Group Blog
All Blog
--- ม า เ รี ย น น า : Dacia Maraini เขียน นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล ---












เธอใช้เวลาอยู่ในห้องสมุดนานเหลือเกิน เพื่อจะหัดสกัดทองจากหินร่อนและทำความสะอาดวันแล้ววันเล่า สายตาแช่อยู่ในน้ำขุ่น ๆ ของวรรณกรรม เธอสกัดอะไรออกมาได้บ้างล่ะ ความรู้เม็ดหยาบและขรุขระบางเม็ดจากหนังสือเล่มโน้นเล่มนี้ เรื่องราวนับร้อย ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องรัก เรื่องหรรษา เรื่องสิ้นหวัง เรื่องความตาย ความปีติยินดี เรื่องฆาตกรรม การพบกันและการลาจาก ...

ทั้งหมดนั่นเป็นหนังสือที่อยู่ในห้องสมุดของวิลลาอูเครียตอนที่มาเรียนนาได้รับมรดก ทว่านับตั้งแต่เธอเข้าไปใช้เป็นประจำ จำนวนหนังสือก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว ในเบื้องแรก ข้ออ้างคือศึกษาภาษาฝรั่งเศส จึงมีพจนานุกรม ตำราไวยากรณ์และหลักภาษา จากนั้นก็เป็นหนังสือนำเที่ยวที่มีภาพวาดของดินแดนห่างไกลสองสามเล่ม และสุดท้าย ด้วยความอาจหาญขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีนวนิยายสมัยใหม่ หนังสือประวัติศาสตร์และหนังสือปรัชญา

นับตั้งแต่ลูก ๆ ออกเรือนไป เธอก็มีเวลามากขึ้น หนังสือจึงไม่เคยพอเลย เธอสั่งมาทีละหลายเล่ม ...มาเรียนนาอ่านหนังสือจนดึกดื่นและเหนื่อยล้า แต่ก็อิ่มเอมใจเหลือเกิน เธอตัดใจนอนไม่ได้เสียที และถ้าหากไม่ใช่เพราะความกระหายน้ำที่ทำให้เธอต้องผละจากหนังสือแทบทุกครั้ง เธอก็คงจะอ่านต่อไปจนถึงรุ่งเช้า

ความเงียบปกคลุมมาเรียนนา เป็นความเงียบที่เงียบสงัดและว่างเปล่า ในมือของเธอมีนวนิยายรักเล่มหนึ่ง ผู้ประพันธ์บอกว่า ถ้อยคำนั้น เราต้องใช้สายตาเก็บเหมือนพวงองุ่นที่ห้อยอยู่ แล้วใช้ความคิดที่หมุนไปเหมือนการหมุนของหินโม่แป้งคั้นน้ำออกมาจนแผ่ซ่านไปในเส้นเลือด นี่ใช่ไหม การเก็บเกี่ยววรรณกรรมอันสูงส่ง

ร่วมกระวนกระวายไปกับตัวละครที่โลดแล่นอยู่ระหว่างหน้ากระดาษ ดื่มกินตะกอนความคิดของคนอื่น รู้สึกเคลิบเคลิ้มที่ถูกส่งมาจากความรื่นรมย์ของผู้อื่น ปลุกเร้าประสาทรับรู้ของตนผ่านเรื่องรักที่แสดงซ้ำไปซ้ำมา สิ่งนี้ไม่ใช่ความรักที่เกิดกับเราเหมือนกันหรอกหรือ...

การออกจากหนังสือเล่มหนึ่ง ๆ เปรียบดั่งการออกจากส่วนที่ดีที่สุดของตน ออกจากจิตใจซึ่งเปรียบเสมือนทางเดินใต้เพดานโค้งนุ่มนวลและมีอากาศปลอดโปร่ง ไปสู่ความเงอะงะงุ่มง่ามของร่างกายกระยาจกที่คอยไขว่คว้าหาอะไรอยู่ร่ำไป เรื่องนี้ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็คือการยอมจำนนนั่นเอง ทิ้งตัวละครที่เรารู้จักและรัก มาเจอกับตัวเองซึ่งเราไม่รัก....


มาเรียนนา
Dacia Maraini เขียน
นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล







::

แม้การอ่านและเลือกหนังสือมาอ่านเป็นความชอบและรสนิยมส่วนตัว แต่ก็ขออนุญาตแนะนำหนังสือเล่มนี้กับเพื่อน ๆ ค่ะ
ไม่อยากให้พลาดการอ่านนวนิยายแปลเล่มนี้เลย สุดยอดความงามในการบรรยายความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งหูหนวกและเป้นใบ้ แต่เธอมองเห็นและเธอ 'อ่าน'
น่าทึ่งในการอุปมาอุปไมยของเธอ ทั้งภาษาและท่วงทำนองการเล่านั้นแจ่มชัด งดงามและตรึงใจ

ขอบคุณมากค่ะ
ภูพเยีย
19 ตุลาคม 2560














Create Date : 19 ตุลาคม 2560
Last Update : 19 ตุลาคม 2560 11:10:44 น.
Counter : 1158 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณfor a long time

  
มาเรียนนา อูเครีย

หญิงสูงศักดิ์ในตระกูลขุนนางแห่งเกาะซิซิลี
เธอมีชาติกำเนิดสูงส่งแต่กลับต้องเป็นใบ้และหูหนวกตั้งแต่เยาว์วัย ความพิการนี้เป็นชนวนเหตุทำให้เธอต้องสมรสกับ ‘ท่านลุงผู้เป็นสามี’ เพื่อคงสถานะแห่งสตรีเพศและประคับประคองความมั่นคงของวงศ์ตระกูล

มาเรียนนาเชื่อมโยงตัวเองกับโลกภายนอกด้วยการสื่อสารผ่านการเขียนการอ่าน

ความรู้หนังสือคือเครื่องมือที่ทำให้ตัวตนของเธอยังเป็นที่ประจักษ์ ขับเคลื่อนและดำรงอยู่ในการรับรู้ของคนรอบข้าง

เธอคือตัวละครที่ดาชา มาราอินี นักเขียนหญิงร่วมสมัยชาวอิตาเลียนปั้นแต่งขึ้นด้วยผัสสะและท่วงทำนองภาษาอ่อนโยน ผสานกับบริบททางประวัติศาสตร์ยุคศตวรรษที่สิบแปด จนกลายเป็นเรื่องราวสมจริงที่ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิงในห้วงเวลาที่พวกเธอ ยั ง ไ ม่ มี เ สี ย ง ได้อย่างกึกก้องกังวาน แจ่มชัดและงดงาม

จาก ปกหลัง
โดย: ภูเพยีย วันที่: 19 ตุลาคม 2560 เวลา:11:11:44 น.
  
สตรีในสังคมปิดและมืดมิดแห่งนี้มีบทบาทเพียงประการเดียวคือ แต่งงานและมีบุตรสืบสกุล ‘แต่งงาน มีลูก ให้ลูกสาวแต่งงาน ให้ลูกสาวมีลูก หาทางให้ลูกสาวที่แต่งงานไปแล้วจะได้ให้ลูกสาวของตนมีลูก แล้วแต่งงาน แล้วมีลูก...’ นี่คือบทบาทสำคัญเพียงประการเดียวที่ได้รับการยอมรับสำหรับสตรี ส่วนเด็กสาวสูงศักดิ์ที่หาสามีไม่ได้ มีทางเลือกเดียวคือ ไปบวชชีอยู่ในคอนแวนต์ ยศถาบรรดาศักดิ์และทรัพย์สมบัติในครอบครัวเป็นสิทธิ์ของบุตรชายคนหัวปีเท่านั้น ในชีวิตไม่มีความสุขสมหรืออภิรมย์อื่นใดมอบให้สตรี

::
มาเรียนนา หรือ La Lunga vita di Marianna Ucria (1990) เป็นนวนิยายอิงชีวประวัติและประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นบนเกาะซิซิลีช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่สิบแปด
โดย: ภูเพยีย วันที่: 20 ตุลาคม 2560 เวลา:14:27:38 น.
  
มาเรียนนาเป็นสตรีไม่เหมือนใครด้วยประการแรกคือ เธอหูหนวกและเป็นใบ้ ความไม่สมประกอบนี้ทำให้เราได้รับสีและกลิ่น ได้เห็นใบหน้า ติดตามความคิดที่เผยตัวออกมาและก่อรูปขึ้นขณะที่ถ้อยคำอันแจ่มชัดจางหายไปในฉากหลัง

‘แสงจันทร์อาบไร่นาโดยรอบ แหลมคาโปซฟเฟราโนเปล่งประกายระยิบระยับอยู่โพ้นผืนรายของไร่มะกอกซึ่งปกคลุมด้วยเกล็ดเลื่อมพรายนับหมื่นนับพัน ดอกมะลิและดอกส้มส่งกลิ่นหอมลอยม้วนเป็นไอขึ้นมาแล้วกระจายตัวสอดแทรกเข้าไประหว่างแผ่นกระเบื้อง'
โดย: ภูเพยีย วันที่: 20 ตุลาคม 2560 เวลา:14:28:22 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com