Group Blog
All Blog
--- เ พี ย ง เ ร า มี กั น แ ค่ นั้ น พ อ : Ensemble,c'est tout ---
















เพียงเรามีกัน แค่นั้นพอ
Ensemble,c'est tout
Anna Gavalda เรื่อง
อธิชา มัญชุนากร แปล





กามีย์ โฟค หญิงสาวอายุ 26 สูง 173 หนัก 48 ผอมบางจนดูขาดอาหาร เธอพักอยู่อพาร์ตเมนต์ชั้น 8 อ่อ..ไม่มีลิฟต์ด้วยนะ (แอบนึกถึงห้องที่เราเคยไปพักที่ปารีสเลย เราอยู่ชั้นหก บันไดเวียนแคบ ๆ แค่พอลากกระเป๋าเล็ก ๆ ขึ้นไปได้ ห้องแคบมาก ๆ แต่ก็จ่ายหลายตังค์ ห้องที่ไม่มีเครื่องไฟฟ้าใด ๆ แก้วน้ำสักใบก็ไม่มี มีเตียงคู่ที่วางเต็มพื้นที่กับห้องน้ำดูเหมือนจะเพียงพอแล้วสำหรับสามดาวที่จ่ายไป) ถูกบรรยายไว้โดยละเอียดตอนเธอต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในบริษัท คลีนหมดจด

กามีย์--คนตัวเล็กในโลกใบใหญ่คนหนึ่ง เป็นวิญญาณที่ทำงานตอนกลางคืนและเก็บก้อนหินตอนกลางวัน คนที่เคลื่อนไหวช้า ๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจาและถอยฉากออกไปอย่างสง่างาม แม้ดูผอมโกรกและขาดอาหารแบบนี้แต่หมอก็แอบปิ๊งเธอเข้าแล้ว

ความเป็นมาในวัยเด็กของเธอน่าสนใจตอนเธอเรียนศิลปะกับครูคนหนึ่ง ลักษณะท่าทางของกามีย์นั้นเหมือนศิลปินเอกคนหนึ่งคือชูต้าซึ่งเป็นเจ้าชายในราชวงศ์หมิงที่มีความสุขในวัยเด็กมาก ๆ เขาเป็นจิตรกรและเป็นนักเขียนของจีน พ่อของเขาเป็นจิตรกรนั่นเองจึงสืบสายเลือดมาโดยแท้ พรสวรรค์ของชูต้าฉายแววตั้งแต่แปดขวบ ภาพของเขาให้ความรู้สึก ชีวิตดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ก็หักเหเมื่อถึงราชวงศ์แมนจูเข้ายึดอำนาจ พวกนี้โหด ไม่ชอบศิลปินและนักประพันธ์ ครั้นพอถูกห้ามพวกเขาทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ...อืม...คิดไม่ถึงจริง ๆ

แต่ก็นั่นแหละ ปัญหาก็คือ ไม่มีใครที่มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่แสดงออก ไม่มี ทำไม่ได้หรอก

อืม..นะ...ฉันก็คิดวนไปเวียนมากับประโยคที่ว่านี้ มีความสามารถแต่ไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ทำได้ ตรอมใจตายดีกว่า จะอยู่ยังไงกันละเนี่ย

นึกภาพห้องของกามีย์ซึ่งแคบเท่ารูหนู คนตัวสูง ๆ สองคนต้องค้อมหลังอยู่เพราะยืนสุดหัวจะชนเพดานภาพมันชัดวันที่เธอเชิญเพื่อนร่วมอพาร์ตเม้นท์มาที่ห้อง เขาคนนั้นก็คือ ฟิลิแบร์ต์ มาร์เกต์เดอลา ดูร์เบลลิเยร์ ตานี้นามสกุลย๊าวยาวจนต้องสงสัยว่า นามสกุลนี้ท่านได้แต่ใดมา ผู้ดีตกยาก ขุนนางเก่าจากไหน สงสัยที่มาของเขา ถ้าตระกูลดี ทำไมถึงมาอยู่อพาร์ตเมนต์โทรม ๆ แบบนี้ได้นะ

ครั้นพอเธอถามว่า เขาพักอยู่กับใคร ก็ดันพูดติดอ่างเข้าไปอีก ตอบไม่ได้ว่า มีรูมเมทจริงหรือเปล่า พอเธอเลี่ยงเป็นคำถามใหม่ง่าย ๆ ว่า แล้วความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมห้องล่ะ ดีมั้ย อีตาฟิลิแบร์(นามสกุลย๊าวยาว)นั่นก็นั่งใบ้อีก ไอ้ความอึกอักนี่ ทำให้เราสงสัยในความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนร่วมห้องว่า มันยังไงกันแน่ ทำไมตอบไม่เต็มปากเต็มคำ บทสนทนายังมีไปเรื่อย ๆ ก็มีคำตอบถึงเพื่อนร่วมห้องให้หัวเราะอีก เหมือนอยู่กับมนุษย์กลายพันธุ์หรือเอเลี่ยน อะไรทำนองนั้น

กามีย์ถามเขาเรื่องการงาน เพราะเห็นเขาอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ เป็นภัณฑรักษ์เหรอ เขาก็อึกอัก อ่านไปก็พอรู้เลยว่า หนุ่มสาวคู่นี้มีปัญหาและมารยาทในการอยู่ร่วมกับคนอื่นแน่ ๆ ไม่ว่าจะการกินและการพูดคุย เหมือนทั้งคู่แยกจากความโดดเดี่ยวส่วนตัวไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สองคนมีพื้นฐานที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่อยากให้ลองอ่านบทสนทนาของทั้งสองคน ฮามาก ยังไงดีล่ะ มันคือบทสนทนาสำหรับคนแปลกหน้าน่ะ เหมือนสองคนกำลังอยู่ในเว็บไซต์อินเทอร์เน็ตที่กำลังหาข้อมูลแห้ง ๆ อ่านแล้วอมยิ้ม เออนะ กว่าคนสองคนโคจรมาพบกันมันก็ประหลาดแล้ว จู่ ๆ จะให้สนิทกันเลยมันคงแปลกยิ่งกว่า บทสนทนานี่สร้างโลกใบใหม่อีกใบเลย หลายข้อสงสัยเกี่ยวกับคำพูดของพระนางมารีอองตัวแนตต์นั่นก็มาเป็นหัวข้อสนทนาได้อย่างลงตัว ประหลาดมาก

พวกเขายังจากลากันอย่างมีพิธีรีตองอีกนะ แต่ที่ประทับใจก็ตอนที่ทั้งสองคนค่อย ๆ หายกระดากใจเมื่อได้พูดถึงการงานที่แท้จริงของตน

แน่ล่ะ...ฉันกำลังอ่านวนิยายที่ฉากสลับกันไปมาเหมือนภาพยนตร์ ตัดฉึบฉับมาที่นายฟรองก์ พ่อครัวอารมณ์ดิบ ๆ เสียงดังที่ร้านอาหาร คำพูดคำจาดี ๆ เหมือนจะไม่รู้จักนอกจากเสียงคำราม กรรโชก เขาหงุดหงิดกับโทรศัพท์ที่โทรฯเข้ามากะทันหัน มันมาพร้อมความยุ่งยากเพราะเขาทราบข่าวจากหญิงชราเพื่อนบ้านของคุณยายของเขาว่า คุณยายโปแลตต์ล้มและอยู่โรงพยาบาล เธอตามหาญาติคนเดียวของคุณยายที่เหลืออยู่ในโลก

ตาฟรองก์ พ่อครัวได้หยุดงานทุกวันจันทร์ก็ขอลางานไปเยี่ยมคุณยาย ความสัมพันธ์ที่อิหลักอิเหลื่อ เห็นใจคนแก่ที่ต้องการคนดูแลและกลัวหลานจะพาไปบ้านพักคนชรา แต่อีกมุมหนึ่งเราก็เข้าใจว่า เขาก็ต้องทำมาหากิน การส่งยายไปบ้านพักคนชราคือทางออกที่ดีที่สุดที่ดูเหมือนเขาแล้งน้ำใจ เบื้องต้นคือ เอาคุณยายมาพักด้วยไม่ได้ ใครจะดูแล...

ห้องพักของนายฟรองก์ก็คือห้องที่เขาผลุบ ๆ โผล่ ๆ มานอน และไปทำงาน บางวันนอนไม่พอก็เอาผู้หญิงมานอน ก็แน่ล่ะ เขาเป็นชายโสดนี่และก็ร่วมห้องกับหนุ่มโสด ไฉนจะรับคุณยายมาดูแลด้วยได้

ความมาบรรจบกันตอนที่ฟิลิแบร์ต์เจอกับกามีย์ครั้งล่าสุดและตกใจเพราะเธอไปโกนหัวมา สาเหตุจากความไม่สะดวกที่จะดูแลเส้นผมยาวสลวยในห้องพักที่ไม่ค่อยสะดวกเลยสักนิด เขารู้สึกว่าเธอป่วยแน่ แต่เธอไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเขา ด้วยความที่ไม่มีอะไรจะแลกเปลี่ยน เธอไม่แน่ใจนักหรอกว่า ยังเหลือมนุษย์ที่ช่วยเหลือคนโดยไม่คิดค่าตอบแทนใด ๆ แต่ฟิลิแบร์ต์เป็นแบบนั้น เขาประคองเธอลงมาจากชั้นแปดมาห้องพักของเขา แล้วเราก็เพิ่งรู้ว่า รูมเมทของเขาก็คือนายฟรองก์นี่แหละ

ความสัมพันธ์ของคนสามคนในห้องที่รกสุด ๆ ความไม่เข้ากันแบบสุด ๆ เจ้าฟรองก์ก็ใส่แต่หมวกกันน็อคเวลาอยู่ที่ห้อง บ่น สบถ ทำอาหารและรำคาญตาหรือไม่ก็รู้สึกอิจฉาความสัมพันธ์ของสองคน เหมือนเขาเป็นส่วนเกินของห้องนี้ทั้งที่เขามาก่อน ไม่ได้เป็นตุ๊ดเป็นแต๋วหรอก แต่มันมีความสัมพันธ์แบบแปลก ๆ ที่มันไม่ลงตัวกันเลยสักนิด ยังหรอก ฉันคิดว่ายังวุ่นไม่พอ เพราะยายของฟรองก์อาจจะมาอยู่ร่วมห้องนี้ด้วยอีกคน ฉันยังอ่านไม่จบ แม้จะมองเห็นปัญหาอยู่รำไร แต่สิ่งหนึ่งที่รู้คือ เขาแคร์กันอยู่ ความสัมพันธ์ของมนุษย์เป็นเรื่องประหลาด มันมีบางอย่างกระเทาะเปลือกที่ห่อหุ้มตัวตนของกันและกันไว้ ไม่มีใครอยากกอดความโดดเดี่ยวหรอก เพียงแต่อาจจะยังไม่เจอใคร วันเวลาน่าจะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้การรับการให้บ้างล่ะ



กามีย์ ศิลปินสาวสูงโปร่ง ผอมบาง อาศัยอยู่บนชั้นแปดป่วยและฟิลิแบร์ต์พาเธอมาที่ห้องของเขาเพื่อดูแลอาการป่วยไข้จนเธอหายดี และฟรองก์ก็ต้องปรับตัว(นิดหน่อย)เพราะมีผู้หญิงที่เป็นใครไม่รู้มาอยู่ร่วมห้อง เขาถามฟิลูว่า เธอจะอยู่ห้องนี้อีกนานเท่าไหร่หรือนายหลงรักยัยหุ่นขี้ก้างนี้เข้าแล้ว

แต่ฟิลู(ฟิลิแบร์ต์) สุภาพมาก เขาห่วงเธอเกินกว่าจะปล่อยให้นอนซมพิษไข้ตามลำพังที่ห้องจนเอ่ยปากพาฟรองก์ขึ้นไปดูห้องของเธอ จะได้รู้เสียทีว่าทำไมถึงปล่อยคนป่วยกลับห้องตอนนี้ไม่ได้ พอฟรองก์เห็นห้องเธอก็ถึงกับอึ้ง

กามีย์ไม่ได้อยากอยู่ร่วมห้องกับสองหนุ่มหรอกแต่เธอป่วยเกินกว่าจะไปไหนได้ต่างหาก แต่ภาคสองนี้ เราจะเห็นสัมพันธภาพของคนเหล่านี้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ

ฟรองก์มีวันหยุดทุกวันจันทร์และต้องใช้วันหยุดนี้บึ่งมอร์เตอร์ไซค์ไปเยี่ยมยายของเขาที่บ้านพักคนชรา เขาเปิดอกพูดกับยายอย่างถนอมน้ำใจที่สุด มันผิดด้วยหรือที่เขาเป็นหลานคนเดียวของยายและไม่มีพี่น้องคนอื่นผลัดมาเยี่ยมยายเลย

งานที่ฟรองก์ทำนั้นคือการเป็นพ่อครัว ใครที่เคยเห็นงานของเชฟที่อยู่หน้าเตาร้อน ๆ แล้วจะพอเข้าใจว่า งานนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ งานของฟรองก์อัศจรรย์มาก ตอนเขาทำงานดูเหมือนเทพเจ้าอะไรสักองค์ เขาเคลื่อนไหวอยู่เหนือเตาไฟหลายเตาเหมือนมือกลองตรงหน้าเครื่องดนตรีของตน เปิดฝาหม้อตรงนั้นที ตรงนี้ที ทางโน้นช้อนหนึ่ง ทางนี้ช้อนหนึ่ง หม้อทุกใบทำจากทองแดงและเขาต้องใช้ผ้าเช็ดมือช่วยรองจับ เขาต้องโดนความร้อนลวกมือบ้างล่ะ มองเห็นภาพเลยว่า การทำครัวไม่ใช่งานง่าย ยิ่งต้องดูแลอาหารเองทุกขั้นตอนและรับเลี้ยงผู้คนมหาศาลนั้นต้องรับผิดชอบสูงมากแค่ไหน

เด็กเสิร์ฟตัวเล็ก ๆ เหล่านั้นอีก เรามองตามสายตาของกามีย์ร่วมด้วย เรามองพวกเขาและนึกคิด เขาต้องพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนที่อยู่อีกมุมโลก เขามาจากไหนกัน จากอินเดีย หรือปากีสถาน ชีวิตก่อนหน้านี้เขาเป็นอย่างไร วันนี้มากับเรือลำไหน ลักลอบแบบไหน มีความหวังอะไร ต้องจ่ายไปเท่าไหร่ เสียสิทธิอะไรบ้างและหวาดหวั่นขนาดไหน อนาคตจะเป็นอย่างไร เขามีครอบครัวหรือไม่ มีลูกกี่คน เป็นคำถามที่เราเองก็มองคนต่างชาติหัวดำในบ้านเมืองคนอื่นและเลยมาถึงบ้านเรา

ส่วนฟิลิแยร์ต์ก็ต้องกลับปราสาทของเขาหลายวัน กามีย์เริ่มรู้ตัวแล้วว่า เธอมีใจให้เขา แต่ขณะที่เขาไม่อยู่ เธอจะเผชิญกับฟรองก์อย่างไร

แรก ๆ ดูประดักประเดิดที่ต้องสร้างบทสนทนากับหนุ่มปากร้าย แต่การได้แลกเปลี่ยนความคิดความอ่านกันเรื่อย ๆ มีความแตกต่างที่กลมกลืน บางทีเราก็เคยแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้ใครอีกคนที่ไม่รู้จักฟัง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ลองถามตัวเองว่คุณเคยเป็นแบบนี้หรือเปล่า บางครั้งเราโดดเดี่ยวจนอยากมีใครสักคนที่รับฟัง หรือเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจที่มันมาจากความรู้สึกข้างในจริง ๆ
กามีย์แปลกใจตัวเองมากที่พูดเรื่องส่วนตัวให้ฟรองก์ฟัง เธอยอมรับว่า เธอเป็นคนไม่มีตรงกลางเลย ไอ้นิสัยสุดขั้วแบบนี้มักพบจุดจบแย่ ๆ เสมอ อย่างเช่น เวลาดื่ม ก็ดื่มมากเกินไป เวลาสูบบุหรี่ก็เหมือนฆ่าตัวเอง เวลารักใคร รักอย่างไม่มีเหตุผล เวลาเธอทำงานก็ทำแบบไม่ลืมหูลืมตา ฯลฯ

ส่วนฟรองก์นั้น ที่ดูก้าวร้าว ปากร้าย แต่จริง ๆ ไม่เลย เขาเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่กลัวคนอื่นเกลียด ใช่..เขากลัวเธอเกลียดเขา แต่เธอก็ไม่ได้พยายามจะหาจุดร่วมที่เข้ากันได้ มิตรภาพมันเกิดจากข้างใน มันต้องเป็นไปตามธรรมชาติ มันต้องมีธาตุเดียวกันสักอย่าง มีบางส่วนที่ทับซ้อนกันได้

กามีย์กับฟรองก์ก็เป็นแบบนั้น

ก่อนวันคริสต์มาส เขาโยนห่อของขวัญห่อหนึ่งให้เธอ มันคือผ้าพันคอที่โปแลตต์ ยายของเขาถักมาฝาก และเธอก็ชอบมันมาก นึกภาพที่ฟรองก์บอกเธอว่า เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในจักรวาลที่สวมผ้าพันคอที่ยายถักแล้วยังดูสวยอยู่ อ่านแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม ยิ่งไปกว่านั้น คุณยายยังถักผ้าพันคอฝากฟิลิแบร์ต์อีกหนึ่งผืนเป็นสีส้มกับสีเขียว
ฟรองก์แอบชอบกามีย์ขึ้นเรื่อย ๆ ตัวหนังสือไม่ได้เขียนคำรักหรือชอบสักคำแต่บทสนทนานั่นแหละที่กวนไปกวนมาอย่างอารมณ์ดี ทั้งรับและรุกได้สนุกสนานเฮฮาตลอดแต่สอดแทรกศิลปะ ความรู้รอบตัวรวมถึงเพลงที่เธอชอบ อย่าว่าแต่ฟรองก์เลย ฉันยังหลงรักผู้หญิงคนนี้ได้ เธอมีอะไรน่าสนใจหลายอย่างที่ดึงดูดให้เราอยากพูดคุยและใกล้ชิด

ฟรองก์ชวนเธอไปช่วยงานในห้องครัว แต่เธอปฏิเสธเพราะทำอะไรไม่เป็น เธอไม่ค่อยอยากออกไปดูโลกกว้างสักเท่าไหร่ มันกว้างเกินไปจนน่ากลัวหรือไรไม่ทราบ จนฟรองก์ว่าเอาว่า เธอน่ะอยู่แต่กับพวกคนที่ตายไปแล้ว พูดกับคนที่ไม่อยู่ตอบคำถามเธอ ... มันก็อาจจะจริงนะ เรามีโลกของเราและก็ดีที่อยู่กับตัวเองได้ แต่ก็ต้องเปิดหูเปิดตาบ้าง งานนี้ฟรองก์ชวนเธอไปช่วยงานในครัวสำเร็จ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครัวก็แสนจะน่ารัก กามีย์มีโอกาสแสดงความสามารถในการวาดของเธอในงานเลี้ยงครั้งนี้

ฟรองก์บอกเธอว่า เขาคงต้องออกจากห้องนี้ไปดูแลยาย แต่กามีย์เห็นว่า ถ้าฟรองก์ไป ฟิลิแบร์คงทุกข์ เพราะความร่าเริงเบิกบานและมีสีสันของเขาคอยประคับประคองความสมดุลในความเปราะบางของฟิลิแบร์ต์ ชายหนุ่มผู้แสนสุภาพ ขี้ประหม่าและพูดติดอ่างคนนี้

มิตรภาพระหว่างกามีย์และฟรองก์กำลังไปได้ดี ไม่ขาดไม่เกิน ฟรองก์ก็ชอบเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งหญิงสองชาย ฉันก็ลุ้นให้มันอยู่แค่นี้ เพื่อนก็คือเพื่อนเพราะกามีย์เทหัวใจให้ไอ้หนุ่มติดอ่างนามสกุลยาว ๆ ไปแล้ว






::
หมายเหตุ
หนังสือบางเล่มเหมาะกับคนบางคน
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย

















Create Date : 18 พฤษภาคม 2560
Last Update : 18 พฤษภาคม 2560 7:53:52 น.
Counter : 789 Pageviews.

1 comments
  
ฉันแตกต่างกับพวกเธอเกินไป เราไม่เอาผ้าเช็ดมือกับผ้าเช็ดปากมาอยู่ปนกันหรอก
มันหมายความว่ายังไงเหรอ แตกต่างน่ะ ฉันต้มไข่ยังไม่เป็นเลย แต่ฉันก็ไปอยู่ในครัวมาทั้งวัน และนาย นายฟังแต่เพลงเทคโน ตอนนี้นายกำลังนอนหลับพร้อมไปกับเพลงของวิวัลดี... เรื่องผ้าเช็ดมือกับผ้าเช็ดปากของนายน่ะ ไม่จริงหรอก... สิ่งที่ทำให้คนเราอยู่ด้วยกันไม่ได้คือความงี่เง่า ไม่ใช่ความแตกต่าง...
::
Ensemble,c'est tout
โดย: ภูเพยีย วันที่: 18 พฤษภาคม 2560 เวลา:7:54:11 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com