ถึงลูกถึงคน... GPA 50% ดูแล้วทนไม่ได้ ขอเขียน Blog ซะหน่อย หมายเหตุ นี่คือความเห็นส่วนตัว จขบ. เท่านั้น ขอพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม จริงๆ ก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องระบบใหม่อะไรเนี่ยเท่าไหรหรอกนะ แต่จากที่จับประเด็นได้ คือ สอบ 50% เหมือนแต่ก่อน แต่สอบครั้งเดียว GPA 40% สาระการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสาขาที่จะเรียน GPAX 10% เกรดรวม ทุกวิชา ขอระบายความรู้สึก จขบ. ก่อน 555 คนแรก อาจารย์ จาก สกอ. ไม่มีมารยาท มากๆ ไม่รับฟังความคิดเห็น เอาแต่ส่ายหัว ต่อให้เหตุผลคุณถูกก็ตาม ก็ไม่ควรทำอย่างนี้ ทำตัวเหมือนคนไม่มีการศึกษา ไม่เคยทำงานร่วมกับผู้อื่น ถ้าคนอื่นเห็นผิด ก็ควรอธิบาย ด้วยเหตุผล ไม่ใช่เถียงไปอย่างนั้น ไม่ตรงประเด็น ก็ขอข้าได้พูด การพูดแสดงให้เห็นว่า 1. ไม่มีการร่วมมือ ระหว่าง การศึกษาขั้นพื้นฐาน กับ สำนักงานการอุดมศึกษา <<< ควรไปร่วมมือกันได้แล้วนะ 2. ระบบอุดมคติ ของ สกอ. คือการจับฉลาก นักเรียนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลคือต้องการความหลากหลาย และกระจายโอกาส ตามแต่ละท้องถิ่น (ไม่รู้ ไม่มีความสามารถพอจะเข้าใจเหตุผลเค้าได้ จำได้ว่าเข้าใจนิดนึงตอนเค้าพูด แต่มันก็ลืมไปแล้วอะ T_T) ก็พูดออกมาเต็มปากเต็มคำว่าอยากให้เป็นจับฉลากซะอย่างนั้น พูดไม่คิด หรือคิดแล้ว ก็ไม่รู้เนี่ย <<< ก็เห็นอยู่ชัดๆ ขืนจับฉลาก เด็ก ไทร์ เยอะกว่าตอนนี้แน่ๆ เห้ย เริ่ม ลืมแล้ว รู้สึกยังมีไรอยากเขียนอีกตั้งเยอะ 3. ยังไม่มีการศึกษา วิจัย ใดๆ ในการประกาศกฎ ออกมา 4. ยังไม่ยอมรับเต็มๆ ว่า แต่ละโรงเรียน แต่ละท้องถิ่น คุณภาพไม่เท่ากัน คำว่าคุณภาพ ไม่ใช่ความเหมาะสม ไม่ยอมรับตรงๆ ว่า เกรด 4 วิชา คณิตศาสตร์ โรงเรียนดัง ไม่เท่าเทียมกับเกรด 4 โรงเรียนเชิงเขา นี่ไม่ได้เป็นการดูถูก แต่เป็นความจริง ที่ยังไม่ยอมรับ แต่เห็นได้ชัดทุกคนว่าเป็นจริง สกอ. อ้างเหตุผลว่า ทุกโรงเรียนมีความหลากหลาย มาตรฐานไม่เท่ากันแน่นอน แต่ GPA นี้ สามารถวัดได้ว่า เด็กในแต่ละพื้นที่ มีความสามารถทางการเรียน ในสภาพแวดล้อมของตน ซึ่งแสดงถึงความสามารถ ในการเรียนต่อ และปรับตัวได้ในมหาวิทยาลัย <<< จริงหรือไม่ ดังที่ อาจารย์หัวหงอก ยกตัวอย่าง เด็กที่เรียนที่เชียงใหม่ แล้ว ได้เข้ามหาวิทยาลัย ที่กาญจนบุรี โดยที่ได้ GPA สูง แสดงให้เห็นถึงจะสามารถปรับตัวให้เรียนที่กาญจน์ ได้ (มันเกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย) เท่าที่ฟัง เหตุผล ที่มาลบความเสมอภาคตรงนี้ ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ถ้าจะอ้างว่า การศึกษาจัดเพื่อให้เข้ากับเด็กแต่ละคน แต่ละที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น การรับเข้ามหาวิทยาลัย ส่วนกลางก็ไม่ควรจะรับผิดชอบ เอาเด็กมารวมกัน แล้วแบ่งกระจายตามมหาวิทยาลัย 5. ยืนยัน จะไม่ฟังความคิดเห็นใครๆ ที่คัดค้าน กฎใหม่นี้ 6. การจัดกฎแบบใหม่ ประเด็นหลักคือ แบบ เก่า เด็กเครียดเกินไป แล้วก็ไม่ได้เด็กที่มีคุณภาพ จริงๆ (ดูมันจะขัดแย้ง กับที่พูดมาตัง้แต่ต้นนะ) ง่วงแล้วอะ ไว้ค่อยจัดการต่อนะ ถ้าว่าง สรุปๆ แล้วกัน สรุปฝ่ายเด็กไว้นิดนึงแล้วกัน แม้ว่าบางคนก็พูดไร้สาระไปหน่อย แต่ผู้ใหญ่ก็ฟังเด็กมั่งเหอะ 1. ไม่มีโอกาสแก้ตัว 2. GPA ไม่เป็นธรรม ดังนั้น 50% มันเยอะไป 3. ต้องเครียดตลอดเวลา เด็กอาจเห็นแต่ตัว เอาแต่เกรด (เคยเห็นมานักต่อนัก หละ แม้เราจะเป็นคนทำกิจกรรมมากมายตอน ม.ปลาย ก็มีเพื่อนที่ห่วงเกรด ห่วงเรียน แล้ว ก็เข้ามาในมหาวิทยาลัยก็อย่างนั้น อีกมาก เสียดายประสบการณ์ที่จะได้) 4. base on วิชา ที่ใช้ใน GPA มันเป็นวิชากลางๆ ควรมีความเป็นธรรม 5. จะทำอะไรก็ทำ ขอให้ชัดเจน และเด็กจะได้วางแผนชีวิตถูก ในชีวิต ม.ปลาย 3 ปี ความเห็นส่วนตัว 1. ถ้าตามปณิธานการศึกษาที่เน้นความแตกต่างระหว่างบุคคล และท้องถิ่น ดังนั้น ส่วนกลางไม่ควรยุ่ง ให้มหาวิทยาลัยจัดการของเขาเอง 2. ต้องยอมรับในสิทธิ ของผู้ตัดสิน เช่น นร. 3.5 รร.ชื่อดัง ทำกิจกรรมนอกหลักสูตร กับ นร. 4.00 รร.มีชื่อ เอาแต่เรียน เค้าจะรับใครก็ต้องยอม เหมือนตอนสมัครงาน เค้าจะรับใครก็เรื่องของเค้า 3. ปรับวิธีการ และทัศนคติ ของคนไทย ให้มีนิสัยที่ดี ตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่ใช่แก้ปัญหาที่วิธีการเอนทรานซ์ มันปลายเหตุ ถ้าการศึกษาดี จะรับแบบไหน มันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ พอก่อน ง่วง   Create Date : 29 เมษายน 2548 10 comments Last Update : 29 เมษายน 2548 10:26:20 น. Counter : 725 Pageviews. Share Tweet

อย่าให้คน(ท่าทาง)ไม่มีการศึกษา มากำหนดการศึกษาบ้านเมืองเรา ..   โดย: +KikKle+ 29 เมษายน 2548 9:43:47 น.

เอนท์ปีนี้ยังไม่ได้ใช้ใช่ปะ -คุณ +Kikkle+ เข้า blog คุณไปแล้ว แต่ไม่รู้จะเม้นท์ตรงไหนดีเนี่ย เม้นท์ตรงนี้แล้วกัน 555 (ก็เล่น เม้าท์จิ้มตรงไหน ก็ขึ้น comment ด้วยเน่อออ) คณะนิเทศอยู่ใกล้ที่อยู่เราจริงๆ นะเนี่ย   โดย: เด็กเล็ก 29 เมษายน 2548 10:35:16 น.

โชคดี ที่เรียนสายช่าง แถมจบนานแล้วด้วยเท่าที่อ่านๆดูมีแต่คนสาบแช่งไอ้คนคิดค้นระบบนี้เยอะมาก คงจะสำลักทั้งวันแน่ ฮิๆ ที่ไม่เห็นด้วยอย่างมาก ก็เรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบใดก็ตาม ถ้ายังไม่มีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดให้ดีก่อนแล้วเปลี่ยนไปนี่ ผมว่ามันไม่มีความรับผิดชอบเลยนะ   โดย: merf1970 29 เมษายน 2548 11:22:46 น.

ไม่เห็นด้วยเหมือนกันค่ะ ตั้ง 50% แน่ะ มันมากเกินไปสำหรับสิ่งที่เรียกไม่ได้ว่าเป็นมาตรฐาน   โดย: wphraman 29 เมษายน 2548 13:26:40 น.

เสียดายเมื่อคืนไม่ได้ดูครับ 50% เยอะไปจริงๆครับ เปลี่ยนเป็นเอนท์เหมือนปีที่แล้วได้ไหมเนี่ย เหมือนเป็นหนูทดลองของระบบการศึกษาไทย   โดย: news_tp 29 เมษายน 2548 15:07:42 น.

เสียดายเมื่อคืนไม่ได้ดูครับ 50% เยอะไปจริงๆครับ เปลี่ยนเป็นเอนท์เหมือนปีที่แล้วได้ไหมเนี่ย ***************************** เหมือนพวกผมเป็นหนูทดลองของระบบการศึกษาไทย   โดย: news_tp 29 เมษายน 2548 15:08:19 น.

ไม่ได้ดู แต่เอนท์สมัยที่ใช้ GPA 10% ถ้าใช้ 50 % คงจะเอนท์ไม่ติดมหาลัยที่เรียนจบมาแน่ๆ   โดย: rebel 29 เมษายน 2548 16:23:06 น.

โชคร้ายที่เกิดมาอยู่ในระบบแบบนี้อ่ะนะ ลุงคนนั้นคงถูกส่งมาแก้ขัดอ่ะค่ะ เค้าคงมีความสามารถพิเศษ แบบว่า สีข้างแข็ง ถูได้นาน ห่ะห่ะ   โดย: PADAPA--DOO (PADAPA--DOO ) 29 เมษายน 2548 22:51:17 น.

วาว มีคนแวะมาเยี่ยมเยียนมากเป็นประวัติการณ์ ขอบคุณค่า เออนั่นสิ ลุงเค้าคงถูกส่งมาแก้ขัด   โดย: เด็กเล็ก IP: 202.57.153.114 30 เมษายน 2548 8:42:34 น.

จีพีเอ คือ เกรดใช่ไหมครับ คนที่มีจีพีเอสูง คือคนที่เรียนเก่ง ขยัน อดทน บางคนเรียนไม่เก่งแต่ขยันก็ได้จีพีเอสูง ดังนั้นการที่ใช้ ห้าสิบเปอร์เซ็น มันก็ดีนะครับ จะได้ช่วยคนที่เรียนไม่เก่ง แต่ขยันให้มีโอกาสได้เรียนที่ดังๆบ้าง คนเราความฉลาดไม่เท่ากัน แน่นอน คนโง่ต้องเสียบเปรียบอยู๋แล้ว ดังคำที่ว่าคนโง่เป็นเหยื่อของคนฉลาด แต่คนโง่ก็มีสิทธิจะกลายเป็นคนฉลาดได้ถ้ามีความขยัน ดังนั้น จีพีเอนี้แหละที่เป็นตัววัดความขยันของคนเราไม่ใช่ความฉลาด สังคมไทยไม่ต้องการคนฉลาดแต่ต้องการคนดีและคนขยัน   โดย: คนดี IP: 125.25.140.205 23 กุมภาพันธ์ 2551 11:41:07 น.