"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็น ใครคนหนึ่งที่รอเธอ" เป็นตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 349 ผู้ตั้งโจทย์ คือ คุณ กะว่าก๋า คำอธิบายโจทย์ (แนวทางการเขียน) ใช้โจทย์เขียนงานที่สื่อแสดงถึงอารมณ์ความรู้สึก ความอ้างว้าง การรอคอย และ ความรัก "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" หัวข้อ ตะพาบครั้งนี้ยาวเป็นวา เลยนะเนี่ย จุดประสงค์ของผู้ตั้งโจทย์ ต้องการให้ผู้เขียน เขียนถึงอารมณ์ความรู้สึก ในเรื่องความอ้างอ้าง การรอคอย และความรัก สำหรับฉัน เรื่องความอ้างว้าง ก็มีบ้างนะในช่วงเป็นสาว มีความรัก แล้วต้อง เลิกรากันไป แต่ก็เป็นอารมณ์เช่นนี้ในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เพราะชีวิตคนเราต้องดำเนินกันต่อไป ประกอบกับอาชีพของฉัน หน้าที่ การงานของฉัน อยู่กับเด็ก ๆ ที่ต้องสอน ต้องอบรม มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อเด็กที่เราสอนด้วย ความอ้างว้างย่อมอยู่กับเรา ไม่นานนัก เพราะเรามีเด็ก ๆ ห้อมล้อมเรา ทำกิจกรรมร่วมกัน ถ้าว่าไปแล้ว ความอ้างว้างที่ฉันพบและความอ้างว้างนี้ อยู่กับฉันยาวนานมากหลายเดือน คือ การจากไป ของแม่ในปี 2529 อารมณ์การรอคอย ก็มีบ้าง สาว ๆ มีความรัก เมื่อเขา สารภาพรักแล้ว อารมณ์รอคอยเรื่องที่จะให้เขา ขอแต่งงานก็ต้องมีเป็นธรรมดา ใช่ไหมล่ะ อิอิ แต่เมื่อดูแล้ว ไปกันไม่รอด ฉันก็เป็นฝ่ายขออำลาจากไป ก็เสียใจ เสียความรู้สึก เสียเวลาที่คบหากันมานาน แต่ไม่ได้เสียดาย ไม่มีเขา เราก็อยู่ได้ ดังนั้น อารมณ์ตามที่โจทย์ต้องการให้ฉันเขียน จึงไม่มีอะไรเขียนมากนัก ขอฝากเพลง "ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก" ของ ธานินทร์ อินทรเทพ น่าจะตรงกับจุดประสงค์ของโจทย์นี้ ได้บ้างนะ อิอิ
เพลง ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก ผู้ขับร้อง ธานินทร์ อินทรเทพ
ใจจริงส่วนลึกฉันเองยังรักเธอ อภัยเสมอแม้เธอใจแสนดำ เธอต้องการสิ่งใดใด เพียรหาให้อยู่ประจำ ไม่เคยกระทำให้เธอหมองหม่น เธอคงไม่ซึ้งในค่าของคำรัก เพราะคนบอกรักเธอมีมากหลายคน คนภักดีอย่างจริงใจ เธอมิเคยใส่กมล ลวดลายสับสนวกวนอุรา ฉันจึงจำตัดใจ หลีกทางห่างไกล หนีภาพคอยบาดตา จงโชคดี ดั่งที่ปรารถนา ถึงฉันคนไร้ค่า คงมีวันหาได้ใหม่ วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก วันไหนสำนึกแล้วเธอจะเสียใจ มีแก้วงามอยู่ในมือ เธอมิเคยห่วงอาลัย ต่อวันหลุดไปจึงค่อยคร่ำครวญ ฉันจึงจำตัดใจ หลีกทางห่างไกล หนีภาพคอยบาดตา จงโชคดี ดั่งที่ปรารถนา ถึงฉันคนไร้ค่า คงมีวันหาได้ใหม่ วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก วันไหนสำนึกแล้วเธอจะเสียใจ มีแก้วงามอยู่ในมือ เธอมิเคยห่วงอาลัย ต่อวันหลุดไปจึงค่อยคร่ำครวญ
ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก
Create Date : 07 เมษายน 2567 |
Last Update : 8 เมษายน 2567 8:12:29 น. |
|
21 comments
|
Counter : 354 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณmultiple, คุณ**mp5**, คุณกะว่าก๋า, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณpeeamp, คุณทนายอ้วน, คุณปัญญา Dh, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณtanjira, คุณSweet_pills, คุณดอยสะเก็ด, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณคนผ่านทางมาเจอ |
โดย: multiple วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:9:06:31 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:11:12:22 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:11:47:31 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:20:28:59 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:21:00:34 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:21:10:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2567 เวลา:6:02:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2567 เวลา:18:16:45 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 9 เมษายน 2567 เวลา:19:36:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2567 เวลา:6:09:12 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2567 เวลา:13:27:06 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:0:12:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:5:30:06 น. |
|
|
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:12:40:17 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:15:34:12 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:18:40:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2567 เวลา:6:10:56 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 12 เมษายน 2567 เวลา:6:40:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|
นักร้องชายท่านแรก เจ้าของโจทย์ กะว่าก๋า ณ เชียงใหม่
มาในเพลง ชื่อยาวเป็นวา ผ่านๆไปแล้ว แฮ่
นักร้องหญิงท่านต่อมา อาจารย์ สุวิมล ณ ธาตุทอง
ใช้เพลง ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก ชองคุณอาธานินทร์ เย้ย 555
อ.เต๊ะ ในฐานะพิธีกร ต้องบอกว่าไพเราะทั้งคู่
หนักใจกรรมการตัดสินมากเลยเชียวนะครับ 555
เรื่องแต่งงานหรือไม่แต่งนี่ เดี๋ยวนี้ ไม่มีปัญหา
เพราะ ผู้หญิงเก่งทัดเทียมผู้ชาย
เผลอๆ เก่งกว่าอีก อเต๊ะ ยังเคยมีหัวหน้าเป็นผู้หญิง
ทำงานเก่งมาก
อาจารย์สุ เข้มแข็งขนาดนี้
ถ้าสมัยโบราณออกรบ ละก็ ให้ อาจารย์สุต้องเป็น ช้างเท้าหน้า
อเต๊ะ ขอเป็น คนเก็บขี้ช้าง ข้าศึกมาประชิดตัว
อเต๊ะ จะได้เผ่นก่อนไงครับ เย้ย 555