--- ค ว า ม จ น กั บ ค นจ ร ใ น ป า รี ส แ ล ะ ล อ น ด อ น : จอร์จ ออร์เวล---
ลอนดอน
เป็นแดนแห่งหม้อน้ำชา
และกองจัดหางาน
ขณะที่ปารีส
เป็นแดนแห่งบิสโทร
และโรงงานนรก
::
'...นี่คือโลกที่รอคุณอยู่เมื่อใดที่คุณสิ้นเนื้อประดาตัว สักวันหนึ่งผมอยากจะสำรวจโลกให้ทั่วถ้วนกว่านี้ ผมอยากรู้จักคนอย่างมาริโอ อย่างแพ็ดดี้และอย่างนายบิลล์ จอมไถดะ ไม่ใช่รู้จักจากเพียงการได้พบกันแบบผิวเผิน แต่ได้รู้จักอย่างสนิทสนม ผมอยากเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในจิตวิญญาณของพวกปลงเชอร์(คนล้างจาน) พวกคนจรจัดและพวกที่อาศัยนอนตามริมเขื่อนแม่น้ำย่านเอ็มแบงก์เมนต์ ขณะนี้ผมไม่คิดว่าผมได้เห็นมากไปกว่าเพียงชายขอบของความยากไร้เท่านั้น
กระนั้น ผมก็สามารถชี้ถึงเรื่องหรือสองเรื่องที่ผมได้เรียนมาอย่างแน่นอนจากประสบการณ์เป็นผู้สิ้นไร้ คือผมจะไม่มีวันคิดว่าคนจรจัดทุกคนเป็นคนชั่วช้าสามานย์ขี้เมา หรือคาดหวังว่าคนขอทานจะสำนึกบุญคุณเมื่อผมให้เงินเขาสักเพนนีหรือแปลกใจหากพบว่าคนว่างงานไร้พลังวังชา หรือสมัครเข้าร่วมกับคณะซัลเวชั่น อาร์มี่ หรือเอาเสื้อผ้าไปจำนำ หรือปฏิเสธใบปลิว หรือเอร็ดอร่อยกับอาหารในภัตตาคารหรู นั่นคือการเริ่มต้น'
.
ปี ค.ศ. 1928 ออร์เวลย้ายไปอยู่ในย่าน 'โบฮีเมียน' ของกรุงปารีส เขาทำงานเป็นคนล้างจานในภัตตาคารออยู่ช่วงหนึ่ง และต้องเผชิญกับความลำเค็ญชัดเจน แม้ว่าจะทำงานเขียนไปด้วย แต่เหตุการณ์รันทดมากมายในการใช้ชีวิตเยี่ยงยาจก ทำให้ออร์เวลาสัมผัสถึงความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นโดยตรง เป็นที่มาของอุดมการณ์ทางสังคมและการเมืองของเขา
.
ฝนตก อากาศดี
ได้อ่านหนังสือดี
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย