ทางทากและสายน้ำเชี่ยว...เชี่ยวระดับ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
ในบรรดาหนังสือที่เกี่ยวกับการเดินป่าทั้งหลายที่เคยอ่าน
หนังสือเล่มที่จะรีวิววันนี้ เป็นหนึ่งในห้าเล่มที่ประทับใจเลยค่ะ
ทางทากและสายน้ำเชี่ยว ของเสกสรรค์ ประเสริฐกุล
เล่มเล็กๆบางๆ ราคาก็แค่ 55บาท และถ้าไปซื้อในงานหนังสือก็จะเหลือเล่มละยี่สิบกว่าบาทเอง
ราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่คุณภาพสูงสุดขอบโลก
เมษายนปีนี้ ลองไปเดินดูที่งานก็ได้ค่ะ น่าจะมีขายที่บู๊ธสนพ.สามัญชน
ผลงานอมตะแบบนี้ แม้จะเขียนและพิมพ์มาประมาณ 15 ปีแล้ว ก็ยังขายได้อยู่เรื่อยๆ
แน่นอนไม่เอ่ยถึงคนเขียนไม่ได้เลย
เพื่อนๆหลายคนคงจะชินแล้วว่าเวลานักล่ารีวิวหนังสือ มักจะหนักไปที่ผู้แต่งมากกว่า
ก็มันเป็นอะไรแบบนั้นจริงๆซะด้วยสิ เพราะหนังสือดีก็อยู่ที่ผู้สร้างสรรค์เป็นข้อใหญ่
อีกอย่างหนึ่ง การรีวิวในความหมายของนักล่าฯมันแปลว่าแนะนำ ไม่ถึงกับวิจารณ์เจาะลึก
ก็เลยไม่อยากลงรายละเอียดมากเกินไป เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์จนเพื่อนๆรู้ทะลุซะจนหมดความอยากน่ะค่ะ
เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ชื่อนี้คงไม่ต้องพูดขยายความใดๆให้มาก
เพราะบทบาทนักต่อสู้สมัย 14 ตุลาและ 6 ตุลายังคงเป็นที่จดจำของใครๆ
จนบางครั้งนักล่าฯคิดว่า คนที่มีบทบาทชัดเจนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไปเนี่ยก็เสียเปรียบเหมือนกัน
คือแม้จะเก่งอีกเรื่องด้วย ก็อาจถูกมองข้ามไปได้
อย่างเรื่องบทบาทการเป็นนักเขียนของเขา เรียกว่าต้องเป็นคนที่อยู่ในแวดวงวรรณกรรมจริงๆ
ถึงจะสัมผัสได้ว่าอาจารย์เขียนหนังสือได้พลิ้วในระดับที่ตราตรึงใจ
ว่าแล้วก็ขอท้าวอดีตกันอีกเล็กน้อย (เห็นมั้ยคะว่ามันโดดเด่นจนนักล่าฯไม่พูดถึงเอาเลยก็ไม่ได้)
อาจารย์เสกสรรค์เป็นสามีของคุณจิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ อดีตนักศึกษาหัวก้าวหน้าที่เคยต่อสู้ กินอุดมการณ์ต่างข้าวอยู่ในป่าด้วยกัน
ทั้งคู่เป็นนักคิด นักเขียน เป็นนักวิชาการ และอีกมากมาย
ซึ่งอดีตของทั้งสองท่าน นักล่าฯก็จะขอจดจำไว้ เพราะมันเป็นอดีตที่สวยงามเจิดจรัสจริงๆ
อ.เสกสรรค์...นักล่าฯชอบผลงานการเขียนแนวชีวิตสารคดีการเดินป่าของท่านมากคนหนึ่ง
เพราะอ่านแล้วมันได้อะไรมากมายติดสมองจริงๆค่ะ สิ่งที่อาจารย์นำเสนอนั้นเป็นข้อมูลความจริงที่ทั้งสนุกและแยบคาย
ที่ชอบมากๆคือ เมื่ออ่านเวลาอาจารย์พูดถึงตัวเอง มันเป็นมุมมองแบบไม่ใช่คนหลงตัวเอง ทั้งที่อาจารย์เป็นพระเอกในสายตานักล่าฯอยู่นะคะ
หลายครั้งที่อ่าน รู้สึกได้ว่าคนคนนี้มีร้อน มีหนาว มีกล้า มีขี้กังวล มีขี้ขลาด
มีผิดพลาดหลายเรื่อง มองคนผิดบ้างก็บ่อย บางทีก็ปากไม่ดีกะคนอื่น
และอีกหลายอย่างที่เรารู้สึกว่า เออ เขาตำหนิตัวเองแบบจริงใจ ไม่ได้ตำหนิให้ใครแย้งเพื่อยกตัวเองขึ้นอีกครั้ง
ความอ่อนแอทั้งกายและใจ จะปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งในตัวผู้ชายที่แสนจะแข็งแกร่งและผ่านอุปสรรคชีวิตมาโชกโชน
กลั่นจิตวิญญาณผ่านตัวอักษรที่คม !เหลือเกิน
นักล่าฯคิดว่าหนังสือของเขา ทำให้เรารู้สึกถึงธรรมชาติแท้ๆของมนุษย์ค่ะ
"ทางทากและสายน้ำเชี่ยว" เป็นการเดินทางในป่าทึบในเขตจ.ชุมพร เมื่อปี 2537
คณะต้องผจญกับดงทากและความวิบากในป่าต้นน้ำหลังสวน ซึ่งนักล่าฯเองยังขยาดที่จะไปเที่ยวเลย เพราะมันทึบมากๆ
ครึ่งแรกของหนังสือเป็นการเดินป่าฝ่าทาก ครึ่งหลังเป็นการถ่อแพ ซึ่งอ่านแล้วได้อรรถรสจริงๆ
ได้ลุ้น ได้เหนื่อยตามไปด้วย อ่านแล้วก็...เออนะ การล่องแพไม้ไผ่กลางกระแสน้ำเชี่ยวแบบนั้นมันเหมือนเอาชีวิตไปแขวนไว้ยังไงยังงั้น
แต่มันก็ท้าทายสุดๆ
ซึ่งเมื่อผ่านไปได้จะรู้สึกประทับใจมิรู้เลือน เป็นความสุขให้ได้หวนนึกถึงครั้งแล้วครั้งเล่า
นักล่าฯก็เพิ่งรู้นะคะว่าคุณจิระนันท์ ว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ผู้เขียนแสดงความเป็นห่วงอยู่หลายครั้ง
อ่านไปอ่านมา...อ้าว หนึ่งในคณะผจญภัยมีเพื่อนเก่าของเราคนหนึ่งด้วยเหรอเนี่ย
คนนี้ก็ดังในวงการอนุรักษ์และท่องเที่ยว ไม่รู้ใครรู้จักไหม ชื่อ ศรัณย์ บุญประเสิรฐ
สมัยเรียนเคยเข้าป่ากะเขาตั้งสองสามครั้งแน่ะ ว่างๆจะขอเอาหนังสือเขามาแนะนำบ้างนะคะ
สรุปว่า การได้อ่านหนังสือสารคดีแนวผจญภัยที่เรารู้สึกว่าไกล้ตัวพอสมควรอย่างเล่มนี้ทำให้นักล่าฯมีความสุขจริงๆ
ปลื้มทุกถ้อยวลี ปลื้มในเรื่องราวมิตรภาพ ก็อย่างที่อาจารย์บอกไว้ด้วยสำนวนนักเขียนระดับเชี่ยวว่า
ถ้าผมจะต้องเลือกเอาระหว่างเสรีภาพสมบูรณ์แบบ ซึ่งตัดเฉือนสายใย ในหมู่มนุษย์จนขาดรุ่งริ่ง กับมิตรภาพซึ่งล้อมรัดไว้ด้วยมาลัยแห่งพันธะ ผมคงเลือกข้อหลังอย่างไม่มีข้อกังขา เพราะอย่างน้อยที่สุด มันทำให้ผมอยู่ในโลกนี้ได้โดยไม่บอบช้ำจนเกินไป
ขอคารวะหนึ่งจอกกับสองจิบ
งานหนังสือปีนี้ คงต้องไปเก็บตกหนังสือของอาจารย์กันต่อค่ะ
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
23 comments |
Last Update : 23 มิถุนายน 2558 9:12:14 น. |
Counter : 1983 Pageviews. |
|
|
|
ว่าแต่.. งานหนังสือเมื่อใดกันอ่ะพี่ จะได้แว๊บไป หาเรื่องเสียตังค์ตลอดอ่ะ 555
กะแล้วเชียว ว่าพี่ต้องอัพบล็อก แม่นจริงเรา...