ดอกโนรา
........
ชื่อท้องถิ่น สะเลา (เชียงใหม่) พญาช้างเผือก (แพร่)
กำลังช้างเผือก (ภาคเหนือ) แหนปีก (ภาคอีสาน)
กะลังจ่าง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
เป็นไม้พุ่มหรือไม้เถาขนาดใหญ่
สามารถเลื้อยไป ได้ไกลและรวดเร็ว ประมาณ 10 เมตร
เถาเป็นสีเขียว ลักษณะกลมเกลี้ยง เนื้อไม้แข็ง
ลำต้นแตกกิ่งก้านเล็ก และห้อยลง
ทรงต้นมีรูปร่างไม่แน่นอน
พบได้ตั้งแต่ประเทศอินเดีย จีน มาเลเซีย
ในไทย พบได้ทุกภาค โดยจะขึ้นตามป่าผลัดใบ ป่าดิบ
เขาและป่าชายหาด ตั้งแต่ระดับใกล้น้ำทะเล
ไปจนถึง 2,000 เมตร
ดอกโนรา ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง
ช่อดอกยาวประมาณ 9-22 เซนติเมตร
ดอกเป็นสีขาวหรือสีชมพูอ่อน กลางดอกเป็นสีเหลือง
ดอกมีกลิ่นหอมแบบอ่อนๆ คล้ายกลิ่นดอกส้มโอ
ดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบดอกมีขนาดไม่เท่ากัน
กลีบข้างจะพับลง ปลายกลีบจักเป็นฝอย
กลีบดอกมักยู่ยี่ ดอกมีเกสรเพศผู้จำนวน 10 อัน
และมี 1 อัน ที่ยาวเป็นพิเศษ
ส่วนกลีบเลี้ยงหรือกลีบรองดอกมี 5 กลีบ
โคนเชื่อมติดกัน มีกลีบหนึ่งมีต่อมนูน
ดอกจะบานอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน แล้วก็ร่วง
และจะมีดอกใหม่ทยอยบานอยู่เรื่อยๆ
ออกดอกในช่วงช่วงฤดูหนาว
คือช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน
ลักษณะของใบ เป็นรูปรีแกมขอบขนาน ปลายใบแหลม
โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบด้านบนเกลี้ยง
ส่วนท้องใบมีขน มีต่อมเล็กๆ อยู่ใกล้ฐานใบ
แก่นโนรา มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ
ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ