Paprika : ฝันฝังลึก เหมือนกับที่ตัวละครปาปริก้ากล่าวไว้ตอนที่หนังเรื่องนี้ใกล้จบ โลกนี้เมื่อมีความมืดก็ย่อมมีความสว่าง มีความฝันก็ย่อมมีความจริง มีเพศหญิงก็ย่อมมีเพศชายเป็นของคู่กัน ประหนึ่งขั้วตรงข้ามของหยินหยางที่คะคานเพื่อให้โลกนี้มีความสมดุล หลังจากการ์ตูนญี่ปุ่นจากค่ายจิบลิได้สร้างชื่อเสียงจนโด่งดังพร้อมๆ กับได้นำพาแนวคิดอนุรักษ์นิยมไม่ว่าจะเป็นมุมมองอันงดงามของธรรมชาติหรือคุณค่าของขนบธรรมเนียมโบราณออกมาเผยแพร่เพื่อกระตุ้นเตือนจิตสำนึกผู้คนที่ทุกวันนี้ล้วนพากันละเลยและหลงลืม เนื้อหาของการ์ตูนจิบลิเรื่องแล้วเรื่องเล่าจึงซื่อสัตย์ต่อแนวทางนี้ของตนอย่างเคร่งครัดและกลายเป็นกฎเหล็กไปโดยปริยาย แต่หนังของผู้กำกับซาโตชิ คอน แห่ง Perfect Blue และเรื่องล่าสุดอย่าง Paprika ที่ผู้เขียนกำลังกล่าวถึงอยู่นี้นั้นกลับนำเสนอตนเองในแนวทางที่ตรงข้ามกับการ์ตูนจิบลิอย่างชนิดที่เรียกได้ว่าประสานงา เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความแตกต่างของงานศิลปะที่มีจุดยืนอยู่คนละฝั่งสังเวียน หากแต่การ์ตูนของซาโตชิ คอน ยังตะบันหมัดเข้าใส่อุดมการณ์ของค่ายจิบลิอย่างไม่ปราณี ความแรงและความจัดจ้านของเนื้อหาได้กลายเป็นเสน่ห์ที่แปลกใหม่และสร้างเอกลักษณ์โดดเด่นจนเป็นงานที่ถูกจับตามองในระดับสากล แน่นอนว่าคนที่ได้เปรียบที่สุดในการวิวาทะทางปัญญาครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นผู้ชมเยี่ยงเราๆ นี่แหละที่จะมีโอกาสได้เสพมุมมองอันหลากหลายและรอบด้าน เพื่อสร้างวุฒิภาวะในการทำความเข้าใจโลกให้ละเอียดและลึกซึ้งยิ่งขึ้น Paprika เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ซึ่งคิดค้นเครื่องมือควบคุมความฝันที่เรียกว่า ดีซีมินิ ดีซีมินิทำงานในขณะที่ผู้ป่วยกำลังหลับฝัน เครื่องมือนี้จะเปิดประตูให้ผู้บำบัดมีโอกาสเข้าไปร่วมอยู่ในความฝันนั้นๆ เพื่อนำพาความคิดที่หลงทางกลับคืนมาสู่ภาวะปกติ ดีชิมินิเป็นนวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ที่เข้าถึงต้นตอปัญหาของมนุษย์ ที่ไม่ใช่แค่การผ่าตัดเนื้อหนังของร่างกาย หากแต่เป็นการผ่านเข้าไปถึงอาณาจักรแห่งจิตเพื่อสำรวจและวินิจฉัยปมปัญหา ก่อนที่จะคลี่คลายเงื่อนเหล่านั้นออกด้วยความเข้าใจในที่สุด การเข้าไปในความฝันของผู้อื่นคล้ายกับเป็นการเข้าไปในโลก Matrix ที่มีเจ้าของความฝันนั้นเป็นจ้าวอาณาจักร ผู้บำบัดต้องหาทางแก้ไขสภาพจิตของผู้ป่วยแต่ละคนให้ได้ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นปมมาจากอดีต จิตใต้สำนึกเหล่านี้มักปรากฏตัวออกมาเพื่อทวงถามการระลึกถึง หรือไม่ก็เป็นการเรียกร้องอะไรบางอย่างให้สติในโลกแห่งความจริงได้เหลียวมองและให้ความสำคัญกับมันบ้างตามสมควร หากดีซีมินิถูกใช้โดยคนชั่ว มันก็จะกลายเป็นเครื่องมือควบคุมความคิดของคนอื่น การควบคุมที่อาจแผ่ขยายกลายเป็นการล้างสมองและควบคุมโลกทั้งใบได้ในที่สุด หายนะอันใหญ่หลวงนี้อาจเกิดขึ้นหากยังตามหาตัวคนร้ายที่ขโมยดีชิมินิไม่พบ Paprika กล่าวถึงพลังความฝันที่มีอยู่ในตัวมนุษย์เราทุกคน เป็นความปรารถนาบริสุทธิ์ที่เมื่อใดก็ตามที่สติเริ่มหย่อนยานหรือจิตใจได้หลุดล่วงออกจากการควบคุม (เริ่มหลุดออกจากจิตสำนึกเข้าสู่จิตใต้สำนึก) ภาพฝันนั้นก็จะออกมาโลดแล่นอย่างอิสระ คล้ายเป็นตัวเราอีกคนหนึ่งที่มีเสรีกว่าและมีความสุขมากกว่าตัวตนเมื่อยามตื่น แต่ตราบใดก็ตามที่เราลืมตาตื่น ความฝันที่เป็นดังแสงดาวเล็กๆ ยามราตรีนั้นก็หลบเร้นแสร้งกลมกลืนไปกับแสงอาทิตย์ในโลกแห่งความจริงประหนึ่งว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่เลย Paprika มีตัวร้ายเป็นผู้พิทักษ์ธรรมชาติ (ค่ายจิบลิคงเคืองอยู่มิใช่เล่น) ที่ต่อต้านการใช้ดีชิมินิในการบำบัดรักษาผู้ป่วย การต่อต้านนวัตกรรมนี้เป็นไปอย่างรุนแรงด้วยข้ออ้างว่ามันคือเครื่องมือในการคุกคามอาณาจักรแห่งความฝันอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์ หากแต่การต่อต้านชนิดหัวชนฝาที่มีต่อเทคโนโลยีใหม่ชนิดนี้ก็ได้กลายเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการคุกคามและควบคุมที่ไม่ต่างไปจากระบอบเผด็จการณ์อนุรักษ์นิยม การควบคุมที่ปิดกั้นจินตนาการของนักคิดจึงเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่สังคมแห่งเสรีจำต้องเรียกร้องการปลดปล่อย ฉากที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของ Paprika นั่นคือขบวนพาเหรดที่รวบรวมความฝันของมนุษยชาติทุกเผ่าพันธุ์ ทุกศาสนา ซึ่งกำลังเดินไปที่ไหนซักแห่งอันไม่สามารถระบุจุดหมายปลายทางได้ เป็นขบวนที่ประกอบไปด้วยสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าโบราณ ซุ้มประตูญี่ปุ่นเดินได้ องค์ศาสดาในศาสนาต่างๆ เทพีแห่งเสรีภาพของอเมริกา ตุ๊กตาเด็กเล่นอันเป็นตัวแทนของจินตนาการ ทั้งหมดนี้กำลังเรียกร้องการกลับมาสู่ความจริง หลังจากถูกโลกกลางวันอันแห้งแล้งและโหดร้ายใบนี้กวาดทิ้งไปเสมือนเศษขยะที่ไร้ค่า ปล่อยให้มีตัวตนเป็นเพียงภาพฝันเลือนลางของมนุษย์ยามค่ำคืน เสียงเรียกร้องนี้จะดังพอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ตัวผู้ชมเองคงต้องเป็นคนตัดสิน ท้ายสุด ปมปัญหาของนายตำรวจก็ถูกคลี่คลายออก ความฝันซ้ำๆ ในทุกครั้งมันคือฉากต่างๆในหนังที่เขาเคยดู Paprika เผยให้เห็นถึงปมในใจของเขาว่ามีเหตุมาจากการละทิ้งความฝันที่จะเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ เรื่องราวในหนังสั้นที่นายตำรวจเคยทำค้างไว้ตอนยังหนุ่มได้เรียกร้องตอนจบจากเขาอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับเหตุการณ์ฆาตกรรมในความฝันที่เฉลยออกมาแล้วว่าเป็นยิงตัวตายของนายตำรวจผู้นั้นเอง ??? ความจริงในอาชีพตำรวจของเขากำลังฆ่าความฝันในโลกภาพยนตร์ ความฝันที่เคยงดงามเมื่อครั้งอดีตกำลังสิ้นใจลงเพียงเพราะการปฏิเสธของเจ้าตัวในปัจจุบันว่าเขาไม่ใช่คนที่ชอบการดูหนัง เมื่อทางเลือกของชีวิตกลับสวนทางกันเองภายในคนคนเดียว อะไรเล่าคือวิธีเยียวยา และคำตอบที่หนังเรื่อง Paprika นี้นำเสนอนั่นก็คือการประนีประนอม หลายคนมีสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจและส่วนใหญ่มันคือความฝันที่ยังไม่ได้ลงมือทำให้แล้วเสร็จ ฉากที่ โทคิตะคุง ติดอยู่ในลิฟท์และฉากที่หุ่นกระป๋องติดอยู่ในตึก สะท้อนให้เห็นถึงภาวะที่ต้องติดค้างอยู่ในเครื่องจองจำที่น่าอึดอัดและคับแคบหากไม่ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นอิสระ ความฝันก็คงจะหนีธรรมชาติข้อนี้ไปไม่พ้นเช่นกัน ยังไม่ได้ดูเลยครับ ขอเวลาดูก่อน เหอๆๆ...
ดู รักแห่งสยาม ยังครับ โดย: nanoguy วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:11:24 น.
เพิ่งเข้ามาเห็น
มีหุ่นยนต์หน้าเหลี่ยมด้วยอะ 55+ โดย: nanoguy วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:14:55 น.
สมกับที่รอคอยจริงๆ อ่านแล้วเมื่อคืนไปนั่งดูอีกรอบ
มันแบบ...ว้าว...หนังมันลึกขนาดนี้เลยหรอเนี่ย นี่แหละความสนุกขอแงหนังที่ต้องดูหลายๆรอบถึงจะซึ้ง มีแอบพาดพิงด้วยแฮะ 555+ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตั้งไข่อยู่ครับ สนิมเกาะเต็มไปหมดแล้ว เขียนอะไรก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง(เท่าของเดิมที่เคยบิดเบี้ยวอยู่เป็นประจำ) ถ้ากลับมายืนในจุดเดิมได้แล้วในภาษาเขียน อาจจะได้เจอกันอีกครั้ง ไม่ในหน้าหนังสือ(คงจะยากนะ) ก็คงจะใน blog ที่ไหนสักแห่ง...หรือไม่ก็ที่นี่ ในช่อง comment โดย: ข้าวหวาน IP: 124.121.184.94 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:50:57 น.
สารภาพว่ายืมแผ่นไปนานแล้ว แต่ยังไม่ได้ดูเลย ...
งานเขียนชิ้นนี้คงช่วยให้เข้าใจได้เยอะ โดย: เพื่อนเธอเองแหละ IP: 124.121.18.24 วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:17:15:52 น.
ดูเรื่องนี้แล้วค่ะ ดูแล้วค่อนข้างสับสนช่วงตอนเริ่มต้นที่เป็นฝันซ้อนฝันของคุณตำรวจ รู้สึกว่าเรื่องนี้จะดูยากกว่าเรื่อง โตเกียวก็อดฟาเธอร์ และสปิริตอะเวย์ ถ้าใครยังไม่ได้สองเรื่องนี้ลองหาดูนะค่ะ สนุกดี
โดย: ข้าวโพด IP: 125.26.156.173 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:16:50:12 น.
ผมดูแล้วแต่ มัน งง อะ แต่ พอเขาใจ ว่า มันเข้า ไปในความฝัน คน แล้วก็ ช่วย อะไรก็ไม่ รู้ -*- ผม ก็ งง อยู่ เหมื่อน พูดถึง มี การ์ ตูน ให้ อ่าน ไหม
โดย: Oat IP: 124.121.173.3 วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:37:54 น.
ก็เคยดูนะทางช่อง STREAM
ผมว่านางเอกมันไปรักกับไอ้อ้วนน่าเศร้า แต่นางเอกสวยดีนะ โดย: SNE IP: 222.123.232.69 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:19:05 น.
ผมว่าไอ้ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงน่ากลัว และก็ดูแล้วน่าปวดหัว
โดย: SNE IP: 222.123.232.69 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:22:09 น.
เราดูรอบเดียวยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่มาอ่านแล้ว แบบว่า ใช่เลย
ยอดเยี่ยม จริงๆค่ะ!! โดย: Arokung IP: 118.173.147.183 วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:19:56:43 น.
ดูแล้วงงเต๊ก
มาอ่านแล้วช่วยมากอ่ะค่ะ โดย: น่ารักอ่ะ IP: 182.53.107.40 วันที่: 2 ตุลาคม 2554 เวลา:21:35:56 น.
อ่านย่อหน้าแรก เราก็คิดว่ากระทู้นี้ก็คงเป็นกระทู้ที่มารีวิวหนังการ์ตูนญี่ปุ่นธรรมดา แต่พออ่านย่อหน้าสองแล้วเพิ่งรู้ว่าคุณผู้เขียนกระทู้นี้มีความสามารถในการเขียนเพื่อ
กระชากจิตวิญญาณผู้อ่านให้ฟินไปตามๆกัน มาก . . . . โดย: Carmen Heart IP: 124.120.66.133 วันที่: 29 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:31:52 น.
ชอบฉากที่Paprika ที่ไอนั้นตรึงไว้กับโต๊ะเห็นแล้วหื่นเลย
โดย: โซระจัง IP: 125.24.250.14 วันที่: 14 สิงหาคม 2560 เวลา:18:47:34 น.
|
บทความทั้งหมด
|
คุณตีสารแตกสมกับที่รออ่าน
โชคดีครับ
เน็ท