"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
10 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

แนะนำเรื่องสั้นท่านเจียวไต้ .. เรื่องของคนกับหมา




เรื่องของคนกับหมาและแมว

เรื่องของคนกับหมา

"เพทาย"




ดูเหมือนจะมีคำพังเพย ของคนข่าวหนังสือพิมพ์ มาตั้งแต่โบราณแล้วว่า หมากัดคนไม่เป็นข่าว คนกัดหมาจึงจะเป็นข่าว แต่ผมได้พบเห็นเหตุการณ์ทำนองนั้นมาแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เอง กลับไม่มีข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับใดเลย

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อผมเดินลงมาจากชานชลาสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีผู้โดยสารลงกันมากมาย ผมเดินตามกลุ่มคนลงบันไดมาร่วมสี่สิบขั้น และเดินต่อไปบนสะพานลอย ซึ่งทอดยาวออกมาทางด้านโรงพยาบาลราชวิถี แล้วจึงลงบันไดอีกกว่าสี่สิบขั้น กว่าจะถึงทางเท้าข้างถนน ผมเดินลงมาจนเกือบถึงขั้นสุดท้าย ก็เห็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงเชิงบันได

มีหมาตัวหนึ่งลักษณะเป็นพันธุ์ทาง คงจะมีเชื้อฝรั่งอยู่มากหน่อย ตัวใหญ่ปากแหลม หูตั้ง แต่หน้าตาดูซื่อ ๆ นั่งยันสองขาหน้าแล้วสูงเลยเข่า มันนั่งนิ่งเหมือนกับสุนัขตำรวจหรือทหาร ที่อยู่ในแถวเคียงข้างครูฝึก ตามองตรงไปข้างหน้า ไม่ได้เหลียวมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาเลย และไม่ได้อ้าปากหายใจจนลิ้นห้อย เหมือนอย่างที่เคยเห็นทั่วไป ที่พื้นทางเดินเบื้องหน้าของมันมีแผ่นกระดาษแข็ง เขียนเป็นภาษาไทยมีความทำนองว่า ขอเศษสตางค็ ให้ผมซื้ออาหารเลี้ยงชีวิตด้วยครับ

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ขันใส่เงินที่วางอยู่ตรงหน้าหมาตัวนี้ ซึ่งมีเงินเหรียญกองอยู่ก้นขันค่อนข้างมาก เรียกว่ามากกว่าคนขอทานที่เคยเห็นมา อาจเป็นเพราะมันไม่สามารถจะเก็บเข้ากระเป๋า ให้เหลือแต่น้อยดูน่าสงสารได้ ที่สำคัญคือมีธนบัตรใบละร้อยบาทหนึ่งใบ กับยี่สิบบาทอีกหนึ่งใบ วางอยู่บนเงินเหรียญเหล่านั้น ผมล้วงมือลงไปคลำเศษเหรียญในกระเป๋ากางเกง ปรากฏว่ามีแต่เหรียญสิบบาท จึงต้องชะงัก เพราะผมไม่ค่อยจะได้ให้ขอทาน ทีละสิบบาท รีบบอกมันในใจว่า เดี๋ยวไปฉี่ก่อนเขาทอนแล้วจะเอามาให้

และผมก็เดินเข้าไปในห้องสุขาสาธารณะที่อยู่ใกล้ ๆ เสียค่าผ่านประตูสามบาท ได้เงินทอนมาเจ็ดบาท คิดว่าจะเอาเหรียญห้าขึ้นรถเมล์ เศษสองบาทให้เจ้าหมอนั่น

แต่เมื่อเสร็จธุระแล้ว เดินกลับมาที่เดิมก็ต้องแปลกใจ มือกำเศษเหรียญบาทค้างอยู่ในกระเป๋ากางเกง เพราะเจ้าหมอนั่นยังนั่งอยู่ที่เดิม แต่ไม่มีขันใส่เงินเสียแล้ว ความคิดแล่นเร็วว่า เจ้าของเขาเลิกงานแล้วกระมัง แต่ทำไมมันยังนั่งอยู่ที่เดิม อิริยาบถก็เหมือนเดิม ไม่รู้จะถามใคร เพราะถึงถามเจ้าตัวมันก็คงไม่ตอบ

พอดีเห็นหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้เคียง เขากำลังจ้องมองมันอยู่ ผมเหลียวไปรอบตัวเพื่อจะหาผู้ที่มีท่าทางว่าจะเป็นเจ้าของ ก็ไม่มี เห็นแต่ผู้คนที่ยืนรอรถเมล์ และคนที่กำลังลงบันไดมา ต่างก็จ้องมองไปที่จุดหมายเดียวกัน

ผมจึงตัดสินใจถามชายหนุ่มคนนั้นว่า เจ้าของเขาไปไหนเสีย และทำไมมันจึงไม่มีขันเหมือนเมื่อกี้ เขาตอบว่าเห็นวิ่งไปทางโน้น เขาแหงะหน้าไปทางหัวเลี้ยวไปถนนราชวิถี ผมก็ถามด้วยความสงสัยว่าวิ่งไปทำไม เขาก็ว่าวิ่งตามเด็กไป แต่คราวนี้เขาไม่รอให้ผมสงสัยต่อ รีบบอกว่า เด็กมันคว้าขันใส่เงินวิ่งไป เจ้าของเขาอยู่ข้างหลังตู้โทรศัพท์สาธารณะ แลเห็นก็เลยวิ่งไล่กวดไป โธ่เอ๋ย…..เวรกรรมแท้แท้ทีเดียว

ผมถอนใจใหญ่ กำลังจะเอาเงินเพิ่มให้สักสองบาท ก็ไม่มีขันจะใส่เสียแล้ว
แต่ก็ตัดสินใจอีกครั้ง ตั้งใจว่าจะให้แล้วก็ควรจะให้ ผมจึงเดินเข้าไปเอาเงินสองบาท วางลงบนกระดาษแข็งที่ยังแบอยู่ตามเดิม ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ยืนเดินอยู่รอบ ๆ ตัว โดยไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร

ถ้าเขาเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมา แล้วคิดเหมือนอย่างผม บางทีกระดาษแข็งแผ่นนั้น อาจจะมีเศษเงินเพิ่มขึ้นอีกก็ได้

ผมไม่ยอมสบสายตาใคร เดินจ้ำออกไปทางศาลาพักผู้โดยสาร ที่เรียงรายอยู่ พยายามมองหาว่าเจ้าของหมา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชาย จะตามเด็กมือไวทันหรือไม่ ถ้าเดินกลับมาพร้อมกับขัน ผมก็จะดีใจด้วย แต่ก็ไม่เห็น

พอดีรถเมล์สายสิบสองแล่นมาจอดหน้าป้าย ผมจึงรีบสาวเท้าขึ้นไป และพ้นจากจุดเกิดเหตุมาได้ อย่างหงุดหงิดในหัวใจเต็มที

ความสลดสังเวชเกาะกุมจิตใจผมอยู่ ตลอดเวลาที่นั่งมาบนรถเมล์คันนั้น เมื่อกี้ผมไม่อยากมองหน้าเจ้าหมาแสนซื่อตัวนั้น ผมคิดว่าทำไมมันไม่งับมือเด็ก ที่มาหยิบขันของมัน ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เจ้าของ แล้วก็ตอบตัวเองว่ามันเป็นหมาสุภาพ เจ้าของไม่ได้ฝึกให้มันจับขโมย เหมือนอย่างสุนัขของตำรวจ มันไม่มีสัญชาตญาณที่จะรู้ว่า ผู้ที่หยิบขันใส่เงินของมันเป็นผู้ร้าย มันจึงนั่งเฉยไม่เขยื้อนที่ และไม่ได้ลุกขึ้นยืนเสียด้วยซ้ำ แสดงว่ามันเคารพคำสั่งของเจ้าของ ที่ให้มันนั่งนิ่งอยู่ อย่างซื่อสัตย์

และทำไมผู้คนที่ยืนรอรถเมล์มากมายเหล่านั้น จึงพากันเฉยเมย ข้อสำคัญคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาจร ที่เคยอยู่แถวนั้นตั้งหลายนาย หายไปไหนหมด และไม่มีแม้แต่พลเมืองดีที่จะช่วยวิ่งไล่จับคนร้าย ปล่อยให้หนีไปได้ต่อหน้าต่อตา ไม่รู้สึกสงสารหมากันบ้างเลยหรือ หมาที่แสนซื่อแสนดี

หวังว่าเมื่อเจ้าของกลับมา คงจะไม่โมโหโกรธา ถึงกับด่าว่าหรือทำโทษมันซ้ำอีก

ผมคิดอยู่ในใจเรื่อยเปื่อย ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจแทนหมา จำนวนเงินในขันมันมากพอ ที่จะทำให้คนเราโลภจนกล้าทำผิด ต่อหน้าผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง และไม่อายหมาบ้างเลย

ส่วนคนที่จะช้ำยิ่งกว่าหมา ก็คือเจ้าของหมา ซึ่งประมาทว่าอยู่ท่ามกลางกลุ่มชน ปล่อยให้ธนบัตรสีแดงวางล่อตาคนร้าย จนลาภที่อยู่แค่มือเอื้อมต้องหลุดลอยไป

ผมคิดอยู่จนกระทั่งถึงป้ายจอดรถจุดที่ผมจะต้องลง ก็ยังไม่เลิกคิด ทั้ง ๆ ที่พยายามแล้ว จนต้องเอาธรรมะมาใช้ ขณะที่เดินเข้าตรอกบ้าน

คือเมื่อเราเห็นผู้ใดได้รับทุกข์แล้ว แต่สุดความสามารถที่จะช่วยเขาได้ ก็ควรจะวางเฉยเสีย ตัวเราจะได้ไม่พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย

แล้วนี่เจ้าหมอนั่นมันจะทุกข์หรือเปล่าก็ไม่รู้ เราเอามาคิดเสียเป็นวรรคเป็นเวร ด้วยความสงสาร ทั้ง ๆ ที่เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนาน หลายนาทีแล้ว

แต่ถึงอย่างไรผมก็อดที่จะประนาม ผู้ที่วิ่งราวขันใส่เงินของหมาตัวนั้นไม่ได้ พุทโธ่เอ๋ย คนเราทุกวันนี้ ก็แย่งกันกินจนนัวเนีย ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร อะไรเป็นอะไรแล้ว ยังไม่พอ

ดันมาแย่งหมากินเสียนี่ ………..อนิจจา..คนหนอคน.

###########

นิตยสารต่วยตูน
พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ปักษ์แรก



โดย: เจียวต้าย วันที่: 10 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:17:24 น.




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2554
13 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2554 7:52:04 น.
Counter : 886 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะพี่ห่อ น้องหนู


อาการมีเสมหะ ลองอมลูกอมไทยๆ ที่กัดเสลดซีคะ
พวกสิงห์อมควัน จะเป็นมากตอนแก่
พี่ห่อไม่ได้สูบนี่คะ

ทานส้มเปรี้ยวบ่อยๆ นะคะ
เผื่อจะดีขึ้นค่ะ

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 10 พฤศจิกายน 2554 7:54:52 น.  

 

เคยอ่านแต่ข่าว คนวิ่งราวเงินขอทาน
เพิ่งได้อ่าน วิ่งราวเงินน้องหมานี่แหละค่ะ
เวลาท้องหิว คนก็ทำอะไรได้สารพัดนะคะ

ก็มันหิวจนตาลาย
ในถังขยะก็ค้นแล้ว ..ไม่มีอะไรกินได้
มันจึงต้องแย่ง แม้แต่หมา

ชีวิตบัดซบนะคะ
เฮ้อ สัตว์โลกหนอ
เป็นไปตามกรรมโดยแท้

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 10 พฤศจิกายน 2554 8:03:08 น.  

 

ปี ๔๖ ค่าเข้าห้องน้ำสาธารณะ ๓ บาทเชียวหรือคะ
แล้วคนที่ไม่มีเงินเลยสักสตางค์
เขาทำอย่างไรกันหนอ...

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 10 พฤศจิกายน 2554 8:04:39 น.  

 

ตลาดห้วยขวาง
มีข้าวเหนียวมูนเจ้าอร่อย นอกจากสะพานควาย
เมื่อ สนง.อยู่พหลโยธินนั้น เคยไปซื้อกับเพื่อน
ตอนไปมีรถไป ขากลับได้ขึ้นสาย ๑๒ ไปแวะซื้ออะไรอื่นก่อน
แล้วค่อยนั่งแท็กซี่กลับค่ะ

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 10 พฤศจิกายน 2554 8:07:40 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะพี่นาถ

 

โดย: kobnon 10 พฤศจิกายน 2554 8:50:23 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาทักกันวันลอยกระทงจ้าพี่นาถ ดูท่าจะแข็งแรงขึ้นแล้วนะคะเนี่ย
คนรุ่นพี่นาถชอบอ่านต่วยตูนกันเยอะนะคะ คนรุ่นใหม่ไม่รู้จะอ่านหรือเปล่า

 

โดย: หอมกร 10 พฤศจิกายน 2554 9:14:33 น.  

 


สวัสดีวันลอยกระทงคุ่ะ คุณลุง / พี่นาถ

มาซะเย็นค่ะ รอบเช้าใช้เครื่องไปได้แป๊บเดียว หมอกเค้าขอใช้เครื่อง กำลังเห่ออยากเขียนนิยายค่ะ หมกมุ่นมาก...เพิ่งบอกเค้าตอนหนูทำงานบ้านเสร็จช่วงบ่าย ขอแม่ใช้หน่อยนะ

อ่านแล้วมองต่างมุมค่ะคุณลุง หนูเองไม่ค่อยชื่นชมกับคนแบบนี้ เช่นให้ช้างหาเลี้ยง เค้าคงพึ่งพากันและกัน เพราะควาญช้างก็ต้องดูแลช้างก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน เราๆ ยอมซื้ออาหารกับควาญช้าง เพราะสงสารช้างมากกว่า นี่ก็เหมือนกันมีหมานั่งแทน...หนูเคยเห็น ป้าคนนึงแกเอาหมาัตัวเล็กๆ ป่วยด้วย ผอมด้วย (ดูจากรูปร่าง) ใส่ตะกร้ามา 2-3 ตัว แล้วมีป้ายให้ช่วยบริจาคให้หมา เป็นค่าอาหาร ค่ารักษา อะไรก็ว่ากันไป...อันนี้ช่วยด้วยความเต็มใจค่ะ

จำได้ว่าคุณลุงเคยบอกว่าถ้าคิดจะทำ ทำไปเลย ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยว่าจะได้ หรือไม่ได้ หนูก็พยายามนะคะ แ่ต่เหตุการณ์นี้คงไม่ยอมค่ะ

ที่น่าประณามที่สุดคนวิ่งราวหมา...เชื่อเค้าเลย...บางทีเราเห็นอะไรตรงหน้า ต่อหน้า่ต่อตา รู้ว่าไม่ดีก็เพิกเฉย ธุระไม่ใช่...ดูแล้วแห้งแล้งนะคะ




 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 10 พฤศจิกายน 2554 16:17:18 น.  

 

ในเรื่องนี้หมาก็เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งของการขอทานครับคุณสายหมอกฯ
เหมือนลุงบางคนสีซอมีเพียงสองเสียงคือ อี่แอ๊ อี่แอ๊...

ห้องสุขาที่อนุสาวรีย์ชัยน่าจะเกิดพร้อมกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอาครับคุณนาถ พอเริ่มดำเนินกิจการก็เก็บสามบาทเลยครับ แรก ๆ ก็สะอาดเอี่ยมเรี่ยมเร้เลยละครับ.
แต่เผอิญซอไม่ได้กินข้าวเหมือนหมาน่ะครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 10 พฤศจิกายน 2554 17:57:21 น.  

 


อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 11/11/11


วันนี้ขอเขียนเลขอารบิคเรียงตัวเลขเหมือนเค้าหน่อยค่ะ ไม่มีความหมายอะไรนะคะ


เมื่อคืนแถวบ้านเงียบเหงาค่ะ ไม่มีงานลอยกระทง ดึกๆ สะดุ้งขึ้นมา เสียงจุดประทัด เสียงมอเตอร์ไซด์แว๊นๆ เฮ้อ...ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวกันเลย




 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 11 พฤศจิกายน 2554 6:18:51 น.  

 

แถวบ้านผมเงียบสงัดตลอดคืนเลยครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 11 พฤศจิกายน 2554 7:41:16 น.  

 

เรื่องของคนกับหมาและแมว

แมวอีกแล้ว

เพทาย


ผมเคยเล่าไว้ว่าครอบครัวของแมวชื่อสีเทาที่อยู่ทางหน้าบ้าน ทิ้งลูกไว้ให้ผมเลี้ยงตัวหนึ่ง ชื่อเจ้ากระดิ่ง เพราะมีหางยาวแต่ตอนปลายคดงอเหมือนงูหางกระดิ่ง ต่อมามันออกลูกมาอีกครอกหนึ่งกี่ตัวจำไม่ได้ มันมานอนให้ลูกกินนมอยู่แถวหน้าบ้านตามเดิม สุดท้ายก็เหลือตัวเดียว หน้าตาเนื้อตัวสีลายน้ำตาลอ่อนเหมือนเจ้ากระดิ่ง จึงให้ชื่อว่านังพุงขาว พออายุได้ประมาณห้าเดือนก็เอาไปทำหมันที่ห้วยขวาง คราวนี้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ หลังผ่าตัดอาศัยอยู่ไม่กี่วันก็กลับบ้านได้ แล้วก็เป็นเพื่อนเล่นไล่จับกับเจ้ากระดิ่งพี่ชาย และนังมอมแมม ลูกครอกหลังบ้าน ที่มีอายุเท่ากันกับเจ้ากระดิ่ง

นังสีเทาก็ถือโอกาสท้องอีกครั้งหนึ่ง พอนังพุงขาวมาอยู่บ้านได้ไม่กี่เดือน นังแม่ก็ออกลูกมาอีกครอกหนึ่ง คราวนี้ไม่รู้ว่ากี่ตัวเพราะมันไปออกที่บ้านข้าง ๆ ไม่ได้ยินเสียงร้อง

วันหนึ่งก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่ตัวเดียวทั้งวัน จึงเที่ยวเดินหาดูก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งขนสีน้ำตาลอ่อนทั้งตัวไม่มีด่าง ลืมตาแล้ว แหกปากร้องอยู่ใต้พุ่มไม้ จนเสียงแหบเสียงแห้ง ก็นึกว่าเป็นกรรมของเราอีกแล้ว จึงไปเอาอ่างพลาสติกใบใหญ่เอาผ้าขี้ริ้วรองพื้น จับลูกแมวมานอนในนั้นกันไม่ให้มันปีนออก แล้วก็ไปซื้อนมมาหนึ่งกล่อง ค้นหาอุปกรณ์การป้อนนมลูกแมวของเก่าไม่พบ ก็ไปซื้อหลอดที่มีลูกยางบีบมาป้อนนม มันก็กินบ้างหกบ้าง แล้วก็ปล่อยให้มันร้องต่อไปตลอดคืน

วันรุ่งขึ้นแม่ของมันก็มาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ข้างกาละมังแต่ไม่ทำอะไร ลงท้ายก็นอนอยู่ใกล้ ๆ ผมแอบดูแล้วเห็นมันไม่คาบลูก ก็หอบเอาลูกไปวางใกล้ ๆ มันก็วิ่งหนีไปเสียอีก นึกว่าจะต้องเลี้ยงเองอีกแล้ว แต่พอตอนเย็นก็หายไปทั้งแม่ทั้งลูก แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงร้องอีกเลย ผมก็ถือว่าแม่มันมารับผิดชอบไปแล้ว ก็ไม่ต้องเป็นห่วงมันอีก จนหลายวันต่อมาจึงแอบตามสะกดรอยนังแม่ที่ออกมากินอาหารเม็ด ก็พบว่ามันไปกกลูกอยู่ใต้พุ่มไม้ใกล้ ๆ ที่เดิม จึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

แต่เวลาล่วงไปอีกครึ่งเดือน ลูกมันก็ไม่เคยออกมาจากพุ่มไม้นั้นเลย พอไปแอบดูมันก็มองตาแป๋วแต่ไม่ร้อง และไม่คลานอย่างที่เคยเห็นลูกแมวทั่วไป เพราะคำนวนอายุแล้วน่าจะมากกว่าหนึ่งเดือน เมื่อแม่มันพาลูกอพยพมาอยู่ข้างเครื่องปรับอากาศชิดฝาบ้าน จึงซื้ออาหารลูกแมวมาใส่จานให้มันกิน มันก็ไม่ค่อยกินทั้งแม่ทั้งลูกปล่อยให้มดขึ้นเต็ม ก็เลยเลิกพยายามปล่อยไปตามยะถากรรมของมัน

วันหนึ่งมีฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนัก ได้ยินเสียงลูกแมวร้องที่ข้างเครื่องปรับอากาศ จึงรีบออกไปดู ก็เห็นเจ้าสีน้ำตาลคลานหนีฝนสาด ก็อุ้มมาให้แม่มันที่นอนหลบฝนอยู่ใต้โต๊ะหน้าบ้าน ปรากฏว่ามันดันลุกหนีไปเสียอีก มีแต่พวกพี่อย่างเจ้ากระดิ่ง นังมอมแมม และนังพุงขาว มามุงดูกันเต็มแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ผมจึงต้องเอามันใส่อ่างพลาสติกไว้อีก แต่พอฝนหายมันก็กลับมาคาบลูกเอาไปกกอยู่ที่ข้างเครื่องปรับอากาศตามเดิม เจ้าลูกตัวนี้ยังไม่รู้ว่าเพศใด แต่ตั้งชื่อมันว่า สีน้ำตาล แทนแม่ซึ่งชื่อ สีเทา

นังสีเทาก็พาลูกของมันไปเลี้ยงเอง อยู่หลายวัน ถึงเวลาก็มากินอาหารเม็ด กินแล้วก็หายไปหาลูก ทำอย่างนั้นอยู่เกือบเดือน วันหนึ่งไปแอบมองดูมันกกลูกอยู่ในพุ่มไม้ จึงได้รู้ว่ามันไม่ได้มีลูกตัวเดียวอย่างที่เราคิด มันมีสองตัวแต่สีเหมือนกันอย่างที่แยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน ผมก็เลยไม่รู้ว่าไอ้เจ้าตัวที่อุ้มมาใส่อ่างนั้นเป็นตัวไหนกันแน่

เมื่อเจ้าสองตัวมันเดินตามแม่ออกมายังลานซีเมนต์หน้าบ้าน จึงสังเกตเห็นว่าตัวที่โต กว่า มีหางสั้นกว่าและมีขนหุ้มดูทื่อ ๆ ส่วนเจ้าตัวเล็กมีหางยาวกว่า และปลายแหลมเรียว จึงตั้งชื่อใหม่ว่า เจ้าทื่อ กับเจ้าแหลม แต่รู้สึกว่าจะเป็นตัวเมียทั้งคู่

ลูกนังสีเทาคู่นี้ดูจะไม่ค่อยแข็งแรงอย่างปกติ อายุเดือนกว่าแล้วแต่ยังเดินตุปัดตุเป๋ เวลาแม่มันเดินห่างออกไป ก็ไม่วิ่งตาม และหาแม่ไม่ค่อยเจอ มักจะเดินไปคนละทิศละทาง ต้องจับมันเข้าไปหาแม่ตอนมันนอนกลางลาน แม่มันก็เลียหัวเลียตัวลูกตา มประสาแมว แต่ไม่เห็นกระโดดโลดเต้น เหมือนครอกอื่น ๆ ที่เคยเห็นมา เมื่อพิจารณาดูให้ถนัดก็จะเห็นว่า ทั้งคู่มีพุงป่องเหมือนคนเป็นโรคท้องอืด กินแล้วไม่ถ่ายอย่างนั้น จึงคิดว่ามันจะอยู่รอดหรือไม่

แต่อีกหลายวันต่อมา เจ้าแหลมกับเจ้าทื่อก็ยังดำรงชีวิตอยู่ได้ เจ้าขาวมักจะมาเล่นด้วย โดยวิธีกระโดดเข้ามาคล่อมเขี่ยนิดเขี่ยหน่อย เจ้าตัวเล็กก็ล้มกลิ้งล้มหงาย ต้องร้องตะโกนห้ามปรามทุกครั้งที่เห็น แต่มันก็มีความอดทนไม่ร้องโวยวายอย่างที่คิด แม้ว่านังแม่จะไม่ค่อยเอาใจใส่นักก็ตาม

เมื่อผมไปซื้ออาหารแมวมาตุนไว้ ก็ถือโอกาสซื้ออาหารลูกแมวที่เป็นซอง มาเผื่อ มั นอีก ข้างในเป็นเนื้อปลาเละ ๆ น่าจะกินง่าย แต่มันก็ไม่ค่อยกิน ได้แต่และเล็มนิดหน่อย แล้วก็ปล่อยให้มดขึ้น ต้องเอาไปให้ตัวโตกินต่อ

มันอยู่ของมันสามตัวแม่ลูก อย่างที่ไม่ค่อยเห็นความเจริญก้าวหน้ามาได้อีกพักหนึ่ง เจ้าแหลมก็หายหน้าไป เหลือแต่เจ้าทื่อคอยตามแม่อยู่ตัวเดียว ผมก็เที่ยวเดินหาทุกซอกทุกมุม ว่ามันจะไปแอบนอนอยู่ที่ไหนก็ไม่พบ เจ้าทื่อก็พุงป่องมากขึ้นเห็นผนังท้องใส เมื่อเวลานังแม่นอนพัก มันก็เข้าไปดูดนม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีน้ำนม เพราะนังสีเทาก็ผอมแห้งแรงน้อย ท่าทางไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนกัน

ลงท้ายเจ้าทื่อก็หายไปอีกตัวหนึ่ง ผมก็เที่ยวมองหาทุกซอกทุกมุม ก็ไม่พบอย่างเคย แต่คราวนี้ได้กลิ่นเหม็นตุ ๆ อยู่ใต้ชั้นที่วางรองเท้าหน้าบ้าน ซึ่งผมก้มลงไปดูไม่ถนัด ต้องถอยออกไป ห่าง ๆ แล้วก้มหน้าลงเกือบแนบพื้นซีเมนต์ จึงเห็นเจ้าทื่อนอนนิ่งอยู่ เมื่อเอื้อมมือไปจับตัวมันก็กระดุกกระดิกได้ แต่ไม่มีเสียงร้อง จึงคิดว่าวาระสุดท้ายของมันคงจะมาถึงแล้ว ไม่อยากจะรบกวนมันให้ลำบากลำบนอีก จึงปล่อยไว้ที่เดิม

แต่ที่ไหนได้ เมื่อถึงตอนเย็นออกมาดูอีกที มันกลับลงไปนอนอยู่ในรางน้ำแฉะ ๆ ข้างรั้วบ้าน ไม่รู้มันแถกไปได้อย่างไร ตัวเปื้อนโคลนไปด้านหนึ่ง จึงอุ้มมันขึ้นมาเอาผ้าขี้ริ้วเช็ดน้ำและโคลนออก แล้วก็ให้มันนอนบนผ้าแห้งใกล้ ๆ กับที่แม่มันนอนอยู่ เมื่อผมถอยออกมาก็เห็นนังสีเทาเดินเข้าไปนอนใกล้ ๆ ลูกแล้วก็เลียเนื้อตัวที่เปียกเปื้อนนั้น ตั้งแต่หัวจรดหาง เลียซ้ำซากอยู่อย่างนั้น จนผมเดินเข้าบ้าน

แต่กลิ่นเหม็นตุ ๆ นั้นยังอยู่ จึงฉุกคิดว่า เมื่อเจ้าทื่อยังไม่ตาย กลิ่นนั้นก็ต้องเป็นของเจ้าแหลมแน่ ผมจึงก้มลงไปดูอีกครั้ง ก็พบร่างของเจ้าแหลมเปื่อยเละอยู่ใต้ชั้นไกลสุดมือเอื้อมถึงอย่างที่คิด

ผมจัดการกับศพของเจ้าแหลม ด้วยความสังเวชใจเป็นอย่างยิ่ง นังสีเทานี้มีลูกครอกแรกก็เหลือตัวเดียวคือเจ้ากระดิ่ง ส่วนพี่น้องของมันที่หายสาบสูญไป ผมก็ไม่ได้พบศพ ครอกที่สองก็เหลือตัวเดียวคือนังพุงขาว ซึ่งได้พาไปทำหมันแล้ว กลับมาก็ร่าเริงเป็นปกติอยู่เป็นเพื่อนเจ้ากระดิ่ง

มาครอกที่สามนี้ ได้เห็นเป็นศพไปตัวหนึ่งแล้ว ยังเหลืออีกตัวหนึ่งก็นอนไม่กระดิกกระเดี้ย ให้แม่เลียแล้วเลียอีกอยู่ในขณะนี้ ดูแล้วก็ไม่มีโอกาสที่จะรอดมาวิ่งเล่นได้เลย

แม้ผมจะเห็นความตายของแมวในบ้าน ที่ไม่ได้เจตนาจะเลี้ยงมาหลายตัวแล้ว ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ออกจากราชการมา จนชักจะชินแล้ว แต่ก็อดเวทนาในชะตากรรมของมันไม่ได้ มันมีกรรมอะไรจึงต้องเกิดมาเป็นแมว เกิดแล้วก็อด ๆ อยาก ๆ แล้วก็ออกลูก แล้วก็ตายไป แล้วก็มีไอ้ที่เกิดใหม่มาทดแทน วนเวียนอยู่เช่นนี้

ผมไม่รู้ว่าหมาแมวที่ตายไปแล้ว มีสิทธิ์จะเกิดเป็นคนหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าอย่างผม ถ้าตายแล้วจะได้เกิดเป็นหมาหรือแมว หรือไม่ ก็ไม่รู้จะไปถามใคร ได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม

เช่นเดียวกับเจ้าทื่อ ซึ่งนางสีเทาแม่ของมัน ที่เลิกเลียเนื้อตัวลูกแล้ว แต่มันก็ยังนอนอยู่ไม่ไกล ไม่เกินสายตา โดยมันหันหน้ามามองลูกอยู่ตลอดเวลา มันทั้งสองก็อยู่ด้วยกรรมของมันเอง

ผมอยากรู้ว่า มันจะอยู่อย่างนั้นจนถึงเช้าหรือไม่.


############

 

โดย: เจียวต้าย 11 พฤศจิกายน 2554 7:48:41 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ห่อ น้องหนู


เมื่อวานทั้งคนทั้งเน็ท ไม่สบายค่ะ

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 11 พฤศจิกายน 2554 10:03:29 น.  

 

อ่านจบเกิดอาการตะหงิดตะหงิดที่หัวใจเพราะเรื่องจบแบบยังไม่จบ

ก็ปลายทางของเรื่องยังไม่เข้าป้ายเลย

สงสารหมาที่ต้องมาเป็นเครื่องมือหากินให้คน
สงสารคนที่วิ่งราวกระทั่งหมา

สุดท้ายสงสารคนอีกที.....
คนที่ไปประสบเหตุแล้วเอามาเล่าให้อีกหลายๆคนฟัง

แล้วก็คนอีกที......
คนที่ฟังแล้วดั๊นเก็บมาตะหงิดตะหงิด

เฮ้ออออออออออออออออ

 

โดย: ร่มไม้เย็น 7 สิงหาคม 2555 21:23:53 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.