ข้างในใหญ่โตมากๆ และมีอะไรน่าสนใจเยอะเลยนะคะ อย่างของเก่าๆมากมาย
เห็นว่ามีพระธาตุด้วย
อย่างนี้ถือว่าเก่าพอไหมคะ หุหุหุ
อย่างงาแกะสลักขนาดเท่าเม็ดข้าวสาร...อันนี้ป๊าบอกว่ามีมาน๊านนน นานแล้ว
ขาขึ้นเรานั่งรถรางไป แบบว่ามีเสียวเหมือนกัน สูงใช่เล่น
แต่ขากลับดั๊นฝนตกหนักเลย คนรอลงรางก็เพียบ เราเลยตัดสินใจเดินกลับเลยค่ะ ลงมานี่มีขาสั่นพับๆๆเหมือนกันนะเนี่ย
รอนแรมเดินทางออกจากวัดตัวเปียกซ่ก แล้วก็ถึงเวลาที่ป๊ารอคอย เราไปกินกันที่ร้าน "วังปู" ที่อ.ขลุง จ้า ขับมาไกลเหมือนกัน
แต่พอถึง ก็ฟินเยี่ยงนี้......
ขออนุญาติเอาพระเอกของเรา กั้งตัวหญ่ายๆ หวานๆ เนื้อแน่นๆ อร่อยมากๆ ความสดนี่รับประกันเลย
ยิ่งได้น้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บๆ โอ๊ยยยย มีความสุขผุดๆ
ร้านชื่อวังปู เค้าก็น่าจะมีดีที่ปูเนอะ
เราสั่งเป็นปูไข่มาลองหม่ำก่อน ไข่อื้อเลยค่ะ หนึบๆๆ หย่อยๆๆ
หม่ำไข่แล้วก็หม่ำเนื้อ รสชาติไม่แพ้กันเลย หุหุ
ป๊าอยากลองชิมไก่บ้านต้มระกำ เนื้อจะออกเหนียวๆแน่นๆตามสไตล์ไก่บ้าน ซดน้ำก็สดชื่น
ผัดผักรสชาติกลมกล่อมค่า
เราสั่งปลาเก๋ามาตัวนึง ทำได้ตั้งสามอย่างแน่ะ
จานแรกเป็นลวกลิ้มค่า
เนื้อหวานนน สดผุดๆๆ
ต้มยำก็หร่อยๆๆ
สุดท้ายเป็นปลาสามรสค่ะ อันนี้ออกเปรี้ยวๆหวานๆ ชอบๆๆๆ
สิริรวมประมาณสี่พันกว่าบาทค่ะ ราคาแรงหน่อยแต่อร่อยคุ้มค่าแน่นอน
ตกบ่ายเราก็มาเที่ยวต่อที่น้ำตกพริ้ว เค้าว่าที่นี่ขึ้นชื่อด้วยนะจ๊ะ
เราเปลี่ยนชุดเตรียมลงน้ำ
เดินขึ้นไปตามทางเดินประมาณ 500 เมตร เราก็มาถึงจุดไฮไลต์ของน้ำตก สดชื่นมากก
ลงน้ำไปให้อาหารปลาค่ะ ปลาที่นี่ตัวใหญ่เบ้อเริ่มเลย อิชั้นเห็นตอนแรกเกิดอาการสยองไม่กล้าลง กลัวโดนตอด
แต่พอลงไปแล้วก็ไม่ตอดนะ ไม่กัดด้วย อิอิ
เล่นน้ำพักใหญ่ ออกมาจากน้ำตกก็เย็นย่ำแล้ว เราเลยแวะไปไหว้ศาลสมเด็จพระนเรศวร กับศาลหลักเมือง
มื้อค่ำพี่ศักดิ์ชวนให้ที่ร้าน "ตำนานป่า" จ.ระยองค่ะ ป๊าบอกเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ให้ลองแวะมาที่นี่ เพราะร้านสวยมากกก
เข้ามาแล้วก็สวยจริงๆค่ะ ใหญ่มากๆด้วย ตกแต่งแบบเหมือนป่าจริงๆ มีน้ำตกด้วย
ห้องน้ำค่ะ เก๋ไก๋ไหมเอ่ย
จานแรก เราลืมเปิดแฟลช มืดสนิท 555
จานนี้เป็นน้ำพริกไข่ปูค่ะ
อันนี้เค้าว่าเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่เลยนะ ข้าวอบสัปปะรด
ชิมแล้ว อร่อยมากๆๆ ข้าวแห้งดี เครื่องก็อร่อยค่ะ
เอ็นหอยผัดฉ่า ชิ้นหญ่ายมากก
ปลาหมึกอะไรสักอย่าง ลืมแร่ะ 555
แกงป่าปลาเห็ดโคน เผ็ดร้อน สะจายย
มื้อปิดท้ายฟินๆของเรา
แต่ยังสะใจไม่พอค่ะ ไหนๆมาถึงระยองแล้ว เราก็ want อยากจะได้ทุเรียนมาปิดปากเหลือเกิน
ขับรถไปซื้อที่ตลาด ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะทุเรียนส่วนใหญ่อ่อนๆๆมาก ชนิดที่คนขายก็ไม่กล้าขายให้เราเลย
แต่กรุงศรีอยุธยาก็ไม่สิ้นคนดีค่ะ คุณน้องชายเหลือบไปเห็นร้านทุเรียนร้านนึงแทรกตัวในมุมของตลาด พอเราเข้าไปถามก็มีทุเรียนที่สุกพอดีให้เรากินด้วย เย้ๆๆๆๆ
ได้หม่ำทุเรียนอร่อยๆตอนสามทุ่ม ฟินจริงๆเหอๆๆๆ