The Vertical Ray of the Sun ไม่รู้อารมณ์ไหน วันนี้เลยหยิบ dvd เรื่องนี้มาดูซ้ำ หนังเล่าเรื่องอย่างเรียบเรื่อย ไม่เร่งรีบ ดูเพลิน รู้ตัวอีกทีก็ตอนเอนด์เครดิตลอยขึ้นขอบจอซะแล้ว หนังเป็นผลงานของ ตรัง อ่านห์ หุง ผู้กำกับชาวเวียดนามที่สร้างชื่อมาจาก Scent of Green Papaya (เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม) เช่นเดียวกับเรื่องนั้นที่เค้าเคยได้รับคำชม The Vertical Ray of the Sun ถ่ายทอดออกมาได้งดงามและละมุนอารมณ์ราวบทกวี หนังยังคงกล่าวถึงบทบาททางเพศในสังคมเอเชียระหว่างชายและหญิง ทำนองเดียวกับ Scent of Green Papaya ซึ่งผู้หญิงเอเชียมีหน้าที่ทำงานบ้าน ยกย่อง ให้เกียรติ และปรนนิบัติสามีอย่างถึงพร้อม (ในหนังมีบทสนทนาว่าหญิงไม่สามารถแตะศีรษะของชายได้) ในขณะที่ผู้ชายมีนิสัยรักสนุก สุขนิยม ใช้ชีวิตเป็นศิลปิน เห็นได้ชัดในเรื่องนี้ ซึ่งตัวละครฝ่ายชายมีอาชีพเป็นช่างถ่ายภาพ นักเขียน และผู้กำกับละคร ในความธรรมดาของเรื่องที่เหมือนไม่มีจุด climax หนังแสดงให้เห็นความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ภายในอย่างเงียบงำ ตัวละครของสามศรีพี่น้องซึ่งชีวิตภายนอกดูปกติสุข แต่ภายในกลับซ่อนปมปัญหาบางอย่าง ทั้งความเคลือบแคลงสงสัยในความรักระหว่างพ่อและแม่เมื่อครั้งยังมีชีวิต ปัญหาในครอบครัวพี่สาวคนโตที่สามีแอบไปมีบ้านเล็กส่วนตัวพี่สาวเองก็แอบคบหาชายชู้ พี่สาวคนรองเพิ่งตั้งครรภ์และเริ่มระแวงว่าสามีแอบปันใจให้หญิงอื่น น้องสาวคนเล็กก็สนิทสนมกับพี่ชายตนเองเหมือนคู่รักและยังไม่พร้อมจะแต่งงานหากชายคนนั้นไม่เหมือนพี่ชายตนเอง หนังกล่าวถึงเส้นแบ่งอันเลือนลางระหว่างขนบธรรมเนียมอันดีงามในสังคมและความปรารถนาอันไร้ขอบเขตของมนุษย์ ทั้งการนอกใจคู่สมรส เพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง และความสัมพันธ์อันคลุมเครือระหว่างพี่ชายกับน้องสาว (มีสัญลักษณ์ที่น่าสนใจคือการนอนชิดเตียงกันโดยมีมุ้งบางๆ กางกั้น) หนังเลือกที่จะไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือพิพากษาชี้ถูกผิด เพียงแค่กล่าวถึงพอเป็นประเด็น และแอบสะท้อนให้เห็นผลที่ตามมา โดยเฉพาะความทุกข์ที่เกิดขึ้นในจิตใจ หนังไม่ได้สรุปว่าแต่ละปัญหาถูกคลี่คลายออกอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือภาพการประคับประคองกันและกันของคนในครอบครัว แม้เรื่องจะเริ่มและจบลงด้วยงานบุญครบรอบวันตายของแม่และพ่อ แต่สมาชิกในครอบครัวก็ร่วมกันแต่งแต้มงานเลี้ยงด้วยรอยยิ้ม เสียงเพลง เสียงหัวเราะ และเรื่องราวเล่าสู่กันฟังระหว่างพี่น้อง ที่หนังสื่อออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดูอบอุ่น น่าประทับใจ ที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าหนังเรื่องนี้งดงามราวบทกวี คือนอกจากความสวยของภาพที่ดูอิ่มในโทนสีเขียว แดดอ่อนๆ ที่วูบไหว อบอุ่น สร้างบรรยากาศให้หนังดูร่มเย็น สุขสงบ จังหวะการเล่าเรื่องที่เนิบนิ่งเหมือนหนังอาร์ตญี่ปุ่น (อาจจะเป็นปัญหาหน่อยกับคนขี้ง่วง) ทำให้ผู้ชมซึมลึกและเต็มที่กับแต่ละฉาก บวกกับดนตรีประกอบที่เข้ากับอารมณ์เรื่อง เป็นจังหวะกลางๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกล่องลอย เบาสบาย โครงเรื่องของหนังแบ่งออกเป็นสามส่วนหลักๆ ตามตัวละครหญิง และสร้างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พ้องต้องกันอย่างมีจังหวะ (เหมือนที่เคยเห็นในเรื่อง The Hours ของสตีเฟ่น ดัลดรี ) เช่น น้องสาวคนเล็กเอ่ยกับพี่ชายว่าอยากกินมันต้ม ฉากต่อมาซึ่งไม่เกี่ยวกัน พี่สาวคนที่สองก็ออกไปขุดมันมาต้มกินกับสามี การตัดเล็บให้กันในหลายฉาก เรื่องเล่าเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของพี่สาวคนโตที่เหมือนกับสถานการณ์ของพี่สาวคนรอง ความรักที่ซ่อนเร้นของแม่ซึ่งคล้ายกับชีวิตของลูกสาว การชื่มชมพ่อตัวเองของน้องสาวคนเล็กที่กลายมาเป็นความชื่นชอบในตัวพี่ชาย เป็นต้น การสร้างเหตุการณ์ให้พ้องกันดังกล่าวประดิษฐ์ให้เรื่องราวดูมีลูกเล่นคล้ายการสร้างสัมผัสในบทกวี แม้ The Vertical Ray of the Sun จะมีกลิ่นอายความเป็นเอเชียอยู่สูง โดยเฉพาะภาพวิถีชีวิตของชาวเวียดนาม แต่เรื่องราวหลักที่ว่าด้วยความขัดแย้งระหว่างความปรารถนาของมนุษย์กับกรอบกฎเกณฑ์ทางสังคม ก็มีความเป็นสากลพอให้ผู้ชมทั่วไปมีอารมณ์ร่วมกับหนังได้อย่างไม่รู้สึกแปลกแยกนัก ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนเบื่อหนัง Hollywood ครับ เจ้าของบล็อกเขียนวิจารณ์ได้ดี ซะจนอยากหาหนังเรื่องนี้มาดูเลยค่ะ ^^
โดย: Roong IP: 1.46.243.62 วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:4:08:57 น.
ขอบคุณสำหรับการแนะนำครับ จะไปหามาดู ^^
โดย: Seam - C IP: 58.9.155.68 วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:20:11:47 น.
|
บทความทั้งหมด
|