Bloggang.com : hi hacky - หนังแป๊กประจำปี 2010

Bloggang.com : weblog for you and your gang

คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^

หนังแป๊กประจำปี 2010


	เอามาจากห้องเฉลิมไทในพันทิพ หนังเปรี้ยงเราเห็นมาเยอะแล้ว มาดูหนังแป๊กกันบ้างดีกว่า อันนี้เป็นหนังแป๊กประจำปี 2010..... V V V V V >>>> หนังแป้กประจำปี [2010] ณ ฮอลลีวู้ด !!! เรื่องไหนเจ็บหนัก-เจ็บเบา...มาดูกัน >>>> ในอเมริกาเหลืออีกเพียงแค่สองสัปดาห์ในการเปิดตัวหนังที่ยังคงตกค้างอยู่ประจำปีนี้เท่านั้น แต่หนังใหญ่จริงๆที่เตรียมเปิดตัวก็มีเพียงแค่ LIttle Fockers, True Grit และ Gulliver's Travel เท่านั้น ซึ่งสำหรับ True Grit นั้นเล่นจองโรงฉายเปิดตัว 3000 โรงกว่า เอาใจวงกว้างโดยเฉพาะ ผิดกับ Gulliver ที่น่าจะโดนใจคนหมู่มากได้ไม่ยาก แต่โรงฉายกลับมาแค่ 2400 โรงเท่านั้น รายที่น่าจะเป็นเจ้าของความฮิตส่งท้ายปีก็น่าจะเป็น Little Fockers อยู่แล้ว แต่ที่น่าจับตามองก็คือ True Grit นี่แหละ ผ่านมาแล้ว 50 สัปดาห์แบบนี้มาย้อนดูกันดีกว่า ปีนี้มีหนังเรื่องไหนที่เปิดตัวได้แป้กอลังการงานช้างกันแบบหมอไม่รับเย็บบ้าง หลายเรื่องในปีนี้ ที่เจ็บตัวหนักหนาเอาการอยู่ ก็เพราะการเปิดหนังที่อาจจะไม่เอื้ออำนวยในช่วงเวลา หรือไม่ก็การเปิดหนังชนกัน ประเภทเอาของเสียมาชนช้าง หรือประเภทที่คนดูร้องยี้ไม่เอา แล้วก็กลายเป็นกระแสปากต่อปากไปทั่วทุกสาทิศ ...สำหรับประเภทที่เข้าข่าย แป้ก เจ๊ง หรือหมอไม่รับเย็บ สัปเหร่อไม่รับทำศพ (เฉพาะในอเมริกา) ....ก็ประกอบไปด้วย Jonah Hex >>> เจ็บตัวแบบจำไปสามชาติ สำหรับพ่อโจ หน้าเหียก ที่ชาตินี้ DC Comics คงหาฮีโร่รายใหม่มาขึ้นจอแบบระยะยาวได้ยากมากซะแล้ว เรื่องนี้ถือว่าเจ๊งแบบไม่อายใครเลยจริงๆ ทุนสร้างอยู่ที่ 47 ล้านดอลล่าร์ กล้าเปิดฉายในช่วงซัมเมอร์ที่หนังใหญ่ถล่มกันเข้ามาแบบไม่บันยะบันยัง หนังเปิดตัวไป 10 ล้านดอลล่าร์เน้นๆ รวมทั่วโลกแล้วก็ยัง 10 ล้านดอลล่าร์ ฮ่าๆๆ โจหน้าเหียก ขาดทุนยับหลาย !!! ไม่รู้เป็นอาถรรพ์ DC หรือ อาถรรพ์เจ๊ "เมแกน ฟ็อกซ์" ก็ไม่รู้นะเนี่ยะ 555+ The Wolfman >>> เป็นหนังที่อยากจะมอบตำแหน่งสมควรเจ๊งให้ซะจริงๆเลย แบบเป็นการส่วนตัว สำหรับหนังหมาป่าที่ใช้เวลาในงานสร้างไม่คุ้มกับการรอคอยของผู้ชมอย่างยวดยิ่ง หนังมีทุนสร้างมหาศาลบานปลายอยู่ที่ 150 ล้านดอลล่าร์ แล้วก็มาเปิดตัวในช่วงวันวาเลนไทน์ ช่วงที่คู่รักทั้งหลายคงไม่เสียเวลามานั่งหวีดกรีดร้องกับหนังโหดเลือดสาด อำมหิตเรื่องนี้ ก็เลยแป้กคาจออยู่ที่ 61 ล้านดอลล่าร์เท่านั้นในอเมริกา ส่วนทั่วโลก รวมแล้วยังไงก็เจ๊งขาดตัว 139 ล้านดอลล่าร์ ไม่รู้สึกเสียดาย แต่รู้สึกเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง 5555 The Sorcerer's Apprentice >>> ทั้ง "นิโคลาส เคจ" และ "จอห์น เทอเทิลโท้บ" เคยร่วมมือกันและทำให้ National Treasure กลายเป็นหนังแฟรนไชส์สุดฮิตได้ แต่พอฉีกมาทำหนังแนวแฟนตาซีเล่นคุณไสย เรื่องนี้ก็ดูท่าจะไม่เวิร์คเท่าไหร่ เพราะด้วยเนื้อเรื่องอาจจะเชยไปนิด หรือไม่ก็คนเริ่มเอียนหนังแฟนตาซีกันบ้างแล้ว ...หนังเรื่องนี้มีทุนสร้างอยู่ที่ 150 ล้านดอลล่าร์ และถ้าวัดกันในอเมริกาเพียวๆ หนังเรื่องนี้เจ๊งกระจายเพราะเก็บไปตลอดการฉายที่ 60 ล้านดอลล่าร์ยังไม่ถึงครึ่งเลย ส่วนรายรับรวมทั่วโลกค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เพราะเก็บไป 215 ล้านดอลล่าร์แหน่ะ Knight And Day >>> ชะตากรรมเดียวกับ The Sorcerer's Apprentice แต่เรื่องนี้วัดได้เลยว่า "ทอม ครูซ" ไม่ใช่ดาราขายเดี่ยวในยุคนี้อีกต่อไป ครั้นเจ๊ "แคม ดิแอซ" ก็เช่นกัน เพราะช่วยอะไรกันไม่ได้เลย แถมหนังก็ยังมาพร้อมความสนุกครึ่งๆกลางๆ คำวิจารณ์ค่อนไปในทางลบ ไม่สมศักดิ์ศรีที่หนังเปิดตัวกลางซัมเมอร์สักเท่าไหร่ หนังเปิดตัวไป 20 ล้านดอลล่าร์ พร้อมเก็บรายรับตลอดการฉายในอเมริกาไป 76 ล้านดอลล่าร์ โดยมี 117 ล้านดอลล่าร์เป็นทุนสร้าง ไปลบกันเอาเองว่าขาดอีกเท่าไหร่ !! Repo Men >>> หนังเองก็ล้ำซะ แต่ยังมีคนหาว่าเชย ครั้นพอพ่อหนุ่ม "จู๊ด ลอว์" อยากจะขอมานำเดี่ยวเพราะนึกว่าจะเปรี้ยงเหมือนตอนไปประกบ "ดาวนี่ย์ จูเนียร์" ใน Sherlock Holmes แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร หนังไซไฟหุ่นยนต์ที่พล็อตคุ้นๆเรื่องนี้ก็เลยแป้กสนั่นวงการ ด้วยทุนสร้างที่อาจจะไม่สูงอะไรมากในระดับ 32 ล้านดอลล่าร์ แต่หนังเก็บในอเมริกาไปแค่ 13 ล้านดอลล่าร์ ทั่วโลกก็ถอดโปรแกรมฉายออกเป็นว่าเล่น (รวมถึงบ้านเรา) เลยเก็บไปแบบคอมพลีทที่ 18 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น เง้อออ... How Do You Know >>> ยังไม่ทันไร แววเจ๊งก็ส่อเค้ามาแต่ไกลซะแล้ว สำหรับหนังรอมคอมแสนแพงเรื่องนี้ของ โซนี่ ที่ได้ระดับ "เจมส์ แอล บรู้คส์" และ "แจ็ค นิโคลสัน" แห่ง As Good As It Gets มาร่วมงานกัน พ่วงด้วยอดีตราชินีร้อยล้านอย่าง "รีส วิทเธอร์สปูน" แต่หนังกลับเปิดตัวได้น่าอิดโรยมากๆในสุดสัปดาห์แรก กับตัวเลข 8 ล้านดอลล่าร์ และถ้ามองไปถึงทุนสร้างคงจะยากลำบากแสนเข็นลำเค็ญใจอย่างยวดยิ่ง เพราะอยู่ที่ระดับ 120 ล้านดอลล่าร์ ครึ่งนึงนั้นก็เจียดมาเป็นค่าตัวนักแสดงล้วนๆ โอ้มายก๊อดดดด ....เวทีรางวัลหนังก็ไม่ได้ไปเอี่ยวตามที่คาดหวัง แถมรายรับยังมาต่ำเตี้ยอีก น่าเสียดายนักแสดงและทีมงานอย่างสุดซึ้ง !!... Prince of Persia >>> ในอเมริกาเรียกได้ว่าหมอไม่รับเย็บสุดๆ ...เพราะทุนสร้างหนัง 200 ล้านดอลล่าร์ ณ จุดนี้ แต่เก็บไปได้แค่ 90 ล้านดอลล่าร์ !!! ผิดวิสัยของหนังเอพิคฟอร์มยักษ์ประจำซัมเมอร์และการเกี่ยวดองของ "เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์" มากๆ แถมยังมีพื้นเพเป็นเกมส์ชื่อดัง แต่ยังงงว่าทำไมขายไม่ได้ ทั้งที่หนังก็ดูได้เพลินๆ สนุกๆ เอาใจตลาดดีทีเดียว แต่ยังดีที่หนังได้รายรับรวมทั่วโลก ...335 ล้านดอลล่าร์ เลยเจียดมาแปะนู่น โปะนี่ได้บ้าง แต่อย่างน้อยในอเมริกาก็น่าจะได้อย่างต่ำสัก 100 ล้านดอลล่าร์นะ The Chronicles of Narnia : The Voyage of Dawn Treader >>> รายนี้นี่ถือว่าหนังของแท้ เพราะทุนสร้างก็ไม่น้อยนิดอะไร อยู่ที่ 155 ล้านดอลล่าร์ แม้จะสามารถเก็บรายรับทั่วโลกได้ 173 ล้านดอลล่าร์ในขณะนี้ ก็พอทำให้หนังยาไส้ได้อีกบ้าง แต่ในอเมริกาถือว่าหนังแป้กสนั่นมากๆทีเดียว เพราะเปิดตัวได้แค่ 24 ล้านดอลล่าร์ รวมรายได้ล่าสุด 2 สัปดาห์ของการออกฉายหนังก็ร่วงหล่นตุ้บลงมาอย่างน่าเห็นใจยิ่งนัก เก็บไป 44 ล้านดอลล่าร์ ห่างไกลความเจริญมากๆ เห็นแล้วใครที่ภาวนาให้อยากมี Narnia ภาคต่อไป คงต้องหยุดความคิดกันได้เลย ...ปิดตำนานกันอย่างสงบสุข พร้อมกับอาถรรพ์ของ Fox และหนังวรรณกรรม ก็ยังเดินหน้าต่อไป เรื่องอะไรจะเป็นรายต่อไป ต้องติดตาม !!!! Unstoppable >>> สงสัยจะเข็ดขยาดรถไฟไปอีกนาน เพราะทั้ง The Taking of Pelham 123 และเรื่องนี้ที่ดำเนินเรื่องด้วยรถด่วนเป็นหลัก ก็เจ๊งกันถ้วนหน้า แถมมาพร้อม "เดนเซล วอชิงตัน" ทั้งสองเรื่อง สำหรับ "โทนี่ สก็อต" ที่...ปล่อยให้พี่ชาย "ริดลี่ย์ สก็อต" นำหน้าไปหลายช่วงตัวมากทีเดียว หนังเรื่องนี้เปิดตัว 22 ล้านดอลล่าร์ เก็บรายรับในอเมริกาไปทั้งสิ้นจนถึงตอนนี้ (หนังยังฉายอยู่) 77 ล้านดอลล่าร์ โดยมี 100 ล้านดอลล่าร์เป็นทุนสร้าง Green Zone >>> หนังแอ็คชั่นสงครามแนวโคตรจะเวียนหัวเรื่องนี้ ที่ได้ระดับท็อปฟอร์มจาก The Bourne Supremacy และ Ultimatum มาแท็กทีมกันทั้ง "พอล กรีนกราส" และ "แมต เดมอน" แต่ก็ไม่ยักกะฮิตเหมือนเฉกเช่นนั้น ...หนังก็เลยแป้กสนั่นในอเมริกาอย่างที่เห็น เก็บไปตลอดการฉาย 35 ล้านดอลล่าร์ จากการเปิดตัว 14 ล้านดอลล่าร์ โดยมี 100 ล้านดอลล่าร์เป็นตัวเลขของทุนสร้าง ส่วนรวมทั่วโลกนั้นก็ 94 ล้านดอลล่าร์ ...เอากันให้สายตัวขาดก็ยังไม่คุ้มทุน Yogi Bear >>> ดูท่าว่าเด็กจะไม่ค่อยชอบเจ้าหมีโยกี้สักเท่าไหร่ อาจจะเกิดกันไม่ทัน กันบ้างอะไรบ้าง หมีคู่นี้ก็เลยทำเงินเปิดตัวในอเมริกาค่อนข้างน้อยเนื้อไปนิด เปิดได้ 18 ล้านดอลล่าร์ โดยที่ทุนสร้างแทบเหยียบ 100 ล้านดอลล่าร์เลยทีเดียว ก็ต้องลุ้นรายรับรวมทั่วโลกต่อไป แต่หนังน่าจะกอบโกยจากการทำเป็น 3D ได้บ้าง แต่แอบผิดฟอร์มไปนิดสำหรับหนังไลฟ์แอ็คชั่นที่เอาแคแรกเตอร์การ์ตูนมาขึ้นจอแบบนี้ สงสัยโปรเจ็กต์ที่วาดฝันไว้ว่าจะทำเป็นแฟรนไชส์ก็คงต้องพับเก็บไปโดยดุษดี My Soul To Take >>> กลับมาทั้งที ไหงมาเปิดตัวด้วยหนังที่แสนจะเชยในพลอตเรื่องและการนำเสนอก็ไม่รู้ สำหรับลุง "เวส คราเว่น" กับหนังฆาตกรต่อเนื่องเรื่องนี้ ที่ไม่รู้จะขาย 3D เพื่ออะไร ? แต่ถึงแม้จะมีการอัพค่าตั๋วจากการทำเป็น 3D (ในขั้นตอนสุดท้าย) แต่หนังก็ยังแป้กอยู่ดี เพราะเก็บรายรับในอเมริกาไปแค่ 14 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น จากทุนสร้าง 25 ล้านดอลล่าร์ ...และถึงแม้จะรวมรายรับทั่วโลก หนังก็ยังขาดทุนอยู่ดี เพราะรวมแล้วก็ 19 ล้านดอลล่าร์แบบเต็มที่สุดๆ Burlesque >>> แหม่...เจ๊ติ๊อุตส่าห์มาแสดงแสนยานุภาพทางการแสดงในทั่วโลกประจักษ์และหวังจะขึ้นไปมีเอี่ยวบนเวทีรางวี่รางวัลซะหน่อย แต่หนังเรื่องนี้ดันดับสนิทตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกฉาย เพราะไม่ได้มาพร้อมความฮือฮาเท่าที่คิดไว้ ทั้งรายรับและคำวิจารณ์ หนังมีทุนสร้าง 55 ล้านดอลล่าร์ ตอนนี้เก็บไป 38 ล้านดอลล่าร์ ในขณะที่อันดับในบ็อกส์ออฟฟิศล่าสุดก็ร่วงหล่นไปเรื่อยๆ สงสัยต้องไปลุ้นเอาในต่างประเทศ Legend of The Guardians >>> ในอเมริกาแป้กสนั่นทีเดียว สำหรับการมาจับหนังเอาใจคุณหนู ที่ดูยังไงก็เป็นหนังสำหรับผู้ใหญ่วันยังค่ำ สำหรับหนังนกแสกเรื่องนี้ของป๋า "แซ็ค สไนเดอร์" ที่เก็บไป 55 ล้านดอลล่าร์ จากทุนสร้าง 80 ล้านดอลล่าร์ แต่ค่อยมีหน้ามีตาขึ้นมาหน่อย เพราะทั่วโลกเก็บไป 139 ล้านดอลล่าร์ แต่ก็ยังไม่รวมมาร์เก็ตติ้งไว้ในทุนสร้างนะ ..ต้องไปบวกลบคูณหารกันอีกที Extraordiary Measure >>> "แฮริสัน ฟอร์ด" และ "เบรนแดน เฟรเซอร์" สองดาราที่ดังมากในยุค 90s มายุคนี้แทบจะหาหนังฮิตๆของพวกเขาไม่เจอ เรื่องนี้เลยแท็กทีมกันแป้กแบบไม่แคร์สื่อ ด้วยทุนสร้างที่ไม่ได้มากอะไรแค่ 30 ล้านดอลล่าร์ แต่หนังเก็บไปได้เพียง 12 ล้านดอลล่าร์เท่านั้นในอเมริกายังไม่ถึงครึ่งเลย น่าเสียดายพลังแม่เหล็กของนักแสดงคู่นี้เสียจริงๆ เพราะเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นหนังขี้ๆซะที่ไหน พล็อตเรื่องเจ๋งดีเลยนะ แต่อาจจะไม่โดนตลาดเท่าที่ควร Hereafter >>> ผิดฟอร์มตั้งแต่ปู่ "คลิ้นท์" มาจับงานแนวเขย่าขวัญ สยองขวัญเหนือธรรมชาติแล้ว แถมรายได้ยังเปิดตัวได้น้อยเอาซะอย่างไม่น่าเชื่ออีกตะหาก แถมคำวิจารณ์ก็แทบผิดฟอร์มป๋าสุดๆ เพราะมันไม่ดีเอาซะเลย หนังเรื่องนี้มีทุนสร้าง 50 ล้านดอลล่าร์ ตอนนี้ออกฉายมาแล้วกว่า 2 เดือน เก็บไปได้แค่ 32 ล้านดอลล่าร์ในอเมริกา เห็นว่าบ้านเราหนังจะได้ฉาย 6 มกราคมในแบบวงจำกัด ก็ไปพิสูจน์กันเองก็แล้วกันว่า สรุปแล้วหนังมันดีหรือไม่ดียังไง แต่เสียดายพลังงานของปู่กับหนังเรื่องนี้มากที่ซู้ดดดด มันน่าจะไปได้ไกลกว่านี้น่า Scott Pilgrim VS. The World >>> ได้ระดับผู้กำกับไอเดียบรรเจิด "เอ็ดการ์ ไรต์" มาคุมงาน แถมยังได้ต้นฉบับมาจากหนังสือการ์ตูนยอดฮิต ทำไม๊ทำไม Scott Pilgrim ถึงไม่ฮิตเท่าที่ควร หนังมีทุนสร้างเกินหน้าเกินตาเล็กน้อยอยู่ที่ 60 ล้านดอลล่าร์ เก็บรายรับไปในอเมริกาครึ่งเดียวของทุนสร้างเท่านั้น 31 ล้านดอลล่าร์ รวมทั่วโลกก็ยังเจ็บอยู่อยู่ที่ 47 ล้านดอลล่าร์ ถ้าหนังฮิตกว่านี้หน่อยนะ บ้านเราก็คงได้ยลกันในโรงแล้วหล่ะ น่าเสียดายจริงจิ๊งงงงง อีกไม่นานเชื่อว่าผู้สร้างหนังอาจจะหันมาทำหนังทุนต่ำ เน้นกำไรกันมากขึ้น เพราะช่วงหลังๆมาหนังแนวนี้มาแรงเป็นพิเศษ แล้วส่วนใหญ่ก็มักจะได้ผลตอบรับที่เกินขาดทั้งนั้น มีเงินให้สตูดิโอเอาไปหมุนสร้างแฟรนไชส์กันต่อไปเรื่อยๆ ...และด้วยการไม่แน่นอนในสาระบบของหนังบล็อกบัสเตอร์ทั้งหลาย ในไม่ช้าเราจะเห็นหนังเอพิคแต่ละเรื่องโดนต้นสังกัดลดทุนสร้างกันมากขึ้น ทั้ง Mission Impossible IV และ Pirates of The Carribean 4 ก็คือตัวอย่างหลักของหนังในปีหน้าที่เข้าข่ายนี้ เนื่องจากหนังอาจจะขายไม่ได้เหมือนเช่นเคย เมื่อตัวละครของเรื่องไม่ได้รับความนิยม หรือมีจุดขายบางจุดที่ในภาคก่อนๆมีขาดหายไป ...เอาเซฟไว้ก่อนเป็นสำคัญ แต่สำหรับซัมเมอร์ปีหน้าคงไม่ต้องพูดถึงว่าจะเจ๊งหรือจะฮิต เพราะบล็อกบัสเตอร์เล่นขนกันมาหมดทุกทางแบบนี้ทั้ง Harry Potter ภาคจบ, Transformers ภาคจบ, Thor, Pirates 4, Super 8, Captain America, Cowboys VS. Aliens, Cars 2, Kung Fu Panda 2, The Green Lantern, Smurfs คงไม่ต้องพูดเลยว่า คนดูจะกระเป๋าฉีกแค่ไหน แล้วค่อยไปลุ้นใหม่กันตอนหนังฉายดีกว่า ว่าจะเฉือนกันไปได้เท่าไหร่บ้าง แน่นซะขนาดนี้

Create Date : 23 ธันวาคม 2553

Last Update : 8 ธันวาคม 2554 20:56:11 น.

3 comments

Counter : 1088 Pageviews.

ได้ดูไป 2 เรื่อง knight and day กับ prince of persia

knight and day ผมว่าดูสบายๆ ดีนะ เวอร์กุ๊กกิ๊ก ดูแล้วไม่ต้องมีอะไรค้างในหัว ครูซดูหนุ่มขึ้น ส่วนดิแอชสูงวัยไปเยอะเลย แต่กลับน่ารักกว่าตอนสาวๆ แน่ะ

prince of persia เนื้อเรื่องก็งั้นๆ มั้ง เลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ effect ก็ดูธรรมดาไปแล้วสำหรับหนัง พ.ศ. นี้

โดย: oddy.freebird

วันที่: 23 ธันวาคม 2553 เวลา:11:25:01 น.

เคยดูknight and day prince of persiaกับGreen Zoneไปครับ
บ้างเรื่องก็สนุกดีน่ะ

โดย: Don't try this at home.

วันที่: 23 ธันวาคม 2553 เวลา:12:31:46 น.

แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี

โดย: koreaserie (loveyoupantip

) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:9:12:58 น.

hi hacky

Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Smember

ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]

Life is a journey....

New Comments

Group Blog

All Blogs

Friends' blogs

[Add hi hacky's blog to your web]

Links

BlogGang.com

Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.