ชมความงามแบบแวร์ซายที่วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร
วันนี้อิชั้นมาทำธุระในกทม. ปรากฏว่ามีเวลาว่าง 3 ชั่วโมง สิ่งแรกที่ปรากฏในหัวคือ
"จะไปเที่ยววัดไหนดีน้า"
ก็พอดี เพิ่งได้หนังสือนำเที่ยววัดมา เค้าแนะนำมาที่นึงที่น่าสนใจมาก เป็นวัดที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบกอทิกของฝรั่งเศสกับเครื่องเบญจรงค์และลายกนกแบบไทย ฟังแล้วน่าสนใจมาก เลยอยากจะแวะมาเที่ยวสักหน่อย วัดที่เราพูดถึง คือ วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร นั่นเองค่ะ
จากเท่าที่ศึกษาเส้นทางมา รู้แค่ว่าอยู่แถวกระทรวงมหาดไทย และอยู่ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง ยังไม่รู้ว่จะเริ่มจากไหนดี ก็เลยไปนั่งเรือที่ท่าสาธร แล้วก็มาขึ้นที่ท่าเตียน หาตุ๊กตุ๊กนั่ง น่าจะย่นระยะทางได้มากขึ้น
รอนแรมเดินทางอยู่พักใหญ่...และในที่สุด เราก็มาถึงค่ะ เย้
มาถึงก็จะเจอทวารบาลยืนต้อนรับเราอยู่ ที่นี่จะต่างกับที่อื่นตรงที่ไม่ได้เป็นรูปยักษ์เทวดาหรือเสี้ยวกางแบบจีนนะคะ แต่จะเป็นรูปทหารซึ่งแต่งตัวและวางท่าไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละประตู
สันนิษฐานว่าน่าจะเลียนแบบมาจากเหล่ามหาดเล็กในสมัยรัชกาลที่ 5 นั่นเองค่ะ
ตรงนี้ก็แต่งอีกแบบค่ะ..แฮ่
เข้ามาในบริเวณวัด
แผนผังภายในวัด
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร หรือที่เรียกกันติดปากว่า วัดราชบพิธ นับเป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณี ที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล 5 และยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 7 คือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกด้วย
เนื่องจากในสมัยรัชกาลที่ 7 มิได้ทรงสร้างวัดประจำรัชกาล แต่ได้รับพระราชภาระในการทำนุบำรุง และทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ซึ่งเป็นวัดของพระราชบิดา คือ รัชกาลที่ 5 จึงเสมือนเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์เช่นกัน
ภายนอกอุโบสถค่ะ
ด้านข้างช่องประตูทางเข้าพระอุโบสถที่เห็นมีส่วนยื่นออกมาสั้นๆ เรียกว่า "มุกเด็จ"
น่าเสียดายที่วันนี้อุโบสถปิดค่ะ เค้าจะเปิดในวันพระและวันสำคัญทางศาสนาเท่านั้น น่าเสียดายจัง เราเลยอดเข้าไปเลย
ถ้าได้เข้าไปข้างในจะเห็นความงามแบบนี้เลยค่ะ ขออนุญาติยกมาจากในเว็บนี้นะคะ ยังไงขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
นี่แหล่ะค่ะ ความงามแบบแวร์ซาย ไฮไลต์ของที่นี่เลยนะ แต่วันนี้ไม่ใช่วันพระ เค้าเลยไม่เปิด....เสียดายจัง อดดูเลย
ในเมื่อเข้าไปดูข้างในไม่ได้ ก็ชมความงามจากภายนอกไปก่อนนะคะ
จะบอกว่าสวยมากกก
หน้าต่างงดงาม
สวยไปทุกมุม
ดูความละเอียดละออนะคะ
ขอถ่ายเยอะหน่อยนะคะ ชอบจริงๆ
ส่วนที่น่าสนใจคือ กระเบื้องเบญจรงค์ ทั้งพระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ และระเบียงแก้ว ล้วนตกแต่งด้วยลายกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ทั้งสิ้น ซึ่งทุกแผ่นเขียนด้วยมือ รวมถึงออกแบบรูปทรงกระเบื้องขนาดต่างๆ
ลวดลายของระเบียงแบบชัดๆ
มาดูส่วนของประตูค่ะ
ในส่วนของศิลปกรรมที่สำคัญในวัดราชบพิธฯ ได้แก่ บานประตู และหน้าต่างของพระอุโบสถ ที่มีลายไทยลงรักประดับมุก เป็นรูปดวงตราครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่าง ๆ สวยงามมาก ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "ศิลปะชิ้นสำคัญแห่งยุครัตนโกสินทร์"
ที่งดงามแปลกตาคือการสร้างระเบียงคดเป็นวงกลมล้อมรอบพระเจดีย์คล้ายที่พระปฐมเจดีย์ แต่ผนังระเบียงคดทั้งหมดของที่นี่ประดับประดาด้วยเครื่องเคลือบเบญจรงค์ เป็นลายเถาพฤกษา ดอกไม้ ลายกนก เช่นเดียวกับผนังด้านนอกอุโบสถและพระวิหารค่ะ
มั่นใจว่าถ่ายรูปออกมาต้องสวยแน่ เพราะภาพที่เห็นงดงามมากกกค่ะ
ยิ่งออกแดดยิ่งสวย
ชอบจริงๆ
เรามาสักการะพระเจดีย์กันนะคะ
พระมหาเจดีย์วัดราชบพิตร พระมหาเจดีย์ เป็นแบบทรงกลมตั้งอยู่บนฐานทักษิณ ประดับกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์อัดพิมพ์นูนทั้งองค์ ฐานทักษิณเจาะเป็นซุ้ม 16 ซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ 14 ซุ้ม และพระรูปหล่อสมเด็จพระสังฆราชเจ้า และสมเด็จพระสังฆราช ในด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออก อีก 2 ซุ้ม เป็นประตูเข้าออกภายในพระเจดีย์
ภายในพระเจดีย์มีชุกชี ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางนาคปรกอยู่ เป็นศิลปะแบบลพบุรี เล่ากันว่า มีการขุดพบใต้ต้นตะเคียนริมคลองหลอด ซึ่งเชื่อกันว่าคนที่อยากมีลูกมาขอพรก็จะมีลูกสมใจ
พระมหาเจดีย์เป็นเจดีย์ทรงระฆังหรือที่เรียกกันว่าทรงลังกา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ ให้สร้างตามแบบวัดโบราณ คือยึดพระเจดีย์เป็นหลักของวัดแล้วสร้างผังของวัด ในส่วนที่เหลือ พระระเบียงคด หรือพระวิหารคด ล้อมรอบแบ่งเขตพุทธาวาส ออกจากเขตสังฆาวาส ยอดพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ลวดลายบานประตูประดับมุก ช่องประตูด้านหลังพระอุโบสถซึ่งหันเข้าด้านในพระวิหารคดจึงมองเห็นบานประตูนี้ได้เมื่อเข้ามาในบริเวณพระมหาเจดีย์แล้ว
บานประตูทั้งสองบานมีลักษณะแบบเดียวกัน คือลวดลายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 5 ดวงเรียงตามลำดับ ได้แก่ นพรัตน์ราชวราภรณ์ มหาจักรีบรมราชวงศ์ ปฐมจุลจอมเกล้า ประถมาภรณ์ช้างเผือก และ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย
สำหรับที่วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่หากมาแล้วควรมาเยี่ยมชมด้วยค่ะ "สุสานหลวง"
สุสานหลวงตั้งอยู่ทิศตะวันตกของวัด ติดกับถนนอัษฎางค์ ริมคลองคูเมืองเดิม แต่เดิมมีอาณาบริเวณกว้าง 4 ไร่กว่า ต่อมาในสมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทางผู้สำเร็จราชการและทางกทม. ได้ตัดถนนอัษฎางค์ ซึ่งกินพื้นที่สุสานหลวงไปบางส่วน จนปัจจุบันสุสานหลวงเหลือพื้นที่เพียง 2 ไร่ครึ่งเท่านั้น
สุสานนี้จริงๆเดินจากในวัดก็จะเจอเลยนะคะ แต่อิชั้นถ่ายไว้จากข้างนอก เผื่อใครผ่านมาแล้วอยากเข้าจะได้รู้ว่าต้องเข้าจากประตูไหน
ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง "สุสานหลวง" ขึ้นในวัดราชบพิธฯ ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้ผู้ที่มีความรักใคร่ห่วงใยอย่างใกล้ชิด คือ พระมเหสี เจ้าจอมมารดา เจ้าจอม พระราชโอรส พระราชธิดา พระนัดดา และพระปนัดดา ได้อยู่ร่วมกัน หลังจากที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงสร้างขึ้นในสมัยหลัง อนุสาวรีย์ที่สุสานหลวงนี้ทำเป็นรูปเจดีย์ ปรางค์ และอาคารศิลปะยุโรป
บรรยากาศภายในสุสานค่อนข้างเงียบสงบ
การมาที่นี่สรุปว่าสวยคุ้มค่าเลยค่ะ น่าเสียดายที่ไม่สามารถเข้าไปชมในพระอุโบสถได้ แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้มาถูกแล้วค่ะ เดี๋ยวต้องหาโอกาสมาอีกแน่ๆ จะพาเพื่อนๆมาด้วยแหล่ะ
แต่อันดับต่อไป อิชั้นจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวต่ออีกวัดนะคะ รับรองว่าน่าสนใจไม่แพ้กันเลยค่ะ
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2556 8:29:32 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1812 Pageviews. |
|
|
ภาพภายนอกก็ว่าสวยแล้ว
ภาพด้านในสวยจนตะลึงเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาแบ่งปันนะคะ
ปล.วันที่ไปคนไม่เยอะเหรอคะ ถ่ายภาพมาไม่ติดคนอื่นเลย สุดยอดค่ะ