คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^

คลิปออกกำลังกาย






 

Create Date : 17 เมษายน 2561    
Last Update : 17 เมษายน 2561 14:18:17 น.
Counter : 1162 Pageviews.  

เด็กน้อยกับต้นแอ๊ปเปิ้ล





นานมาแล้ว มีต้นแอปเปิ้ลใหญ่อยู่ต้นนึง

และก็มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนนึง


ชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเล่นรอบๆต้นไม้นี้ทุกๆวัน
เขาปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้ และก็กินผลแอปเปิ้ล


และก็นอนหลับไปภายใต้ร่มเงาของต้นแอปเปิ้ล
เขารักต้นไม้ และต้นไม้ก็รักเขา


เวลาผ่านไป เด็กน้อยโตขึ้น และเขาไม่มาวิ่งเล่นรอบๆต้นไม้ทุกวันอีกแล้ว
วันหนึ่ง เด็กน้อย กลับมาหาต้นไม้ เด็กน้อยดูเศร้า


'
มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอต้นไม้ถาม
'
ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะ ฉันไม่อยากเล่นรอบๆต้นไม้อีกแล้ว
ฉันต้องการของเล่น ฉันอยากได้เงินไปซื้อของเล่นเด็กน้อยตอบ


'
ฉันไม่มีเงินจะให้ ....เก็บลูกแอปเปิ้ลของฉันไปขายสิ
เพื่อเอาเงินไปซื้อของเล่น ต้นไม้ตอบ

เด็กน้อยตื่นเต้นมาก เขาเก็บลูกแอปเปิ้ลไปหมด และจากไปอย่างมีความสุข
หลังจากเขาเก็บแอปเปิลไปหมดแล้ว เขาไม่กลับมาหาต้นไม้อีกเลย
ต้นไม้ดูเศร้า....

วันหนึ่ง เด็กน้อยกลับมา เขาดูโตขึ้น
ต้นไม้รู้สึกตื่นเต้นมาก


'
มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอต้นไม้ถาม

'
ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอก ฉันมีครอบครัวแล้ว
ฉันต้องทำงานเพื่อครอบครัวของฉันเอง
เราต้องการบ้าน ช่วยฉันได้ไหม'

'
ฉันไม่มีบ้านจะให้ แต่... ตัดกิ่งก้านของฉันไปสิ ....เอาไปสร้างบ้าน
ดังนั้นเด็กน้อยตัดกิ่งก้านทั้งหมดของต้นไม้ไป และจากไปอย่างมีความสุข
อีกครั้งที่ต้นไม้ถูกทิ้งให้เดียวดาย และเศร้า....


วันหนึ่งในฤดูร้อน เด็กน้อยกลับมา ต้นไม้ดีใจมาก
'มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอต้นไม้ถาม

'เปล่า ฉันรู้สึกผิดหวังกับชีวิต และเริ่มแก่ขึ้น
ฉันอยากแล่นเรือไปพักผ่อนไกลๆ ให้เรือฉันได้ไหม'


'
ใช้ลำต้นของฉันได้ เอาไปสร้างเรือ เพื่อเธอจะได้เล่นเรือไปและมีความสุข'
ต้นไม้ตอบ

ดังนั้น เด็กน้อยตัดลำต้นของต้นไม้ไปสร้างเรือ
เขาล่องเรือไป และไม่เคยกลับมาอีกเลย


หลายปีผ่านไป ในที่สุดเด็กน้อยกลับมา
คราวนี้เขาดูแก่ลงไปมาก

'
ฉันเสียใจ ฉันไม่เหลืออะไรจะให้อีกแล้ว
ไม่มีผลแอปเปิ้ลให้ ...ฉันไม่มีลำต้นให้ปีนอีกแล้ว'

'
ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว
ฉันปีนไม่ไหว และฉันก็แก่แล้ว' เด็กน้อยตอบ


'
ฉันไม่มีอะไรเหลือให้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือ มีเพียงรากที่กำลังจะตาย'
'ตอนนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ที่พักพิง ฉันเหนื่อยมาหลายปีแล้ว'


'
รากของต้นไม้แก่ๆ จะเป็นที่พักพิงของหนูได้
...... 
มาสิ นั่งลงข้างๆฉัน ...หลับให้สบาย...'

เด็กน้อยนั่งลงข้างๆ ต้นไม้ดีใจ ยิ้ม...และน้ำตาไหล........


นี่เป็นเรื่องสำหรับทุกๆคน ต้นไม้ในเรื่องคือพ่อแม่




เมื่อเราเป็นเด็ก
ตัวเล็กๆ เรารักที่จะเล่นกับพ่อกับแม่...

เมื่อเราโตขึ้น เราทอดทิ้งพ่อ และแม่ และกลับมาหาท่าน
เมื่อเราต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือเมื่อเรามีปัญหา


ไม่ว่าอย่างไร...พ่อ และแม่ของเราก็จะอยู่และให้ทุกสิ่งอย่างที่ท่านทำได้
หวังเพียงเรามีความสุข


คุณอาจจะคิดว่า 'เด็กน้อยในเรื่องโหดร้าย
แต่นั่นคือความจริงที่สะท้อนให้เห็นว่าพวกเราทำกับผู้มีพระคุณอย่างไร
?




 

Create Date : 03 กันยายน 2557    
Last Update : 3 กันยายน 2557 13:57:56 น.
Counter : 2794 Pageviews.  

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า ‘เกาหลีเหนือ’ ไม่ได้ตลอดชีวิต

เรียกว่าเป็นแดนสนธยาที่คนนอกอยากรู้ แต่คนในไม่อยากบอก แต่ก็ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ทำให้ข้อมูลต่างๆ ในแดนลับแลอย่างเกาหลีเหนือ ถูกขุดคุ้ยออกสู่สาธารณะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะข้อมูลภาพถ่ายที่มักหลุดออกมาทั้งจากนักท่องเที่ยวและผู้สื่อข่าวสำนักต่างๆ อย่างเช่น กรณีของ Eric Lafforgue ที่เดินทางไปเกาหลีเหนือเมื่อเดือนกันยายน 2012 และกลายเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้ไปประเทศนั้น เพราะภาพบางที่เขาถ่ายมา ดูเหมือนจะไม่ใช่ภาพที่ทางการเกาหลีเหนือต้องการให้คนภายนอกรู้สักเท่าไร และแม้จะมีการลบภาพทั้งหมดไปแล้ว แต่ด้วยเทคโนโลยีในการกู้ภาพจากเมมโมรี่การ์ด ทำให้มีภาพบางส่วนหลุดออกมาให้เราได้รับชมกัน

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

Lafforgue บอกว่า...เมื่อคุณมาเที่ยวเกาหลีเหนือ และคิดจะถ่ายภาพ
คุณต้องไม่ถ่ายภาพที่จะสะท้อนให้เห็นความยากจน ไม่งั้นคุณมีปัญหาแน่

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

และแน่นอนว่าภาพมุมนี้ ไม่ผ่านการตรวจของทางการเกาหลีเหนือ

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

เด็กเกาหลีเหนือส่วนใหญ่มีโอกาสได้หัดพิมพ์ดีดบนแป้นคีย์บอร์ด...ที่เครื่องคอมไม่ได้เปิดใช้งาน

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

หนึ่งในภาพที่ถูกลบเพราะเป็นการสะท้อนถึงปัญหาการขาดแคลนอาหารในประเทศนี้

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

และการถ่ายภาพใดๆ ที่มีสัญลักษณ์ขององค์การอาหารโลก หรือ WFP ก็นับเป็นเรื่องต้องห้ามเช่นกัน

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

Lafforgue บอกว่าเขาถ่ายภาพนี้โดยต้องการสะท้อนให้เห็นถึงความเหนื่อยล้าของคนทำงาน
แต่ทางการเกาหลีเหนือขอให้เขาลบภาพนี้ทิ้ง เพราะเกรงจะมีคนเข้าใจว่าคนในภาพได้เสียชีวิตแล้ว

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

แม้แต่การถ่ายภาพคนที่ปั่นจักรยานมาทำงานจากพื้นที่ห่างไกลก็เป็นเรื่องต้องห้ามเช่นกัน

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

ทางการเกาหลีเหนืออนุญาตให้คุณถ่ายภาพทหารได้ แต่ต้องไม่ถ่ายมากเกินไป
และต้องอยู่ในอิริยาบถที่น่าพอใจด้วย...แน่นอนว่าภาพนี้ไม่ผ่าน

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

รวมทั้งภาพนี้ด้วย

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

Lafforgue บอกว่าทางการเกาหลีเหนือไม่ชอบเอามากๆ กับการถ่ายภาพทหาร
โดยเฉพาะภาพที่แสดงให้เห็นว่าทหารกำลังพักผ่อน

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

ถ้าคุณจะถ่ายรูปผู้คนที่มีท่านผู้นำอยู่ในองค์ประกอบภาพด้วย คุณต้องมั่นใจว่าทุกคนในภาพนั้นยิ้มอยู่
ไม่งั้นภาพอาจถูกลบ ตัวอย่างเช่นภาพนี้

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

การถ่ายภาพจิตรกรรมที่ยังเขียนไม่เสร็จ ก็ถือเป็นเรื่องไม่ควรเช่นกันสำหรับประเทศนี้

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

อนุญาตให้คุณถ่ายภาพการแสดงสัตว์ในสวนน้ำได้ ตราบใดที่ไม่ติดทหาร
และมันคงเป็นได้ยากเพราะผู้ชมส่วนใหญ่เป็นคนในเครื่องแบบซะ 99 เปอร์เซ็นต์

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

Lafforgue เล่าว่าภาพนี้ถูกลบเพราะถ่ายติดอุโมงค์รถไฟ

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

การถ่ายภาพโดยใช้แฟลชเป็นเรื่องต้องห้ามที่นี่ เพราะมันทำให้ผู้คนแตกตื่นได้

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

Lafforgue ให้ความเห็นว่าเกาหนีเหนือเป็นประเทศที่มีความหวาดระแวงสูงมาก
เพราะแม้แต่ภาพกำลังนั่งพักผ่อน พวกเขาก็กลัวว่าจะถูกนำไปอ้างว่าเป็นภาพคนไร้บ้านได้

นี่คือภาพที่ทำให้ช่างภาพคนหนึ่งเข้า 'เกาหลีเหนือ' ไม่ได้ตลอดชีวิต

ทางการเกาหลีให้เหตุผลที่ Lafforgue จะต้องลบภาพนี้ 2 ประการ...
หนึ่งคือวัยรุ่นคนนี้สวมหมวกหันผิดทาง และสองคือมีทหารติดอยู่ในภาพ




 

Create Date : 03 กันยายน 2557    
Last Update : 3 กันยายน 2557 9:03:58 น.
Counter : 1974 Pageviews.  

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ


อาหารการกินถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเราคนไทยไปแล้ว ขนาดอาหารกลางวันของพนักงานบริษัท ก็ขวนขวายไปกินกันได้ ถึงจะไกลที่ทำงานก็รวมตัวกันไป แต่สำหรับพนักงานบริษัทที่อเมริกา ซึ่งถือเป็นประเทศที่เจริญแล้วกลับตรงกันข้าม

เว็บไซต์ Sad Desk Lunch โดย Kira Fisher นำเสนอาหารกลางวันของพนักงานออฟฟิศที่อเมริกา มันดูแย่มากถ้าเทียบกับบ้านเรา เป็นอาหารเห่ยๆ อาหารที่ไม่มีคุณค่า หน้าตาไม่สวย รสชาติไม่ได้เรื่อง คือง่ายๆ กินกันตายไปงั้นๆ พวกเขาไม่ได้ใส่ใจกับอาหารกลางวันเลย

อาจจะเป็นเพราะชีวิตที่เร่งรีบ เพราะ 62% ของพนักงานชาวอเมริกัน ทำงานกันหนักจนไม่มีเวลาไปกินข้าว บ้างก็ประชุมกันทั้งวัน เลยต้องนำข้าวกล่อง หรืออะไรที่กินง่ายๆ มากินไป ทำงานไป ซึ่งที่ดูจะหรูและมีประโยชน์ ก็คงจะเป็นพวกเบอร์เกอร์ สลัด เป็นต้น

มาดู เมนูอาหารกลางวันของเหล่ามนุษย์เงินเดือนอเมริกากัน

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

นี่มันอาหารแมวนินา ทูน่า ชีส และขนมปังไหม้ๆ

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

ประหยัดภาชนะ และ เวลา คือจับทุกอย่างมารวมกันในถ้วย

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

เบอร์เกอร์ง่ายๆ เอาขนมปังเหลือๆ
ของที่กินเหลือจากตอนเช้ามาใส่ซอส
จากนั้นก็เข้าไมโครเวฟ แล้วกิน 

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

ในเวลาเร่งรีบ ซุปกระป๋อง กับแครกเกอร์ ก็พอถูไถไปได้

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

เอาข้าวราดของเหลือจากที่บ้านมาก กินกับขนมปังจะได้อิ่มท้อง!!

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

ขนมปังกับชีส เวฟให้มันละลาย

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

มันคืออะไร?????

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

อะไรกันนี่???

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

เก๋ๆด้วย แครกเกอร์

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

Sad Desk Lunch มาดู อาหารกลางวัน ของพนักงานออฟฟิศ ที่อเมริกา กินกันตายไปวันๆ

สุดท้ายใครอยากจะไปร่วมแจมมื้อเที่ยงบนโต๊ะทำงาน ก็เข้าไปได้เลยที่ sad desk lunch




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2557    
Last Update : 10 สิงหาคม 2557 9:41:01 น.
Counter : 2619 Pageviews.  

19 สิ่ง ที่คนไม่มีความสุข เค้าทำกัน !!!

 

1. พวกเขากังวลกับสิ่งที่ตัวเองเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว
พวกคนไม่มีความสุขมักจะกังวลกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว ประมาณว่า ถ้าตอนนั้นทำแบบนี้จะเป็นยังไงนะ? และแทนที่จะมานั่งคิดถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้วพวกนี้ ทำไมไม่เรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้นและปรับปรุงให้มันดีขึ้นในครั้งต่อไปแทนล่ะ เอาเข้าจริงแล้วมานั่งรู้สึกผิดกับอดีตเป็นเวลานาน ๆ มันก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ไป! ไปสู้!

2. พวกเขาล้มเลิกเมื่อสิ่งที่ทำอยู่มันยากขึ้น
พวกที่ไม่มีความสุขมีแนวโน้มจะเลิกทำสิ่งที่ทำอยู่หากมันกลายเป็นความท้าทาย เป็นการแข่งขัน ก็ล้มเลิกมันง่ายกว่านี่นาถ้าแข่งไปก็ต้องแพ้ เพราะคิดแบบนี้เลยไม่มีความสุข เพราะสิ่งที่ได้จากการยอมแพ้ก็มีเพียงแค่ความรู้สึกว่าถูกปราบลงเท่านั้น ทางที่ดีก็ต้องพยายามทำต่อไปโดยไม่ต้องไปคิดถึงผลของมันมากนัก ทำไปในแบบที่อยากจะทำ ทำจนกว่ามันจะเกิดขึ้นให้ได้ ไป! ไปสู้! จะได้ไม่ต้องมานั่งอมทุกข์เป็นไอ้ขี้แพ้ที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จอยู่แบบนี้

3. พวกเขาจริงจังกับตัวเองมากเกินไป
คนที่จริงจังกับตัวเองเกินไปมีแนวโน้มที่จะจริงจังกับชีวิตมากเกินไปด้วย ถ้ายังมีโอกาสที่ย้อนกลับมาหัวเราะในความไร้สาระของชีวิตตอนนี้ได้บ้าง มันก็คงจะดี ไป! ไปขำ!

4. พวกเขาไม่ออกกำลังกาย
ข้อนี้แทบไม่ต้องอธิบายครับ ยิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งรู้สึกดีกับตัวเองมากเท่านั้น อีกทั้งอารมณ์ยังดีขึ้นมาเพราะสาร… เอ่อ สารอะไรซักอย่างที่จะหลั่งออกมาแล้วทำให้คุณมีความสุข ผมคิดไม่ออก เพราะผมไม่ได้ออกกำลังกาย!

5. พวกเขาตั้งเป้าหมายที่ตัวเองไม่สามารถไปถึงได้
เราทุกคนรู้กันดีว่าการตั้งเป้าหมายให้ตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ และวิธีเดียวที่จะไปให้ถึงเป้าหมายก็คือการลงมือทำให้สำเร็จ แต่มันก็อาจจะเป็นปัญหาขึ้นได้เมื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้มันสูงเกินจะบรรยายเกินไป การตั้งมาตรฐานไว้สูงเกินเอื้อมถึงโดยไม่เจียมตัวจะทำให้คุณนั่นแหละที่จะรู้สึกผิดหวังเองตอนทำไม่ได้

วิธีแก้ก็คือฝันให้เล็กลงก่อน แล้วคุณก็จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อทำมันได้สำเร็จ จำเอาไว้ว่าไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์!

ผมคิดว่าข้อนี้คนเป็นกันเยอะ อาจมาจากการที่เราได้เห็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จออกสื่อกันมากมายทั้งไทยและต่างชาติ แต่อย่าลืมว่าพวกนี้เป็นคนส่วนน้อยในสังคมที่ทำได้ขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะล้มเหลวซักหน่อย ไอ้พวกนี้มันแค่ไปได้เร็วกว่าเท่านั้นเอง

6. พวกเขากินอาหารตามใจปาก
มันมีแต่ผลเสียกับตัวเองแน่นอน หลัก ๆ เลยก็เรื่องอ้วน จริง ๆ แล้วคนเราจะกินของพวกนี้นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ถ้ามัวแต่กิน กิน กินโดยไม่คำนึงถึงเรื่องสุขภาพเลย ผลมันก็ออกมาแบบที่เป็นกันอยู่นี่แหละครับ เตงเค้าอ้วนมั้ยยยย?, สิ้นเดือนจะไปวิ่งแล้ว!, ถ้าผอมแล้วอย่ามาง้อ! ฯลฯ ถ้ากินดี ๆ ตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาเครียดกันแล้ว

7. พวกเขานอนไม่มากพอ
การนอนที่มากพอจะส่งผลกับชีวิตในวันถัดไปของคุณ ว่าคุณจะมีความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานมากน้อยแค่ไหน คุณอาจจะคิดว่าการทำโอทีเป็นไอเดียที่ดี แต่การทำงาน (และก็ทำอย่างอื่นด้วย) ควรมาพร้อมกับการหลับที่สบายในตอนกลางคืนด้วยเช่นกัน ลุกออกจากโต๊ะทำงานไปนอนกันเดี๋ยวนี้เลยครับ (พูดเล่น)

8. พวกเขาใส่ใจในความอ่อนแอของตัวเอง ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่มี
จากกรณีนี้วิธีแก้ก็ไม่ยาก ไปโฟกัสที่จุดแข็งครับ (ไม่ได้หมายถึงอวัยวะ) การพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าตัวเองมีดีตรงไหน พวกคนที่ไม่มีความสุขเค้ามักจะใส่ใจกับความอ่อนแอของตัวเองอยู่แบบนั้นแทนที่จะทำตัวเองให้ดีขึ้น เราควรรู้ว่าตัวเองมีข้อเสียอะไร แต่ไม่ควรปล่อยให้ข้อเสียนั้นมันทำลายเรา ไป! ไปสู้!

9. พวกเขาใช้เวลามากมายหมดไปกับโซเชียลมีเดีย
ข้อนี้คนเขียนเค้าว่าเป็นเรื่องใหญ่ (This one is a biggie!) เพราะทุกวันนี้ผู้คนเอาชีวิตไปออนไลน์แทบหมด และผลกระทบที่ได้กลับมาจากสังคมถ่าย – โหลด – แชร์พวกนี้อย่างแรกเลยก็คือการเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนคนอื่น ๆ เช่นเพื่อนได้งานใหม่, เพื่อนแต่งงาน, เพื่อนมีลูก, เพื่อนทีไอ้นั่นไอ้นี่ พอเห็นใครได้ดีกว่าแล้วมันก็บั่นทอนตัวเอง ทั้ง ๆ ที่โซเขียลมีเดียเค้าก็อวดตัวเองกันทั้งนั้นแหละครับ เสพมากไปใจก็ทุกข์

ลองถอยห่าง (อย่าผวน) จากจอคอมพิวเตอร์และมือถือออกมามองโลกด้วยตาคุณเองบ้าง พวกคนที่ไม่มีความสุขมีแนวโน้มที่จะเป็นทุกข์เพราะมัวแต่กังวลว่าชีวิตพวกเขาจากสายตาคนอื่นที่มาดูโปรไฟล์นั้นจะเป็นยังไง ออกมาดีพอหรือยัง ถ้ามัวแต่ใส่ใจโลกเสมือนอยู่แบบนี้ ก็ไม่น่าจะมีความสุขได้

10. พวกเขาเอาแต่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
การอยู่ใน comfort zone ดูไม่น่าจะทำให้คนมีทุกข์ได้ใช่มั้ยครับ เพราะมันก็ไม่มีความเสี่ยงอะไร สบายใจดี แต่การอยู่ในนี้นานเกินไปก็ทำให้คุณพลาดโอกาสดี ๆ ที่จะได้เจอสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตนี้ด้วย แฟคเตอร์หลักของข้อนี้ที่ทำให้คนไม่มีความสุขก็คือความน่าเบื่อนั่นเอง และก็แก้ไขได้ไม่ยาก ออกไปทำอะไรใหม่ ๆ ทำอะไรที่มีความเสี่ยง (ณ ตอนนี้ผมอยากให้เปิดเพลงเรือเล็กควรออกจากฝั่งของบอดี้แสลมประกอบไปด้วย) ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องออกไปเล่นกีฬาผาดโผน แต่หมายถึงว่าให้ลองทำอะไรที่ต่างออกไปจากชีวิตปกติที่ทำอยู่บ้าง ทำอะไรมัน ๆ หรือจะออกไปหางานใหม่ที่ท้าทายก็ได้ครับ

11. พวกเขากังวลสิ่งที่คนอื่นคิด
พวกที่ไม่มีความสุขมักจะเอาแค่ใส่ใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง มันมีหนทางมากมายที่คุณจะทำให้คนพวกนั้นพอใจได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘รักตัวเอง!’

12. พวกเขาขี้นินทา
วัน ๆ เอาแต่นินทาชาวบ้านก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นครับ อาจจะฟินที่ได้เสพความผิดพลาดหรือเรื่องเสียหายของคนที่กำลังพูดถึงอยู่ แต่ตัวคุณเองก็ไม่ได้อะไรมากไปกว่าความปากเสียที่เลเวลอัพเช่นกัน ไป! ไปทำอย่างอื่นที่มันสร้างสรรค์!

13. พวกเขาทำงานมากไป
ในบางครั้งก็ควรจะพักจากการทำงานทำการมาใส่ใจตัวเองกันบ้าง เดี๋ยวตายคาโต๊ะกันพอดี

14. พวกเขาแยกตัวออกจากสังคม
พอคนพวกนี้เจอเรื่องยาก ๆ พวกเขาจะหลีกหนีจากคนที่แคร์ แต่การใช้เวลาร่วมกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิทตอนที่คุณกำลังแย่ทำให้อาการพวกนี้ดีขึ้น อยู่กับคนที่สบายใจในยามทุกข์ เขารู้ เขาก็ทำให้เรามีความสุขขึ้นได้ ถ้ามัวแต่ไปนั่งอินดี้อยู่คนเดียวในห้องเงียบ ๆ แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นได้ยังไง จริงมั้ย?!

15. พวกเขาไม่เคยตามใจตัวเอง
ผู้คนที่มีความสุขมักจะรู้ว่าตัวเองอยากไปเที่ยวตอนไหน อยากได้เสื้อผ้าใหม่ก็ออกไปซื้อ อยากทำอะไรก็ทำ แต่พวกที่ไม่มีความสุขก็มักจะหลงลืมที่จะใส่ใจตัวเอง มัวแต่สนใจคนอื่น หรือไม่ก็ยุ่งอยู่แต่กับการทำงานหาเงิน เงิน เงิน เงิน แล้วก็เงินนั่นเอง

16. พวกเขาโอเคในการอยู่กับที่
เท่าที่อ่านดูจากต้นฉบับ เนื้อหาคล้าย ๆ ข้อสิบครับ ตัดทิ้งไปแล้วกัน

17. พวกเขาไม่คิดจะลืม
พวกเขามักยึดติดอยู่กับความทุกข์เก่า ๆ โดยไม่ปล่อยให้เรื่องราวเลวร้ายผ่านไป ไม่ยกโทษให้ตัวเองและผู้อื่นในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

18. พวกเขาหลีกเลี่ยงการวางแผนและการจัดการ
การใช้ชีวิตอยู่แบบสะเปะสะปะ รก ไร้ระเบียบก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเกิดความเป็นทุกข์ได้ ลองลุกขึ้นมาเก็บห้องนอนตัวเองดูเป็นอย่างแรก แล้วคุณจะพบว่าการที่คุณสามารถควบคุมห้องนอนเล็ก ๆ ห้องนี้ให้มันไม่รกได้ก็ถือเป็นความฟินอย่างหนึ่ง ก่อนจะต่อยอดไปจัดการชีวิตตัวเอง กิน, นอน, ทำงาน, จัดการเงิน ฯลฯ เพราะเค้าว่ากันว่าพวกที่ไม่จัดระเบียบชีวิตตัวเองมีแนวโน้มที่จะไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตถ้าเวลานั้นมาถึง

19. พวกเขาสนใจแต่ตัวเอง
การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่พวกที่ไม่มีความสุขมักจะสนใจแต่ตัวเอง ‘คนเดียว’ เท่านั้น และปฏิบัติตัวกับคนอื่นได้แย่กว่าที่คนเค้าทำกัน การใส่ใจแต่ปัญหาของตัวเองอย่างเดียวอย่างต่อเนื่องอาจจะไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นก็ได้ การใส่ใจในคนรอบข้างด้วยก็ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นได้เช่นกัน (แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปยุ่งเรื่องชาวบ้านทั้งวี่ทั้งวันอะไรยังงั้นนะ)




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2557    
Last Update : 2 กรกฎาคม 2557 15:16:48 น.
Counter : 1061 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.