คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^
one day trip in ธนบุรี....เที่ยวสวนสมเด็จย่า และศาลเจ้ากวนอูค่ะ

หลังจากที่เราเที่ยววัดประยูรวงศาวาสเสร็จ  เราก็มาที่หมายต่อไปค่ะ  Smiley

อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสวนสมเด็จย่าค่ะ




อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สร้างขึ้นตามกระแสพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 ที่จะให้อนุรักษ์อาคารเก่าซึ่งมีลักษณะและที่ตั้งใกล้เคียง “บ้าน” ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเคยประทับ จึงมีพระราชประสงค์ที่จะให้อนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์เทิดพระเกียรติ 

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพัฒนาพื้นที่เป็นสวนสารธารณะระดับชุมชน ซึ่งนายแดง นานา และนายเล็ก นานา ผู้ถือกรรมสิทธ์ที่ดิน ก็ได้พร้อมใจน้อมเกล้าฯถวาย ที่ดินจำนวน 4 ไร่ 


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาเป็นเจ้าของที่ดินโปรดให้บุคคลและหน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการในรูปคณะกรรมการจัดสร้าง อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตามแนวพระราชดำริ




แผนผังค่ะ



อนุสาวรีย์ของสมเด็จย่า



คิดถึงท่านจัง....



เรามาที่บ้านจำลองบ้านเก่าที่สมเด็จย่าเคยประทับที่ฝั่งธนค่ะ

เป็นเรือนไม้มุมจากหลังกะทัดรัด






บนเรือนค่ะ




บ้านไทยหรือเรือนไทยสมัยก่อนไม่มีห้องน้ำในบ้าน   จึงนิยมเอาโอ่งไว้ริมระเบียง  

เวลาที่อาบน้ำก็อาบที่ริมระเบียงนี้เลย




เห็นแล้วนึกถึงบรรยากาศครั้งวันวาน




ของเก่าๆ 



โหลเก็บขนม



ห้องบรรทม หรือห้องนอน




ส่วนนี้น่าจะเป็นครัว 



หลังบ้านค่ะ 




ที่นี่มีพิพิทธภัณฑ์เรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จย่าของเรา มีทั้งเรื่องทางประวัติศาสตร์และของใช้ส่วนตัวของพระองค์ท่าน  มีมากมายน่าสนใจ น่าเข้าไปดูมากค่ะ

แต่น่าเสียดายที่ไม่อนุญาติถ่ายรูป  เลยไม่มีรูปมาให้ชม  Smiley




พอเดินเที่ยวสวนสมเด็จย่าเสร็จ เราก็เดินต่อที่ศาลเจ้ากวนอู  เพราะอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ค่ะ


สำหรับศาลเจ้ากวนอูนี้  เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ว่ากันว่า สร้างมานานกว่า 268 ปีเลยทีเดียว

 ภายในประดิษฐานรูปเทพเจ้ากวนอู 3 องค์ ตามตำนานเล่ากันว่า องค์แรกคือองค์ที่เล็กที่สุด เข้ามาในประเทศไทยราวปี 2279 โดยชาวจีนฮกเกี้ยนได้อัญเชิญลงเรือมา 

จากนั้นปี 2345 ผู้อัญเชิญเจ้าพ่อกวนอูองค์กลางมาเพิ่มอีกองค์หนึ่ง พร้อมติดป้ายชื่อศาลว่า "กวง ตี่ กู เมียว" สุดท้ายปี 2365 เจ้าสัวชื่อ "นายคงเส็ง" ได้บูรณะศาลแห่งนี้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และอัญเชิญเจ้าพ่อกวนอูองค์ที่สามมาประดิษฐานร่วมกับอีกสององค์ พร้อมทั้งสร้างระฆังไว้หนึ่งใบ 



จนปี 2444 คณะกรรมการและศิษย์ได้ร่วมกันสร้างศาลเจ้าหลังใหม่ขึ้น เนื่องจากเก๋งหลังเดิมชำรุดทรุดโทรม เมื่อสร้างเสร็จได้ตั้งชื่อเก๋งหลังใหม่นี้ว่า "กวงตี่ บู่ เชิ่ง เมียว"








นี่ไม่ใช่ศาลเจ้ากวนอูนะคะ  แต่อิชั้นเห็นอยู่ใกล้ๆ ดูเก่าจัง น่าจะอายุหลายปีไม่ใช่น้อย...





ไหว้องค์กวนอูเสร็จ  ตอนนี้ก็ได้เวลาสี่โมงครึ่งแล้วค่ะ

คงถึงเวลาที่เราจะต้องโบกมือลาฝั่งธนบุรี  และกลับไปฝั่งพระนครเสียที

แต่การกลับของเราหนนี้ไม่ธรรมดา

"เราจะเดินข้ามสะพานพุทธกลับไปด้วยกันค่ะ " Smiley







เดินข้ามสะพานพุทธเป็นครั้งแรกในชีวิตเลย  ตื่นเต้นจัง



ตามธรรมเนียมของเรา จะไปไหนต้องรู้ประวัติสักหน่อยนะ

สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี 


   รัชกาลที่ 7


ด้วยพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร โดยมีพระราชดำริว่าควรสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมจังหวัดพระนครกับธนบุรีเข้าด้วยกัน เพื่อให้การคมนาคมติดต่อสะดวก ทั้งยังเป็นการขยายพระนครอีกด้วย 


จึงโปรดเกล้าฯ ให้คิดแบบพระบรมราชานุสาวรีย์ และสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นประกอบกันเป็นปฐมบรมราชานุสรณ์ที่ปลายถนนตรีเพชร ถือเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 2 ถัดจากสะพานพระราม 6 ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6



โดยสร้างเป็นสะพานเหล็กยาว 229.76 เมตร กว้าง 16.68 เมตร ท้องสะพานสูงเหนือน้ำ 7.50 เมตร และอาจยกตอนกลางขึ้นด้วยแรงไฟฟ้า เปิดช่องกว้าง 60 เมตรเพื่อให้เรือใหญ่ผ่านได้สะดวก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์สร้างปฐมบรมราชานุสรณ์ เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2472



และโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสะพานว่า สะพานพระพุทธยอดฟ้า


Smiley SmileySmiley




วันนี้เป็นการเที่ยวที่เหนื่อยพอสมควร เพราะอากาศค่อนข้างร้อนด้วย  และเดินเยอะด้วย

แต่เราก็สนุกกันมากเลย  ประทับใจกันสุดๆ  เพราะไม่ค่อยได้มีโอกาสมาตะลอนๆเป็นสาวโสดกันแบบนี้ ยิ่งเพื่อนหริยิ่งแล้วใหญ่  ลูกสามคนรอที่บ้านแล้วนะนั่น Smiley


อยากจะมีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้อีกจัง....สนุกจริงๆ


ปิดท้ายบล๊อคด้วยวิวอาทิตย์อัสดง จากท่าสะพานพุทธนะคะSmiley



กราบลาทุกท่าน  ขอบคุณที่ติดตามชม  สวัสดีค่า Smiley



Create Date : 03 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2556 20:35:23 น. 10 comments
Counter : 3175 Pageviews.

 
ขอบคุณที่แวะไปหม่ำด้วยกันค่า ตอนนี้อัพตอนใหม่แล้วนะคะ


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:13:04:47 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
บรรยากาศดูสงบ ร่มรื่นดีนะคะ
บ้านจำลองของสมเด็จย่า ทำให้คิดถึงบ้านยายสมัยเรายังเด็กมาก ๆ น่ะค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปทักทายด้วยนะคะ



โดย: เนินน้ำ วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:13:31:41 น.  

 
ภาพสวยจังค่ะ เห็นแล้วนึกถึงบรรยากาศบ้านสมัยก่อน
เคยไปบ้านเพื่อนที่อยุธยา เป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง ห้องครัวกับห้องอาบน้ำเป็นส่วนที่เราชอบที่สุด

แหะๆ มันโล่งโถงดี

ขอบคุณที่แวะไปชิมขนมด้วยกันนะค้า


โดย: secreate วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:13:40:42 น.  

 
ขอบคุณนะขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:19:29:51 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชมพร About Weblog ดู Blog
ALDI Food Blog ดู Blog
Opey Health Blog ดู Blog
lovereason Literature Blog ดู Blog
hi hacky Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:19:30:50 น.  

 
รูปสวย น่าเที่ยวค่ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ


โดย: มะปรางสีสวย วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:20:06:40 น.  

 
สวัสดีครับ

บ้านจำลอง บ้านเก่าสมเด็จย่านี่ อ.เต๊ะเห็นแล้ว
นึกถึงสมัยเด้กเลยละครับ เคยอยู่บ้านไม้มาก่อนเหมือนกัน
หน้าร้อนนี่ จะไม่ค่อยร้อนเหมือนบ้านปูน บ้านคอนกรีต
ยิ่งมีต้นไม้แยะๆนี่ ร่มรื่น เย็นสบายมากๆเลยละครับ

ปล.สะพานพุทธนี่ อ.เต๊ะ คนกทม แต้ๆ ยังไม่เคยเดินข้ามซักทีเลยละครับ555
กดถูกใจให้นะครับ


โดย: multiple วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:20:46:55 น.  

 
เห็นแล้วอยากตามรอยไปเที่ยวเดินเล่นแบบนี้บ้างจังค่ะ
" สวนสมเด็จย่า " ชอบมากๆ ดูร่มรื่น น่าไปเดินเที่ยวแบบศึกษาอดีต
เก่งจังเลยค่ะ น้อยคนที่เราจะเห็นเดินข้ามสะพานพุทธ
บันทึกไว้เป็นประวัตฺศาสตร์ตัวเองได้เลยนะค่ะ
ขอบคุณนะจ๊ะ ที่แวะหม่ำๆด้วยกันที่บล๊อกเราจ๊ะ


โดย: tui/Laksi วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:22:29:55 น.  

 
วัดสวยงามและมีประวัติน่าศึกษาอยู่ใกล้ๆนี่เองนะคะ ใครยังไม่เคยไปลองหาโอกาสไปเยียมชมจะดีมากเลย


โดย: ณ มน วันที่: 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา:0:13:22 น.  

 
บอกได้คำเดียวว่า อยากกลับเมืองไทยมากๆเลยคะ ชอบจัง แอบคิดถึงบ้าน

ปล เจ้าของบล็อคหน้าตาน่ารักจัง


โดย: au_jean วันที่: 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา:11:00:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.