วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ป๊ากะแม่ และน้องชายชวนอิชั้นกับพี่ศักดิ์ไปไหว้หลวงพ่อจรัญที่วัดอัมพวา จ.สิงห์บุรี คนที่เป็นตัวตั้งตัวตี อยากไปเอามากๆก็คือน้องชายอิชั้น ซึ่งฟังซีดีของท่านบ่อยๆ ก็เกิดความศรัทธา อยากมาไหว้และอยากทำบุญกับท่าน

ส่วนตัวอิชั้นก็ได้ยินชื่อของหลวงพ่อมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้มากราบท่าน วันนี้แหล่ะ โอกาสอันดี มีคนพามาถึงที่...ใครล่ะ จะยอมพลาดได้

เราออกจากชลบุรีเกือบๆหกโมงเช้า เพราะอยากจะมาไหว้ท่านรอบเช้า เพราะท่านจะออกมาแค่สองรอบ เช้ากับบ่ายเท่านั้น เนื่องจากหลวงพ่อพรรษามากแล้ว สุขภาพท่านจะไม่ค่อยแข็งแรง นั่งนานๆไม่ไหวค่ะ

เรามาถึงที่วัดอัมพวา เวลาแปดโมงเศษๆ ชักหิวข้าว พี่ศักดิ์ในฐานะที่เคยมานั่งวิปัสนาที่นี่มาก่อน บอกว่าเค้ามีอาหารเลี้ยง ให้ไปกินที่โรงอาหาร แหม...รออะไรอยู่ละค้า ไปกันเลย

บรรยากาศโรงอาหาร กับคุณน้องชายตัวตั้งตัวตีในวันนี้

อาหารที่เค้าทำมาให้ทาน จะเป็นจับฉ่าย ต้มมะระโปรตีนเกษตร และแกงเขียวหวานไก่ อ้อ...มีน้ำชามะนาวรสชาติเข้มข้นชื่นใจมากให้ทานด้วย อาหารเค้าโอเคเลย...นอกจากนี้ยังมีอย่างอื่นที่เค้าทำแจกสดๆ ได้แก่ปาท่องโก๋ ขนมครก ทำกันสดใหม่ กลิ่นหอมน่าทานมาก แต่คิวยาวมากเลยอ่ะ อิชั้นก็เลยขี้เกียจต่อแถวไปชิม....

ทานเสร็จเราก็มานั่งรอเวลาที่หลวงพ่อจะออกมาสวดนะคะ

ระหว่างทาง เจอต้นนี้ ต้นสาละ เค้าว่าเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าประสูติใต้ต้นนี้

คนเยอะมากกก อาจเป็นเพราะวันนี้เป็นวันหยุดด้วยคนเลยเยอะ ทุกคนตั้งใจที่จะมาหาท่าน มีทุกเพศทุกวันเลยค่ะ เห็นได้ชัดว่าความศรัทธามีมากขนาดไหน....

แม่กะน้องชายอิชั้นไปนั่งรอท่าน ขนาดเราว่าเรามาเร็วแล้วนะ คนยังแน่น แทบหาที่นั่งไม่ได้ แต่เค้าไม่ได้รอแค่ในกุฎิกันนะคะ ล้นออกมาข้างนอกเลย ยืนข้างนอกกันอีกเพียบ เยอะจริงอะไรจริง

หลวงพ่อมาแล้วค่ะ ท่านนำสวด และให้พรพวกเรา...

คนเยอะเลย อยู่ไกล ถ่ายไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ (อ้อ..เค้าให้ถ่ายรูปนะคะ แต่งดใช้แฟลช)

เสร็จแล้วเราก็ถวายเงินทำบุญกับท่านค่ะ คนเยอะมากก เดินเบียดกันทีเดียว แต่ที่นี่เค้าจัดเป็นระบบ และผู้คนก็ดูเป็นระเบียบดีค่ะ

ในความรู้สึกของเรา หลวงพ่อมีบารมีมาก และท่านก็เป็นพระพัฒนา ท่านสร้างสรรวิธีเทศน์ให้เข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย มีทั้งสื่อซีดี และเว็ปไซค์ โดยไม่ได้มุ่งเน้นวัตถุนิยม ไม่แปลกใจเลยค่ะ ที่ผู้คนจะศรัทธาท่านมากมายขนาดนี้

ป๊านั่งนอกกุฎิ บอกว่ามีคุณลุงคนนึงนั่งข้างๆ ไม่ได้เข้ามานั่งข้างในเหมือนกัน เพราะฝ่าฝูงชนเข้าไปไม่ไหว ก็เลยนั่งรอข้างนอก คุณลุงคุยกะป๊าว่า มาจากต่างจังหวัดไกลๆ ขับรถมาถึงที่นี่นานมาก แต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย "แค่เห็นหน้าหลวงพ่อ ก็ชื่นใจแล้วล่ะ" คุณลุงบอกป๊า ทำให้เรารู้สึกจริงๆ ว่าท่านเป็นที่รักและศรัทธาของคนหมู่มากจริงๆ

เอาล่ะค่ะ......ตอนนี้เราก็เสร็จภารกิจที่วัดอัมพวาแล้วค่ะ เวลายังเหลืออีกเยอะ ไปเที่ยวที่วัดอื่นกันต่อดีกว่าค่ะ

มาที่วัดนี้ วัดปรางค์มุนี น้องชายบอกว่าที่นี่มีมักกะลีผลค่ะ เราก็ไม่เคยเห็นเนอะ...เป็นไงอ่ะ ไปดูก็ได้

พอมาถึง ก็ได้รู้ว่ามักกะลีผลเป็นแบบนี้ค่ะ

ก็พอรู้มานะ....ว่าเค้าว่ามักกะลีผลจะเหมือนคน แต่นี่จะเหมือนเกินไปป่ะ

เออเนอะ....มันก็เหมือนคนจริงๆนะ  มาแบบเป็นหน้าเน้อ มือเมอ เป็นนิ้วมาเลย..อะไรจะเป๊ะขนาดนี้

แต่ถ้าถามว่าของจริงหรือเปล่า...อันนี้อิชั้นไม่กล้าตอบค่ะ ไม่มีความรู้ด้านนี้ เอาเป็นว่าแล้วแต่ศรัทธาก็แล้วกัน

จบจากมักกะลีผล แล้วเราก็ไปอีกวัดที่มีชื่อเสียงค่ะ วัดเกตุไชโย ที่นี่จัดเป็นวัดใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรีค่ะ

วิหารจากด้านนอก

เข้าไปข้างใน ที่นี่มีพระองค์ใหญ่ สวยงามให้เราได้กราบไหว้ค่ะ

เสร็จแล้ว เราก็เตรียมตัวไปทานข้าวเที่ยง ระหว่างทางเดิน เราเจอดอกไม้สวยๆก็อดไม่ได้ ปรับ Note เป็นโหมดมาโคร แล้วถ่ายซูมๆหน่อย อืมม สวยดีเนอะ (ชมตัวเองก็ได้)

พี่ศักดิ์กับแม่เดินไปซื้อของฝากที่ตลาดหน้าวัด อิชั้นหันหน้าไปดูก็เห็นคุณแม่(ยาย)ลูก(เขย) ยืนเลือกของกันหนุงหนิง เพลินไปเลย คนนึงชอบช๊อป อีกคนก็ชอบต่อ เข้าขากันเจงๆ อิอิ

มาถึงร้านอาหารเที่ยงของเราแว้วว ที่ร้าน “ทองชุบ” เรามาจอดรถที่วัดตราชู เสียค่าจอดสิบบาท แล้วเดินไปด้วยกันนะคะ

ร้านจะเป็นลักษณะต้องลงไปในแพแบบนี้ค่ะ

บรรยากาศร้าน...คนเยอะมวกก ยิ่งเรามาเที่ยงกว่า คนมากมายสุดๆ ไม่รู้ต้องรออาหารนานหรือเปล่า

มาร้านนี้ ป๊าบอกว่ากุ้งแม่น้ำย่างอร่อยมากค่ะ ต้องกินๆ แต่ราคาก็แรงใช่ย่อย กิโลละ 1,200 บาท ขนาดของกุ้งก็ประมาณสามตัวโล ตกตัวนึง 400 บาทแน่ะ.....เอิ๊กกกก

จานแรก ปลาสลิดทอด ปลามันดีจัง...ตัวอ้วนพีใช้ได้ เสียอย่างเดียว...เค็มเกิน เหมือนทำน้ำปลาหก (ถ้ากินกะข้าวต้มจะพอดีเลย) แต่นี่เรากินกะข้าวสวย ไม่ไหวอ่ะ..กลัวไตพัง จานนี้โต๊ะเราบ่นอุบ เสียดายปลา

จานที่สองแกงคั่วหอยขม ชามนี้แม่บอกอร่อยค่ะ ไม่หวานมาก เนื้อหอยก็หนึบๆดี

จานต่อมา เป็นขนมจีบหมูค่ะ ลูกโต๊โต กินกะน้ำจิมจิ๊กโฉ่ ออกหวานๆมากกว่าเปรี้ยว ก็โอเคนะ ใช้ได้

จานต่อมาเป็นผัดฟักแม้วกับไข่เค็ม อันนี้อร่อยดีค่ะ ไข่แดงจะออกมันๆกินแล้วเพลินดี

แล้วจานที่รอคอยก้อมาถึง กุ้งแม่น้ำย่างค่า มาจานใหญ่เลย...

กุ้งตัวโต๊โตค่ะ หัวก็ใหญ่ มันก็เยอะ เหยาะน้ำจิ้มซีฟู๊ด แล้วเอามันคลุกกะข้าวนะ...โอ้ยยย นี่พิมพ์ไปก็น้ำลายไหล อร่อยๆๆ อยากกินอีกจังงงง

ส่วนเนื้อกุ้ง ก็แสนจะเยอะ ออกหนึบๆแน่นๆ เคี้ยวมันเลย โอยยย อร่อยๆๆๆอ่ะ

สรุปว่า ถ้ามาร้านนี้ แนะนำกุ้งแม่น้ำย่างค่ะ ตัวใหญ่ได้ใจ รสชาติอร่อยมวกก (แต่ราคาก็แรงไม่ใช่น้อย)  ส่วนอย่างอื่นเฉยๆ  ไม่แนะนำเท่าไหร่จ้า

อิ่มจากมื้อเที่ยง เราไปไหว้พระต่อนะคะ เรามาที่วัดพิกุลทอง พระองค์ใหญ่มากก เห็นแต่ไกลเลยค่ะ

พี่ศักดิ์เลยขอโพสท่าซะหน่อย

แวะทำบุญด้วยค่ะ

ที่นี่มีปลาสวายเยอะมากกก ตัวใหญ่มากเลยค่ะ กินขนมปังกันสนุกเลย

อยากจะถ่ายภาพปลาสวายมาให้ดูว่ามันเยอะและตัวโตขนาดไหน แต่ไม่กล้าควักเอา Note ออกมาอ่ะ ที่ทางมันแคบ กลัวพลาดทำมือถือตกอ่ะ (ถ้าร่วงอิชั้นร้องไห้แน่)

พี่ศักดิ์ก็โพสรายทางซะ

มาที่วัดพระนอนจักรสีห์ ที่นี่มีพระนอนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศไทยค่ะ สวยงามมาก

ด้านนอกมีรูปหล่อหลวงพ่อโตให้ได้กราบไหว้

ออกมาข้างนอก เตรียมจะกลับบ้านแล้ว เลยเข้าห้องน้ำวัดเสียหน่อย

ออกมาเจอคอกๆนึง  เดินมาดู...ก็เจอว่าเค้าเลี้ยงน้องควายเขาโง้งไว้ค่ะ เลยแวะให้อาหารเสียหน่อย

ทริปวันนี้ของเราก็จบเพียงเท่านี้ค่ะ  สรุปว่าเที่ยวไป 5 วัด...จะบอกว่าเหนื่อยมากก (แอบสงสัยคนที่เที่ยว 9 วัดในวันเดียว กลับบ้านขาไม่ลากกันเหรอ ขนาดเราแค่ห้าวัดยังเหนื่อยซ้า)  แต่ก็สนุกนะ  ได้ทั้งอิ่มท้อง แถมยังอิ่มอกอิ่มใจกันมากมาย

ก็เลยเอาบุญมาฝากนะคะ ให้เพื่อนๆทุกคนเลยค่า ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ