บลัดดี้มันเดย์กับหนึ่งวัน (แบบไม่ประติดประต่อ) บนเกาะมาเก๊า ![]() เอาล่ะ ไม่พูดพรำทำเพลง เรามาเริ่มกันเลย เอ๊ะ แต่ก่อนที่จะเดินทาง เราแวะกินอะไรก่อนดีไหม (เพราะกองทัพต้องก็เดินด้วยท้องน่ะ) งั้นไปกินอาหารประจำท้องถิ่นของที่เมืองกวางโจวสักหน่อยละกัน จานนี้มีชื่อเรียกว่าฉางเฟิ่น โดยที่รูปลักษณ์และรสชาตินั้นจะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยวหลอดมาก ผู้เขียนจำได้ว่าสมัยเดินทางมาอยู่ใหม่ๆ ไม่ชอบรสชาติอย่างมาก เพราะคนแถวนี้เขากินกันจืดจริงๆ ทำให้มีความรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังกินก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุงอยู่ แต่พอหลังๆ เราเริ่มที่จะอแด๊ปให้มันถูกปากเราขึ้น เช่นเพิ่มไข่เพิ่มหมู (ถ้าไม่ได้บอกเฮียคนทำ เค้าก็จะใส่วิญญาณหมูกับผักมาให้เรา) โดยที่เพิ่มอีกแค่ 1 หยวนเองเท่านั้น หรือจะเป็นการราดพริกราดเจี้ยงโหยวให้ท่วมๆ เพื่อที่เราจะได้รับรู้รสชาติอย่างครบถ้วนนั้นเอง เอ้าอิ่มแปล้แล้ว เดินทางๆ ![]() หลังจากนั่งเมื่อยในรถมาประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึงเมืองจูไห่ โดนมีด่านที่ต้องเดินข้ามระหว่างเกาะมาเก๊ากับจีน ที่ชื่อว่ากงเป่ยอยู่ ผู้เขียนไม่อยากบรรยายเลยว่า ถ้าครั้งไหนเกิดซวย เดินทางในช่วง rush hour หรือติดวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้คนจะมหาศาลจนเรียกว่าหมอชิดช่วงสงกรานต์ชิดซ้ายไปเลย แถมแถวของคนต่างชาติ (ในฝั่งจีน) ก็มีเพียงแค่ 2 ช่องอีก เกิดวันไหนเจ้าหน้าที่ทะเลาะกับภรรยาที่บ้านมา แล้วมาลงกับนักท่องเที่ยวตาดำๆอย่างเรา แผนที่จะเที่ยวให้สนุกก็หมดจบสิ้นกัน ผู้เขียนเคยเจอเหตุการณ์นี้อยู่ครั้งนึง เรียกว่าคนในแถวชะเง้อกันเป็นยีราฟเลยว่าทำไมตรวจกันนานจัง(ว่ะ) ส่อง passport แล้วส่องอีก พอถึงคิวเรา (หลังจากต่อไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ) เราก็เลยตัดสินใจให้อาตี๋แกกินฟักกลิ้งไปสองสามฝัก เผื่อว่าประสิทธิภาพของแกจะดีขึ้น ![]() ออกจากด่านมาก็จะเจอคิวแท็คซี่อยู่ด้านบน ส่วนชั้นใต้ดินก็จะเป็นสายรถเมล์ต่างๆ ผู้เขียนเคยขึ้นแท็คซี่ครั้งเดียวตอนที่รู้ว่าตัวเองหลงแล้ว โดยมิเตอร์นั้นจะเริ่มตั้นที่ 10 เหรียญมาเก๊า (มั้ง) และก็จะขึ้นช้ากว่าของทางกวางโจวอยู่หลายเหมือนกัน (เพราะที่โน้น เวลาไปไกลๆ ไม่อยากมองมิเตอร์เลยจริงๆ เดี๋ยวๆปิ๊ป เดี๋ยวๆปิ๊ป) ส่วนรถเมล์นั้น ก็จะมีป้ายบอกชัดเจนเป็นภาษาอังกฤษว่า ที่ไหนอยู่ที่ไหนบ้าง สนนราคาก็อยู่ที่ 2.5 เหรียญมาเก๊าเท่านั้นเอง ![]() ![]() ![]() หลังจากนั่งรถเมล์สาย 3 มาลงตรงซินหม่าลู่ ก็จะเดินมาถึงถนนคนเดินนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดที่มีชื่อเสียงที่สุด (แต่ผู้เขียนดันจำชื่อไม่ได้ 55+) ปกติผู้คนจะพลุกพล่านตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่บางมุมมองถนนงั้นก็ดูเงียบเหงาหน้านั่งเล่นชิวๆอยู่เหมือนกัน ในถนนคนเดินนี้จะมีร้านรวงขายของอยู่เต็มไปหมด ถ้าใครมากับสาวๆก็เตรียมตัวไปเตร็จเตร่ที่อื่นได้เลย เพราะคุณเธอจะเข้าไปเลือกซื้อในร้านเครื่องสำอางต่างๆ จนลืมคนที่มาด้วยไปเลย ผู้เขียนมาถึงถนนนี้ทีไร จะชอบซื้อเสื้อที่มีสกรีนเป็นมาเก๊าๆไปด้วยทุกที (กลัวว่าจะไม่มีใครรู้ว่ามาถึงแล้ว) เอาล่ะหลังจากนั้นก็เดินขึ้นเนินต่อไปกันเลย ![]() ![]() เพื่อนถามว่า "ทำไมแกมามาเก๊าทีไร ต้องแวะ Ruins of the Church of St Paul ทุกทีเลยว่ะ" ผู้เขียนก็ไม่รู้จะตอบยังไงนอกจากบอกกับเพื่อนว่า "ถ้าไม่มาที่นี้แล้ว เหมือนไม่ถึงมาเก๊ายังไงไม่รู้หว่ะ" ทุกครั้งที่มา ผู้เขียนก็จะพยายามหามุมใหม่ๆถ่ายรูป ซะทุกครั้งไป แล้วยังชอบที่จะขึ้นบันไดด้านหลัง เพื่อที่จะโยนเศษเหรียญให้ตกอยู่ข้างบนโบส์ถทุกที (เหมือนกับสระน้ำพุที่โรมยังไงก็ไม่รู้แหะ) ![]() หิวน้ำแล้ว แวะหาอะไรดื่มก่อนดีกว่า ![]() เจินจูไหน่ฉา หรือชานมไข่มุกนี้แหละ สนนราคาแก้วละ...15 เหรียญละมั้ง รสชาติถือว่าโอเคเลยล่ะ ที่กวางโจว ก็จะมีร้านประจำอยู่เหมือนกัน ชื่อว่าต้าข่าซือ รสชาติไม่แพ้กันเลย แถมราคาเพียงแค่แก้วละ 6 หยวนเอง (ยังสะสมแต้มได้อีก) ส่วนแถวถนคนเดินชื่อดังในกวางโจวอย่างเป่ยจิงลู่ หรือซ้างเซี่ยจิ่ว ก็มีชานมไข่มุขในราคา 2 หยวนเท่านั้น แต่รสชาติ...เฮือกก ![]() เอาละกินน้ำแล้วก็ไปกินข้าวด้วยซะเลย กับข้าวที่นี้ราคาถือว่าแพงกว่าในกวางโจวอยู่พอสมควร (แต่ก็ไม่แพงเว่อร์อย่างฮ่องกง) ครั้งนี้ ผู้เขียนไปกินร้านที่อยู่ก่อนจะที่ถึง Grand Lisboa ร้านมีชั้นหนึ่งชั้นสอง ที่เห็นอยู่ในรูป น่าจะเป็น ข้าวกระดูกหมู, ข้าวหน้าไก่ แล้วข้าวอะไรอีกสักอย่าง (แล้วเสื้อของผู้เขียนที่เท่มาก 55+) ราคาต่อจานอยู่ที่ประมาณ 20 กว่าเหรียญ ซึ่งก็ถือว่าสูงใช้ได้ แล้วยังมีอีกร้านอาหารร้านหนึ่งที่อยู่ในถนนคนเดิน เป็นก๋วยเตี๋ยวแกงกระหรี่ (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) รสชาติถือว่าอร่อยจิงๆเลย (แต่ราคาก็อร่อยตามไปด้วย) ![]() ![]() เสียดายที่ไม่มีรูปเจ้าแม่กวนอิมที่อยู่เกาะล่างมาให้ชม ก็เลยลงรูปเจ้าแม่กวนอิมที่อยู่เกาะบน ผู้เขียนเดินจากแถวๆคาสิโน Grand Lisboa มาทำความเคารพเจ้าแม่กวนอิมที่นี้ จำได้ว่าครั้งที่ไปเตรียมเงินไปนิดหน่อย เพื่อที่จะไปเสี่ยงโชคขำๆในคาสิโน เลยเกิดความเชื่อว่าถ้าไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิแล้ว บางทีเราอาจจะมีโชคบ้าง ผลก็ไม่คงต้องบอกหรอกน่ะ ว่าเป็นยังไง 555+ (จะไม่ทำอีกแล้วว) ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พูดถึงคาสิโนแล้ว ไปมาเก๊าครั้งล่าสุด ก็ไม่ลืมที่จะแวะไปคาสิโนใหม่ล่าสุดของเกาะมาเก๊า นั้นก็คือ The Venetian นั้นเอง ผู้เขียนตะลึงจริงๆกับ ความยิ่งใหญ่อลังการของสถานที่ เริ่มตั้งแต่หน้าคาสิโน ลานรับรถที่มีเพดานสวยงามยิ่งใหญ่อลังการ ล้อบบี้โรงแรมสุดหรู พอเราเดินเข้าไปข้างในก็จะมีส่วนของคาสิโนที่ใหญ่มากๆๆๆๆ (ใหญ่กว่าของ Sands ที่ผู้เขียนเคยไปยืนตะลึงซะอีก) แล้วก็มีทางขึ้นชั้นสองที่เป็นส่วนพลาซ่า มีร้านแบรนด์ดังๆมากมาย ธีมของสถานที่เป็นบรรยากาศแบบเวนิส มีลำคลองทอดผ่าน แล้วยังมีกอนโดล่าที่มีพี่เลี่ยนตัวจริงเสียงจริง คอยขับกล่อมด้วยโอเปร่าให้ฟังอีกตะหาก (ค่านั่ง สนนราคาก็อยู่ที่รอบละ 150 เหรียญน่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่ะ) ![]() ก็หมดเวลาไปหนึ่งวัน สำหรับการเดินทางเที่ยวมาเก๊า จริงๆแล้วรูปเหล่านี้มาจากการเดินทางหลายๆครั้ง ที่ถูกเค้นออกมาจากความขี้เกียจถ่ายรูปของผู้เขียน (55+) สุดท้ายนี้ก็ขอฝากรูปอาหารอร่อยๆในกวางโจวมาให้เพื่อนๆได้ยลโฉมกัน รูปแรกคืออาหารเกาหลี ที่เป็นที่นิยมสุดๆในเมืองนี้ มีทั้งอร่อยและไม่อร่อย แล้วก็มีทั้งแพงและไม่แพง (แต่ส่วนมากก็จะแพง) จะมีอยู่ถนนหนึ่ง (แถวๆสนามบินเก่า) ที่ทั้งเส้นจะเป็นร้านอาหารเกาหลีเล็กๆติดๆกัน รวมทั้งร้านขายของชำของเกาหลีๆด้วย ผู้เขียนความจริงก็ไม่ได้คลั่งใคล่อะไรมากมายกับอาหารชาตินี้ แต่ก็มีอยู่ร้านหนึ่งที่อร่อยมากๆ อยู่ในตึกจงซิ้น ตึกที่สูงที่สุดในกวางโจว ต้องพยายามไปกินตอนเที่ยงเพื่อที่จะได้กินอาหารชุดประหยัดของเขา ในรูปก็คืออาหารชุดชุดหนึ่งที่สั่งมากินกัน (เฉลี่ยแล้ว ตกหัวละประมาณ 50-60 หยวน) ![]() รูปที่สองคือจานที่ผู้เขียนชอบเหลือเกิน นี้ก็คือกองทัพปลาแซลมอนดิบนั้นเอง สังเกตุที่ลายเนื้อปลานั้นถือว่าลายสวยมากๆ เนื้อแน่น ไม่คาว อร่อยสุดๆ ราคาที่อยู่ในช่วงโปนโมชั่นก็อยู่แค่ 40 กว่าหยวนเท่านั้นเอง (ได้ทั้งหมดนี้เลย !!) เสียดายว่าพอหมดโปรโมชั่นแล้ว ราคาจะอยู่ที่ 60 กว่าหยวนเลย เอาล่ะ ก็หมดแล้วสำหรับการเดินทางที่น่าสนใจ(มั้ง)ครั้งนี้ ผู้เขียนก็หวังว่า จะได้มาเล่าประสบการณ์ในเมืองอื่นๆ ที่ได้สัมผัสมาให้เพื่อนๆให้ฟังในอนาคต ยังไงก็ติดตามกันนะเอ้อ ![]() ![]() เราไปมาเก๊าแบบย้อนรอยเส้นทางสายไหมเดียวกับคุณbloodymondayเป๊ะๆเลยค่ะ แต่ไปจากทางฮ่องกงเลยคิวตรวจคนเข้าเมืองไม่ค่อยยาว ไปถึงก็กินอาหารโปรตุเกสซะหน่อย..ง่า อาหารก็งั้นๆ แต่อิชั้นซัดsangriaจนหัวทิ่มถนนมาเก๊าไปเรย ![]() หนังเราไม่ค่อยติดโผคุณbloodymondayเลยอ่ะ..แต่ก็ชอบalmost famous กับ breakfast club นะคะ ![]() ส่วนเรื่องdescentก็ชอบมั่กๆ ![]() ![]() james ellroyนี่เขียนLAconfidentialใช่มั๊ยคะ อืม..หนังสือนัวร์แน่ๆ ยังมะเคยอ่านเลย เห็นรีวิว the road แล้วอย่าเข้าใจผิดว่าเราอ่านหนังสือดีมีรางวัลนะเคอะ เพราะนี่ก็เป็นgenreโปรดของเราคือแนวapocalypseโลกแตกนั่นเอง ![]() อุ๊ย คอมเม้นต์ยาวเฟื้อย... ต่อจากมาเก๊าแล้วจะกลับทอยแลนด์เลยรึเปล่าคะ มาตอนกำลังร้อนได้ที่พอดี อิๆ โดย: apple_cinnamon
![]() ![]() ![]() ชอบไปเที่ยว..ไม่ได้ไป..ดูรูปที่เขาไปเที่ยวมาฝากก็ยังดีเน๊อะ...เนี่ยะ..พอจะชวนพวกมาหัดเรียนภาษาปะกิต..คุณชายBloodyMondayก็ลบ Soundtrackซะแล้ว.. ![]() แต่ที่จริงก็ดี๊ ดี ออก..ไม่เมื่อยหมอง อิ อิ..ล้อเล่น คนไทยก็อยากอ่าน/เขียนภาษาไทยน่ะ +++++++++++++++++++++++ ฝากแปะข่าวนะ +++++++++++++++++++++++ ![]() ประกาศผล"กะว่าก๋า"ภาพวาดพู่กันเดียว Contest (จาก 99 vote 206 Comment) ได้แก่ รางวัลที่ 1. คุณ "บรรณภรณ์" รางวัลที่ 2.1 คุณ "ฝากเธอ" รางวัลที่ 2.2 คุณ "Nilz" รางวัลที่ 2.3 คุณ"Jiji & kaka" รางวัล "บู้บี้" ได้แก่..คุณ"เซียน_กัต้าร์" (รายละเอียดเข้าไปอ่านสำนวนโดนๆที่mentไว้ที่บล็อค "กะว่าก๋า"ภาพวาดพู่กันเดียว Contest.." ที่ยังมีคน ment อยู่ไม่เลิกค่ะ) ผู้มีรายชื่อทั้ง 5. รายงานตัวด่วน(พร้อมฝากชื่อ-ที่อยู่ไว้ ที่หลังไมค์ ใน my network ด้วยค่ะ... ![]() โดย: เริงฤดี...นะจ๊ะ!!! IP: 202.133.139.61 วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:23:15:03 น.
|
BloodyMonday
![]() บทความทั้งหมด
|
The Walker