Morning Kitchen: A Little Kitchen For a Little Chef
Group Blog
 
All Blogs
 

Trick'O'Treat, Give me something sweet: ขนม Halloween สุดสยอง- Japanese Eyes!!


ขอตั้งชื่อเจ้านี่ว่า "Japanese Eyes Ball" มาม๊ะ มาสบตากับ หนุ่ม/สาว ญี่ปุ่นกันเต๊อะ ดูหน้าก่อนเลยค่า






เนื่องจากอยากลองทำโจทย์ของพี่บัว Tiny Bakery แห่ง Bloggang เล่นๆ เกี่ยวกับ Halloween แต่ว่าไม่มีเวลาไปซื้อของ เลยรื้อๆตู้เย็นดูว่าทำไรได้บ้าง ก็เลยพอจะทำได้ดังนี้ค่ะ



1. โมจิ



2. มูส



เพราะว่าแป้งเค้กหมด แป้งอเนกประสงก็เหลืออยู่นิสสสสสสสสเดียว = =" เอาฟระ เสี่ยงเป็นเสี่ยง เลยออกมาเป็นเจ้านี่ค่ะ






ส่วนประกอบมีดังนี้ค่ะ



1. ดังโกะ



2. มูสชาเขียว



3. ไซรับน้ำราดดังโกะ



4. สตรอเบอรี่



5. ชอกโกเล็ตDark ละลาย



มาทำดังโกะกันก่อนเลย



ส่วนประกอบนะคะ



1. แป้ง โมจิโกะ 50 g (ไม่มีก็ใชแป้งข้าวเหนียว ผสมแป้งข้าวเจ้าเล็กน้อยก็ได้ แต่เช้าไม่เคยใช้เลยไม่ทราบอัตรส่วนค่ะ)



2. น้ำตาล 2 ช้อนชา



3. น้ำเปล่า 50 g อย่าใส่ทีเดียวหมด ให้ค่อยๆใส่เพราะอาจจะใช้ไม่หมดค่ะ



วิธีทำ



1. ละลายน้ำตาลในน้ำเปล่า



2. เทน้ำเปล่าที่ละลายน้ำตาลแล้ว ลงไปในแป้งทีละนิด ค่อยๆนวด และค่อยๆเพิ่มน้ำจนปั้นก้อนแป้งได้ นวดต่ออีกหนอ่ยให้แป้งเหนียว แล้วปั้นก้อนค่ะ เอานิ้วก้อยกดให้เป็นรูไว้ด้วยนะคะ ไว้ใส่ตาดำค่ะ












3. ต้มในน้ำเดือดจนขนมสุก (ลอยได้)






4. แช่น้ำเย็นค่ะ






5. ตัดสตรอเบอรี่เป็นชิ้นเล็กๆแล้วอัดใส่รูค่ะ ควรจะอัดใส่ตอนแป้งยังอุ่นนิดๆเพราะแป้งจะยังปั้นได้ง่ายค่ะ บีบๆให้มันอยู่หน่อยนึง ^^






6. แช่ไว้ในน้ำเย็นจัดค่ะ  พอเย็นดี ก็เอาขึ้นจากน้ำ วาดขอบตาด้วยชอกโก้ค่ะ






ส่วนที่สอง Green Tea Mousse



สูตรนี้จะไม่แข็งมากแต่เข้มข้น หอมมันสุดๆค่ะ อยากให้เนื้อแข็งหน่อย ก็ใส่เจลลาตินเพิ่มซักครึ่งแผ่นนะคะ





  • นม  1 ถ้วย




  • ไข่แดง 3 ฟอง




  • แป้งข้าวโพด 25 g




  • แป้งสาลี 25 g




  • น้ำตาล 60 - 125 กรัม แล้วแต่จิ้มดูดเอาตามชอบ เช้าจำไม่ได้ว่าใส่เท่าไหร่ แต่อยู่ในเรนจ์ประมาณนี้อะค่ะ




  • ชาเขียวแบบผงสำหรับขนม 3 ช้อนชา (ใช้แบบผงชงกินก็ได้แต่เปลืองชะมัดค่ะ)




  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา




  • วิปครีม 200 g




วิธีทำ





  • เริ่มต้นด้วยอุ่นนมให้ร้อนแต่อย่าให้เดือด ละลายชาเขียวลงไป .ใส่กลิ่นวานิลลาค่ะ




  • ตีไข่กับน้ำตาลให้เข้ากันใส่แป้งตีลงไปตีให้แป้งแตกค่ะ แล้วเทนมอุ่นๆลงไปผสมให้เข้ากัน แล้วกรอง 1 ที




  • นำขึ้นตั้งไฟอ่อนค่ะ ใครใคร่ตุ๋นก็จะดีมาก แล้วคนเรื่อยๆค่ะ ห้ามหยุดคนเด็ดขาด จนกะทั่งซอสข้นค่ะ ก่อนซอสข้นจิ้มดูดได้ ว่าหวานพอยัง ไม่หวาน ชาเขียวไม่เข้ม ให้รีบแต่งรสก่อนจะข้น อิอิ พอซอสข้นให้คนต่ออีกซักพักให้อยู่ตัวก่อนคะ ถึงจะยกลง




 








  • ทิ้งซอสให้เย็นค่ะ แต่ว่าต้องขนไปเรื่อยๆแม้จะยกลงจากเตาแล้วซักพักนะคะ พออุ่นๆ ก็เปลี่ยนภาชนะ แล้วหา film wrap มาปิดหน้าครีมข้นๆนี้ไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวมันชักหน้า




  • ตีวิปครีม 250 g ให้ตั้งยอดกลางค่ะ เวลาตีเหมือนเดิมค่ะ คือเอาน้ำแข็งรอง แล้วแช่อุปกรณ์ทุกอย่างให้เย็นจัดในช่องฟรีสก่อนค่ะ




  • Fold วิปครีม 1/3 ส่วนลงในส่วนของซอสที่กวนไว้ตอนแรก  จากนั้น เทส่วนผสมที่เข้ากันแล้ว กลับลงไปในอ่างวิปครีมที่เหลือค่ะ fold ให้เข้ากัน เบามือ แต่ทั่วถึง และเร็วนะคะ 







ต่อมาเป็นดังโกะ ไซรับค่ะ



1. น้ำเชื่อมค่ะ เคี่ยวเอาให้เหนียวๆหน่อย แต่ไม่ต้องเป็นคาราเมลนะคะ



2. โชยุนิดเดียว เอากลิ่นไม่เอารสเค็มเท่าไหร่ค่ะค่ะ  ให้เค็มนิดเดียวพอ เค็มมากจะประหลาดๆ



 






พอจะมาประกอบร่าง ก็เริ่มจาก



1. เอาสีผสมอาหารแต่งดวงตาให้เป็เส้นเลือด






2. เทไซรับก่อน



3. ตักมูสใส่



4. หยอดลูกตา



 



จบค่ะ!!!



ชมภาพกันได้เร้ยย เย้



เอาไปให้ใครกินก็บอกว่า มูสอร่อยมาก!! แต่ว่า หน้าตาสยองสุดๆ



 






 






 






 



ยังไงก็ Happy Halloween นะคะ



 





 

Create Date : 28 ตุลาคม 2552    
Last Update : 28 ตุลาคม 2552 16:47:27 น.
Counter : 2703 Pageviews.  

...Sour Apple Sherbet in Meringue Nest...


เย่ ไอติมๆๆๆ ในที่สุดก็ทำไอติมกะเค้าซักที ฮ่าๆๆ หลังจากปรึกษาพี่บัวคนเก่งอย่างถี่ถ้วน และวิเคราะห์เจ้า Grandmanier Sherbet ของพี่บัวมาอย่างดี แต่ด้วยความอยากลองของแปลก เลยไปคว้าขวดเจ้านี่มาซะ มีแอลกอฮอลนิดหน่อยพอให้เลือดลมสูบฉีดค่ะ เห็นพี่บัวบอกว่าเคยลองครีมเบสแล้วไม่ชอบ เช้าก้เลยลองบ้างว่าครีมเบสเป็นไง 555 (ไม่ชอบยังไงต้องทดลอง) แต่ไม่รู้ว่าครีมเบสพี่บัวเป็นยังไง แต่ของเช้าเป็นแบบนี้ ฮ่าๆๆ ออกมาก็ชอบแหละค่ะ คราววหน้าต้องลองแบบไม่มีครีม

แต่วันนี้บอกไว้เลยว่าวิธีทำไม่ละเอียดอย่างยิ่ง เพราะว่าตอนทำตอนเช้านี่ ทำตอนอารมเสียค่ะ ><



 



พอเขย่าๆออกมาก็ได้อย่างนี้ค่ะ



ส่วนประกอบของจานนี้นะคะ



1. ไอศครีม Sour Apple Sherbet



2. Meringue



3. Honey Vanilla Sauce (ใครจะทำ Vanilla Sauce อย่างเดียวก็ได้)



4. ชอกโกเล็ตละลายไว้เขียนลายจานค่ะ



5. ผลไม้ตามชอบ



 



วิธีทำเริ่มต้นด้วยไอศครีมก่อนเลยค่ะ






ในรูปนี่แหว่งไปแล้ว ><



ส่วนประกอบ



น้ำตาล 1/3 ถ้วย



น้ำมะนาวเหลือง (Lemon) 2 ลูก



นมจืด 1/2 ถ้วย



ครีม 1/2 ถ้วย



Sour Apple 90 ml



(กัวร์กัมซัก1/2 ช้อนชาค่ะ ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ แต่ควรอุ่นนมให้ร้อนแล้วละลายกัวกัมก่อนแล้วค่อยผสมอย่างอื่น)



วิธีทำนะคะ ง่ายมาก!



1. เททุกอย่างให้เข้ากัน แล้วเอานิ้วจิ้มดูด หวานน้อย เปรี้ยวน้อยไปก็ใส่มะนาวน้ำตาลเพิ่มตามสะดวกค่ะ



2. แช่ส่วนผสมข้างต้นไว้ในช่องฟรีสให้เย็นจัดแต่ไม่แข็งก่อนค่ะ (ซัก 1 ชั่วโมงอย่าเกินนะ)



3. Start เครื่องปั่นไอติมก่อนเทส่วนผสมใส่นะคะ กันส่วนผสมแข็งตัวก่อนวัย และเวลาอันควรในบางส่วน



4. เทส่วนผสมลงไป ทิ้งไว้เลยค่ะ มันจะค่อยๆข้นขึ้นๆ จนข้นคลัก (แต่จะยังไม่ค่อย set ตัวอะค่ะ) เทใส่กระปุกพลาสติกแช่ฟรีสทันที ถ้าใส่เหล้าพี่บัวแห่งพันทิพแนะนำว่าให้แช่ทิ้งไว้นานน๊านนนานๆเลย เพราะเหล้าจะทำให้เซ็ทตัวยากค่ะ



ส่วนต่อมานะคะ เป็นส่วนของซอส



เป็นหลักสูตรจิ้มดูดค่ะ



1. ไข่แดงประมาณ 2 ฟอง



2. นม 1 1/2 ถ้วย



3. ครีม 1/2 ถ้วย



4. วานิลา 1/2 ฝัก



5. น้ำผึ้งพอหอม



6. น้ำตาลตามชอบเลยค่ะ จิ้มดูดเอา



7. แป้งข้าวโพดซัก 1/2 -1 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำ



1. ผสมครีมน้ำตาลและไข่แดงค่ะ



2. ต้มนมให้ร้อน (ห้ามเดือด) กรีดฝักวานิลลาขูดเม็ด ใส่ลงไปด้วยค่ะ  ทั้งฝักทั้งเม็ด 



3. เทส่วนผสมที่ได้ลงในส่วนของไข่แดงค่ะ



4. คนแป้งลงไปค่ะ ให้ละลายให้หมด



5. ตั้งไฟอ่อนค่ะ คนตลอดเวลาห้ามให้มีส่วนใดของกะทะไม่ถูกคน ถ้าใครใคร่จะตุ๋นก็ตุ๋นค่ะ จะดีกว่า คนไปเรื่อยๆจนกว่าส่วนผสมจะข้นเป็นซอสค่ะ ถ้ามีอาการเป็นก้อน ให้รีบยกลงแล้วคนเร็วๆ ก้อนเหล่านั้นจะแตกได้หากรีบคนให้ทันท่วงทีค่ะ คนไปเรื่อยๆต่อไปอีกหน่อยหลังจากที่ข้นแล้วค่ะ (แบบว่าเอาให้ข้นชัวร์) แล้วยกลงมาคนต่อจนกะทะหายร้อน แล้วกรองลงถ้วยเลยค่ะ เอา film wrap ปิดหน้าไว้กันมันชักหน้าตึง



ส่วนต่อไปเมอแรงค่ะ



ไข่ขาว 2 ฟอง (จากการทำซอส)



น้ำตาล 115 g



วิธีทำ



1. ตีไข่ขาวให้เป็นฟองฟอด ค่อยๆเทน้ำตาลลงไปตีด้วย เทลงทีละนิดนะคะ ตีไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลหมด



2. พอไข่ขาวตั้งยอดแข็ง ตีไปเรือ่ยๆอีกจนน้ำตาลละลายหมด ให้ลองเอานิ้วบี้ดูค่ะ ว่าหมดเม็ดน้ำตาลยัง



3. บีบเป็น Nest ค่ะ ถ้าเหลือ ก็บีบเป็นรูปอะไรก็ได้ที่ชอบ 55



4. จากนั้นอบ 100 - 110Cนานชั่วโมงครึ่ง แล้วทิ้งให้เย็นในเตาค่ะ จบข่าว ^^ ง่ายมะล่า



 ผลไม้ - เศษ ผลไม้จาก Central Food hall ถาดละ 50 ค่ะ



ชอกโก้ - ชอคชิพแบบขมของเฮอชี่



จากนั้นก็เอามาประกอบร่างค่ะ






1 เริ่มด้วย ละลายชอกชิพด้วยไมโครเวฟแล้วใส่ถุงใส่บาตรตัดปลายค่ะ วาดลายลงบนจาน



2. ละเลงซอสลงในลายค่ะ ถ้าเทซอสมากไปมันจะกระฉุดออกนอกลายเล็กน้อย 555 (แบบเช้าทำ)



3. เรียงผลไม้ให้สวยงาม



4. ตักไอซครีมลงวางแปะ



มองจากด้านบนเป็นเยี่ยงนี้ค่ะ






เห็นมั้ยว่าซอสเยอะไป 555



ต่อมาเป็นอีกจานค่ะ ไอติมน้อยหน่อย ขอซอสกับผลไม้เยอะๆ 55






จบแล้วค่ะ เดี๋ยวมีอะไรจะเอามาลงอีกนะ ขอโทษจริงๆที่รูปน้อย พอดีอารมบูด เพราะหาของไม่เจอค่ะ 555555555





 

Create Date : 07 กันยายน 2552    
Last Update : 7 กันยายน 2552 10:42:58 น.
Counter : 2777 Pageviews.  

Ultimate Roll : Colour, Flavour and Glitter !! : Banana Chocolate Cheese Roll...

 


เรื่องมันมีอยู่ว่า คุณพี่บัวได้ลองส่งโจทย์ของฟาร์มไก่ให้มาลองทำค่ะ เป็นโปรเจ็คพิเศษที่ลองให้คนนอกฟาร์มทำบ้าง เราก็เลยเอากะเค้าบ้าง~ เย่ แต่ต้องขอสารภาพบาปว่า เคยทำโรลอยู่ไม่เกินสี่ครั้ง แต่ละครั้งออกมาหน้าตาดูไม่ค่อยจะได้เลย รวมถึงครั้งนี้ด้วย คือเช้าม้วนไม่เป็นหน่ะค่ะ 5555


มาดูกันก่อนเลยว่า ลูกผสมของเช้ามันมาได้ยังไง ตอนแรกคิดเป็น ชอกโก้ ชีสเค้กโรลค่ะ แต่พอดีบังเอิ๊นบังเอิน กินบราวนี่ชีสเค้ก กับกล้วยหอม ก็เลยค้นพบว่า เฮ้ยย อร่อย ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ผิด Logic แต่อย่างใด เพราะว่า


ชอกโก้ + กล้วย = อร่อย


กล้วย + ชีสเค้ก = อร่อย


ชอกโก้ + ชีสเค้ก = อร่อย


ดังนั้นถ้าเอาตัวแปรทั้งสามมาชนกันมันก็ควรเป็นอร่อยชิมิ


 


ออกมาก็ได้หน้าตาเช่นนี้ค่ะ



 


ส่วนประกอบของเค้กนี้มีดังนี้นะคะ


1. เนื้อเค้ก


2. วิปครีม


3. ชอกโกเล็ตบรั่นดีครีม


4. ชีสเค้ก


5. น้องกล้วยหอม


มาดูสูตรแป้งก่อนเลยค่ะ เช้าไปแฮ๊บสูตรมาจากหนังสือ กอดองเบลอ แบบเบลอๆ ออกมาก็งงๆ ดังนี้ค่ะ


 



  • ไข่ไก่เบอร์(0) 5 ฟอง แยกไข่แดง ไข่ขาวค่ะ ห้ามมีเศษไข่แดงลงไปในไข่ขาวเด็ดขาดเลยนะคะ

  • น้ำตาล 140 กรัมค่ะ ของที่บ้านเช้า เอาน้ำตาลหมักกิ่งวานิลลาที่เหลือไว้อยู่แล้วเลยไม่ได้เติมกลิ่นวานิลลาค่ะ

  • แป้งสาลี 60 g

  • แป้งข้าวโพด 20 g

  • ผงโกโก้ 40 g ค่ะ

  • อันนี้เช้าแอบใส่ผงฟูลงไป 3/4 ช้อนชาด้วย กลัวไม่ฟู เอริ๊ก


วิธีทำ



  1. Preheat 180 C ปูถาดด้วยกระดาษรองอบค่ะ

  2. เริ่มต้นด้วย ตี ไข่แดง กับน้ำตาล 100 กรัมก่อนค่ะ เวลาตีให้รองด้วยอ่างน้ำร้อนค่ะ แต่เช้าไม่ได้ทำ เพราะขี้เกียจ 555 เค้าบอกว่าทำแบบนี้ มันจะทำให้เค้กนุ่มขึ้นค่ะ จนกระทั่งข้น และซีดขึ้นค่ะ ยกแล้วเป็นสายๆ

  3. จากนั้นก็ตีไขขาวกับน้ำตาลที่เหลือให้ตั้งยอดกลางค่ะ ค่อยๆใส่น้ำตาลทีละนิดนะคะ ทะยอยใส่ อย่าเทโคร่ม เดี๋ยวมันแป๊ก (เค้าให้หล่อน้ำร้อนเหมือนกัน เช้าก็ไม่ได้ทำ เพราถือว่าเมืองไทยเราร้อนแล้ว ฮ่าๆๆ)

  4. Fold ไข่ขาวลงไข่แดงค่ะ

  5. ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวโพด ผงฟู และผงโกโก้รวมกันค่ะ แล้วFold ลงไปใน Mixture ของไข่ค่ะ

  6. เทใส่พิมพ์ค่ะ

  7. เช้าอบประมาณ 15 -20 นาทีค่ะ รอเค้กสุก หน้าแห้งแล้วค่อยเอาออกจากเตาค่ะ

  8. เช้าผึ่งไว้จนเย็นค่ะ


 


อันนี้ภาพไข่ขาวค่ะ


ตอนอบเย่



 


ส่วนชีสเค้ก เช้าใช้สูตรเดียวกับ Brownie bite Cheese cake ที่เคยลง exteen ค่ะ ตาม link เลยนะคะ น่าจะละเอียดกว่า //chibiasa.exteen.com/20080419/brownie-bite-cheese-cake


ลงให้แต่สูตรน้าา(สูตรนี้ทำแล้วเหลือนะคะ ยังไงหารลงอีกก็ดี)


ส่วนชีสเค้ก



  • ครีมชีส ก้อนครึ่ง (ก้อนละ 223g ค่ะ)

  • น้ำตาล 1/2 + 1/6 ถ้วย

  • แป้งเค้ก 1+1/2 ช้อนโต๊ะ

  • วานิลลา 1 ชอ้นชา

  • ไข่ 2 ฟอง

  • วิปครีม 1/3 ถ้วย



ส่วนวิปครีม


ต้องขออภัยไว้ณที่นี้ด้วยค่ะ เพราะว่าเช้าไม่ได้ตวง ตีเผื่อสำหรับชอกโก้ครีมเลยค่ะ


เอาไอซิ่ง ผสมกับวิปครีม ปริมาณตามความพอใจ จิ้มดูดแล้วไม่หวานไป แล้วก็ตีให้ัขึ้นยอดเลยค่ะ


 


ส่วนครีมชอกโกเล็ต



  • เอาวิปครีมที่เหลือจากการม้วน Roll

  • ละลาย Dark Choc 72%

  • Fold ครีมกับ VSOP ซักช้อนโต๊ะ แล้วค่อยนำไป fold ลงชอกโก้ละลายค่ะ ต้อง fold ตอน ชอกโก้ยังอุ่นๆอยู่นะคะ มันจะได้ละลายเข้ากับครีม แต่ถ้าร้อนไปครีมจะละลายแทน อิอิ (fold ครีมไปก่อน 1/3 พอเข้ากันค่อย fold ที่เหลือน้า)


 


วิธีประกอบร่างนะคะ



  1. ปาดครีมลงไป เรียงกล้วยและชีสเค้กที่หั่นเป็นแนวยาวไว้คู่กัน แล้วม้วนค่ะ

  2. แช่เย็นให้มัน set หน่อย

  3. ระหว่างนั้นทำครีมชอกโก้ค่ะ

  4. ปาดครีมตกแต่ง

  5. แช่เย็นอีกทีค่ะ

  6. เอาออกมาตัด อันนี้เช้าใจร้อน ตัดตอนมันยังไม่ set มาก แหะๆ ทานคู่กับกล้วย และบราวนี่ชีสเค้กที่เหลืออยู่

  7. บรรดาผู้ปกครองที่บ้านบอกว่าอร่อยดีค่ะ ^^ เหลืออยู่ปลายท่อน เพราะอัดกันไม่ลงแล้ว



ปาดชอกครีม



เอาหวีแต่งเค้กมาปาดให้สวยงาม ตกแต่งด้วยน้ำตาลปั้น จาก อัมพวา และเกล็ดน้ำตาลจาก Vanilla ค่ะ



ตัดแล้วเป็นอย่างเน้



มีกล้วยกับบราวนี่ชีสเค้กชิ้นเล็กๆมาให้ด้วยข้างนอก


แต่ถ้าดูข้างในจะเห็นกล้วยและชีสเค้กเป็นชิ้นๆค่ะ



เป็นผลงานส่งฟาร์มชิ้นแรกค่ะ ไม่สวยหน่อย ให้อภัยกันได้เน๊อะ ~



Free TextEditor




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2552    
Last Update : 28 กันยายน 2552 13:34:05 น.
Counter : 3273 Pageviews.  

Mom's Day: Redvelvet Chiffon Cake

สุขสันต์วันแม่ให้กับทุกๆคนนะคะ ใครทำอะไรให้คุณหม่ามี้บ้างเอ่ย บ้านเช้ามีคุณแม่สามแม่ แม่แรกคือแม่ของพ่อ (คุณย่า) แม่ที่สองคือคุณแม่ของเช้าเอง


 



 


และแม่ที่สาม คือแม่ของน้องหมา(เบงกอล)



 เช้าเลยทำอาหาร 3 Cause Menu เลี้ยงค่ะ 


จานแรกเป็น Sear Scallop Rocket Salad




จานที่สอง เป็น


Vanilla Cod with Cream Sauce, Balsami Syrup and Cream Mushroom/Spinach


สูตรอยู่ด้านอาหารค่ะ




บนเห็ดเป็นพามิเจียโน่ ขูดค่ะ


ตบท้ายด้วย Redvelvet Cake




 เอาละค่ะ มาดูวิธีทำ Red Velvet แบบไม่ Original กันค่ะ ที่บอกไม่ Original นั้นเพราะว่าเนื้อเค้ก Red Velvet จะต้องเป็นเค้กเนยค่ะ แต่เช้าว่าเค้กเนยมันมันไปสำหรับเค้กตัวนี้ เลยเปลี่ยนเป็นชิฟฟ่อน ที่ใช้เนยClarify Butter แทนค่ะ (คือเอาความชื้น และโปรตีนในเนยออกให้หมด) มันจะแน่นกว่าชิฟฟ่อนปกติหน่อยนะคะสูตรนี้ แต่จะเบากว่าเค้กเนย คือพยายามให้มันไม่ทิ้งลุคเก่าๆไปด้วยหน่ะ ส่วนตัวครีม ก็ประกอบไปด้วย วิปครีม ครีมชีส และ มาสคาโปเน่ ค่ะ ไม่อ้วนให้รู้ไป 5555  ลองมาดูองประกอบกันเลย


งานนี้ต้องทำ 3 ส่วน


1. RED CHIFFON


2. RUM SYRUP


3. CREAM&CHEESE FROSTING


แต่จะบ่นนิสนึงว่างานนี้ ทำกันกล้ามขึ้นเลย เพราะว่าเครื่องตีเสียค่ะ ! เสียฉลองวันแม่เลย ทุกอย่างนี้ใช้ตะกร้อมือตีเอาหมดเลยนะ = ="~


เริ่มต้นที่ RED CHIFFON



ส่วนผสม




  • ไข่แดงไข่ไก่ 4 ฟอง



  • ไข่ขาวไข่ไก่ 4 ฟอง



  • แป้งเค้ก 130 g



  • ผงฟู 1 ช้อนชา



  • เกลือ 1 หยิบมือ



  • เนยClarify Butter 60 g



  • น้ำตาล 60 g สำหรับไข่แดง



  • น้ำตาล 50 g สำหรับไข่ขาว



  •  วานิลลา 1 ช้อนชา



  • ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ



  • สีแดง 8 ml (ใช้เยอะเหมือนกันอะค่ะ)



วิธีทำ


Preheat 180 C รองกระดาษอบที่ก้นพิมพ์ให้เรียบร้อย


1. ตีไข่แดงกับน้ำตาลก่อนค่ะ เพราะว่าไข่แดงทิ้งไว้นานเดี๋ยวเป็นลิ่ม ตีให้ขึ้นฟูซีดยกตะกร้อแล้วไหลเป็นเส้นได้เลยนะ



2. ร่อนแป้ง ผงฟู ผงโกโก้ และ เกลือ เข้าด้วยกันค่ะ


3. ล้างตะกร้อให้สะอาด เอามาตีไข่ขาวกับน้ำตาล โดยคอ่ยๆใส่น้ำตาลทีละนิด แล้วตั้งยอดกลางค่ะ


4. เอาของเหลวที่เหลือผสมในอ่างเดียวกันค่ะ



5. Fold ไข่แดงลงของเหลว ผสมอย่างเบามือให้เข้ากัน


6. ใส่แป้งลงไปค่ะ คนพอเข้ากัน ห้ามคนนาน และห้ามคนแรง



7. Fold ไข่ขาวลง โดยใส่ไปก่อน 1/4 ส่วน ผสมให้เข้ากันดี แล้วผสมที่เหลือตามไปค่ะ



8. อบ 25-35 นาที หรือจนกว่าเค้กจะสุกค่ะ แล้วแต่ขนาดพิมพ์ และเตาอบใครเตาอบมัน


9. สุกแล้ว ทิ้งให้เย็น เอามาแยกชั้นตามชอบเลยจ๊ะ



ส่วนที่สอง RUM SYRUP



ง่ายมาก เอาน้ำตาล + น้ำ และรัมตามชอบ ไปต้มค่ะ พอน้ำตาลละลายก็ยกลง ของเช้าพอยกลงแล้วใส่รัมเพิ่มอีกซักฝานึง เพื่อความเจ้มจ้น 5555



ส่วนครีม



วิปครีม 1 + 1/2 ถ้วย


ครีมชีส 200 g


มาสคาโปเน่ชีส 200 g


ไอซิ่ง 1/4 + 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าใครชอบหวานจะเพิ่มก็ได้ค่ะ)


วิธีทำ


1. ตีวิปครีมให้ขึ้นฟูก่อนค่ะ เอาแบบว่าตั้งยอดพอดี อย่ามากไปเดี๋ยวแตก เพราะเดี๋ยวต้องไปผสมกับครีมอีก



2. ตีครีมชีสกับไอซิ่งให้อ่อนตัว และเป็นครีมค่ะ


3. เอามาสคาโปเน่ ค่อยๆผสมลงส่วนครีมชีสอย่างเบามือ คนๆเอาค่ะ ห้ามตี


4. เอา Whipcream Fold ลงไปเลยค่ะ


 ทีนี้ก็ประกอบร่าง


1. ทาน้ำเชื่อมให้ทั่วชั้น แล้วปะครีมสลับชั้นค่ะ



ตกแต่งตามชอบ



 


 จบแล้ว!! หั่นแล้วเป็นเยี่ยงนี้ค่ะ โชว์ๆ



ถ้าใครเลี่ยนราดซอสราสเบอรี่ก็ได้นะจ๊ะ  Homemade เหมือนเดิมจ๊ะ



หลังจากนั้น เช้าก็ไปเดินถ่ายรูปไฟมานิดๆหน่อยๆด้วย


 





หลังจากชี้กองนี้ ก็ได้น้องม้าบินตัวละ 50 บาท ถือกลับบ้าน 555  


จบวันแม่แล้วหล่ะ



Free TextEditor




 

Create Date : 13 สิงหาคม 2552    
Last Update : 13 สิงหาคม 2552 11:10:23 น.
Counter : 3637 Pageviews.  

Caramel Apple Upside Down Cake!!


ขอบ่นๆ ช่วงนี้เหมือนจะเป็นไซนัส ทำให้เหมือนว่าปวดเบ้าตา หัวตันๆ และเสี่ยงต่อการเจ็บตาอีกแล้ว T-T เลยต้องกลับมาเป็นสาวแว่นอีกแล้วค่ะ ลืมคอนแทคไปได้เลย ฮือๆๆ  กัวแก่ เลยต้องถึงเปียสองข้างอำพรางอายุ ฮ่าๆ






วันนี้มาทำApple Upsidedown ร้อนๆกันดีกว่า~ จริงๆจะกินร้อน กินเย็นก็ได้ แต่เช้าชอบกินร้อนๆแหละ กะไอติมวานิลลา หรือวิปครีมเย็นๆนะ โอ้ว เลย แต่วันนี้มาแบบไม่มีไอติมค่ะ ไดเอ็ทๆ






 



ทำ Individual Size หอมกรุ่นๆ



วิธีทำไม่ยากค่ะ แบ่งเป็นสามส่วน ส่วนคาราเมล ส่วนแอบเปิ้ล และส่วน บัตเตอร์เค้ก



เริ่มจากการเตรียมคาราเมลก่อนเลย






Caramel



น้ำตาล 1 ถ้วย น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย น้ำ 1 ช้อนชา



วิธีทำ



นำน้ำ 1/4 ถ้วย ใส่กับน้ำตาล ตั้งไฟ คนให้พอละลาย แล้วอย่าคนอีกค่ะ ทิ้งไว้จนได้สีทอง ยกลงใส่น้ำอีก 1 ช้อนชา ระวังมันเดือดระเบิดนะคะ จากนั้นเทลงพิมพ์ที่เตรียมไว้เลยค่ะ



ต่อมาส่วนของ Apple นะคะ



ส่วนผสม





  • Green Smith Apple ประมาณ 4 ลูก




  • น้ำตาลทรายแดง ผสมกับผง ซินาม่อน ตามชอบ




  • น้ำเกลือ




วิธีทำ





  1. ปอกแอปเปิ้ลค่ะ แช่น้ำเกลือไว้ก่อนหั่น




  2. ปอกเสร็จนำมาหั่นแบ่งสี่ด้าน ให้เหลือแกนตรงกลาง แล้วซอยเป็นชิ้นหนาประมาณสองมิล




  3. ซอยแล้วชุบน้ำเกลืออ่อนๆซักรอบค่ะ




  4. นำแอปเปิ้ลมาเรียงบนคาราเมลให้สวยงาม ถ้าเรียงเละๆหน้าขนมก็เละๆนะ 555




  5. เรียงสองชั้น หลังเรียงเสร็จแต่ละชั้นให้เอาน้ำตาลทรายแดงผสมซินาม่อนโรยตามชอบค่ะ เช้าโรยบางๆโรยมากๆมันจะหวานไป ไม่เปรี้ยว
















สุดท้าย ส่วนผสมของเค้ก



ส่วนผสม





  • แป้งอเนกประสงค์ 105 g




  • น้ำตาลไอซิ่ง 125 g




  • เนย 150 g




  • ผงฟู 1/4 ช้อนชา




  • เกลือ 1 หยิบมือ




  • ไข่ 3 ฟอง




  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา + VSOP 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)




วิธีทำ





  • เหมือนในกระทู้ Butter เค้ก อันที่แล้วเลยค่ะ ขออนุญาติไม่ลงละเอียดนะ




  • ร่อนแป้ง เกลือ ผงฟู เข้าด้วยกัน




  • ผสมไข่ กับกลิ่นวานิลา และเหล้าเข้าด้วยกัน




  • ตีเนยกับไอซิ่งให้ขึ้นฟูขาวเป็นสองเท่า




  • ค่อยๆใส่ไข่ทีละ 1/5 ส่วน ตีให้เข้ากัน จนไข่หมด




  • ใส่แป้งลงไป ตีต่อซัก หนึ่งนาที ถึงสองนาที




  • เทใส่พิมพ์ที่ราดคาราเมล แล้วทาเนยรอบๆด้านที่เหลือแล้ว




  • อบ 170 C ถ้าเป็น individual เล็กๆ ก็ 45-60 นาที ถ้าอันใหญ่ก็ 1.5 ชั่วโมง หรือจนหน้าเป็นสีเหลืองทองค่ะ




  • เอามีดเล็กๆ ปาดรอบๆพิมพ์ก่อนค่ะ คว่ำเค้กออกมาเลยค่ะ ทิ้งเวลาไวเล็กน้อยให้คาราเมลซึมเข้าเนื้อ แล้วยกพิมพ์ขึ้นมา




อรอ่ยกันได้เล้ยย






 นอกจากนี้เมื่อวันเสาร์



ยังได้ไปกินซูชิที่ Miyatake มาแหละ



สั่ง Akami + Otoro มา อร่อยลอยได้เลย ^^/



 






แว๊บเดียวกินราบคาบ






แล้วก็พานู๋เบงกอลไปพบปะเพือนฝูงที่ Ozono Plaza ด้วยแหละ ไปครั้งแรกก็ดมไปทั่วเล้ยย






ที่นี่ที่ไหนคะหม่ามี้~






ไอ้นี่ตัวไรอะหม่ามี้~






ดมๆ ตัวนี้หน้าเหมือนนู๋เบ้งเลย แต่ผอมกว่าพันเท่า = ="



น้องหมานิรนาม: "พี่ๆ ลูกสาวพี่อ้วนชะมัดเลย"



เช้า: "ฮือๆๆ"






เสือตะลุยทุ่ง!



 จบแล้วค๊าบบบ ชีวิตเสาร์อาทิตย์ของเช้า เข้าสู่มนุษย์เงินเดือนจ - ศ ต่อไป



 





 

Create Date : 10 สิงหาคม 2552    
Last Update : 10 สิงหาคม 2552 11:39:13 น.
Counter : 3062 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

Chibiasa
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




I'm a cat but not just a CAT.
Friends' blogs
[Add Chibiasa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.