The intersection
My Diary
Life blog
Guest book
Robot Blog
<<
กันยายน 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
19 กันยายน 2549
แก น้องแว่นแดง และเพื่อนสนิท
เรื่องเล่าจากเยอรมัน
จัดของๆ ไปยุโรป
ความพลาด ทำให้ได้บราวนี่ด้วยแป้งโกกิ นมข้นหวาน และ ไมโครเวฟ
เลี้ยงค่าย
ขับรถชนคนตายไม่ติดคุก แต่หมอช่วยคน แต่คนดันดาย กลับติดคุก
อวสานหมาอ้วน
ไปบ้านลี่ + หลายเรื่อง รวมๆ กัน
what's wrong here
Thailand Rescue Robot 2007 : Plasma-RX
finishing GRE กับ เล่าเรื่องตอนไปเมกา
สอบ TOEFL + เรื่องตลกเกี่ยวกับคนใช้ Wireless ที่หอ
ทริปบาส
อ่านแฮรรี่จบซะที
เรื่องเดิมๆ
อาการมาตรฐานของคนเพิ่งลงจากค่าย
นี่แหละ ที่ค่ายยุววิศวกรบพิธ
Toshiba Interview
ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ
แทกซี่กับพระราชดำรัส
ปัญหาขนรถกอล์ฟขึ้นรถบรรทุก
Creative journal ตอนที่ 3
Creative Journal ตอนที่ 2
เอาไปเลย Creative journal ครั้งที่ 1 แบบเต็มๆ ตอนที่ 1
Creative journal ย้อนหลังแบบปั่นๆ
เข้าใจแล้วใช่ไหมหละ สภาพคนกลางเป็นยังไง
อัตชีวประวัติของข้าพเจ้า
ดูหนังผี + วุ่นวายกับการลงทะเบียน
เพราะเวลาเปลี่ยนไป อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลง
Task ตอนกลับบ้าน+คะแนน TOEIC ออกหละ
ผ่านมาหละกะฤดูกาลสอบ
แก น้องแว่นแดง และเพื่อนสนิท
ชีวิต ปี 4 กับบั๊กตัวนึง
วันอยู่หอคนเดียว Blog นี้ยกให้เขียนถึง mate ที่หอคนนึงเลยแล้วกัน
กลับหอเร็ว+ห้องสะอาด ไม่อยากจะเชื่อ
วันนี้มีความสุขเป็นพิเศษอีก 1 วัน ประเทศไทยมีวันจะสงบสักที
เมาท์กะเพื่อน เรื่องเพื่อนโดนจับผิดกะคนที่โดนล้อว่าเป็นแฟน
แกงค์ มอเตอร์ไซด์
ได้เล่นน้ำสงกรานต์กะคนเยอะๆ ในรอบ 15 ปีเลยมั้ง
เดินไปกลับสยาม-สามย่าน เล่นๆ ใช่ไหมเนี่ยเรา
ในที่สุด ก็สอบเสร็จกะเค้าบ้างซะที
ทำตัวเป็นเด็กงอแงเหลือเกินเรา
หนังใหม่ : แค่พี่ค่ะเพื่อน เคยได้ยินมะ
ขอสักหน่อย เรื่องการเมือง
ผ่านไปแล้วโปรเจค เริ่มอ่านหนังสือได้แล้ว
ทำงานไม่ได้อีกหละ เบื่อจัง
ชั้นทำอะไรลงไปเนี่ย
หยุดสามวัน ที่ไม่ได้หยุด
4 ก.พ. เหตุการณ์มากมายจริงๆ
ข้อความสะกิดใจจากเพื่อน-ขอบใจนะเว่ย
วันงานบอลมาครบอีกปี อ่านแฮรรี่จบแล้ว(สักที)
ถึงเวลาที่ชีวิตเข้าสู่วิถีปกติสักที
ความรู้สึก กับ ความถูกต้อง
ปีใหม่ ในอินเตอร์เน็ตอีก 1 ปี ขออะไรดีนะ
สอบเสร็จแล้ว แต่ทำไมรู้สึกเบื่อ ขี้เกียจทำงาน + มือถือฟื้นคืนชีพหละ
ชิว เหลือเกิน ชีวิตช่วงสอบ ไปถ่ายรูปสวนลุม
บันทึกสำหรับช่วงเวลาแห่งความสับสน
อารมณ์ที่นึกไม่ออกว่าอารมณ์ไหน
ไปเยี่ยมเพื่อนที่เป็นเนื้องอกในสมองมาหละ
วันที่หงุดหงิด ไร้สาเหตุ
ทริปบาส
ความรู้สึกนี้แปลกหรือเปล่า
กีฬาเกียร์ + เที่ยวออบหลวง เชียงใหม่
ระหว่างรอซักผ้า
เข้าเน็ตได้สักที
เล่นห่วยจริงๆ เลยตรู
เหนื่อยโคตรๆๆ
ความรู้สึกที่เก็บได้ ความเหงาท่ามกลางผู้คน บนเส้นทางวันนี้
สอบเสร็จแล้ว (เขียนก่อนที่จะต้องจัดการกับ project)
พิสูจน์ ทฤษฎีการท้องเหมือนท้องเสียตอนสอบ + นึกฝันถึง PDA
อะไรทำให้มองไม่เห็นเนี่ย (ไม่ได้มองนั่นแหละ)
เดินหาของเข้าห้อง
ปฏิบัติการถล่มยุทธนาวา 2005
ความเห็นส่วนตัวต่อเรื่อง แหม่ม ช้าไปนิด แต่เห็นเมลล์นี้
บ่นไปงั้น
ตังค์ ที่หาเองก้อนแรก
อัพหละ หลังจากดองเค็ม blog มาเกือบเดือน- ไปทริปกรุ๊ปมาหละ
แล้วพวกเราจะเป็นยังไงต่อไป
กลับหอเร็ว แปลกๆ
วันสอบเสร็จ
คงเป็น Blog สุดท้ายก่อนไป ญี่ปุ่น
วันซ้อมรับปริญญา ของคนไม่ได้รับปริญญา
ว่าด้วยเรื่อง ไปบ้านบี และ ความเซ็งวันเสาร์
ทำไมเราจะต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย
อู้งานอีกแล้ว เห้อ แต่ก็นะ คุ้มสำหรับเจอใครสักคน
Blog ตามกระแส : ว่าด้วยเลิกรับน้อง แบบว้ากเกอร์
บาสนายช่าง กับ บั๊ก
วันที่เร่งรีบ และ ชิวๆ ในวันเดียวกัน
ไปทำ passport
ดูเหมืองแร่มาแล้ว กับพี่น้อง of decade 80
ไปดูมหาลัยเหมืองแร่กัน
ลงมาแล้ว อยากไปอีก แงๆๆๆๆๆ
หมากัดมือถือ
กลับมานะ เพื่อนรัก
ความเห็นส่วนตัวกับการรับน้อง
สัญญาทำงานชิ้นหนึ่งกับบริษัทแห่งหนึ่ง
Survey Trip ภาค
ประสบการณ์ธรรม
ถึงลูกถึงคน... GPA 50%
กลับมาจากค่ายแล้ว
จะไปค่ายแล้วนะ
น้ำตกเก้าชั้น หรือ น้ำตกเก้าโจร ที่สวนผึ้ง
สงกรานต์ กลับบ้าน แทบไม่ได้ทำอะไรเลย
Wireless lan ที่บ้าน
จ๊ากก งานเป็นกองทัพ
โทรศัพท์ไปเมืองนอก โดยเฉพาะ อเมริกา
islthailand และ port to C#
แก น้องแว่นแดง และเพื่อนสนิท
ดีใจนะ ที่เขียนแล้วก็ยังมีคนอ่านอยู่
หัวข้อดูเหมือนกับอะไรบางอย่าง
แต่จริงๆ แล้วคือ หัวข้อ 3 อันที่จะเขียน จะตอบ และจะพูดถึง
อันแรก "แก" blog ที่แล้วยังเขียนไว้แค่ outline
อันสอง "น้องแว่นแดง" ตอบน้องนิวที่มาตอบ blog เรา
อันสาม "เพื่อนสนิท" จะพูดถึง ก็เมื่อวานมันมีเหตุการณ์บางอย่าง (diary ของเมื่อวาน)
เริ่มจาก 3 ก่อนแล้วกัน 555
เมื่อวานปั่นงาน SE ด้วยความเมามัน ถึกๆๆๆ เอาเขาไถๆๆ เขียน code ตลอดตั้งแต่บ่ายสองครึ่ง ยันสามทุ่ม
เหนื่อย มากกกกกกกกกกกกก
แต่ยังไม่เสร็จ เพราะน้องมันจะกลับจากห้อง robot แล้วเราก็จะได้มีคนกลับด้วย มันมืดแล้ว แล้วตอนนั้นก็สมองล้า จนทำไม่ไหวแล้วอีกเหมือนกัน
กลับมานั่งพักเหนื่อยที่ห้อง เพื่อนก็ยังไม่กลับมา เพื่อนเนิร์ดก็ออกไปอ่านหนังสือ เพื่อนอีกคน ก็กลับหรือไม่กลับ หรือกลับเช้า ไม่อาจจะรู้ได้
นั่งพักเหนื่อยแบบหมดอะไรตายอยากเลยแหละ เหนื่อยมากกกก สักพักเพื่อนสนิทก็กลับมา
เห็นหน้ามันก็ดีใจนะ มีเพื่อนกลับมาห้องสักที มีคนให้คุยเล่นแก้สมองตายหน่อยก็ดี
แต่มันก็อารมณ์ไม่ค่อยจะดีมั้ง แต่มันก็ไม่อยากจะไม่ดีใส่เรา เราก็พยายามจะชวนคุย เล่นมุขให้มันอารมณ์ดี
แต่ก็นะ เราไม่ค่อยมีพรสวรรค์หรือ skill ด้านนี้เลย กลับทำให้มันอารมณ์แย่ลงซะอีกหละมั้ง มันถึงกลับต้องโทรไปหาแฟน แต่เราก็ยังไม่เลิกก่อกวนมัน (ก็กรูยังทำงานไม่ได้นี่หว่า) บอกว่าเที่ยงคืน จะอ่านหนังสือ ทำงานต่อหละ แต่มันก็คงรำคาญเราอยู่เหมือนกันหละมั้ง แม้มันไม่อยากจะบอกก็เหอะ ก็เราเห็นมันจะอ่านหนังสือก็อ่านไม่ค่อยจะได้ ก็เลยพยามเล่นๆ อยู่แถวมัน
ไอ้เราก็แอบน้อยใจเล็กๆ ไม่ยุ่งก็ได้ เหนื่อยสมอง เหนื่อยกาย ไม่อยากจะเหนื่อยใจอีก
กลับมานั่งอ่าน paper เลือก มาทำ present สักพัก มันก็ไปนอนเล่นเตียงเพื่อนอีกคน (เตียงหอยูมี 2 ชั้น จะขึ้นไปนอนเล่นชั้นบนมันลำบาก ส่วนเตียงชั้นล่าง เตียงเด็กเนิร์ดเรียบร้อยมาก ไม่มีใครกล้านอนจริงจัง ส่วนอีกเตียงเจ้าของกลับดึกมาก ทุกคนใช้นอนเล่นประจำ)
มันบอกว่าอีกครึ่งชม. ปลุกด้วย เราก็เสียงแข็งๆ เนื่องจากเครียดๆ และเซ็งมัน ก็บอกว่า
"ปลุกแล้วก็ไม่ตื่นหรอก แกหนะ"
มันก็ "เออๆ เด๋วตื่นเองๆ" ด้วยเสียงเซ็งๆ
ครึ่งชม. ผ่านไป ก็เดินไปปลุกมัน
มันก็อีก 15 นาที "เด๋วตื่นเอง"
ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ตื่นหรอก มันหนะ แต่ได้ข่าวนอนเตียงใครยะหล่อน
อีก 15 นาที ปลุกใหม่
คราวนี้ก็... ต่อปากต่อคำกันสักพัก แต่แบบว่าไม่ได้เถียงกันนะ แต่คือมันตอบมา เราก็พูดกลับ ไรงั้น
"แหวน อย่าต่อคำได้มะ เหมือนเถียงชั้น"
"ชั้นไม่อยากวีนแกนะ"
"จ๊ะๆๆๆๆ"
นอนต่อไป เราก็นั่งปั่น SE ต่อไป คืนนี้ต้องเสร็จ
สักพัก ก็เดินไปปลุกมัน "จะนอนก็ขึ้นไปนอนข้างบน" มันก็ทำหน้าหงุดหงิด กรูก็ ไม่ก็ได้ฟะ เด๋วมันวีนเอา
ไม่ได้กลัวมันวีนหรอกนะ แต่กลัวว่ามันวีน แล้วพอตื่นขึ้นมาแล้วมันก็จะเสียใจ มันเป็นบ่อยๆ เวลามันวีนแฟนมัน แล้วก็จะมาบ่นว่าไม่น่าทำเลย
(เค้าเรียกว่า กุกุจจะ ใครเรียน พระไตรปิฎิกแม่ชี คงจะจำได้)
นั่งทำ SE ต่อปาย
ทำ
ทำ
ทำ
และ
ทำ
เย้ เสร็จสักที
พอแล้วนะ ขี้เกียจ test bug แล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังมี แต่เอาพอ present พอหละ เหนื่อย
ก่อนอาบน้ำตั้งใจว่าจะนั่งสมาธิก่อนนอน แผ่เมตตาให้ใครๆ (ไม่ได้ทำมาหลายชาติ เป็นปีๆ จิตใจห่วย หลับประจำ ในห้องเรียนหนะ)
อาบน้ำ นั่งสมาธิ (แผ่เมตตาให้ไอ้เพื่อนตัวดีด้วย)
ก็รุ้สึกสมาธิไม่หลุดนะ แต่มันนอนไม่หลับหวะ รู้สึกตัวตลอดเวลา จะนอนก็นอนไม่หลับ งืม
จนเพื่อนเจ้าของเตียงกลับมา อีเพื่อนที่นอนอยู่ก็เด้งตัวขึ้นมาบนเตียงเชียว
แล้วก็ไม่ห่มผ้า ต้องให้กรูแอบดึงผ้าที่มันกอดมาห่มให้... เด๋วสอบก็เป็นหวัดกันพอดี
ส่วนช้าน ก็ยังนอนไม่หลับต่อไป
จนตอนเช้า message จาก dtac มันมาสองที ไอ้เราก็ตื่นหนะสิ คุณเพื่อนตัวดีก็ขอโทษ (ตอนนั้นง่วงๆ ก็ดีใจนะ แต่จริงๆ เราก็ไม่ได้โกรธมันสักหน่อย)
แล้วเราก็นอนต่อ จนบ่าย ก็นอนไม่ค่อยจะหลับ แต่ก็นอนๆ ไป แล้วมันก็ออกไป ไม่รู้ว่าวันนี้จะกลับมานอนห้องไหม
เรื่องที่ 2 น้องแว่นแดง
อยากจะบอกว่าน้องคนนี้ถ้าจะอยากเจอ จะไม่เจอ
เราไม่เจอน้องแว่นแดงมานานมาก เพราะว่ามีชนักติดหลังจะสืบข้อมูลให้
ส่วนเพื่อนเนิร์ด เมื่อวานก็เจอน้องแว่นแดง
และแฟนเพื่อน ตอนมารอเพื่อนที่หอ ก็เจอน้องแว่นแดง
เหอะๆ ตลกดี แต่เราก็ชอบมองนะ น้องเค้าไม่ได้สวย แต่เค้าน่ารัก ทอมตัวเล็กๆ
เมื่อวานเดินไป seven ซื้อข้าวกิน เจอคนลักษณะคล้ายๆ น้องแว่นแดง ซื้อเครปอยู่ แต่เค้าใส่แว่นสีดำ ไอ้เราก็เดินเข้า seven มาแล้ว จะออกไปดูก็กระไรอยู่ สั่งข้าวไปแล้ว
ขึ้นไปบนห้อง รายงานเพื่อน เพื่อนมันแบบว่ากระดี้กระด้าเกินเหตุอย่างมาก แต่คุยไปคุยมา จริงๆ หอนี้มีน้องแว่นดำด้วย มันบอกว่าเห็นแล้วเฉยๆ สู้น้องแว่นแดงไม่ได้ เห็นแล้วอยากได้(ดูมันใช้คำ)
เรื่องที่ 1 "แก"
จะพูดถึง 3 เหตุการณ์ที่นึกถึงคำว่า"แก" (ทำไมวันนี้มีแต่เลข 3)
อันแรก ตอนม.ต้น เข้ามา ตอนนั้นอยู่ ม.1 ก็ต้องเพื่อนสนิทๆ และหยาบคายหน่อย จะเรียกกันว่าแก ตอนนั้นยังพูด กรู มึง ไม่เป็นเลย (ไร้เดียงสามากๆ)
แล้วตอนนั้นซ้อมๆ ก็เพื่อนคนนึงชื่อเกม แต่เราก็เรียกว่าแกหนะแหละ ตอนคุยๆ ประชุมกันหลายคน ตอนนั้นอาจารย์ประจำชั้นอยู่ด้วย
"แก ไปทำอันนี้นะ" ...
อาจารย์ก็บอกว่า พูดแกไม่เพราะเลย ไม่ดีๆ พวกเราก็แก้ตัว ไม่ใช่แก แต่เป็น เกม ต่างหาก เพื่อนชื่อเกมหนะ
เพื่อนคนนี้เราก็เล่น crossword เป็นคู่เรา มันก็เล่นดีนะ แต่แอบแกมโกง (เราก็แอบติดความแกมโกงมันมาเยอะเหมือนกัน) และมันก็พูดจาก กรูมึง แก แต่ก็รู้สึกสนิทดี แม้จะคิดว่ามันหยาบคายไปหน่อยเหอะ
อัน 2 ความรู้สึกตอน ม.5 ลี่ เพื่อนสนิทตอนม.ปลาย (ตอนนี้มันอยู่เมกา จะไปแลกเปลี่ยนที่อังกฤษด้วย)
เรารุ้จักกับมันไม่นาน จริงๆ หน้าลี่เนี่ยเราคุ้นหน้ามากๆ ตั้งแต่ ม.4 เพราะว่ามันเป็นเพื่อนสนิท ของเพื่อนในกลุ่มเราตอน ม.4 แต่เราก็ไม่รู้จัก ไม่คิดว่ามันจะเป็นคนฮา และเก่งมากๆ ขนาดนี้
ทราย แนะนำให้เรารู้จักมัน ตอนรับโล่ ที่หอประชุม เพราะมันสนิทกันตอนไปอยู่ห้องตอน ม.5 แล้วมันเป็นคนเก่งมาก รับโล่หลายอัน (เรารับโล่แค่ฟิสิกส์ ที่มีคนได้พร้อมกัน 5 คน) ก็ทักกันไม่กี่คำ
และด้วยอะไรไม่รู้ ทำให้ได้เจอกัน ได้คุยกัน และได้สนิทกัน
เราจำได้ความรู้สึกที่รู้สึกสนิทกันขึ้นมาเพราะว่า มันเรียกเราว่า "แก" ขนาดแค่ใน ICQ นะ
เรารู้สึกแปลกใจ ทั้งๆ ที่ยังแปลกหน้า แต่ก็เหมือนสนิทกันมา ด้วยแค่สรรพนามว่า "แก"
แล้วมันก็ทำลายกำแพง ความแปลกหน้าลงอย่างรวดเร็ว
แล้วก็สนิทกันมาเรื่อยๆ
ว่าไปก็คิดถึงมันจัง มันเพิ่งกลับไปเมืองนอก
อัน 3 ฝน (ก็เพื่อนสนิทที่หอหนะแหละ)
ด้วยอะไรก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่ตอนแรกมันกลัวเรา มากมาย แต่ตอนนี้มันก็ถือว่าสนิทกันระดับนึงทีเดียว
เคยคุยๆ กัน เราต่างกับมัน แทบทุกเรื่อง คนละสไตล์ แต่ว่าสนิทกันได้ไง
มันว่า มีครั้งนึง เราเรียกมันว่าแก (ก่อนจะสนิทกัน) มันก็รู้สึกแปลก แต่มันทำให้กำแพงความเกรงใจ และอะไรหลายๆ อย่างมันหายไป
แล้วก็สนิทกันหนะแหละ
แต่ก่อนเราไม่เคยเข้าใจเลยว่า ไอ้ที่คนเค้าพูดมึงกรู หรือแก หรือะไรกันนั้น ที่บอกว่ามันดูสนิทดี มันเป็นเหตุผลตรงไหน
ไม่สุภาพเลย ไม่ต้องพูดหยาบก็สนิทกันได้
แต่ตอนนี้ เราว่ามันมีส่วนจริง
จริงๆ นะ (แต่เราว่าเราก็ยังดูว่าจะหยาบกับใครได้แค่ไหนเหมือนกัน)
Create Date : 19 กันยายน 2549
Last Update : 19 กันยายน 2549 20:52:41 น.
7 comments
Counter : 640 Pageviews.
Share
Tweet
วันนี้เข้ามาดูบล๊อกแหวนเพราะคาดว่าจะเขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์"ปฏิรูป"วันนี้ (ยังไม่มีแฮะ) :):):):):):)
เมื่อก่อนนี้เราเคร่งเครียดมากเลยเรื่องคำหยาบคำไม่หยาบเนี่ยเคยถึงขนาดไปนั่งปรับเพื่อนที่พูดคำหยาบคำละ 5 บาทตอนที่อยู่ประถมเลย (แต่สุดท้ายก็โดนเองไปหลายบาทเพราะคำว่า "แก" นี่แหละ)
เชื่อว่าจริงที่คำแต่ละคำมันก็มีอารมณ์ของมันอยู่นะ เช่นคำว่า "เร็ว" ก็ทำให้อารมณ์ที่ได้ยินต่างกับคำว่า "ช้า"
เรามีความเห็นว่าคำเรียกชื่อก็เหมือนกันนะแต่ละคำก็จะทำให้คนฟังมีความรู้สึกต่างกัน เช่นเมื่อสมัยเด็กมีเพื่อนบางคนชอบเรียกตัวเองว่า "ข้า" แล้วเรียกเพื่อนว่า "เจ้า" (เป็นสรรพนามที่คนเหนือชอบใช้ แล้วก็จะสังเกตว่าอั๋นจะใช้เป็นบางครั้ง) ก็จะให้ความรู้สึกว่าคนพูดเนี่ยดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขามดี คำว่า "แก" เนี่ยโดยมากเวลาได้ยินจะรู้สึกว่าเป็นคนที่อยู่ใกล้กันดี คำว่า "กรู" ก็จะรู้ว่าคนนี้เราลุยกับมันได้ทุกอย่าง แต่ถ้าคนเรียกชื่อเนี่ยจะให้ความรู้สึกอบอุ่น นะ
อาจจะรู้สึกไปเอง
โดย: MR.T IP: 203.156.64.35 วันที่: 20 กันยายน 2549 เวลา:17:21:52 น.
ขี้เกียจเขียนอะ รัฐประหาร
แต่เค้าคงคิดมาดีแล้วแหละ
โดย:
เด็กเล็ก
วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:10:56:09 น.
ไม่เห็นตอบ เลยว่าน้องเค้าเป็นใคร มาจากหนายย
จะได้ไปหา ถูก เหเหเห
โดย: น้องนิว IP: 124.121.0.40 วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:20:09:42 น.
กรูจะรู้ไหมหละ ยังไม่ได้ข้อมูล
โดย:
เด็กเล็ก
วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:22:15:59 น.
เรามะค่อยใช้สรรพนามเวลาเรียกเพื่อนแฮะ
ส่วนใหญ่เรียกชื่อ
อืม ยกเว้น เจ๊ 555
โดย: Boy IP: 203.209.125.217 วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:22:18:58 น.
แสดดด หาด่วนนนน
โดย: น้องนิว IP: 124.121.6.229 วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:18:48:52 น.
โว่ว ไม่ได้เข้ามาอ่านนานมาก
จะให้เรียก เจ๊ หรือ แก ดี อืมม.. เรียกวุ้นเส้นดีกว่า 55
ขอยกนิ้วให้กับ BLL ใน SE ของเจ๊ เปิดดูแล้ว โอว มันคิดมาละเอียดจริงๆ
(แม่ง ขี้เกียจอ่าน Formal ชิบ เบื่อหน่ายยย)
โดย: หมู IP: 58.8.47.118 วันที่: 23 กันยายน 2549 เวลา:14:50:03 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เด็กเล็ก
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ตัวตนในอีกมุมหนึ่ง
เพื่อนๆ จ๋า แอบอ่าน บอกให้เรารู้ด้วยนา( ทิ้งเมนต์ไว้นะ )
แม่แอมเบอร์
ไร้นาม
cocoa butter
Bluejade
รู้สึกแปลก
เกือกซ่าสีชมพู
รำเพย
ซีบวก
nmapxp
**mp5**
พะยูนน้อยกลอยใจ
pinit_note
MasP
Webmaster - BlogGang
[Add เด็กเล็ก's blog to your web]
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาฯ
ชมรมบาสเก็ตบอล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ
My Gallery
ชมรมนักประดิษฐ์วิศวกรรม
Bloggang.com
เมื่อก่อนนี้เราเคร่งเครียดมากเลยเรื่องคำหยาบคำไม่หยาบเนี่ยเคยถึงขนาดไปนั่งปรับเพื่อนที่พูดคำหยาบคำละ 5 บาทตอนที่อยู่ประถมเลย (แต่สุดท้ายก็โดนเองไปหลายบาทเพราะคำว่า "แก" นี่แหละ)
เชื่อว่าจริงที่คำแต่ละคำมันก็มีอารมณ์ของมันอยู่นะ เช่นคำว่า "เร็ว" ก็ทำให้อารมณ์ที่ได้ยินต่างกับคำว่า "ช้า"
เรามีความเห็นว่าคำเรียกชื่อก็เหมือนกันนะแต่ละคำก็จะทำให้คนฟังมีความรู้สึกต่างกัน เช่นเมื่อสมัยเด็กมีเพื่อนบางคนชอบเรียกตัวเองว่า "ข้า" แล้วเรียกเพื่อนว่า "เจ้า" (เป็นสรรพนามที่คนเหนือชอบใช้ แล้วก็จะสังเกตว่าอั๋นจะใช้เป็นบางครั้ง) ก็จะให้ความรู้สึกว่าคนพูดเนี่ยดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขามดี คำว่า "แก" เนี่ยโดยมากเวลาได้ยินจะรู้สึกว่าเป็นคนที่อยู่ใกล้กันดี คำว่า "กรู" ก็จะรู้ว่าคนนี้เราลุยกับมันได้ทุกอย่าง แต่ถ้าคนเรียกชื่อเนี่ยจะให้ความรู้สึกอบอุ่น นะ
อาจจะรู้สึกไปเอง