มีหลายแบบ
เข้ามาก็จะเจอตุ๊กตาหินจีน
ที่นี่ยังมีตุ๊กตาศิลาจีนรูปโป๊ยเซียน รอบพระวิหารหลวงค่ะ
วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เป็นอารามหลวงชั้นเอกที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นพระอารามหลวงของพระมหากษัตริย์ ตามโบราณราชประเพณีและทรงรับเข้าอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระกษัตริย์ทุกพระองค์สืบมาจนถึงปัจจุบันนี้ นับได้ว่า วัดราชประดิษฐฯเป็นพระอารามหลวงที่สำคัญยิ่งพระอารามหนึ่งในพระบรมราชจักรีวงศ์
พระราชประสงค์อีกประการหนึ่งในการสร้างวัดราชประดิษฐ์ฯขึ้น ก็เพื่ออุทิศถวายแด่พระสงฆ์คณะธรรมยุติกนิกายโดยเฉพาะ เนื่องจากครั้งยังทรงผนวชอยู่ ทรงเป็นหัวหน้านำพระสงฆ์ชำระข้อปฏิบัติ ก่อตั้งคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกายขึ้น
พระอารามนี้จึงนับเป็นพระอารามแรกของคณะสงฆ์ธรรมยุติ เพราะวัดธรรมยุติก่อนๆนั้น ได้ดัดแปลงมาจากวัดมหานิกายเดิมทั้งนั้น วัดประดิษฐ์ฯ จึงเป็นเสมือนวัดต้นแบบของคณะธรรมยุติกนิกายที่มีอยู่ในพุทธอาณาจักรบนแผ่นดินไทยนับแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา
ไฮไลต์ที่สำคัญของวัดนี้ก็คือ พระวิหารหลวงค่ะ
พระวิหารหลวงนี้ประดับหินอ่อน มีมุขหน้าหลัง หน้าบันเป็นไม้แกะสลักลวดลายงดงาม ซุ้มประตูและหน้าต่างประดับลายปูนปั้นรูปมงกุฏ
งดงามแปลกตามากเลยค่ะ
จริงๆตอนแรกที่เรามาพระวิหารปิดค่ะ กำลังใจเสียคิดว่ากินแห้วอีกแล้ว แต่นั่งพักข้างนอกได้แป๊บนึง ก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาเปิดค่ะ เค้าคงเปิดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มหลังอิชั้นที่มาเที่ยว เราก็เลยได้อาณิสงค์ไปด้วย โชคดีจัง
เข้ามาภายในพระวิหาร จะพบว่ามีพระประธานคือ พระพุทธสิหังคปฎิมากร จำลองมาจากพระพุทธสิงหิงค์ที่ประดิษฐานในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล โดยใต้ฐานนี้บรรจุพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย
ลวดลายบนเพดานพระวิหารค่ะ
ด้านบนเหนือหน้าต่างคือภาพเทพชุมนุม ซึ่งปรากฏในพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 5 ใจความว่า เป็นลวดลายที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำริขึ้นด้วยตนเอง และเป็นวัดแรกที่มีการวาดลายเทพชุมนุมมีรัศมีแบ่งเป็นพวกๆ เช่นนี้
บานประตูและหน้าต่างฝังมุกสีจากจีนที่ผนังเขียนภาพพระราชพิธีสิบสองเดือน
ถ่ายมาไม่ค่อยชัดต้องขออภัยด้วยนะคะ ข้างในแสงค่อนข้างน้อย ประกอบกับเรารีบถ่ายด้วยค่ะ เพราะกลัวเค้าจะปิดพระวิหาร
ภาพที่บานประตูทั้งสองนี้ถีอเป็นไฮไลต์ของที่นี่เลยนะคะ เป็นภาพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกล้องโทรทรรศน์ทอดพระเนตรสุริยุปราคา
ความแปลกของภาพนี้อยู่ตรงที่ฉากหลังไม่ได้เป็นหาดหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตามที่หนังสือบันทึกประวัติศาสตร์เอาไว้ แต่กลับเป็นพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์และพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยต่อเนื่องกันสองภาพ
สัณนิษฐานว่า อาจเพราะการเสด็จไปหว้ากอเป็นสาเหตุให้พระองค์ทรงประชวรด้วยไข้มาเลเรียและสวรรคตในปีเดียวกัน ดังนั้นหากจะเขียนภาพนี้เป็นอนุสรณ์แด่พระองค์ท่าน หาดหว้ากอจึงดูไม่เป็นมงคลที่จะหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงในวัดประจำรัชกาลของท่านค่ะ
ออกมาข้างนอกพระวิหารก็จะเจอปราสาทพระบรมรูป เป็นยอดปรางค์คล้ายปราสาทขอมค่ะ
ภายในมีพระบรมรูปสำริดของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รูปใต้ล่างฐาน
และพอเดินมาอีกมุมจะพบเจดีย์ คือ ปาสาณเจดีย์ ตั้งอยู่ด้านหลังพระวิหารหลวง เป็นเจดีย์ทรงกลมฐานสี่เหลี่ยม ก่ออิฐถือปูน ภายนอกประดับด้วยกระเบื้องหินอ่อนทั้งองค์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า ปาสาณเจดีย์ หมายถึง เจดีย์หิน
เป็นเจดีย์สวยและแปลกตรงที่ประดับด้วยหินอ่อนด้านนอกค่ะ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย
แต่ไม่เคยมาวัดนี้ กำลังนึกว่า เพราะอะไรเอ่ย
คงต้องหาเวลาไปไหว้พระและชมวัดเสียที
ขอบคุณที่นำมาเตือนใจครับ ขอบคุณที่ไปเยี่ยม
กัยบ่อยๆด้วย ขออนุญาตแอดไปนะครับ ไม่งั้น
นึกจะมาก็มายาก บางครั้งคุณไปด้วย IP