"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
13 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

แนะนำเรื่องสั้นท่านเจียวต้าย .. เรื่องแมวแมว




เรื่องของคนกับหมาและแมว

เรื่องแมวแมว

"เพทาย"




เมื่อผมเริ่มอุปการะแมวหน้าบ้านนั้น มันมีอยู่ด้วยกันสามตัวเท่านั้น ตัวแรกเป็นสีขาวเหลืองดำ ผมเรียกไอ้สามสี ต่อมามีสีด่างดำขาว ผมเรียกไอ้ด่าง และตัวหลังสีด่างขาวกับน้ำตาลอ่อน ผมเรียกไอ้สีอ่อน ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวเมียทั้งสามตัว

สามสีนั้นเป็นแมวขี้อายหวงตัว เมื่อเอาอาหารออกมาใส่จานกระดาษหน้าบ้าน มันจะนั่งรออยู่ห่าง ๆ ถ้าจานไหนมีผู้เข้ามากินแล้ว มันก็จะไม่เข้ามา ต้องหาจานใหม่มาใส่ให้ต่างหาก และถ้าเราเอ็นดูเอามือไปแตะต้องตัว ยังไม่ทันจะลูบหัว มันจะตวัดเล็บตบทันที นังนี่ถนัดซ้าย

ด่างนั้นหางกุดถึงก้น หน้าตาสวยดีแต่ขี้กลัวและงก เราเอาอาหารใส่จานแล้ว ถ้าจานยังอยู่ใกล้เรา มันจะถอยหน้าถอยหลังไม่กล้าเข้ามากิน ต้องเลื่อนจานไปให้ใกล้ตัวจึงจะกิน และกินอย่างเร่งรีบกลัวใครจะเข้ามาแย่ง ขณะกำลังกินถ้าใครมาร่วมวงด้วยก็จะฮื่อฮ่าใส่ ใครกลัวก็ถอยไป ถ้าไม่กลัวก็กินได้ไม่ถึงกับตบตีกัน

สีอ่อนเป็นแมวสุภาพเรียบร้อย ทำอะไรชักช้าค่อย ๆ เล็มกินทีละนิด เลยโดนเจ้าด่างแย่งกินจนหมดก่อนที่จะอิ่ม แล้วนั่งมองทำตาซึ้ง ต้องเติมอาหารให้อีก

อยู่มาไม่นานนังสามสีก็มีลูกตัวหนึ่ง แต่เลี้ยงไม่เป็นเกิดมาไม่กี่วันก็ตาย ต่อมาก็มีลูกแมวตัวน้อยสีด่างดำขาว เพิ่มขึ้นมาอีกสี่ตัว ผมคิดว่ามันเป็นลูกนังด่างแต่มันกินนมนังสีอ่อน โดยไม่รู้ว่าลูกของนังสีอ่อนหายไปไหน เจ้าสี่ตัวนี้เป็นตัวผู้ทั้งหมด หางขอดสองตัวหางตรงสองตัว ต้องสังเกตที่หู ตัวที่โตกว่าเพื่อนหูขาว ตัวรองหูดำ ตัวที่สามหางตรงมีสนับสีดำที่ข้อศอกขาหน้าทั้งสองข้าง ดูท่าจะเก่งกว่าเพื่อนเรียกไอ้ซ่า ตัวสุดท้ายหางตรงแต่ตาขวาบอด เลยชื่อไอ้เดี่ยว

อยู่มาอีกไม่นานไอ้เดี่ยวหากินไม่ทันพี่น้องก็ตายไป และไอ้ซ่าถูกรถยนต์ถอยมาทับขาหลังขวา นอนแบ็บไปไหนไม่ได้ ผมสงสารมันจึงเอามาไว้ในบ้านให้นอนใต้ร่มไม้ แล้วก็เอาอาหารเม็ดและขันน้ำเล็ก ๆ มาวางให้กิน ไม่ช้าไม่นานก็ลุกขึ้นเขยกไปได้ แล้วก็เลยอยู่ในรั้วบ้านเป็นแมวเลี้ยงไปโดยไม่เจตนา

ขณะนั้นทองดำเป็นเจ้าของบ้านอยู่ แต่เป็นแมวตัวเมียและเจ้าของเก่าเขาคุมกำเนิดแล้ว มันจึงไม่สามารถขับไล่ไอ้ซ่าให้ออกจากบ้านไปได้ ต้องทนให้ไอ้ซ่าตื๊อทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน จนตายจากไปเอง

ส่วนเจ้าหูดำวันหนึ่งก็ป่วยเหมือนกัน ขนที่ขาและแผ่นท้องเกรียนไป เป็นรอยเหมือนไฟไหม้ คล้าย ๆ จะแสดงกายกรรมกระโดดข้ามเตาถ่านมายังงั้น แต่มันไม่ยอมให้รักษาเพราะเลียถึงทุกแห่ง เลียไปเลียมาขนก็ขึ้นแทนที่มีสีเหมือนเดิม ไม่มีใครรู้ว่ามันไปโดนอะไรมา

ในขณะเดียวกันก็มีแมวประเภทผู้ร้ายอยู่สามตัว เป็นตัวผู้ทั้งหมด เจ้าพวกนี้จะตัวโตหน้าดุลูกคางเหลี่ยมมองแล้วไม่มีความน่ารัก ตัวแรกลายเสือคอยแย่งอาหารแมวเด็กกิน หรือไม่ก็มานอนหมอบอยู่ในมุมมืด จะแบ่งอาหารให้ก็ไม่ออกมากิน แต่พอเราเดินลับตาไปแล้วจึงจะกิน เมื่อเรากลับมาเห็นมันก็จะวิ่งหนีไปทุกครั้ง

ต่อมาก็มีเจ้าลายเหลืองเข้ามาแย่งพื้นที่ เจ้าลายเสือก็หายไป เจ้าลายเหลืองนี้มีพฤติกรรมเลวร้ายกว่าลายเสือ คือจะไม่ยอมรอขออาหารที่เราจะให้ แต่จะแอบเข้ามาในบ้านทุกเวลาที่เผลอเปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อหาอาหารตามถังขยะ และหาที่วางถุงหรือกล่องใส่อาหารเม็ดที่เราซุกซ่อนไว้ ถ้าเป็นถังพลาสติก ก็จะทำให้ล้มจนฝาเปิด แล้วก็ขโมยกิน ถ้ายังไม่เอาออกจากถุงที่ซื้อมาจากร้าน ก็ลงแรงกัดแทะให้ถุงขาด แล้วก็ล้วงอาหารเม็ดออกมากิน จับได้ก็ไล่ตีกันทุกครั้ง แต่ไม่เข็ดไม่ยอมแพ้ แม้จะหาก้อนอิฐบล็อคมาทับ ก็ยังเห็นร่องรอยของความพยายามที่จะขโมยได้บ่อย ๆ

หลังจากไล่ฟาดกันอยู่ไม่นาน ก็มีผู้ร้ายอีกตัวเข้ามาขวาง ตัวโตเท่ากันสีขาวแต้มน้ำตาลแต่ยังโตไม่เต็มที่ เจอหน้ากันเป็นต้องลองกำลังฟัดกันอยู่เสมอ ทั้งในบ้านนอกบ้าน ทั้งกลางวันกลางคืน เสียงเจี๊ยวจ๊าวหนวกหู เพราะกว่าจะลงมือได้ต้องข่มขู่กันอยู่นาน ถ้าเป็นกลางวันเราเอาขันตักน้ำไปสาด มันก็ยังไม่เลิก ตัวไหนกระโดดก่อน อีกตัวเป็นพุ่งเข้าชาร์ตทันที เรียกว่าตัวไหนขยับก่อนเป็นแพ้ แม้ฝีปากฝีตีนจะพอกันก็ตาม

ลงท้ายเจ้าเหลืองเป็นฝ่ายหายหน้าไป เหลือแต่ตัวด่างน้ำตาลที่มีสีขาวอยู่กลางสันจมูกจึงเรียกว่าเจ้าแด่น

ก่อนเจ้าเหลืองจะหายไป เจ้าแด่นได้แผลที่คอด้านหลังเหวอะหวะเลียไม่ถึง ดูอาการจะลุกลามแบบอีแหว่ง ผมจึงจับเอายาเบตาดีนของคนหยอดแผลให้ มันก็นอนให้หยอดโดยดี ไม่ช้าก็หายดี เลยทำท่าจะเลิกเป็นผู้ร้ายอาศัยกินอาหาร แต่กินจุกว่าตัวอื่น

เจ้าแด่นพยายามทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อย หมอบคอยรับอาหารเป็นตัวสุดท้าย ถ้ายังไม่ถึงคิวก็จะร้องอิ๊ ๆ เบา ๆ เป็นเชิงเตือน เวลานอนเล่นในบ้าน พวกเจ้าด่างดำตัวเล็ก มาหยอกล้อด้วยก็ไม่ทำอะไร

วันหนึ่งเกิดบ้าอะไรขึ้นมาไม่ทราบ อยู่ดี ๆ วิ่งเข้าฟัดเจ้าซ่าซึ่งตัวเล็กกว่า และไม่มีทางสู้แต่วิ่งหนีแล้วเจ้าแด่นก็ยังไล่ตาม ผมก็ฉวยไม้อาญาสิทธิ์ ตามไปจะตีสั่งสอน

แต่มันไม่ยอมหมอบให้ตีเหมือนทุกครั้ง มันเดินหนีไปเรื่อย ๆ พอเราเร่งฝีเท้ามันก็วิ่ง เหมือนจะรู้ว่าตัวผิดคงจะโดนหนักแน่ เลยไม่ยอมให้ทำโทษ มุดรั้วหนีหายเงียบไป

ตั้งแต่บัดนั้นเมื่อมันโผล่มาเจอหน้าผม เป็นต้องหันหนีผมก็ร้องตามไปว่า ไอ้อันธพาลรังแกเด็ก หนีได้หนีไปอย่าเข้ามากินข้าวก็แล้วกัน ไม่ทราบว่ามันจะเข้าใจหรือเปล่า แล้วผมก็ตั้งหน้าจะฟาดมันทุกครั้งที่เห็น มันก็เลยอดได้รับเลี้ยงต้องคอยแอบกินตามจานที่พวกตัวเล็กเหลือไว้

จนกระทั่งเจ้าด่างดำทั้งสามโตขึ้นเต็มที่ และเจ้าหูขาวก็หายไปหากินที่อื่น เหลือแต่เจ้าหูดำกับเจ้าซ่า อยู่หน้าบ้านตัวหนึ่งหลังบ้านตัวหนึ่ง คราวนี้เจ้าแด่นคงจะแก่ตัวลง ก็โดนเจ้าสองตัวนี้ไล่ต้อนเอาบ้าง ผมก็ต้องเป็นกรรมการห้ามปรามอีก มันฟัดกันทั้งในบ้านและนอกบ้านอย่างเคย

ผมคิดดูแล้วก็เห็นสัจธรรมอย่างชัดแจ้ง ในบรรดาสัตว์โลกนี้ ผู้ที่แข็งแรงจึงจะอยู่ได้ ผู้ที่อ่อนแอถ้าไม่หนีไปหากินถิ่นอื่น ก็ต้องยอมเป็นลูกน้องของตัวที่แข็งแรงไป จึงจะอยู่ในถิ่นเดียวกันได้ และเมื่อตัวเก่งเฒ่าชราลง ก็มีตัวอื่นเก่งขึ้นมาแทนที่ เป็นวัฏจักรต่อไป

เดี๋ยวนี้ผมมีแมวให้เลี้ยงอยู่หน้าบ้านถึงเจ็ดแปดตัว เจ้าสามสีและเจ้าด่างกับเจ้าสีอ่อนก็ยังอยู่เพราะเป็นตัวเมีย แล้วก็ผลิตทายาทออกมาครั้งละสองตัวสามตัว พอโตขึ้นก็อยู่บ้างหายไปบ้าง จนไม่ถึงสิบตัวสักที ส่วนในบ้านก็เหลือตัวเดียวคือเจ้าซ่า เจ้าหูดำก็มาบ้างหายไปบ้าง

ผมต้องใช้อาหารเม็ดเดือนละกว่าสี่ถุง บางครั้งถ้ามีอาหารพิเศษเช่นข้าวคลุกปลาทู หรือหนังปลาช่อนหุ้มเกลือเอามาล้างเกลือออก มันจะเข้ามารุมแทะทึ้งพร้อมกับส่งเสียงงึมงำด้วยความชื่นชมยินดี จนผมต้องทำหน้าตายขอเศษอาหารที่เหลือกินจากร้าน เอากลับมาบ้านบ่อย ๆ จนคนขายเชื่อใจว่าเอาไปฝากแมว ไม่ได้เอาไปกินเอง จึงไม่ต้องเพิ่มน้ำจิ้มมาให้เปลืองไปอีก

แล้วก็ถึงวาระที่เจ้าแด่นจะต้องยอม ให้เจ้าซ่าข่มขู่เอาบ้าง มันจะนอนหมอบนิ่ง เจ้าซ่าก็จะดม ๆ ส่วนเจ้าแด่นคงจะส่งกลิ่นว่ายอมแพ้แล้ว เจ้าซ่าจึงไม่ทำอะไร เมื่อผมเดินเข้าไปหามันก็ไม่ลุกหนีเหมือนอย่างเคย แต่ผมก็อภัยให้มันแล้ว เพราะแมวมันก็คงไม่จำเรื่องเก่าได้ยาวนานเท่าไรนัก

ผมจึงเอาจอกตักอาหารเม็ดใส่จานที่มันเคยกิน มันก็เดินโขยกเขยกเข้ามาโดยยกขาหน้าซ้ายไว้ไม่ให้แตะพื้น

เมื่อมันก้มลงกินอาหาร ผมก็เอามือลูบหัวมันแล้วก็หยิบขาที่เจ็บขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นแผลในซอกกลางอุ้งเท้า ไม่ทราบว่าลึกหรือเปล่า ไม่รู้ไปเหยียบอะไรมา ผมจึงต้องเอาทิงเจอร์ของคนใส่แผลให้มันอีกตามเคย

ไม่รู้ว่าชาติก่อนผมไปทำบาปอะไรไว้กับไอ้เจ้าพวกนี้ ชาตินี้จึงต้องมีกรรมคอยเลี้ยงดู ปรนนิบัติวัฏฐากมันอยู่เป็นประจำ โดยไม่รู้ว่าจะสิ้นเวรลงเมื่อไรแน่

#######

ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป
๒๑ มีนาคม ๒๕๔๘

วารสารข่าวทหารอากาศ
พฤศจิกายน ๒๕๔๘




โดย: เจียวต้าย 13 พฤศจิกายน 2554 5:57:11 น.




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554
10 comments
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2554 6:38:15 น.
Counter : 590 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะพี่ห่อ น้องหนู


กว่าจะมาคอมเมนท์ได้ ก็สุดแสนจะอ่อนใจ
จะโพสต์ได้ไหมหนอ...

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 13 พฤศจิกายน 2554 10:16:24 น.  

 

พอคอมเมนท์เสร็จ
สั่งพิมพ์ เขาบอกว่า
บล็อกนี้ คอมเมนท์ได้เฉพาะสมาชิกค่ะ

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 13 พฤศจิกายน 2554 10:17:29 น.  

 

นี่นาถเข้ามาล็อกอินใหม่ค่ะ
เดชะบุญ ที่บล็อกบนนี้ได้
แต่ใช้น้องโมไม่ได้
ยังกะคนมือกุด มือด้วน
ก็ชอบเล่นน้องโม
แม้จะมีแบบกษัตริย์เหามหาราชก็เถอะ


แมวๆๆๆ วันนี้ ชอบสีอ่อนตัวเดียว
แมวอย่างนี้น่าคบหา น่าเลี้ยงดูค่ะ

ก่อนหน้านี้ เคยลงว่าด้วยเผ่าพงศ์วงษาวิฬาร์ทั้งตระกูล
คิดว่า พอจะรู้จักน้องแมวแก้ววิฬาร์บ้างแล้ว

ที่ไหนได้ พอจะรู้จักแมวจริงๆ จากเรื่องของพี่ห่อนี่เองค่ะ


ปากก็ว่าไม่อยากเลี้ยง แต่เอ็นดูเขาหมดทุกตัว
สังเกตสังกาจนนำมาเล่าสู่กันฟังได้อย่างสนุกค่ะ

ขอบพระคุณนะคะพี่ห่อ

ฮ่าๆๆๆ ...รูปน้องโมยิ้มกว้างสามตัว

กับอีตาอ้าปากกว้างไม่เห็นตาอีกตัวค่ะ

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 13 พฤศจิกายน 2554 10:25:50 น.  

 

ผมเขียนเล่าตามเวลาที่ผ่านมา
เวลาเปลี่ยนใจคนก็เปลี่ยนได้ครับ
ผมไม่เคยเกลียดใครหรืออะไรจริงจัง
และพร้อมที่จะรักใครหรืออะไรได้เสมอ
เรื่องจึงเป็นเช่นนี้ครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 13 พฤศจิกายน 2554 17:57:26 น.  

 

ดีแล้วค่ะ
พี่ห่อ ออกจะจิตประภัสสร ใจประเสริฐ

นาถยังกิเลสมาก รัก โลภ โกรธ หลง

หูตามัว หลงไปบ้าๆ บอๆ
นานๆ จึงจะรู้สึกตัวสักทีค่ะ



ใช้น้องโมได้แล้วค่ะ

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 13 พฤศจิกายน 2554 20:12:52 น.  

 

อุตส่าห์กลับไปบ้าน ไปยก เคส จากบ้านมา จะได้ไม่ตัดทุก ๑๕ นาที
กะไปดูน้ำด้วยค่ะ

โดยใช้ทางด่วน สามด่าน อ้อมโลก
จึงถึงปากซอยบ้าน

เหมือนจะไป รพ.วชิระ แต่ไปอ้อมศรีย่าน ราชวัตร ราชวิถี ถึงออกสามเสน ประมาณนั้นค่ะ

นั่งเรือน้อย ที่กลัวล่ม คนแจวจึงจูง เข็นเรือไป ๑๒๐ เมตร
ต้องยกเรือน้อยข้ามสะพานด้วยค่ะ

ที่บ้าน มีน้ำเข้าท่วมโรงรถค่ะ ก็สูงกว่าคนอื่น
ขอบคุณ คุณพระ...

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 13 พฤศจิกายน 2554 20:18:55 น.  

 

คราวนี้คงคุยได้ยาวตามใจขอบ
ว่าแต่ว่า อาการป่วยหายดีแล้วหรือครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 14 พฤศจิกายน 2554 5:28:05 น.  

 

เรื่องของคนกับหมาและแมว

กรรมของแมว

เพทาย


วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ผมลงจากรถโดยสารปรับอากาศสาย ๑๖ ที่ป้ายเลยสี่แยกมาบุญครองไปหน่อย แล้วก็เดินลัดเลาะเข้าไปในอาณาเขตสยามสแควร์ เพื่อจะไปทำบุญที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พอจะขึ้นสะพานลอยคนเดิน มองเห็นตู้โทรศัพท์เรียงเป็นแถว จึงนึกขึ้นมาได้ถึงแมวสองตัว ที่ส่งไปทำหมันแถวตลาดห้วยขวาง ตัวแรกป่วยมาสองสามวันแล้ว จึงยังไม่ได้รับกลับบ้าน ขอฝากไว้ให้เขาดูแลด้วย ตัวหลังเพิ่งป่วยเมื่อคืนนี้เอง เป็นโรคเดียวกันคือท้องเสีย ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีประการใด

เมื่อหยอดเหรียญลงไปในตู้โทรศัพท์ และมีเสียงกริ่งเรียกดังอยู่ในหูโทรศัพท์ของผมแล้ว ก็ยืนรอคนมารับสาย ระหว่างรอก็นึกลำดับเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นานนี้

เมื่อแม่แมวสองตัวคือ นังสีเทา กับนังอ้วน พาลูกมาอยู่ในบ้านผมนั้น ครอบครัวของนัง สีเทา อยู่ในสวนหน้าบ้าน ลูกของมันก็ค่อยลืมตาขึ้น แล้วก็โตวันโตคืน วิ่งเล่นอยู่ทั่วบริเวณ จนต้นไม้ในกระถางหงิกงอหักพับไปตาม ๆ กัน แต่ไม่ไปทางหลังบ้าน

ครอบครัวของนังอ้วน อยู่ใต้เตียงที่วางสัมภารกหลังบ้าน ซุกอยู่ในกล่องเปล่าใบหนึ่ง มันไม่ยอมให้ใครแตะต้องตัวทั้งแม่ทั้งลูก มันจะออกมาจากรังเพื่อกินอาหาร ที่ผมให้เป็นประจำ แล้วก็กลับเข้าที่ นอนให้นมลูก

จนกระทั่งลูกทั้งสองตระกูลเติบโตขึ้นมาไล่เรี่ยกัน และผมให้อาหารทางหน้าบ้าน เพื่อจะล่อให้มันออกไปกินนอกบ้าน มันก็ไม่ยอมออก แต่กินอาหารจานเดียวกันได้ จนกระทั่งลูกแมวอายุได้ประมาณห้าเดือน แม่ทั้งสองก็ทิ้งลูกมันไว้ให้ผมเลี้ยง ทั้งคู่ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในบ้านผมอีกเลย คอยอาศัยกินอาหารข้างนอกบ้านรวมกับแมวพเนจรตัวอื่น ๆ

ขณะนั้นผมจะสังเกตได้แล้ว ว่าลูกทั้งหมดของมัน ตัวไหนเป็นตัวผู้ ตัวไหนเป็นตัวเมีย ผมก็ตั้งชื่อให้มันสำหรับผมจะเรียกเอง พวกหน้าบ้านหกตัวเหลือสี่ตัว เจ้าตัวโตชื่อกระดิ่งก็เกิดป่วย นอนแบ็บไม่ยอมกินข้าวกินปลา กินแต่น้ำ หลานผมคนหนึ่ง ทำนายว่าตายแน่ ๆ แต่เขาเคยเอายาพาราเซตามอน บดกรอกให้แมวกินเมื่อนานมาแล้ว จำไม่ได้ว่าผลเป็นอย่างไร คราวนี้ผมจึงลองดูบ้าง ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นเจ้ากระดิ่งคางบวมตุ่ย คล้ายคนเป็นโรคต่อมทอลซินอักเสบ ผมก็ใจไม่ค่อยดีว่า มันเป็นของมันเองหรือเป็นเพราะยาของผม

แต่วันต่อมาอาการบวมก็ลดลง และเดินมาดม ๆ อาหารเม็ดได้ ผมก็ดีใจเที่ยวหาอาหารแมวที่เป็นซองข้างในเละ ๆ มาให้มันกิน มันก็กินได้นิดหน่อย ที่เหลือเจ้าตัวอื่นช่วยกินหมด

อีกสองสามวันต่อมา พอเจ้ากระดิ่งทุเลาลงพอจะกินอาหารเม็ดได้ เจ้าตัวรองชื่อ พุงลายก็นอนซมบ้าง แต่เจ้าตัวนี้ไม่สบายแล้วก็ออกจากบ้านหายเงียบไปเลย เจ้าตัวที่สามชื่อนมเย็นก็พลอยออกจากบ้านไปด้วย สองสามวันแรกยังมากินอาหารที่นอกบ้าน แต่แล้วก็หายเงียบหาไม่เจออีกตัวหนึ่ง เหลือแต่เจ้าตัวที่สี่ชื่อเจ้าปะซึ่งเป็นตัวเมีย จึงได้ส่งไปให้ผู้มีใจเมตตาที่ห้วยขวาง ช่วยพาไปทำหมันให้ และต้องนอนพักรอให้แผลหายอีกเจ็ดวัน แต่เพิ่งอยู่ได้ไม่กี่วัน ก็ได้รับแจ้งว่าป่วยเหมือนเจ้าตัวแรก ตั้งแต่เมื่อคืนนี้

ส่วนพวกหลังบ้าน เมื่อมันไปกินอาหารรวมกับพวกหน้าบ้านแล้ว ก็จะกลับมาเล่นหรือนอนที่หลังบ้านตามเดิม เจ้าตัวที่สองชื่อเจ้าเลอะเทอะ ออกไปนอกบ้านแล้วก็หายไปเลย ไม่ทราบว่าเป็นสุขหรือทุกข์อย่างไร เจ้าตัวที่สามชื่อมอมแมม ได้ส่งไปทำหมันก่อนเจ้าปะ ยังไม่ถึงเวลากลับบ้าน แล้วเจ้าตัวโตที่ชื่อเจ้าสั้น ก็ออกนอกบ้านหายไปอีกตัวหนึ่ง

คงเหลือแต่เจ้ากระดิ่งซึ่งหายป่วย อยู่คู่กับเจ้าซ่า ซึ่งเป็นแมวเลี้ยงที่แก่คราวพ่อคราวลุงของเจ้าพวกนี้เท่านั้น

เมื่อเจ้ามอมแมมไปอยู่ที่บ้านห้วยขวางได้ห้าวัน หลังจากทำหมันแล้ว ก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของบ้าน ว่า มันไม่สบาย ไม่กินอาหารและท้องเสียต้องพาไปหาหมอที่คลีนิค วันที่หกเมื่อผมเอาเจ้าปะไปฝากอีกจึงถือโอกาสเยี่ยมมอมแมมด้วย เขาว่าอาการดีขึ้นบ้าง แต่ยังต้องไปหาหมอให้ฉีดยาและให้น้ำเกลืออีกครั้ง และนัดว่าอีกเจ็ดวันค่อยมารับกลับพร้อมกับเจ้าปะด้วย ผมจึงให้เงินไว้จำนวนหนึ่งสำหรับค่าหมอคลีนิค และค่าทำหมัน ขาดเหลือค่อยว่ากันวันหลัง

แต่อีกสองวันต่อมา ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของบ้านว่า เจ้าปะไม่สบายมีอาการเหมือนเจ้ามอมแมม ต้องพาไปคลีนิคด่วน ผมก็ใจหายขอร้องให้ช่วยดูแลรักษากันต่อไปตามสมควร แล้วผมก็ภาวนาให้มันทั้งสองตัว หายป่วยกลับบ้านได้โดยเร็ว เพราะไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านั้น

ความจริงผมไม่ค่อยเต็มใจที่จะพาแมวทั้งสองตัวไปทำหมัน เพราะตัวผมเองก็เกลียดการผ่าตัดอย่างยิ่ง ด้วยเคยถูกผ่าตัดเล็กน้อยมาสองครั้งแล้วในชีวิต การที่เอาแมวที่มันอยู่ของมันดี ๆ ไปทำให้มันเจ็บตัวนั้น มันก็คงไม่เต็มใจนัก และการทำหมันนั้นก็ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของมัน แต่เป็นประโยชน์สำหรับผม ที่จะได้ไม่ต้องเลี้ยงลูกมันเพิ่มขึ้นในภายหน้า แต่มีผู้แนะนำให้เห็นประโยชน์หลายประการและหลายคน ทั้งมีตัวอย่างให้ดูด้วยว่า หลังจากนั้นแล้ว แมวก็จะมีสุขภาพดี น่ารัก น่าเอ็นดู ผมจึงตัดสินใจพามันไปทำบ้าง โดยปลอบใจตนเองว่า มันจะได้อยู่เป็นเพื่อนกันไปอีกนาน จนกว่าผมจะตายก่อนมัน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นการทำบุญหรือทำบาปกันแน่

เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังอยู่ในหูผมครู่หนึ่ง ก็มีเสียงยกสาย ผมก็บอกชื่อตนเอง แต่ยังไม่ทันจะพูดว่ากระไร ก็มีเสียงลอดออกมาว่า

“ เจ้าปะไปเสียแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ “

ผมนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ หนึ่ง ใจหายเหมือนได้ข่าวว่าญาติตาย เสียงเจ้าของบ้านทางโน้นเล่าความถึงการพามันไปรักษาที่คลีนิค แต่อาการไม่ดีขึ้น เพียงคืนเดียวก็อยู่ไม่ถึงเช้า เธอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่เกิดเรื่องเช่นนี้ เพราะไม่เคยมีมาก่อนเลย ช่วยเหลือพาแมวไปทำหมันมานานก็เรียบร้อยดีทุกตัว ผมก็ปลอบเธอว่า ผมไม่คิดอะไรเพียงแต่เสียใจในเคราะห์กรรมของมันเท่านั้น ส่วนเจ้ามอมแมมนั้นอาการดีขึ้น เธอบอกว่าจะต้องฉีดยาให้อีกเข็มหนึ่ง แล้วให้มารับกลับในวันพุธหน้า

ผมเดินซึมเข้าไปในวัดปทุมวนารามตามความตั้งใจเดิม นั่งรับศีลและฟังปาฐกถาธรรมจนจบ แล้วก็เอาเงินใส่กล่องรับบริจาค พร้อมกับอธิฐานส่งส่วนบุญให้กับเจ้าปะ ขอให้พ้นเวรพ้นกรรมเสียที เกิดใหม่ขอให้ได้ชีวิตที่ดีกว่านี้

เช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ออกไปใส่บาตรอีกองค์หนึ่ง อุทิศส่วนกุศลให้แก่แมวที่เคยมากินข้าวของผมและตายจากไปแล้ว คือ นังทองดำ นังน้ำเงิน เจ้ากุฏิ เจ้าหูขาว เจ้าเดี่ยว รวมกับลูกแมวที่ยังไม่ลืมตา ตระกูลของเจ้าบุญรอดอีกหกตัว และสองตระกูลหลังนี้ ที่เพื่อนข้างบ้านบอกว่าได้เก็บศพใส่ถุงดำทิ้งถังขยะไปสามตัว และยังเหม็นเน่าอยู่ที่ใต้ถุนเตี้ย ๆ อีก ไม่รู้ว่ามันเป็นโรคอะไร ถึงได้ตายในเวลาใกล้เคียงกันถึงห้าตัว รวมทั้งสิ้นเป็นสิบหกตัวด้วยกัน

ขอจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันเลย ไม่ว่าจะไปเกิดเป็นอะไรก็ตาม

วันต่อมาผมจึงค่อยมีความสบายใจขึ้น และนั่งรถเมล์ไปรับนังมอมแมมขึ้นรถแท็กซี่กลับจากบ้านห้วยขวาง พอหิ้วตะกร้าเข้าบ้านแล้วเปิดฝาออก มันก็ออกมายืนงงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ก้าวออกเดินด้วยอาการเป๋ ๆ ปัด ๆ คงเป็นเพราะต้องนอนคุดอยู่ในกรงสิบกว่าวัน จึงทำให้แข้งขาอ่อนแรงไป บ้าง

เมื่อผมเอาอาหารเม็ดมาใส่จานให้มันกิน มันก็ไม่กินแต่เที่ยวเดินไปดมที่โน่นที่นี่ เป็นการสำรวจพื้นที่ มันคงจะจำบ้านเก่าไม่ค่อยได้กระมัง เดินสำรวจเรื่อยไปจนเข้าไปในดงไม้เลื้อยข้างบ้านแล้วก็หายเงียบ ผมคิดว่ามันคงจะเข้าไปถ่าย ก็นั่งรออยู่แต่มันก็ไม่ออกมา ร้องเรียกมอมแมมหลายครั้งก็ยังเงียบ ไม่ยอมร้องตอบ จึงเดินไปดูก็เห็นเพียงลูกตาสีเหลืองจ้องเขม็ง มันแอบอยู่ลึกเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมมือเข้าไปได้ จึงคิดในใจว่าแล้วแต่ใจของมันเถิด ถ้าจะเกลียดขี้หน้าผม จะไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ว่า

แต่ถ้าพรุ่งนี้มันออกมากินอาหารเม็ดตามเดิม ผมก็คงจะเลี้ยงมันต่อไป เพื่อใช้หนี้ที่ทำให้มันเจ็บตัว พร้อมกับเจ้ากระดิ่ง และเจ้าซ่า จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง สุดแต่เวรกรรม ไม่ของผม ก็ของแมวนั่นแหละ.

##########

 

โดย: เจียวต้าย 14 พฤศจิกายน 2554 5:29:15 น.  

 


มีเพื่อนที่เลี้ยงแมวเคยเล่าให้ฟังค่ะ ว่าแมวจะจำบ้านตัวเองไม่ค่อยได้ ถ้ามาถึงบ้าน ให้ผูกไว้ก่อนจนเค้าคุ้นเคย ค่อยปล่อยได้...

แต่ดูๆ แล้ว โดยธรรมชาติ ถ้าเราเคยให้อาหาร เค้าน่าจะมาอีกนะคะ

ดูท่าคุณลุงกับแมว แมว คงผูกสมัครรักใคร่กันอีกนานแน่เลยค่ะ

เวลาเราบอกว่า "เกลียด" อะไรซักอย่าง ดูโหดนะคะ กะว่าชาตินี้คงไ่ม่ต้องญาติดีกันเลย แ่ต่ถ้า "ไม่ชอบ" ก็ยังพอคุยกันได้บ้างนะคะ หนูเองก็เคยสำรวจตัวเองเหมือนกัน เคยเกลียดอะไร หรือใครมั้ย



สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะคุณลุง / พี่นาถ




 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 14 พฤศจิกายน 2554 6:42:43 น.  

 

ทั้งเรื่องหมาหมาแมวแมว
และเรื่องแมวแมวหมาหมา
รวมทั้งเรื่อง คนคน หมาหมา และแมวแมว
คาดเดาว่าพี่ปู่คงใช้วัตถุดิบใกล้ตัวมาสร้างสรรค์ปั้นเป็นตัวอักษรแน่ๆ

เป็นนักเขียนที่มีวิญญาณของนักเล่าจริงๆ
ก็เล่าได้ราวกับกำลังคุยให้ฟังทีเดียว
คนฟังก็ฟังเพลิน
ไม่แน่นะบางคนอาจจะอ้าปากหวอน้ำลายหยดตึ๋ง..ก็ได้

 

โดย: ร่มไม้เย็น 7 สิงหาคม 2555 21:04:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.