|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชาย 3 ถ. ตอนที่ 2
ผู้ชาย 3 ถ.
ตอนที่ 2...
ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม เป็นคอนโดมิเนียมหรูสูงเสียดฟ้าของบรรดาเศรษฐี ที่มีราคาขายตารางเมตรละเฉียดสองแสนบาท ตั้งตระหง่านอยู่ติดกับถนนใหญ่ในย่านธุรกิจ
ด้านข้างของคอนโดมิเนียมติดกับซอยแคบ ๆ ที่มีคูน้ำเล็ก ๆ ขนาบไปตลอดทั้งซอย น้ำในคูน้ำนั้นยังใสสะอาดพอสมควร ทำให้ดูร่มรื่น ชวนมอง แต่นั่นจะถือเป็นเพียงภาพลวงตาก็ได้ เพราะมันทำให้ไม่เคยมีใครสักคนเดียวที่ผ่านไปมาอยู่แถวนั้น ได้รับรู้ถึงความจริงว่า ในบริเวณถนนซอยด้านข้างคอนโดมิเนียมนั้น มีสภาพเป็นเช่นใดกันแน่
เมื่อแล่นรถตรงเข้าไป ยังมีซอยแยกย่อยซอยเล็กซอยน้อยอีกจำนวนมาก และเกือบ ๆ สุดซอยนั้น จะพบกับบ้านหลังเล็ก ๆ สีหม่น ๆ อยู่หลังหนึ่ง กับรั้วไม้ที่ดูไม่แข็งแรงนัก เก่าพอ ๆ กับตัวบ้าน เอกลักษณ์ของรั้วนี้ก็คือ มันเกือบจะไม่เคยปิดลงเลย ข้อดีของบ้านนั้นก็พอมีอยู่บ้าง ตรงที่ว่ามีพื้นที่กว้างขวางอยู่เกือบ ๆ 200 ตารางวา และร่มครึ้มไปด้วยไม้น้อยใหญ่ น่าเสียดาย เมื่อคิดว่า หากขยับที่ดินออกมาอีกเพียงไม่กี่กิโลเมตรออกมาถึงบริเวณใกล้ถนนใหญ่สายหลัก ราคาที่ดินก็จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นราคาที่สูงลิบลิ่วอย่างสุดประมาณ ไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยไร้ค่าอย่างที่เป็นอยู่
บ้านหลังนั้นตั้งอยู่ห่างออกไปจากบ้านเรือนหลังอื่น ๆ จึงทำให้ดูค่อนข้างจะโดดเดี่ยวอ้างว้างอยู่สักหน่อย แต่อย่างไรก็ตามก็มีคนเดินเข้าออกในบ้านหลังนี้อยู่บ้างประปราย สาเหตุก็เนื่องจากบ้านหลังนี้ถูกดัดแปลงเป็นร้านเสริมสวยด้วย สังเกตได้จากป้ายไม้ขนาดเล็ก ๆ ที่ติดอยู่กับรั้วอย่างขอไปที มีลายมือตวัดหางสวยงามบนป้ายว่า เสริมสวยพุมเรียง ถัดลงมาอีกสองบรรทัด เป็นการขยายความให้ชัดเจนยิ่งขึ้น รับออกแบบทรงผม แต่งหน้าเจ้าสาว แต่งหน้ารับปริญญา โดยช่างผู้ชำนาญการ
หญิงสาวขับรถยนต์สีดำเงาวับผ่านลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมเข้าไปทางถนนซอยด้านข้าง เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกส่วนตัวที่ไม่มีใครรู้ เป็นความพุ่งพล่านด้วยความริษยา เมื่อได้แลเห็นรถยนต์หลาย ๆ คันเลี้ยวเข้าไปในคอนโดมิเนียม ดีที่รถของเธอติดฟิล์มสีดำสนิท ทำให้ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นว่า นางแบบสาวสวยทรงเสน่ห์ ที่กำลังโด่งดังอยู่บนแคทวอล์ก กำลังขับรถผ่านคอนโดมิเนียมหรูไปอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ด้วยหน้าตาและท่วงท่าสง่างามไร้ที่ติของเธอ ดูเหมาะสมที่จะเลี้ยวขวับตามรถคันอื่น ๆ เข้าไปในบริเวณที่จอดรถของคอนโดมิเนียมกับเขาด้วยอย่างที่สุด
ไม่ใช่ไม่อยากจะได้... อณูเคยนึกอยากได้คอนโดที่นี่สักยูนิตหนึ่ง ใจแทบจะขาด จะว่าไปแล้ว รายได้ของเธอก็เป็นกอบเป็นกำพอที่จะดาวน์ห้องขนาดเล็กของคอนโดมิเนียมแห่งนี้ และค่อย ๆ ผ่อนได้สบาย ๆ ได้ แต่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เธอจะต้องมีงานต่อเนื่องเหมือนอย่างตอนนี้ไปเรื่อย ๆ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยุคนี้ที่มีเด็กรุ่นใหม่ ๆ มากมายนับไม่ไหวที่ปรารถนาจะก้าวเข้ามาสู่วงการ ทำให้มีนางแบบหน้าใหม่ ๆ หมุนเวียนผัดเปลี่ยนขึ้นมาเทียบเคียงอยู่บนแคทวอล์กอยู่ตลอดเวลา แต่ละคนมีคุณสมบัติโดดเด่น ความสามารถสูง และมีความกล้าเป็นทุนอยู่ทุกคน เป็นคลื่นลูกใหม่ที่สามารถจะไล่คลื่นลูกเก่าชนิดที่เรียกว่า กวาดล้างอย่างรุนแรง จนแทบจะสาบสูญได้เลยทีเดียว
เหตุผลต่าง ๆ เหล่านั้น ทำให้อณูไม่แน่ใจว่า เธอจะมีรายได้มั่นคงมากพอจะผ่อนคอนโดมิเนียมแห่งนี้ไปตลอดรอดฝั่ง จนกระทั่งถึงวันที่มันตกมาเป็นสมบัติของเธอโดยสมบูรณ์หรือไม่ การเลือกจะเก็บออมเงินสดไว้กับตัว จึงเป็นสิ่งที่ปลอดภัยมากกว่า รอจนถึงวันที่เธอแน่ใจว่ามั่นคงก่อนเถอะ ทุก ๆ อย่างที่หมายตาไว้ จะต้องมาอยู่ในกำมือของเธอทั้งหมดอย่างแน่นอน
มีเหมือนกัน...เสี่ยหน้าใหญ่ใจโต ที่ยื่นมือมาอยากจะกางแขนออก อุปการะ อณู เขาเหล่านั้นพร้อมจะช่วยเหลือเจือจานให้เธอซื้อบ้านช่องหรือรถยนต์ราคาแพงได้ตามใจปรารถนา แต่...แค่ ป๋า ที่พอจะมีเงินอยู่บ้าง หรือเข้าขั้นเศรษฐีเงินหมุน ล้วนแต่ไม่ได้อยู่ในสายตาของอณูทั้งสิ้น
...คนอย่างเธอ ไม่เคยหวังอะไร เล็ก ๆ...
หญิงสาวมองไปที่กระจกมองหลังราวกับจะสำรวจว่ามีใครติดตามเธอมาหรือไม่อย่างเคยชิน ก่อนจะขับรถเลี้ยวเข้าไปในรั้วที่ติดป้าย เสริมสวยพุมเรียง อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะขับรถวนอ้อมไปจอดทางด้านหลังบ้าน ที่หญิงสาวลงทุนจ้างช่างมาทำหลังคาเมทัลชีทบังแดดบังฝนให้รถยนต์แสนรักของเธอ จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดทางหลังบ้าน ซึ่งก็ต่อเติมขึ้นใหม่จากเงินของเธออีกเช่นกัน
บันไดนั้นต่อตรงถึงห้องนอนของเธอ โดยไม่ต้องผ่านเข้าไปในบ้านที่ดัดแปลงเป็นร้านเสริมสวยเล็ก ๆ ซึ่งคาดว่าคงจะมีลูกค้าจำนวนหนึ่งของพุมเรียงอยู่ในนั้น อณูทนให้ลูกค้าของมารดาทำท่าตื่นเต้นยินดีเวลาเห็นเธอไม่ได้ ไม่เห็นจะรู้สึกปลื้มใจเลยสักนิดเดียวเวลาที่เห็นคนเหล่านั้นจ้องเธอจนตาแทบจะถลน
ต๊าย...อณู อณูนางแบบคนดัง.. ทุกคนกรี๊ดกร๊าดดีใจจนเกินเหตุ ทั้งที่บางคนก็เคยเห็นเธอมาแล้วตั้งแต่วัยเยาว์ด้วยซ้ำไป ก็เธอเติบโตขึ้นมาในย่านนั้น และลูกค้าส่วนใหญ่ของพุมเรียง ก็คือคนในบริเวณนั้นเหมือนกัน
บางคนอาการหนักถึงขั้นมาขอลายเซ็นกับอณูด้วยซ้ำไป เขียนด้วยนะ...ป้าเจอกับอณูในบ้านอณูเลย...
เธอยอมเซ็นชื่อให้เหมือนกัน แต่เซ็นให้แต่ชื่อ แต่เชิดหน้าหยิ่งผยองบอกกับคน ๆ นั้นด้วยเสียงเรียบ ๆ อย่างถือตัว ไม่ต้องบอกใครว่า ฉันอยู่ที่นี่จะดีกว่า...
อณูเบื่อที่จะต้องยิ้มให้ เธอรู้ว่ายิ้มนั้นจืดชืดและเสแสร้ง เบื่อที่จะคุยด้วย เธอไม่อยากจะทักทาย ไหว้กราบใครโดยไม่จำเป็น หญิงสาวเชื่อว่ารอยยิ้มและคำพูดของเธอมันควรจะแปรไปเป็นเงิน มากกว่าจะหมดเปลืองไปเปล่า ๆ และทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การเลี่ยงนั่นเอง ซึ่งทำให้บันไดหลังบ้านช่วยเธอไว้ได้มากทีเดียว ประหยัดทั้งความรู้สึก และประหยัดรอยยิ้มที่สงวนไว้สำหรับคนที่เธออยากจะยิ้มให้เท่านั้น
บันไดโครงเหล็กนั้นดูมั่นคง ทว่าปราศจากความสวยงาม เพราะเธอไม่ต้องอวดมันกับใคร ๆ ทั้งนั้น อณูเป็นนางแบบที่ไม่เคยมีใครรู้ว่าเป็นลูกเต้าหล่าใคร พักอยู่ที่ไหน ความเป็นไปของเธอเป็นความลับ แต่มันกลับช่วยทำให้เธอกลายเป็นคนลึกลับน่าค้นหา และกลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงไปได้อย่างรวดเร็วน่าอัศจรรย์
เพราะความแข็งแรงของบันไดทำให้เธอก้าวฉับ ๆ ขึ้นไปได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกลัวการโยกคลอน อณูบอกกับตัวเองเสมอว่า มันไม่จำเป็นต้องสวยงาม เพราะมันเป็นที่อยู่ชั่วคราวสำหรับเธอเท่านั้น หญิงสาวไม่ได้ผูกพันลึกซึ้งกับคำว่า บ้าน เลยแม้แต่นิดเดียว รอให้มีที่ ๆ ดีกว่านี้เมื่อไร เธอพร้อมจะจากไปทันทีอย่างไม่ลังเลใจและไร้ความอาวรณ์โดยสิ้นเชิง
ผลักประตูเพื่อก้าวเข้าห้องนอนส่วนตัวของเธอแล้ว อณูก็ต้องเลิกคิ้วนิด ๆ เมื่อได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวดังซู่ซ่าอยู่ในห้องน้ำของเธอ ...ซึ่งเป็นห้องน้ำส่วนตัว
เธอวางกระเป๋าถือราคาแพงลงบนเตียง กำลังข่มอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่าน เธอหวงทุก ๆ อย่างที่เป็นของส่วนตัว เธอไม่ชอบใช้ของปะปนกับใคร และขณะนั้นเอง คนในห้องน้ำก็ก้าวออกมาพอดี
...เป็นคนที่อณูเดาเอาไว้จริง ๆ ไม่มีใครกล้าใช้ห้องน้ำของเธอนอกจากคน ๆ นี้เท่านั้น...
หญิงสาวร่างเล็กกะทัดรัด หน้าตาและลำตัวเปียกชื้นไปด้วยหยดน้ำพราว ลำตัวพันไว้ด้วยผ้าขนหนูแบบหมิ่น ๆ พอออกมาเห็นหน้าของอณู ใบหน้าเปียก ๆ นั้นก็ยิ้มกว้างทันที พร้อมกับร้องทัก
พี่อณู...กลับมาแล้วเหรอ
คนที่หน้าบูดรออยู่ไม่สนใจคำทักทายนั้น แต่กลับกรีดเสียงใส่เต็มขีดของอารมณ์ทันที บอกตั้งกี่หนแล้ว อย่ามาใช้ห้องน้ำของชั้น
แหม...พี่อณูก็ ฝ่ายที่ก้าวออกมาร้องเสียงเก้อ ๆ ก่อนจะพยายามหันเหหัวข้อสนทนา แล้วทำไม...วันนี้กลับเร็วเชียว
ทำไม เพราะแกคิดว่าชั้นกลับบ้านช้าใช่ไหม แกถึงได้มาใช้ห้องน้ำของฉันอย่างนี้ อาณา ดีกรีความโกรธไม่ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว
โธ่!..โธ่!..โธ่!..โธ่!..โธ่!.. ผู้อ่อนวัยกว่าร้องรัวพร้อมกับทำหน้าทะเล้น อย่าหวงไปหน่อยเลยพี่อณู ก็ห้องน้ำพี่มันอาบน้ำสบาย หนูขอมาอาบน้ำสักหน่อยเถอะ แต่ไม่ต้องกลัวสกปรกนะ หนูเอาผ้าขนหนูซับจนแห้งหมดทุกซอกทุกมุมให้เรียบร้อยแล้ว
นี่...คงจะมาอาบน้ำที่ห้องฉันทุกวันสิ ใช่ไหม น้ำเสียงนั้นแสดงความรู้ทันมากกว่าจะคิดคาดคั้นจริงจัง
อย่าหวงเลยพี่จ๋า หนูก็แค่ไม่อยากอาบน้ำข้างล่าง เพราะมันต้องรีบ ๆ อาบ มัวแต่อ้อยสร้อยไม่ได้ เผื่อลูกค้าของแม่เขาอยากจะใช้ห้องน้ำขึ้นมา
ก็ทำไมไม่อาบน้ำที่ห้องน้ำข้างนอกล่ะ หญิงสาวหมายถึงห้องน้ำบนชั้นเดียวกัน ที่อยู่นอกห้องนอนของเธอ
วันนี้พ่ออยู่บ้าน พ่ออาจจะอยากใช้ห้องน้ำ.. เธอแก้ตัวไปเรื่อย ๆ อย่างคล่องแคล่ว
อ้าว! ทำไม..อยู่ หญิงสาวจงใจหลีกเลี่ยงการเอ่ยชื่อหรือใช้สรรพนามของบุคคคลที่กำลังเอ่ยถึง
พ่อ....เอ่อ... คนบอกหลบตาวูบ
โดนไล่ออกจากงานอีกแล้วสิ น้ำเสียงหมิ่นแบบไม่ปิดบังซ่อนเร้น ทำให้คนฟังหน้าสลดไปเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี
ก็คล้าย ๆ อย่างนั้น ที่จริงคำว่า ไล่ออก อาจจะดูดีไปสักนิด เพราะจริง ๆ เขายังไม่ได้รับเข้าทำงานเป็นเรื่องเป็นราว ก็แค่ทดลองงานก็ไม่ผ่านแล้ว
คราวนี้งานอะไรล่ะ...
พ่อเขาไปเล่นดนตรีที่สวนอาหาร...
อ้อ กลับไปทำงานถนัดสินะ ก็ดีหรอก อย่างน้อยก็ดีกว่าการไปพยายามเรียนซ่อมโทรศัพท์มือถือ หรือว่าหัดซ่อมโทรทัศน์ เพราะมันไม่เหมาะกับพ่อของเธอเลยสักนิดเดียว
พี่อณูก็.. พ่อเขาก็พยายามแล้ว คนเป็นลูกแท้ ๆ พยายามเถียงแทนพ่อ
นั่นพยายามแล้วหรือ ถ้าพยายามจะโดนไล่ออกไหมล่ะ งานดนตรีนี่ก็เหมือนกัน ไม่ต้องบอก ฉันก็รู้ว่า เขาไล่ออกมาเพราะไปมั่งไม่ไปมั่ง ทำตัวเหมือนศิลปินใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ผอมโซโนเนมซะขนาดนั้น อณูไม่ได้ปกปิดความรู้สึกดูถูกเอาไว้เลยสักนิดเดียว ไม่ใช่เฉพาะลับหลังเท่านั้น เพราะต่อให้พูดต่อหน้า เธอก็พูดไม่ต่างจากนี้เท่าไรนัก
อาณาขยับปากจะเถียง แต่ก็รู้ว่า มันเปล่าประโยชน์ ถึงจะนึกเคืองพี่สาวอยู่บ้าง แต่อาณาก็รู้ว่าสิ่งที่อณูพูด ไม่ได้ห่างไกลจากความจริงมากนัก จึงเงียบเสียงลงเสียดีกว่า
...เถียงกับใครก็พอจะมีสิทธิ์ชนะได้ แต่ไม่ใช่กับอณู...
ในเมื่อจะเถียงก็ทำไม่ได้ จะปล่อยให้พี่สาวด่าพ่อของตัวเองอยู่ต่อไปทำไม อาณาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องโดยเร็ว
"พีอณูกลับมาก็ดีแล้ว หนูมีอะไรบางอย่างจะให้พี่ดู" โดยไม่รอคำตอบ ร่างเล็ดปราดเปรียวที่อยู่ในผ้าขนหนูผืนเดียวก็ผลุนผลันออกไปทางประตูหน้าห้องอย่างรวดเร็ว เจ้าของห้องซึ่งปฏิเสธไม่ทัน จึงได้แต่ถอนหายใจเฮือกอย่างระอานิด ๆ
อณูไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองสนิทสนมกับอาณาน้องสาวต่างพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว แต่อาณากลับทำตัวสนิทสนมกลมเกลียวราวกับพี่สาวรักใคร่ใยดีในตัวเธอเสียเต็มประดา
หญิงสาวเดินไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง เงาที่สะท้อนออกมาเป็นหญิงสาวรูปร่างสูง ผอมเพรียวอย่างที่กำลังอยู่ในสมัยนิยม ผิวขาวเนียน แต่ไม่ซีด เป็นผิวของคนที่มีสุขภาพดีโดยแท้ ใบหน้ารูปไข่ที่ประกอบด้วยเครื่องหน้าที่สวยรับกันทั้งใบหน้า ทั้งตา จมูก ปากล้วนแต่ชวนมอง ไม่ว่าจะเป็นดวงตากลมใสที่ล้อมรอบด้วยขนตายาวงอนงาม อณูอาจจะเป็นนางแบบเพียงคนเดียวก็ได้ที่ไม่ต้องอาศัยขนตาปลอมในการมาช่วยทำให้ดวงตาโดดเด่นออกมา จมูกของอณูโด่งได้รูป ส่วนริมฝีปากก็เต็มอิ่ม ยิ่งเมื่อเคลือบลิปสติกสีสวยเข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนรู้สึกว่ามันช่างเย้ายวนชวนจุมพิตเสียนี่กระไร
แตกต่างจากอาณา เพราะในขณะที่อณูสวยจัดไปทุกสัดส่วน อาณาเป็นเพียงสาวน้อยหน้าตาธรรมดา เพียงแต่ค่อนข้างจะหมดจดเท่านั้นเอง ถ้าจะได้รับคำชมบ้าง อย่างมากก็แค่คำว่า "น่ารัก" เพราะความร่าเริงไร้ขีดจำกัดมากกว่าจะเพราะรูปร่างหน้าตา
มีอยู่เพียงสิ่งหนึ่งที่อาณาเหมือนกับอณูราวกับพิมพ์เดียวกัน นั่นก็คือ ดวงตากลมใส ซึ่งเธอทั้งสองได้รับการถ่ายทอดมาจากพุมเรียงผู้เป็นแม่ ส่วนผิวพรรณ อาณาได้ผิวสีน้ำตาลมาจากพ่อ เธอมีสีผิวสม่ำเสมอและนวลเนียน ซึ่งก็ชวนมองไปอีกแบบหนึ่ง แตกต่างจากพี่สาวที่ขาวกระจ่างราวกับไม่เคยโดนแดดโดนลมมาก่อนในชีวิต
สว่างเป็นพ่อแท้ ๆ ของอาณา แต่เป็นพ่อเลี้ยงของอณู สว่างเป็นสามีคนที่สามของพุมเรียง อณูกล่าวโทษสว่างเสมอว่า เป็นเพราะเขาเพียงคนเดียว ที่ทำให้พ่อกับแม่ของเธอไม่ได้กลับมาคืนดีกัน เพราะเมื่อพ่อเลี้ยงคนที่สองเสียชีวิต ในเวลานั้นแม่ของเธอกำลังเคว้งคว้างและเตรียมตัวจะหวนกลับไปคืนดีกับพ่อของเธอ ถ้าไม่บังเอิญว่าสว่างก็ก้าวเข้ามาในชีวิตของพุมเรียงในช่วงนั้นพอดิบพอดี
เด็กหญิงวัยหกขวบ ได้แต่เก็บความเศร้าซึมเอาไว้ในใจ มองดูแม่มีสามีคนใหม่ มิหนำซ้ำในท้องกลมโตของแม่ยังมีน้องอีกคนที่เธอไม่เคยนึกอยากจะมี เพราะเป็น "น้องคนละพ่อ" และความรู้สึกนั้น มันสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนให้อณูกลายเป็นคนขมขื่นลึก ๆ ภายใต้ใบหน้าฉาบรอยยิ้มเสแสร้งนั้น
ชีวิตวุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างนี้นี่เองที่ทำให้อณูไม่เคยอยากจะให้ใครมารับรู้ประวัติเบื้องลึกของเธอเลย...แม้แต่คนเดียว!
อณูนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เริ่มละเลงครีมบนหน้าของตัวเองเพื่อล้างเครื่องสำอางออกให้หมด มันมีหลายขั้นตอนทีเดียวกว่าจะทำให้หญิงสาวกลายเป็นคนสวยที่ยังคงความสวยไว้ได้อย่างยาวนานมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นครีมทำความสะอาด ครีมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว ครีมลบรอยย่นรอบดวงตา ครีมลดริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม ทุกสิ่งล้วนมีไว้เพื่อยื้อเวลาของวัยเอาไว้ให้อยู่กับเธอไปนาน ๆ ทั้งสิ้น
อณูเสร็จขั้นตอนการใช้ครีมทำความสะอาดใบหน้าพอดี เธอยังไม่ได้ใช้ครีมอื่น ๆ อีกสามสี่ชนิด เพราะคิดจะไปอาบน้ำต่อจากนั้น แต่อาณาก็ก้าวเข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่งเสียก่อน...โดยที่ไม่มีการเคาะประตูห้อง อย่างที่อณูพร่ำสอนพร่ำบ่นย้ำอยู่เสมอ
อณูถอนใจเฮือกอีกครั้ง กับความไม่รู้ไม่ชี้ แล้วพยายามจะทำตัวสนิทสนมจนเกินพอดีของน้องสาว
อาณาแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เธอใส่เสื้อยืดคอกลมลายการ์ตูนสีฟ้า กับกางเกงสี่ส่วนสีเทาเข้มแต่ก็ยังไม่วายมีลายการ์ตูน เหมือนกับกำลังพยายามจะประกาศให้โลกทั้งโลกรู้ว่าเธอยังเป็นเด็กไม่ยอมโต แม้อายุเกือบจะเต็มยี่สิบในปีนี้แล้วก็ตาม
"ทีหลังจะเข้ามา อย่าลืมเคาะประตูด้วย.." อณูบอกด้วยน้ำเสียงที่แสดงความอ่อนอกอ่อนใจ
"อุ๊ย หนูลืม" คนเป็นน้องปิดปากหัวเราะหน้าตาเฉย ไม่มีวี่แววรู้สึกผิดใด ๆ
"มีอะไร..." พี่สาวถามด้วยเสียงเบื่อ ๆ
"หนูเขียนนิยายเรื่องใหม่อีกแล้ว อยากจะให้พี่อณูช่วยอ่านหน่อย" อณูเพิ่งสังเกตเห็นว่าในมือของอาณามีกระดาษอยู่ปึกใหญ่ทีเดียว เป็นอีกครั้งที่เธอถอนหายใจยาว เวลาอยู่กับน้องสาว อณูจะต้องถอนใจอย่างอ่อนใจนับครั้งไม่ถ้วนเสมอ ๆ
อาณามีใจรักในด้านงานเขียน ความฝันของน้องสาวร่างเล็กของเธอก็คือ การเป็นนักเขียนมีชื่อเสียง และอาณามักจะมารบเร้าให้อณูช่วยอ่านและวิพากษ์วิจารณ์นวนิยายฝีมือของเธอ เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขอยู่เสมอ
แทบจะทุกครั้งอณูจะวิจารณ์อย่างไม่ไว้หน้า ทั้ง ๆ ที่บางครั้งอณูอ่านนิยายของน้องสาวไปไม่ถึงครึ่งเรื่องด้วยซ้ำไป แต่อคติในใจทำให้เธอพูดส่ง ๆ ไปให้พอพ้นตัว ผสมผเสกับความรู้สึกที่ไม่อยากจะสนับสนุนให้น้องสาวเพ้อฝันอีกต่อไป
...เธอคิดเสมอว่า อาณาไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้...
หลายครั้งที่คำวิจารณ์ต่าง ๆ หลั่งไหลออกมาจากอณูโดยไม่มีการกลั่นกรองก่อน "ไม่เห็นสนุกเลย...อ่านแล้วง่วงนอนที่สุดในโลก" "..ไม่ดี นางเอกเหลาะแหละ พระเอกหูเบา ลูกออกมาคงอ่อนแอเป็นง่อย หรือไม่ก็ขี้โรค คิดอะไรไม่เป็น" หรือแม้แต่คำวิจารณ์สั้น ๆ แบบไม่ถนอมน้ำใจว่า "ห่วย" อณูก็เคยทำมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม คำวิจารณ์แรง ๆ ที่ไม่สร้างสรรค์ของอณู ไม่เคยทำให้อาณาท้อถอยเลยแม้แต่น้อย นับเป็นความมุ่งมั่นอย่างที่อณูได้แต่นึกทึ่งในความตั้งใจจริงนั้น
"นะพี่อณู อ่านให้หนูหน่อย" อาณาทำเสียงอ้อน ทำท่าจะก้าวเข้ามาใกล้เพื่่อประจบ แต่อณูขยับออกห่างอย่างรู้ทัน
"อีกแล้วเหรอ" หญิงสาวบ่นพึมพำ แต่อาณารีบยัดกระดาษปึกนั้นใส่ในมือของพี่สาวอย่างกระตือรือร้น
"น่า...อ่านให้หนูหน่อย เรื่องนี้หนูตั้งใจเขียนมากเลย รับรองว่าสนุกนะ หนูมั่นใจยังไงก็ไม่รู้" แววตาใสเป็นประกาย ทำให้อณูปฏิเสธไม่ออก ถึงจะไม่รัก แต่เธอก็ไม่เคยเกลียดเด็กใส ๆ อย่างอาณาได้ลงเลยสักที
"ชื่อเรื่องอะไรเหรอ.." ถามไปอย่างนั้นแหละ ที่จริงไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนัก
"อภินิหาร พระจันทร์เต็มดวง.."
หญิงสาวเกือบจะหัวเราะกับชื่อเรื่องของน้องสาว "เรื่องนี้คงจะมีมนุษย์หมาป่าด้วยใช่ไหม เป็นแนวเหนือจริงหรือเปล่า..ชื่อพิลึกกึกกือชมัด"
"เปล่าค่ะ แนวรักโรแมนติค หวานแหวว มดขึ้น ต่างหาก" น้องสาวตอบ ดวงตาใสแจ๋วนั้นจ้องพี่สาว มันมีความชื่นชมศรัทธาอยู่ในแววตานั้นอย่างเต็มเปี่ยม
"อ้าว แล้วทำไมชื่อเรื่องมันถึงได้แปลกประหลาดพันลึกขนาดนั้นล่ะ" คิ้วเรียวของพี่สาวขมวดมุ่นสงสัย
"ชื่อเรื่องเอามาจากชื่อพระเอกค่ะ" อาณาบอกตาใสแจ๋ว "พระเอกชื่ออภินิหาร นามสกุล พระจันทร์เต็มดวง.."
คราวนี้สุดจะฝืนอีกต่อไป อณูหลุดหัวเราะพรืดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ไม่มีใครมีโอกาสได้เห็นมาดหลุด ๆ อย่างนี้จากจอมเก๊กอย่างอณูได้บ่อยนัก
"เด็กบ้า!" เธอร้องพร้อมกับหัวเราะไม่หยุด
"ทำไมเหรอพี่อณู" คนถามยังทำหน้าเหลอหลาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
"ใครเขาตั้งชื่อเรื่องนิยายกันอย่างนี้ล่ะเนี่ย มันไม่ได้สะท้อนเนื้อเรื่องอะไรเลยนะ"
เหนือความคาดหมายอีกครั้งเมื่อนักเขียนมือใหม่ถามกลับมาหน้าตาเฉย "มันต้องสะท้อนเนื้อเรื่องด้วยเหรอพี่"
"อ้าว!.." พี่สาวเกือบจะอ้าปากค้างอยู่แล้ว..
"ทำไมไม่ให้คนอ่านลุ้นเอาเองว่า ตกลงแล้วเรื่องราวมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่"
อณูยกมือเป็นเชิงห้าม เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งหยุดพูด "ตามใจเธอเถอะ.."
"สรุปว่า พี่อณูยอมอ่านให้หนูแล้วใช่ไหม" อาณายังเซ้าซี้ต่อไป
"ถ้าว่างจะอ่านให้ก็แล้วกัน"
"ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ หนูรู้ว่าพี่อณูไม่ค่อยว่าง หนูรอได้" อาณาบอกอย่างเกรงใจ
"เขียนจบเรื่องแล้วใช่ไหม" พี่สาวเหลือบมองกระดาษปึกนั้นอย่างรู้สึกเป็นภาระ
"ค่ะ หนูเขียนจบเรื่องเรียบร้อยแล้ว...แฮปปี้เอ็นดิ้งด้วยนะ ว้า..ลืมไป หนูไม่น่าจะสปอยล์ตอนจบให้พี่อณูรู้เลย เดี๋ยวหมดสนุก" เจ้าตัวเกาหัวแกรก ๆ เมื่อคิดว่าเผลอเล่าตอนสำคัญของเรื่องให้พี่สาวฟังไปแล้ว ทั้งที่อณูก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจเลยสักนิดเดียว ต่อให้เล่าจนจบเรื่อง เธอก็ฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาได้อย่างหน้าตาเฉยด้วยซ้ำไป
ในขณะที่คนพี่เป็นสาวมีฟอร์ม ระมัดระวังกริยาให้ดูดีอยู่เสมอ คนน้องกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม จะว่าเป็นธรรมชาติก็ได้ หรือจะว่าเป็นคนไม่ค่อยจะมีมารยาทนักก็ว่าได้อีกเช่นเดียวกัน
"หมดเรื่องแล้วใช่ไหม..." เจ้าของห้องหันมาถามเสียงเย็น"แล้วทีนี้ ออกไปได้หรือยัง.."
"ออกไปไหนคะ.." ยัยน้องเป๋อทำหน้างงอีกครั้ง
"ก็...ออกไปจากห้องชั้นไงล่ะ.." อณูท้าวเอวบอกเสียงขุ่น
"อ๋อ..อ๋อ...ค่ะ หนูจะออกไปแล้ว แต่เดี๋ยวพี่อณูอย่าลืมลงไปกินข้าวด้วยนะ วันนี้แม่ไม่มีลูกค้า ก็เลยเข้าครัวทำแกงไตปลา หอมฉุยไปทั้งครัวแล้ว"
ว่าแล้ว สาวร่างเล็กก็ผลุบหน้าสีน้ำตาลเนียนนั้นหายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วไม่ต่างจากตอนเข้ามามากนัก โดยมีอณูยืนส่ายหัวอย่างระอาเต็มที่อยู่คนเดียว
ขอขอบคุณดอกข้าวสารสวย ๆ จาก //www.thaidphoto.com ค่ะ
Create Date : 26 กรกฎาคม 2554 |
|
39 comments |
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2555 14:58:30 น. |
Counter : 1110 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Tangible 26 กรกฎาคม 2554 17:26:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: TonMai2K IP: 125.27.125.232 26 กรกฎาคม 2554 18:59:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: gymstek IP: 223.207.214.222 26 กรกฎาคม 2554 20:55:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 26 กรกฎาคม 2554 21:07:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทอม IP: 223.205.231.135 26 กรกฎาคม 2554 22:39:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tristy 27 กรกฎาคม 2554 8:23:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: หญิงแก่น 27 กรกฎาคม 2554 11:40:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิค IP: 124.120.179.70 27 กรกฎาคม 2554 18:25:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: หญิงแก่น 27 กรกฎาคม 2554 19:24:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: เป้ IP: 58.11.154.161 19 กุมภาพันธ์ 2555 23:19:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: nart (sirivinit ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:15:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 21 กุมภาพันธ์ 2555 14:04:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: uni IP: 110.168.100.230 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:28:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: 9A 22 กุมภาพันธ์ 2555 0:35:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tristy 24 กุมภาพันธ์ 2555 10:13:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 24 กุมภาพันธ์ 2555 13:51:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 24 กุมภาพันธ์ 2555 17:13:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: พิรุณร่ำ 26 กุมภาพันธ์ 2555 16:28:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 27 กุมภาพันธ์ 2555 20:50:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนรอ IP: 124.122.132.42 28 กุมภาพันธ์ 2555 21:37:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: tong2029s (leeminare ) 29 กุมภาพันธ์ 2555 10:33:40 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]
|
e-mail ติดต่อโสดในซอย singleinsoi@hotmail.com
Facebook โสดในซอย http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363
เติมรักให้เต็มรุ้ง งานเขียนล่าสุดของ โสดในซอย
สั่งซื้อในบล็อก พร้อมลายเซ็น ราคารวมค่าส่ง 305 บาท โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 020-056941-6 ชื่อบัญชี มนชญา โปรดโอนให้มีเศษสตางค์ เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง และแจ้งรายละเอียดการโอน พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง ที่หลังไมค์ได้เลย หรือตามร้านหนังสือค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง ของ "โสดในซอย" โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ
ขายหรือให้เช่า ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์ 35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข ไลน์ aazz999
|
|
|
|
|
|
|
อณู อาณา พี่น้องชื่อเก๋ดี