ส่งข่าว...เจ้าเอม (หลังผ่าตัด)
ยาวหน่อยนะคะ อยากบันทึกเก็บไว้ ไม่ต้องอ่านจบก็ได้ค่ะ สรุปให้ว่าเอมปลอดภัยดีค่ะ
+ + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + +
วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 (หรือเมื่อวานนี้นั่นแหล่ะ) ปลุกเอมแต่เช้าเพื่อไปโรงพยาบาล เพราะคุณหมอนัดให้ไปถึงเจ็ดโมงครึ่ง เรากังวลกันมากว่าเอมจะร้องงอแง เพราะหมอให้งดน้ำ งดอาหารหลังเที่ยงคืน (เว้นกรณีที่เธอตื่นมาขอกลางดึก สามารถให้ได้ก่อนตี 4 แต่ในปริมาณจำกัด)
โชคดีที่เป็นวันปิดเทอมวันแรก แถมเป็นวันจันทร์ซึ่งคนฝรั่งเศสส่วนนึงมักจะหยุดงาน (ที่นี่ทำงาน สัปดาห์ละ 35 ชม. เพราะงั้นถ้าจัดการดีๆสามารถหยุดได้ 1 วันต่อ 1 หรือ 2 อาทิตย์) รถก็เลยไม่ติด
ไปถึงโรงพยาบาล หลังทำเรื่องกะเจ้าหน้าที่ เค้าก็พาไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า สักพักคุณพยาบาลก็เอา patch มาปิดหลังมือเอม เค้าเรียกอะไรดิฉันไม่ทราบ เป็นแผ่นเล็กๆปิดไว้หลังมือเด็กก่อนประมาณ 2 ชม. เพื่อให้มันชา เวลาเจาะจะได้ไม่เจ็บ (จริงๆหมอออกใบสั่งยาให้ไปซื้อไว้ก่อนแล้วหล่ะ เราพยายามติดแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เอมดึงออกตลอดเลย) แต่ของคุณพยาบาลใช้ผ้าพันทับอีกที เอมลองดึงแล้ว ก็พอถูไถได้อยู่เพราะมันแกะค่อนข้างยากสำหรับเด็ก
นั่งรอซักพักเอมเริ่มเบื่อ เผอิญที่นี่มีห้องเด็กเล่น ของเล่นบานตะไท เจ้าเอมก็เลยเล่นอย่างลืมโลก จน 9 โมงเช้าเค้าต้องเข็นเตียงมารับถึงหน้าห้องนี้ เธอก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะถูกทำอะไร (แต่ดิฉันบอกก่อนแล้วนะคะ เค้าว่ากันว่าจะพาไปไหนจะทำอะไรควรบอกเด็กก่อน ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่าเธอรู้เรื่องหรือเปล่า)
เราไปส่งได้ถึงแค่หน้าทางเข้าแผนกผ่าตัดเท่านั้น เด็กอีกคนที่เค้าเข็นไปหน้าเอม ร้องไห้จ้าเลยพอเห็นแม่ไม่เดินไปข้างๆ แต่เจ้าเอมนอนเฉ๊ย
เราต้องกลับมารอที่ห้อง ซึ่งก็ไม่รู้จะเสร็จกี่โมง เพียงแต่เค้าบอกไว้คร่าวๆว่าใช้เวลาประมาณ 3 ชม. รวมขั้นตอนวางยา ผ่าตัดจนถึงหมดฤทธิ์ยาสลบ คนไข้รู้สึกตัว
11 โมงเกือบครึ่ง เค้าเข็นเอมมาที่ห้อง ดีใจมากๆเลยที่เห็นลูกปลอดภัย เธอยังสลึมสลือนิดหน่อยด้วยฤทธิ์ยาสลบ คล้ายๆตาจะปิดซะให้ได้แต่เจ้าตัวยังฝืนไว้ไม่อยากนอน สักพักพยาบาลเข้ามาวัดปรอท จับชีพจร และวัดความดัน แล้วเอาแผ่นทั้งหลายที่แปะตัวออก พร้อมดูแผล พยาบาลหลายๆคนชมว่าเอมน่ารักมากไม่ร้องงอแงเลย (ดิฉันว่าเธองงๆมากกว่าว่าเอาฉันไปทำอะไรหว่า)
ปล่อยเอมไว้บนเตียงซักพัก กะให้นอนหลับเพราะรู้ว่ายายังไม่หมดฤทธิ์ แต่เธอไม่ยอมหลับอยู่ดี เอมนอนเฉยๆไม่ยิ้มไม่พูดไม่จา (ปกติเวลาทองแบบนี้หายากมาก ที่จะไม่ยุกยิกหรือไม่พูด) พ่อเค้าก็เลยอุ้มออกมาจากเตียง
หลังจากนั้นดิฉันหมดกังวลทันทีเลยค่ะ เพราะอะไรเหรอคะ เราเปิดการ์ตูนให้เอมดู พอเธอได้ยินเสียงเพลงเท่านั้นแหล่ะ เริ่มโยกเลยค่ะ มียักไหล่ด้วยนะ แล้วก็เปลี่ยนมาร่าเริง ยิ้มได้ พูดได้ เหมือนก่อนๆ รวมทั้งกินเก่งเหมือนปกติด้วยค่ะ พยาบาลเอาโยเกิร์ตเด็ก 2 กล่องกะบิสกิต มาทดลองให้ก่อนว่าจะกินได้หรือเปล่า ปรากฏเรียบค่ะ ดิฉันแอบแถมเนยแข็งของตัวเองให้อีกหนึ่งชิ้น ก็ไม่มีปฏิเสธ ช่วงบ่ายเราทานขนมอะไรเธอทานด้วยค่ะ
เค้าให้อยู่รอดูอาการจนเย็นเพื่อพบหมอวางยากะหมอผ่าตัด คุณหัวหน้าพยาบาลรายงานทันทีว่าหายห่วง เด็กคนนี้แอคทีฟ ถ้าไม่กินหรือนอน ก็หายไปอยู่ห้องเด็กเล่นจนเค้าปิดโน่นแหน่ะ ไม่ไล่ไม่เลิก
จนถึงเวลาที่เขียนอยู่ปัจจุบันนี้ ทุกอย่างปกติราบรื่นดีค่ะ เอมสามารถกลับมาทำอะไร ให้พ่อแม่ปวดหัวได้เหมือนเดิมแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆคนที่เป็นห่วงนะคะ
+ + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + + * * + +
ลูกเอ๋ย... เด็กน้อยยังไร้เดียงสา ดีใจที่หนูกลับมา เพราะหนูคือแก้วตายาใจ
ลูกจ๋า... หนูเจ็บหนูปวดตรงไหน บอกแม่ซักหน่อยเป็นไร นอนพักหน่อยไหมคนดี
ลูกรัก... รักเจ้าเปรียบเท่าชีวี ทุกเวลานาที แม่คนนี้จะรักเจ้าตลอดไป
ปล เขียนตามอารมณ์พาไป ตอนเห็นหน้าลูกกลับมาที่ห้องหลังผ่าตัดค่ะ
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
17 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2550 21:55:12 น. |
Counter : 707 Pageviews. |
|
|
|