ดอกราชาวดีสีม่วง
...............
พันธุ์ไม้ต่างประเทศ ที่มีผู้นำเข้ามาปลูก และขยายพันธุ์ในไทย
ประมาณปี 2516 เป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่ายและรวดเร็ว
แค่หักกิ่งปักชำไว้เพียงสัปดาห์เดียว ก็จะงอกราก
และแตกตาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย มีหลากหลายสายพันธุ์
และลูกผสมที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
ชื่อสามัญ Summer lilac, Butterfly-bush,
Orange-eye butterfly bush.
ไม้พุ่ม มีขนกระจุกสั้นนุ่ม ตามกิ่งอ่อน แผ่นใบด้านล่าง
และช่อดอก กิ่งมักเป็น 4 เหลี่ยม หูใบขนาดเล็ก
รูปไข่เกือบกลม ยาว 1-6 มม. ใบเรียงตรงข้าม
แผ่นใบรูปขอบขนาน หรือรูปใบหอกแกมรูปไข่ ยาว 4-20 ซม.
ปลายใบแหลมยาว โคนใบรูปลิ่ม ขอบใบจักฟันเลื่อย
เส้นแขนงใบข้างละ 9-14 เส้น ก้านใบยาว 1-5 มม.
ช่อดอกแบบช่อกระจุก แยกแขนงสั้น ๆ ยาว 4-30 ซม.
ใบประดับที่โคนคล้ายใบ ใบประดับทั่วไปขนาดเล็ก รูปแถบ
กลีบเลี้ยงรูประฆัง ยาว 2-3.5 มม. ด้านนอกมีขนกระจุกสั้นนุ่ม
หรือเกลี้ยง กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยมแคบ ยาวได้ประมาณ 2 มม.
กลีบดอกสีม่วง บางครั้งสีขาว มีแต้มสีส้มที่ปากหลอด
กลีบดอก หลอดกลีบแคบ ยาว 0.6-1.2 ซม.
ช่วงบนมีขนยาวด้านใน กลีบรูปกลม ๆ ยาว 1.5-3 มม.
เกสรเพศผู้ติดประมาณกึ่งกลางหรือใกล้โคนหลอดกลีบดอก
รังไข่รูปไข่ ยาวประมาณ 2 มม. เกลี้ยงหรือมีขนเล็กน้อย
ก้านเกสรเพศเมียสั้น เกสรเพศเมียรูปกระบอง
ผลแห้งแตก รูปเรียวคล้ายรูปไข่ ยาว 5-9 มม.
เมล็ดรูปรี ยาว 2-4 มม. มีปีกทั้งสองด้าน
ดอกจะบานไล่กันตั้งแต่โคนช่อไปหาปลายราว 7-10 ดอก
จึงจะโรยหมดช่อ ออกดอกได้ตลอดปี
ต้นราชาวดีในประเทศไทยเรา นั้นมี อยู่ 3 ชนิด
คือ 1.ราชาวดีป่า 2.ราชาวดีสีขาว ชื่อสามัญ butterfly bush
และ 3.ราชาวดีสีม่วง ชื่อสามัญ butterfly bush;
summer lilac; orange eye)
ทั้งสามชนิดจัดอยู่ในวงศ์ BUDDLEJACEAE
ขอบคุณที่มา fb.Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ