม ๆ ที่เคยชอบ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
เล่มนี้ก็ใช่
มีโน้ตแทรกในหนังสือสำหรับทุกเรื่องสั้น
แต่จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว
จึงค่อย ๆ อ่านใหม่อีกครั้ง
เรื่องสั้นเรื่องแรก -- ไ ป ถึ ง ญี่ ปุ่ น
เป็นเรื่องราวของครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่ง ปีเตอร์เป็นวิศวกร เกรตาเป็นกวี มีลูกสาวเล็ก ๆ ด้วยกันหนึ่งคนคือแคธี
เธอได้รับเชิญไปงานเลี้ยงพร้อมนักเขียนคนอื่น ๆ เนื่องจากบทกวีของเธอได้ตีพิมพ์ แต่บรรยากาศในงานเลี้ยงนั้นน่าสะพรึงภาพที่ฉันเห็นในงานเลี้ยงของนักเขียนคือ ภาพของสังคมเล็ก ๆ มีบรรยากาศน่าวิงเวียน ต่างคนต่างสนทนาเสียงดังอย่างออกรสออกชาติ ดูเหมือนอันตรายอยู่รอบตัว ดูเหมือนทุกคนพร้อมจะพ่นถ้อยคำดูถูกดูแคลนออกจากปากทันที่ที่มองมา เราจะเข้าใจทันทีว่า ทฤษฎีแห่งความไม่เป็นมิตรทำงานอย่างไร
' การใคร่ครวญดังกล่าว ทำให้เกรตานั่งลง เนื่องจากไม่มีเก้าอี้ เธอจึงนั่งลงกับพื้น เธอคิดอะไรได้อย่างหนึ่ง เธอคิดถึงตอนที่ไปงานเลี้ยงของพวกวิศวกรกับปีเตอร์ บรรยากาศเป็นมิตรแม้บทสนทนาจะน่าเบื่อก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะทุกคนล้วนมีสถานะมั่นคงและลงตัวอยู่แล้วอย่างน้อยก็ในเวลานั้น ที่นี่ไม่มีใครปลอดภัย การพิพากษาตัดสินอาจเกิดขึ้นลับหลังแม้กับคนที่เป็นที่รู้จักหรืองานที่เคยได้รับการตีพิมพ์ ผลก็คือบรรยากาศของความฉลาดเฉลียวหรือความตึงเครียดอบอวลไปทั่ว ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม...'
แต่บางถ้อยคำก็กระทบใจฉันโดยไม่รู้ตัว ข้อความสั้น ๆ แต่เศร้าจับใจ
'การเขียนจดหมายฉบับนี้เสมือนหย่อนข้อความลงในขวดแล้วเฝ้าฝันว่าสักวันมันจะไปถึงญี่ปุ่น'
และเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนรถไฟระหว่างที่เธอและลูกสาวกำลังเดินทางไปโตรอนโต เป็นเรื่องที่ลื่นไหลไปตามกิเลส พูดไม่ออกบอกไม่ถูก แล้วเธอก็ตกใจสุดขีดระหว่างที่กลับมายังตู้นอนของเธอและลูกสาว เกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น...
ผู้เขียนเล่าเรื่องและบรรยายความรู้สึกได้ละเอียดอ่อน กระทบใจ เผยความอ่อนไหวและซับซ้อนของมนุษย์ โดยเฉพาะผู้หญิง ใช่...เธอมีครอบครัวที่อบอุ่น สามีและลูกน่ารัก บางเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเพียงแค่เติมสีสันหรือช่องว่างที่มันหายไป มันกลับมีชีวิตชีวา แน่นอน เธอไม่ได้ยึดมันไว้ และมีบางสิ่งบางอย่างที่รอเธออยู่ที่ปลายทาง...
2. อามุนด์เซน
ว่าง ๆ จะมาเล่าต่อนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย