ตุลาคม 2564

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Focused Wiengpapao - เที่ยวเมืองผ่านในหนึ่งวัน


15th October 2021


เพราะคำว่า "เมืองผ่าน" สำหรับเรา "เวียงป่าเป้า" เป็นได้แค่นั้นจริง ๆ ที่ผ่านมา
แม้จะวิ่งเชียงใหม่ - เชียงรายเพื่อกลับบ้านปีละ 2 - 3 ครั้งตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมาเวียงป่าเป้าไม่เคยได้ขยับเป็นเมืองพัก เมืองเที่ยวสำหรับเราและครอบครัวบ้างเลย

ทริป "ปิดเทอม" ที่สองของโมเสสคราวนี้ เราทำให้การข้ามเขาจากเชียงใหม่มาเชียงรายสำเร็จจนได้ วิ่งบนถนนเอเชีย 118 สู่เวียงป่าเป้าโดยตั้งเป้าว่าจะเที่ยวให้ทั่ว ไม่ก็ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ข้ามอำเภอ และไม่ออกนอกเขตไปไหน และก็ดันพายุเข้าพอดี มันทำให้อากาศในทริปนี้ "ดี" คูณสอง แม้จะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางขึ้นอีกเท่าตัวก็ตาม




























ตามแพลนที่วางไว้คร่าว ๆ เอามาก ๆ
เราปรับเที่ยวในร่มตามสภาพฝนที่ตกปรอย ๆ หมอกหนาที่เห็นจนชินตาตลอดทางที่ขับผ่าน ๆ มาทำให้พับที่เที่ยว outdoor ไว้ในช่วงเช้าไว้ก่อน



ถึงเวียงป่าเป้าเข้าแม่ขะจานที่สามแยกไปวังเหนือ ที่หมายแรกของเราเพื่อเที่ยวหลบฝน





วัดพระยอดขุนพลเวียงกาหลง



วัดพระยอดขุนพลเวียงกาหลง อดีตเดิมได้ดำเนินการก่อตั้งขึ้นอยู่บนเนื้อที่เขตติดต่อของที่พักสงฆ์ป่าอุดมธรรม ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ทางคณะศรัทธาได้มอบพื้นที่ดังกล่าวถวายแด่พระเดชพระคุณ พระอาจารย์ธรรมสาธิต เวียงกาหลง สภาพพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของชาวไร่ชาวนา และยังมีร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเมืองเวียงกาหลงเก่า ไม่ว่าจะเป็นเตาเผาโบราณ เศษกระเบื้องเคลือบ ซึ่งแสดงออกถึงวัฒนธรรมประเพณีและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ที่พักสงฆ์ป่าอุดมธรรมจึงมีสภาพทางภูมิศาสตร์ เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสมกับการที่จะบำเพ็ญ ปฏิบัติธรรม บนเนื้อที่ที่มีหุบเขาล้อมรอบ มีสายน้ำลำธารไหลผ่านอุดมสมบูรณ์และพื้นที่ทั้งหมดบางส่วนอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าขุนวังแม่ป้ายแปลงที่ 3 อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง  

ดังนั้นพระเดชพระคุณพระอาจารย์ธรรมสาธิต เวียงกาหลง จึงได้ริเริ่มดำเนินการสร้างสรรค์ปรับภูมิทัศน์ พัฒนาสถานที่ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2536 เป็นต้นมา ให้เป็นสถานที่พักอาศัย ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญธรรมจัดสถานที่เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงาน เรื่องราวอุทยานธรรมพระพุทธเจ้า 5 พระองค์และแปลงสาธิตการเรียนรู้ในเรื่องภาคการเกษตรอินทรีย์ทั้งยังจัดกิจกรรมการเรียนรู้พื้นที่อนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธาร และปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ

เครดิต : https://chiangrai.mots.go.th/news_view.php?nid=1192

 (อ่านประวัติฉบับเต็มได้ที่เว็บนี้เลยค่ะ )








































ฝนปรอย ๆ อย่างนี้
วิวด้านล่างก็สวยไปอีกแบบนะคะ




























อากาศอย่างนี้

การจิบชากาขาว OTOP ของที่นี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด
เราตามไปที่ไร่ชาค่ะ เจอคนที่ทำงานข้างในมาต้อนรับแต่เพราะฝนตกอย่างนี้ทำให้การเก็บชาเป็นอันงดในวันที่เราเยือน
พี่คนงานผู้ชายแนะนำเราไปที่ศูนย์วัฒนธรรมเวียงกาหลง แล้วแวะชิมชากาขาวได้ที่สหกรณ์




































ด้วยความอยากลองจิบชากาขาว
เราตามไปที่สหกรณ์ในศูนย์วัฒนธรรมเวียงกาหลงซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กัน ที่สหกรณ์จำหน่ายทั้งชากาหลง ยาสมุนไพร OTOP และเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงที่สืบทอดกันมากว่าร้อยปีค่ะ










##ปล.
หากใครสนใจเครื่องปั้นดินเผาและรายละเอียดที่ลึกกว่านี้ลองไปที่พิพิธภัณฑ์เวียงกาหลงได้นะคะ






หลังได้ยา และ ของฝาก ของกินเล่นที่สหกรณ์
เวลายังเหลือ เราเลือกที่จะขับไปอีก 14 กม.เพื่อจุ่มเท้าในบ่อน้ำร้อน



(เครดิตรูปภาพ : https://www.tambonbanpong.go.th/travel_detail.php?id=4 )


บ่อน้ำพุร้อนทุ่งเทวี


น่าเสียดายที่เพราะโควิดบ่อน้ำร้อนที่นี่ปิด และสูบน้ำออกจากสระจนหมดค่ะ
เราได้เบนเข็มมาแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนของเอกชนที่อยู่ติด ๆ กันกับบ่อน้ำร้อนทุ่งเทวีอย่างทัยทิพย์ออนเซนแทน

มีบริการทั้งแบบห้องส่วนตัวและแช่เท้าที่โซนด้านนอก
เราเลือกเซฟตัวเองด้วยการแช่เท้าก็พอ อัตราค่าบริการ 20 บาท/คน




























เลยเที่ยงแล้ว

เราออกจากทุ่งเทวีเพื่อวิ่งบนถนนเอเชียอีกครั้งหาข้าวกิน มีหลายร้านให้เลือก
แต่เราปักหมุดกลับรถไปที่เดิม บ้านปลายนาเวียงกาหลง
ใกล้ ๆ กับวัดยอดขุนพลที่เพิ่งแวะไป






















ปล่อยให้ครอบครัวเลือกอาหาร เพราะดูคิวแล้วเราต้องรอนานแน่เลยค่ะ
ลูกค้าเต็มร้าน
เราเดินไปที่ซุ้มกลางนา เพราะฝนทำท่าหยุดตกแล้วและไม่แน่ใจว่าจะมาอีกเมื่อไหร่ ไปเอารูปไว้ก่อนระหว่างรออาหาร
ที่ซุ้มกลางนาเราเจอสิ่งนี้ "คิดถึง" เนาะ





























"เศรษฐกิจพอเพียง"



































ตากล้องสั่งอาหารเสร็จแล้ว
ตามมาถ่ายรูปให้




















ชมทุ่งทั่วแล้ว
กลับโต๊ะเพื่อรออาหารค่ะ เราเจอสิ่งนี้ได้ของกลับบ้านเยอะเหมือนกัน
สินค้าสด ๆ จากสวนที่เราเพิ่งไปเดินมา






























เก็บรูปอาหารได้อย่างเดียวเอาจริง เรารออาหารนานเหมือนกันนะ
หิวจนไม่อยากเสียเวลาถ่ายรูป T.T










บ่ายกว่า ฝนทิ้งช่วง
ได้เวลา outdoor บ้างแล้ว

พาโมเสสไปให้อาหารปลาที่วังมัจฉากันค่ะ อ่านป้ายตลอดเวลาขับผ่าน
นี่เป็นครั้งแรกที่แวะในรอบสองทศวรรษที่ขับผ่านเรื่อยมา



ทางเข้าวังมัจฉา เขื่อนดอยงู
มันก็ฟินประมาณนี้ สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นสนเขียวสดหลังม่านสนมีวิวด้านล่างที่สวยสดไม่แพ้กันในช่วงหน้าฝน
(เราเก็บรูปขาออกนะคะ)


































วังมัจฉา

ให้อาหารปลา ดูหมูป่า ดูงูเหลือม









































































จากวังมัจฉาไปเขื่อนดอยงูแค่ 1 กม.
แต่เรากลับเลือกไม่แวะเพราะคุณแม่เริ่มปวดขา T.T
วกรถกลับที่ยูเทิร์นเพื่อขับกลับเชียงใหม่ ระหว่างทางเจอวัดแม่เจดีย์ครูบาดวงเด่น
เราคิดว่าเราเข้าผิดวัดแหล่ะ เพราะชื่อดันคล้ายกัน แต่แม่ก็เอ็นจอยที่แวะวัดนี้น่ะ


















ครูบาฯมาต้อนรับกรุ๊ปเราอย่างดี


ขากลับไม่แวะซื้อของพวกนี้ไม่ได้









อีกร้านกาแฟที่ไม่เคยแวะ
พอแวะแล้วถึงรู้ว่ากาแฟดี แถมวิวดีอีกนี่นา









ออกจากเวียงป่าเป้าเข้าสู่ อช.ขุนแจฝนเริ่มลงเม็ด
แน่นอนว่าม่านหมอกฝนกลับมาร่วมทางเราอีกครั้ง สวย
เราแวะดูลานกางเต้นท์ที่ขุนแจค่ะ อืมหืม อยากให้เข้าหนาวเร็ว ๆ












เที่ยวเมืองผ่านรอบนี้ ทำให้เห็นเวียงป่าเป้าต่างไปจากเดิม
ระหว่างทางที่เอาแต่เหยียบ ๆ ให้ถึงบ้านไว ๆ รอบนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วล่ะ การแวะไม่ได้หมายถึงการเสียเวลาเสมอไป









ขอบคุณที่แวะมา



Create Date : 18 ตุลาคม 2564
Last Update : 18 ตุลาคม 2564 10:11:34 น.
Counter : 1725 Pageviews.

0 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณทนายอ้วน, คุณหอมกร, คุณKavanich96, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณSweet_pills, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณThe Kop Civil, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณkatoy, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณInsignia_Museum, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณดาวริมทะเล, คุณnewyorknurse, คุณ**mp5**


mariabamboo
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]



日々の時間を大切に。

วันเริ่มเขียนบล๊อก 15 มีนาคม 2553
มองโลกผ่านเลนส์ด้วยตาข้างขวา
รักการเดินทาง รักการบันทึก

2012 ชมเชย บ้านหมอนอุ่น
2015 เงินรางวัล 20,000 ฿ "เที่ยวไปทั่วฯ"
2015 ชมเชย Parenting Blog Award#11
2016 อันดับ 2 Best Parenting Blog Award#12
2016 อันดับ 3 Best Photo Blog Award#12
2017 อันดับ 3 Best Photo Blog Award#13
2018 อันดับ 2 ฺBest Photo Blog Award#14
2019 อันดับ 2 Best Photo Blog Award#15
2020 อันดับ 3 Best Photo Blog Award#16
2021 อันดับ 2 Best Photo Blog Award#17
2022 อันดับ 2 Best Photo Blog Award#18
2023 อันดับ 1 Best Photo Blog Award#19
Friends Blog
[Add mariabamboo's blog to your weblog]