|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
เมื่อผม Take Low Carbohydrate Diet 1 เดือน |
|
จากที่เคยเล่าว่า ตั้งแต่ช่วงโควิด ผมออกกำลังกายน้อยลง คือไม่ได้ออกไปวิ่งทุกเย็นเหมือนเดิม แถมกินอาหารตามใจปากมาก ๆ คือนึกจะพิซซ่าก็พิซซ่า นึกอะไรไม่ออกก็ KFC McDonald แล้วผมเป็นคนชอบกินขนมปังกระเทียม ก็สั่งมากินบ่อยมาก
แต่ด้วยโชคหรือสิ่งที่พ่อแม่ให้มา คือพื้นฐานสุขภาพที่ดี และระบบเผาผลาญที่ค่อนข้างดี ทำให้ผมก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องน้ำตาล ไตรกลีเซอร์ไรด์ หรือ คอลเลสเตอรอล แต่ดันมีเรื่องไขมันเลว ที่สูงเนื่องจากอาหารที่กินในช่วงก่อนตรวจ ที่สูงมากจนหน้าตกใจ ทำให้ผมในวัย 30 เต็ม รู้ว่า เฮ้ย! การกินเราแย่มากนะ ถ้าไม่ระวัง อนาคตค่าอื่นๆ ที่ยังดีมากๆ อยู่ก็อาจไม่ได้ดีแบบนี้นะ ประกอบกับตลอดเดือน กุพาที่ผ่านมา แฟนต้องไปทำงานต่างจังหวัด 2 อาทิตย์ถึงจะได้เจอกันที ผมก็มาอยู่บ้านพ่อกับแม่ ช่วยเลี้ยงหลาน ทำให้หลังหลานหลับก็มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น
ดีเดย์ 1 กุมพา ผมเลยเริ่มออกกำลังกายแบบ Body weight ในห้องตัวเอง ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ตัวก็ซัก 15 กุมพา แล้ววันนั้นก็เป็นวันที่รู้ผมตรวจสุขภาพ เห็นค่าไขมันพอดี เลยคิดว่า แค่ออกกำลังกายแม่งไม่พอละ ไม่งั้นไขมันอาจทะลุซักวัน ต้องคุมอาหารด้วยดีกว่า จากที่ผมลดกาแฟ ลดขนม น้ำอัดลม ช่วงที่เริ่มออกกำลังกาย ก็เลยคิดว่าต้อง Extreme กว่านั้นแล้วดีกว่า ต้อง Challenge ตัวเองมากกว่านี้ ด้วยการกลับมากิน Low Carbohydrate อีกครั้ง
ผมใช้คำว่า "กลับมากิน" เพราะผมเคยทำแบบนี้มาแล้วเมื่อซัก 7-8 ปีก่อน ตอนนั้นกินเพราะเพื่อนครับ เพื่อนออกกำลังกายชวนกิน ก็เลยกิน ตอนนั้นไม่รู้ผิดตรงไหน แต่มีปัญหาเรื่องท้องผูกในช่วง 2 สัปดาห์แรก ก็ไม่ได้เคร่งมากนะครับ ทำแค่ที่เราพอทำได้ แต่แหม่....ตอนนั้นอายุ 22-23 การเผาผลาญดีแบบ A grade 55555555
พอมาตอนนี้ผมก็กลับมากิน Low Carb อีกครั้ง เคร่งครัดกว่าเดิม แต่ก็ไม่เคร่งมากอยู่ดี 555555555 เพราะคนเคร่งๆ เค้าต้องกินข้าวไรด์เบอร์รี่ ข้าวซ้อมมือ แค่ผมกินไม่ได้ ไม่ได้แพ้ครับ....ไม่อร่อย และผมยังกินผลไม้อยู่ จริงๆ ก็กินเกือบทุกผล แต่ตอนนี้พยายามเอาที่หวานน้อยๆ ดีนะที่เป็นคนชอบชมพู่ เลยซื้อมากินได้ยาวๆ ประกอบกับแม่หั่นให้ด้วย งุย.....
ผมลดข้าวแบบจริงจัง คือยังทานอยู่แต่เหลือมื้อละ 3-5 ช้อน (เน้นว่าช้อน) บางมื้อไม่กินเลย เช่น กินสเต็ก หรือส้มตำ สลัด ไม่โหลดของหวานเลย ไม่โหลดผลิตภัณฑ์จากนมเลย ไม่กินของทอด หรือผัดแบบใช้น้ำมันเยอะ ๆ เลย
แรก ๆ ก็หิวจัดมากครับ อาศัยอดทน กับ กินชมพู่นี่แหละ แต่พอผ่าน ไปอาทิตย์นึง ความหิวหายไปแล้วครับ ความหิวจะมาเหมือนแค่เพื่อบอกว่า ได้เวลากินแล้ว แล้วหายไป น่าแปลกที่ครั้งนี้ผมไม่มีปัญหาท้องผูกเลย พอเข้าสัปดาห์ที่ 2 ทุกอย่างชิลมาครับ ไม่หิวเลย กินก็ได้ไม่กินก็ได้ มื้อเช้าถ้าไม่ทันก็ข้ามไปมือกลางวันได้สบายๆ
สำหรับ 2 สัปดาห์ น้ำหนักลงไปเกือบ 2 กิโล ยังไม่ได้วัด %Fat สิ่งทีดีคือ ผมไม่คนกินเยอะโดยธรรมชาติอยู่แล้ว และไม่ใช่คนชอบของหวาน ทำให้ไม่ได้ต้องการ Cheat Day ครับ
ทั้งหมดนี้ทำควบคู่กับการออกกำลังกาย เสาร์อาทิตย์ไปวิ่งยิม วันธรรมดาก็ body weight หลังจากส่งหลานเข้านอน แต่ระยะหลังผมจะพยายามเล่นจนเจ็บ เพราะถ้าไม่เจ็บจะรู้สึกว่าไม่ได้ออกกำลังกาย กล้ามเนื้อไม่ได้ใช้
จุดนี้เริ่มมีคนทักว่ารูปร่างดีขึ้น แฟนที่ไม่ได้เจอกันมา 2 อาทิตย์เห็นผมใส่เสื้อเทรนนิ่งๆ Under Armor สีดำ จะออกไปยิม มีบอกว่า หุ่นดีขึ้นเยอะนะ ทำอะไรมา เลยได้ทีบอกว่า ก็ระหว่างที่เธอไม่อยู่เราก็ไม่ไปเที่ยวไหน ออกกำลังกายแก้เหงาไงจ้ะ กลับมาเจอจะได้เฟี้ยว 555555
ส่วนเพื่อนที่ออฟฟิศเห็นใส่เสื้อเข้ารูปหน่อย ก็บอกว่าหุ่นเฟิร์มขึ้นใช้ได้
ปรากฎว่า ไม่รู้ท่าไหน เมื่อวันที่ 1 มีนา ผมตื่นเช้ามาด้วยอาการอ่อนเพลียขั้นสุด ปวดระปมไปทั้งตัว เพลียมาลุกขึ้นมานั่งยังจะหลับกลางอากาศ ถ้านั่งเฉยๆ อยู่ร่างกายก็เหมือนจะตัดเข้าโหมดนอนหลับ คือเริ่มหายใจยาวขึ้นแต่ช้าลง หัวใจเต้นช้าลง แล้วหลับไปแบบลืมตา ตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองโดนตัวไหนมา คิดว่ากินน้อยไปรึป่าว โปรตีนไม่พอรึป่าว แต่สภาพนี้ขับรถไปทำงานไม่ได้แน่ๆ เลยลาเช้า นอนพักยาวๆ ตื่นอีกทีเที่ยงแล้วพยายามกินข้าวซะหน่อย ก่อนออกมาทำงาน วันนั้นก็เพลียๆ มึนๆ แต่ก็ดีกว่าตอนเช้า คุยกับไนท์ เพื่อนในแผนก บอกว่า น่าจะเป็นอาการ Over training เคร่งครัดเกินไป ซ้อมมาก ฟอร์มเลยตก เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย บวกกับพักผ่อนไม่พอ กินอาหารไม่พอ หลายๆ อย่างประกอบกัน ไนท์เลยบอกว่า เที่ยงนี้ออกไปกินอะไรที่อยากกินเลย เอาที่ชอบไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาที่กินแล้วมีจรรโลงใจ 55555 อาการเหมือนผม Burn out กับการออกกำลังกายและคุมอาหารน่ะครับ
แล้ว 3 มีนาก็ดันฉีดวัคซีนเข็ม 4 มา นอกจากปวดแขนมาก ไข้ยังขึ้นตามมาด้วย พร้อมกับหัวใจเต้นแรง เหนื่อยง่ายเป็นพักๆ วีคนี้ก็คงต้องพักก่อนออกกำลังกายคงไม่ไหว เรื่องอาหารก็ปล่อยผีไป จัดน้ำแดงโซดาเข้าไปแล้ว 1 เพราะจะได้เยียวยาร่างกายที่กำลังสร้างภูมิ
สุดท้ายไข้ขึ้นถึง 38.1 ทั้ง ๆ ที่กิน พารา ไป นะ แล้วค่อยๆ ลงครับ
แต่ไม่น่าเป็นไรครับ เพราะตอนนี้ผมหายจากอาการติดกาแฟ ติดน้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมถุง เบเกอร์รี่ต่างๆ หายติดหมดครับ คือไม่อยากกินเลย ต่อให้งับเข้าไปก็รู้สึกไม่ได้อร่อยหรืออยากกินต่อเหมือนเดิม
ทีแรกตั้งใจว่าจะลดน้ำหนัก 4 กิโล ให้ได้เท่าก่อนโควิด ช่วงนี้คงเริ่มลงช้าๆ แล้ว เพราะไขมันผมก็ไม่ได้มากเหมือนคน BMI เกิน แค่อยากเฟิร์ม กล้ามเนื้อสวย หลังสวย ใส่เสื้อผ้าง่ายก็พอครับ ได้หุ่นแซ่บพอสาวซี๊ด ไม่ต้องลีนมากก็ได้เนอะครับ อิอิ
Create Date : 07 มีนาคม 2565 |
Last Update : 18 มกราคม 2566 10:37:38 น. |
|
22 comments
|
Counter : 649 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณอุ้มสี, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmultiple, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSweet_pills, คุณเริงฤดีนะ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณหอมกร, คุณโอพีย์, คุณThe Kop Civil, คุณnewyorknurse, คุณkae+aoe, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก |
โดย: อุ้มสี วันที่: 7 มีนาคม 2565 เวลา:13:43:44 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 7 มีนาคม 2565 เวลา:20:16:41 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 มีนาคม 2565 เวลา:20:41:52 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 มีนาคม 2565 เวลา:8:32:54 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 8 มีนาคม 2565 เวลา:10:46:13 น. |
|
|
|
โดย: โอพีย์ วันที่: 9 มีนาคม 2565 เวลา:0:38:32 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 9 มีนาคม 2565 เวลา:8:24:36 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 14 มีนาคม 2565 เวลา:9:33:06 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อะไรที่เว่อร์มากไปก็ลด ๆ ลงหน่อย ไม่ต้องเฟี้ยวมาก
เอาแค่สุขภาพแข็งแรงก็พอแล้ว