Group Blog
All Blog
--- What I Talk About When I Talk About Running : MURAKAMI ---
























“...ไม่ว่าคุณจะเกลียด กึ่ง ๆ ครึ่ง ๆ หรือคลั่งไคล้ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรกับ ฮารูกิ มูราคามิ หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคุณเป็นอย่างยิ่ง

เมื่ออ่านจบแล้วความหมั่นไส้และอคติของคุณจะลดลงเมื่อได้รับทราบความมานะพยายามของเขา คุณจะรีบหยิบหนังสือที่คุณลังเลผัดผ่อนแล้วเล่าออกมาอ่าน ด้วยอยากเห็นผลงานจากการมีวินัยสูงขนาดนั้น

คุณจะได้สัมผัสกับเนื้อแท้ รู้จักวิถีชีวิต วิถีความคิด จากถ้อยคำของ “ฮารูกิ มูราคามิ” ตัวจริงเสียงจริง”

บางส่วนของคำนำสำนักพิมพ์เขียนไว้อย่างนี้บนหน้าหนังสือ “เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง” ของนักเขียนชื่อดัง มูราคามิ

เรื่องผลงานที่ผ่านมาอาจไม่ต้องพูดถึง เพราะคิดว่านักอ่านส่วนใหญ่พอจะคุ้นเคยกับผลงานและชื่อเสียงของนักเขียนท่านนี้ตามสมควร มีทั้งไม่ชอบและชื่นชอบผลงานจนกระทั่งคลั่งไคล้เป็นสาวก อยากรู้จักหรืออยากสนิทสนมกับตัวหนังสือของเขา อยากรู้ความคิด ความเป็นไปในชีวิต รวมไปถึงการใช้ชีวิตในการทำงานซึ่งข้าพเจ้าเห็นเป็นเรื่องปกติมาก แม้แต่ตัวเราเองยังไม่สามารถชอบงานของนักเขียนทุกคนไปเสียทุกเรื่องแม้จะเป็นงานของนักเขียนคนเดียวกันก็ตาม ไม่เพียงแค่นี้ หนังสือทุกเล่มก็ไม่ได้เหมาะกับคนทุกคนและแต่ละคนก็ไม่ได้เหมาะกับหนังสือทุกเล่มเช่นกัน ความชอบหรือทัศนคติเกี่ยวกับหนังสือก็มีมุมมองแตกต่างกันไปตามไม้บรรทัดและรสนิยมส่วนตัว
ข้าพเจ้าสนใจหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเนื่องจากกำลังหลงรักการออกกำลังกายด้วยการวิ่งอยู่ อยากอ่านความรู้สึกของคนอื่น ๆ ที่รักการวิ่งเหมือน ๆ กัน ไม่ว่าจะอยู่ในสาขาอาชีพไหน ๆ อยากรู้ว่าเขาคิดยังไง ออกแบบการวิ่งอย่างไรในแต่ละวัน อยากรู้ความคิดบนก้าววิ่งขณะนั้นว่าเหมือนหรือแตกต่างกับตัวเองอย่างไรบ้างนอกเหนือไปจากเรื่องสุขภาพหรือความสนุกสนานในเวลาว่าง

แต่สำหรับมูราคามินั้นมีความน่าสนใจขึ้นมาตรงที่ว่า เขาเห็นความสำคัญของการวิ่งและเป็นการออกกำลังกายให้แข็งแรงเพื่อการงานที่หนักหน่วง ใครล่ะจะเชื่อว่า งานเขียนเป็นการใช้พละกำลังมหาศาลขนาดนี้ เขาสามารถทิ้งงานที่ตีค่าเป็นก้อนเงินเม็ดงามจากธุรกิจเปิดบาร์แจ๊ซ ซึ่งบ่อยครั้งที่เข้านอนตอนรุ่งสางเพราะบาร์ปิดเที่ยงคืน กว่าจะเก็บกวาด ลงบัญชี นั่งคุยกันและดื่ม กว่าจะถึงบ้าน กว่าจะนั่งโต๊ะ ทำอาหาร เขียนนิยาย ชีวิตก็แปลกแปร่งไปกว่าคนปกติมาก ๆ

ความคิด การตัดสินใจที่จะเป็นนักเขียนอาชีพเต็มตัวของเขานั้นเริ่มต้นตรงนี้ด้วยคือ ปิดกิจการทำเงิน เปลี่ยนทิศทางตลอดเจ็ดปีที่ต้องต้อนรับลูกค้าแม้มีบ้างที่เขินอายในการต้อนรับลูกค้ากระทั่งฝืนใจต้อนรับลูกค้าบางประเภทที่ไม่เข้าท่า ชอบใจตรงที่ว่า เมื่อเขาทุ่มเททำงานอะไรก็จะทำตรงนั้นให้ดีที่สุด ด้วยตัวเองที่ต้องลุยเองในการงานนั้น ๆ แม้ว่าเพื่อนฝูงแนะนำให้เขาจ้างคนมาดูแลกิจการเพื่อยังชีพด้วย แต่ความแน่วแน่ เด็ดขาดในการเลือกทางเดินสายนี้คือการแขวนป้ายเป็นนักเขียนอาชีพพร้อมจะประกอบอาชีพเขียนหนังสืออย่างเดียวนั้นจะเรียกได้ว่าจิตวิญญาณของเขาเรียกร้องให้ทำเช่นนั้นก็ได้ ข้าพเจ้ามองเห็นความอิ่มเอมจากการสร้างสรรค์สร้างสไตล์การเขียนเฉพาะตัวของเขา เห็นชัดไปกับเขาเมื่อเขาแสดงความมุ่งมั่นจากทุกอณูในร่างกายซึ่งปลุกสายแร่ใหญ่ที่หลับใหลอยู่ในตัวเองก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างน่าปีติ ความตั้งใจและความเชื่อตรงนี้ของคนเรานี่ช่างน่าทึ่งเสียจริง !

ข้าพเจ้าชอบหนังสือเล่มนี้โดยเฉพาะวิธีคิดในเรื่องการวิ่งของเขา มีเกร็ดเกี่ยวกับการวิ่งมากมายสามารถกระตุ้นความรู้สึกถึงอารมณ์ท้าทาย บรรยากาศที่เขาไปวิ่ง มองเห็นสำนวนของคำว่า ‘เม็ดเหงื่อ’ ในอากาศร้อน ๆ ความรู้สึกถึงการอยากจิบเบียร์เย็นเฉียบขณะที่คอแห้งผาก นึกถึงพลังที่เหลือและพลังที่ใช้ไปแทบจะหมดแรงและล้าถอยในขณะเขาวิ่งมาราธอน ซึ่งบรรยายได้สนุกมาก ๆ ในภาษาการเขียนของเขา ใครจะรู้ว่าสิ่งละอันพันละน้อยที่เขาได้ถ่ายทอดออกมานั้น เราได้เรียนรู้เรื่องของเขาในฐานะนักเขียน ในฐานะมนุษย์ที่สามารถหลอมรวมการเขียนกับการวิ่งมาใช้ด้วยกันอย่างแนบเนียน นั่นคือ การทุ่มเทแรงใจ สุดแรงความสามารถ ความตั้งใจแน่วแน่และความอึด และที่สำคัญที่สุดนั้น ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็ยังคงทำงานของเราต่อไป

ขอบคุณค่ะ
ภูเพยีย
๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕





--
“…การวิ่งเป็นทั้งการออกกำลังกายและอุปมาน การวิ่งทุกวัน ลงแข่งเพิ่มจำนวนทีละครั้ง ทีละน้อยทีละนิด ผมยกคานกั้นขึ้นสูง ทุกคราวที่กระโดดผ่านคานกั้น ผมยกระดับตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงทุ่มกายทุ่มใจในวันแล้ววันเล่า…เพื่อยกระดับตนเอง ผมไม่ใช่ยอดนักวิ่ง ไม่เฉียดไม่ใกล้ ผมเป็นเพียงแต่นักวิ่งจืดเจื่อนสุดสามัญ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นของเรื่อง ประเด็นของผมอยู่ที่ว่า ผมทำได้ดีกว่าวันวานหรือไม่ ในการวิ่งระยะไกล ศัตรูหนึ่งเดียวคือ ตัวเอง คนเดิม เมื่อวานนี้”



“…นักวิ่งสามัญส่วนใหญ่ ใช้เป้าหมายส่วนตัวเป็นแรงบันดาลใจ กล่าวให้ชัด เหนือสิ่งอื่นใด อยากเอาชนะเพียงเรื่องเดียวคือ เวลา…ในอาชีพนักเขียน ในความเห็นของผม ไม่มีเรื่องชัยชนะหรือความพ่ายแพ้เข้ามาเกี่ยวด้วย …สาระสำคัญแก่นแท้จะอยู่ที่ว่าคุณเขียนได้ถึงมาตรฐานที่คุณตั้งเป้าไว้หรือไม่ การเขียนต่ำกว่ามาตรฐานไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะยกมาอธิบายได้ หากเป็นผลงานผู้อื่น คุณอาจจะแยกแยะหาแง่มุมมาอธิบาย แต่คุณหลอกตัวเองไม่ได้ มองในแง่นี้ การวิ่งมาราธอนและงานเขียนแทบจะเป็นเรื่องเดียวกัน โดยพื้นฐานแล้ว นักเขียนจะมีแรงบันดาลใจเงียบงันภายใน ไม่ได้เสาะแสวงหาการเห็นพ้องยอมรับจากภายนอก”


ขอบคุณค่ะ
















Create Date : 16 พฤษภาคม 2560
Last Update : 16 พฤษภาคม 2560 9:24:44 น.
Counter : 1908 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณอุ้มสี, คุณnewyorknurse

  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Close To Heaven Review Food Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ภูเพยีย Book Blog ดู Blog

แวะมาอ่านและโหวตให้ค่ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 16 พฤษภาคม 2560 เวลา:12:41:06 น.
  

มาอ่านรีวิวค่ะ

ภูเพยีย Book Blog ดู Blog
โดย: newyorknurse วันที่: 20 พฤษภาคม 2560 เวลา:4:30:30 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com