|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชาย 3 ถ. ตอนที่ 1
>>> ผู้ชาย 3 ถ. ตอนที่ 1<<<
ตอนที่ 1...
ห้องสี่เหลี่ยมขนาดกว้างขวางทาสีขาวหมดจด และสว่างไสวด้วยไฟฟ้ามากมายหลายดวงบนเพดาน จนห้องทั้งห้องขาวโพลน ให้ความรู้สึกสะอาดตาที่สุด
บริเวณผนังด้านข้างกรุกระจกเงาคุณภาพดีไว้ด้านหนึ่ง เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาในนั้นได้ถือโอกาสสำรวจหน้าตาและผิวพรรณของตัวเองได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนอีกสามด้านที่เหลือได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุคล้ายคลึงกับไม้ เป็นการเลียนแบบเพื่อให้ความรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด
ด้านหน้าเป็นประตูทางเข้ากรุด้วยกระจกใสสะอาดกระจ่างตา จนมีหลายคนเกือบจะเดินชนเพราะมองไม่เห็นกระจก ถัดจากประตูทางเข้า เป็นเคาน์เตอร์ขนาดยาวที่มีพนักงานสาวหน้าแฉล้มนั่งอยู่ 3-4 คน ทุกคนมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และพร้อมจะให้บริการกับลูกค้าทุก ๆ คนที่เดินผ่านประตูเข้ามา รูปร่างและหน้าตา ตลอดจนผิวพรรณของสาว ๆ เหล่านั้น บอกได้ชัดเจนว่าผ่านการคัดสรรเลือกเฟ้นด้านความงามมาแล้วอย่างถี่ถ้วนอย่างยิ่ง ทุก ๆ นางจึงสวยและดูดี หมดจดไปทั้งเนื้อทั้งตัว ชนิดที่เกือบจะไม่มีใครเป็นรองใครนั่นเลยทีเดียว
ข้าง ๆ ตัวของพนักงานสาวเหล่านั้น มีตู้กระจกใสใส่สินค้าขนาดเล็ก ซึ่งบรรจุผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวพรรณสารพัดชนิดเอาไว้ ทั้งหมดจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้พร้อมที่จะหยิบออกมาเพื่อนำเสนอกับลูกค้าได้ทุกเมื่อ ซึ่งก็มักจะทำเช่นนั้นหลังจากลูกค้านั่งลงติดต่อสอบถาม และพนักงานสาวได้วิเคราะห์ปัญหาผิวพรรณของลูกค้าคร่าว ๆ ด้วยสายตาแล้วว่า ลูกค้าเหมาะจะใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหน และจะโน้มน้าวลูกค้าอย่างไรให้เห็นด้วยกับคำแนะนำเหล่านั้น จนกระทั่งยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าผลิตภัณฑ์ราคาแพงดังกล่าวได้ ตามที่ได้รับการฝึกอบรมทางด้านการขาย และการพูดเชิงจิตวิทยาก่อนที่จะมาบรรจุเป็นพนักงานของที่นี่
ทันทีที่ร่างสูงสองร่างผลักประตูกระจกที่มีป้ายชื่อ บิวตี้แอนด์คลีน เข้ามา พนักงานที่นั่งเรียงหน้ากระดานอยู่ที่เคาน์เตอร์ก็ลุกขึ้นยืนและยกมือไหว้ทำความเคารพร่างสูงคนแรกที่ก้าวเท้ายาว ๆ เข้ามาอย่างมั่นใจในตัวเองโดยพร้อมเพรียงกัน และมือที่ไหว้ค้างอยู่นั้น พลอยเผื่อแผ่ไปถึงร่างที่สองที่เดินตามอย่างทิ้งระยะห่างเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เดินไปเทียบเคียงในระดับเดียวกับอีกคนได้พอดีนัก
คนที่เดินนำยกมือขวาขึ้นแทนการรับไหว้จากพนักงาน เขาหลิ่วตาเป็นความนัยให้พนักงานสาวคนหนึ่ง ซึ่งสาวคนนั้นก็รับรู้ด้วยอาการสะเทิ้น แต่คนที่ส่งสัญญาณกลับไม่สนใจมอง ได้แต่เดินลิ่ว ๆ ไปเลื่อนประตูโดยไม่รอให้คนหลังไปเปิดให้เหมือนกับทุก ๆ ครั้ง เพราะจะรีบเข้าไปในห้องทำงานที่ทำประตูบานเลื่อนซ่อนไว้ในผนังกระจกเงาอย่างแนบเนียนแทบจะมองไม่ออกว่ามีประตู พนักงานสาวทำท่าจะบอกอะไรบางอย่างแต่ความรวดเร็วของชายหนุ่ม ก็ทำให้พนักงานคนนั้นชะงัก เพราะ...ไม่ทันเสียแล้ว
คนที่เลื่อนประตูเข้าไป ชะงักเล็กน้อย เมื่อแลเห็นว่าที่โซฟารับแขกหนังแท้ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางห้อง บริเวณด้านหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของเขานั้น ปรากฎร่างของหญิงสูงวัยผู้หนึ่งนั่งอยู่ การแต่งกายเรียบแต่หรู และสิ่งที่ทำให้ชุดเรียบ ๆ นั้นโดดเด่นคือเครื่องเพชรแบบ จัดเต็ม บนคอ หู และข้อมือต่างหาก รูปร่างได้สัดส่วน แสดงให้เห็นว่าเจ้าของเรือนร่างคอยดูแลเอาใจใส่ตัวเองอย่างเคร่งครัด ใบหน้าก็ดูสดใสเต่งตึงจนคะเนอายุได้ยากเย็นเต็มที และบิวตี้แอนด์คลีนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงสูงวัยผู้นี้ มีอายุที่กลายเป็นเพียงตัวเลขลับ ๆ เท่านั้น โดยที่ไม่มีใครสามารถเดาอายุที่แท้จริงได้ถูกต้องเลยแม้แต่คนเดียว
สังเกตจากการเครื่องดื่มที่วางรับรองอยู่บนโต๊ะรับแขก ซึ่งพร่องไปมากและน้ำแข็งที่ละลายจนเครื่องดื่มลดความเข้มข้นลง ชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาก็พอจะประมาณได้ว่า ผู้มาเยือนได้มานั่งรออยู่นานมากพอสมควรแล้ว
อ้าว...คุณแม่ ผู้ที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับผู้ที่นั่งรออยู่ร้อง น้ำเสียงนั้นออกแนวประหลาดใจมากกว่าจะเป็นคำทักทายตามปกติ ในขณะที่ผู้ที่ก้าวตามเข้ามา โค้งคำนับผู้สูงวัยอย่างนอบน้อม เมื่อเหยียดกายขึ้นจากการค้อมศีรษะ ก็แลเห็นแววตาสงบนิ่งนั้น ฉายความจงรักภักดีอย่างลึกซึ้งออกมาแจ่มชัด
ก็ใช่น่ะสิ แม่เอง ต้องแวะมาดูหน่อย เพราะแม่ไม่เห็นหน้าปราณมาเป็นอาทิตย์แล้ว คนตอบมองหน้าคนที่ยังยืนอยู่อย่างใจเย็น ทั้ง ๆ ที่ความไม่พอใจคุกรุ่นอยู่ อีกอย่าง...แม่อยากจะรู้ว่า ปราณได้มาดูกิจการบ้างหรือเปล่า...
น้ำเสียงนั้นไม่มีวี่แววของการจับผิดก็จริงอยู่ แต่แววตาที่จ้องเขม็งอยู่นั้น ทำให้คนเป็นลูกมีความรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ได้เหมือนกัน กับคนอื่น ๆ เขาได้ชื่อว่าไม่เคยยอมใคร แต่กับมารดาแล้ว เขาสลัดคราบเสือร้ายทิ้งทั้งหมด และกลับกลายเป็นเพียงลูกแมวเชื่อง ๆ ที่พร้อมจะทำตามคำสั่งเท่านั้นเอง
ต้องมาดูสิครับ ผมก็มาของผมประจำทุกวันนั่นแหละ นี่ใครไปฟ้องอะไรคุณแม่อีกหรือเปล่าเนี่ย.. คนพูดซ่อนความหงุดหงิดเอาไว้แต่ไม่สำเร็จ แล้วใช้สายตามองเฉียดหน้าของคนที่ยืนเยื้องไปข้างหลัง ทำให้ผู้เป็นแม่รีบบอก ด้วยไม่อยากให้เกิดความหมางใจกันเพราะความเข้าใจผิด
ไม่เกี่ยวกับเฉดเลยสักนิดเดียว ที่จริงแล้วแม่ว่า เฉดเขาช่วยปิดบังให้ปราณด้วยซ้ำไป แม่ง้างปากเท่าไร เฉดก็ไม่เคยยอมปริปากบอก ไม่น่าเลย..แม่ไม่น่าจะบอกให้เฉดดูแลปราณให้ดี ๆ เลย ก็เลยกลายเป็นว่า แม่สั่งให้เฉดกลายไปเป็นพวกของปราณเสีย ทีนี้แม่ก็ขาดคนคอยส่งข่าวให้พอดี
คนที่ถูกพาดพิงถึงได้แต่ยืนนิ่ง ใบหน้าเรียบเฉยราวกับใส่หน้ากาก แต่คนที่กำลังระแวงมีสีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"ทำไมคุณแม่ไม่คิดว่า การที่เฉดไม่ได้ไปส่งข่าวของผมให้กับคุณแม่ ก็เป็นเพราะผมไม่มีข่าวอะไรจะให้คุณแม่ต้องห่วง..." คนเป็นลูกทำเสียงตัดพ้อ
"จริงหรือ?..." ผู้สูงวัยกว่าทำเสียงสูงไม่เชื่อถือนัก
"โธ่! คุณแม่.."
นี่ฉันจะยกเลิกคำสั่งดั้งเดิมทิ้ง แล้วสั่งให้เฉดคอยดูพฤติกรรมของปราณ คอยรายงานให้ฉันรู้ทุก ๆ ฝีก้าวแทนจะได้ไหม ล้างคำสั่งเดิมให้หมดไปเลยน่ะ คนพูดพูดไปหัวเราะไป เพื่อแสดงว่าเป็นแค่การพูดเล่น ๆ เท่านั้น
คุณแม่ทำยังกับเฉดเป็นคอมพิวเตอร์อย่างนั้นแหละ จะได้ล้างคำสั่งได้ คนเป็นลูกเห็นแม่เริ่มอารมณ์ดี ก็ตรงเข้าไปนั่งข้าง ๆ พร้อมกับพูดเล่นด้วยอย่างประจบเอาใจ
เป็นคอมพิวเตอร์ก็ดีน่ะสิ แม่จะได้แกล้งปล่อยไวรัสใส่ให้เครื่องรวนเสียเลย แหม...นะ คนพูดหันไปพยักเพยิดกับลูกชายอย่างสนิทสนม ราวกับลืมความขุ่นข้องที่เกิดขึ้นไปจนหมดสิ้นแล้ว แค่แม่โปรแกรมไว้ให้คอยดูแลปราณแทนแม่เท่านั้น เฉดก็ซื่อสัตย์ถวายชีวิตเลยทีเดียว จนแม่แทบจะแทรกตัวเข้าไปไม่ได้
เฉดเคยเป็นคนของคุณอรวรรณมาก่อน ความจงรักภักดีที่เขามีให้กับคุณอรวรรณ ก่อให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจอย่างไม่มีข้อกังขา และเมื่อลูกชายคนเดียวของคุณอรวรรณซึ่งเป็นที่รักประหนึ่งแก้วตาได้ก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจ คุณอรวรรณจึงมอบเฉดให้เป็นมือขวาของลูกชาย โดยมีจุดประสงค์ลับ ๆ ที่ไม่เคยบอกกับเฉดมาก่อนว่า เฉดจะต้องช่วยรายงานความประพฤติของลูกชายให้เป็นระยะ ๆ ด้วย หากแต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะถึงเฉดจะจงรักต่อคุณอรวรรณมากเพียงใด แต่เขาก็ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของเขา ซึ่งก็คือ การดูแลเจ้านายคนใหม่นาม ปราณปุริม ของเขาด้วย ไป ๆ มา ๆ เลยกลับกลายเป็นว่า เฉดคอยปกป้องและปกปิดความผิดให้ปราณปุริมไปเสียทั้งหมดแทน
ปราณปุริมเป็นหนุ่มอายุย่างยี่สิบแปด หน้าตาคมคายเพราะรับเอาส่วนดีทั้งของพ่อและของแม่มารวมกันไว้ แต่ใบหน้าละม้ายมาทางคุณอรวรรณมากกว่าทางหมอสมภพ ทำให้เขามีแววหวานอยู่บนใบหน้าคมเข้มนั้น ทั้งดวงตากลมโต และขนตาดกดำเป็นแพ ริมฝีปากบางใสสีชมพูระเรื่อราวกับทาสลิปสติค ผิวพรรณก็สดใสเพราะมีพื้นฐานผิวที่ดี และยังได้รับการบำรุงรักษาจากคลีนิกของตัวเองประกอบกันเข้าไปอีก มิหนำซ้ำรูปร่างสูงโปร่งเกินมาตรฐานชายไทย ประกอบกับการเพาะกล้ามเนื้อ ยิ่งทำให้เขายิ่งดูโดดเด่นและดู แมน ไม่ใช่ผู้ชายผอมกล้องแกล้งอย่างหนุ่มแรกรุ่นทั่ว ๆ ไป
ถ้าเฉดไม่ได้ยืนเปรียบเทียบอยู่กับปราณปุริม เขาก็จัดว่าเป็นคนที่หน้าตาใช้ได้คนหนึ่ง แต่เมื่อมายืนเปรียบเทียบกัน เขาทั้งตัวเล็กกว่า สีผิวคล้ำเข้มกว่า และราศีก็เทียบกับปราณปุริมไม่ติดเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนั้นอายุที่มากกว่าสามปี แต่ใบหน้ากร้านคล้ำ ประกอบกับใบหน้าที่เรียบเฉยไม่ค่อยยิ้มแย้ม ยิ่งทำให้เฉดดูเหมือนคนที่แก่กว่าปราณปุริมเป็นสิบปี ดังนั้นจะเรียกว่า แพ้กันทุกขุมขนเลยก็ว่าได้
หมดเรื่องกระเซ้าเย้าแหย่กันแล้ว นักธุรกิจหญิงผู้จริงจังกับงาน ก็วกกลับมาเรื่องเดิมอีกครั้ง หาได้ลืมเลือนอย่างที่ลูกชายเข้าใจในตอนแรกไม่
แล้ววันนี้... ทำไมปราณเพิ่งจะโผล่มาซะป่านนี้ล่ะ ว่าพลางพลิกนาฬิกาฝังเพชรที่ข้อมือซ้ายขึ้นมาดู ราวกับจะตอกย้ำถึงการละเลยในงานของลูกชาย น้ำเสียงถึงจะไม่ฉุนเฉียวเพราะยังไม่โกรธถึงขีดสุด แต่ก็เอาจริงจนคนเป็นลูกเริ่มฝ่ออีกครั้งหนึ่ง
นึกรำคาญความเคร่งครัดของมารดาขึ้นมาตะหงิด ๆ ในเมื่อสร้างตัวจนมีเงินทองในระดับที่เรียกว่าเศรษฐีได้แล้ว ใจคอแม่ไม่คิดจะใช้เงินทองซื้อความสุขใส่ตัวบ้างเลยเชียวหรือ มิหนำซ้ำยังมากำหนดกฎเกณฑ์ให้ลูกพลีชีวิตจดจ่ออยู่กับงาน งาน งาน ให้พลอยเครียดตามตัวเองไปด้วยอีกคนหนึ่ง
...น่าเบื่อ...
โธ่! คุณแม่ก็... ปราณปุริมลากเสียง ทำใจดีสู้เสือ กิจการของเรามันอยู่ตัวแล้ว ผมคงจะไม่ต้องมานั่งประจำที่นี่ตลอดทั้งวันหรอกมั้ง
ตรงกันข้ามเลยต่างหาก...แกควรจะต้องมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เปิดประตูร้านไปจนร้านปิดพร้อมกับห้างสรรพสินค้านี่เลย อย่าลืมนะว่า สาขานี้เป็นสาขาใหม่ มิหนำซ้ำยังตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า โอกาสที่จะมีลูกค้าจรมาใช้บริการจึงมีเยอะมาก และลูกค้าใหม่ที่ยังไม่ใช้บริการ ก็จะมีปัญหาใหม่ ๆ หรือสิ่งที่เราต้องแนะนำ อีกอย่างหนึ่ง... เด็กบางส่วนของที่นี่ก็เป็นเด็กที่เทรนมาใหม่ ยังต้องการคำแนะนำอีกมาก อาจจะมีปัญหาเฉพาะหน้าเกิดขึ้น ที่เด็กจัดการเองไม่ได้ เสียงเริ่มแข็ง ๆ บ่งบอกว่าความขุ่นเคืองกำลังเพิ่มดีกรีขึ้น
เฉดมองเจ้านายของเขาด้วยสายตานิ่งเฉยเหมือนเดิม
สาขานี้เป็นสาขาที่ 99 ที่ปราณปุริมเป็นคนออกปากกับมารดาว่าอยากจะได้ เขาขอมาดูแลสาขานี้อย่างเต็มตัว รวมทั้งผลประโยชน์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสาขานี้ จะตกเป็นของเขาเพียงผู้เดียว
สาขาที่ 99 เลขสวยดี ขอผมเถอะ.. เขาบอกกับคุณอรวรรณง่าย ๆ อย่างนั้น
ตอนแรกคุณอรวรรณหาทางบ่ายเบี่ยง ทุกวันนี้ปราณก็ได้ดูสาขาให้แม่อยู่แล้วนี่ ตระเวณดูทุก ๆ สาขาเลยด้วยซ้ำไป ทำไมจะต้องขอสาขานี้ แม่ไม่เข้าใจ
ถึงจะได้สาขานี้มาแล้ว ผมก็จะยังตระเวณดูทุก ๆ สาขาเหมือนเดิมครับ แต่ขอสักสาขาหนึ่งเถอะ ที่จะอยู่ในความรับผิดชอบของผมจริง ๆ
คุณอรวรรณตัดสินใจมอบสาขาที่ 99 ให้กับปราณปุริมอย่างเสียไม่ได้ กิติศัพทความเป็นเพลบอยของลูกชายเป็นที่รู้กันดีในวงสังคม และเพราะความใจป้ำกล้าได้กล้าเสีย รวมทั้ง...กล้าจ่าย ทำให้ปราณปุริมไม่เคยขาดผู้หญิงคนใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต ชีวิตเขามอบให้กับความสนุกสนานมากกว่าจะคิดเรื่องงานอย่างจริงจัง และเพราะเหตุนี้ทำให้คุณอรวรรณไม่เคยวางใจบุตรชายมากนัก แต่เพราะความเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงคนเดียว ซึ่งสุดท้ายแล้วกิจการทั้งหมดก็คงจะต้องตกอยู่ในมือของเขาอยู่ดี การมอบให้เขาดูแลสาขาหนึ่งอย่างเต็มตัว อาจจะเป็นการฝึกให้ปราณปุริมก้าวเข้ามาเป็นนักธุรกิจที่ดีขึ้นก็ได้
บิวตี้แอนด์คลีน เป็นคลีนิกความงามที่มีแพทย์ผิวหนังคอยดูแล เป็นคลีนิคความงามที่มีชื่อเสียงติดปากของลูกค้าด้านผิวพรรณและความงาม โดยมีสาขากระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งหมด 99 สาขา
ธุรกิจนี้แรกเริ่มเกิดขึ้นมาจากหมอสมภพ บิดาของปราณปุริม ซึ่งเป็นแพทย์ด้านผิวหนังฝีมือดี มันเริ่มต้นขึ้นจากคลีนิกผิวหนังเล็ก ๆ ที่มีหมอสมภพเป็นแพทย์ประจำ และคุณอรวรรณเป็นผู้ช่วย หมอผิวหนังที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นสิวเป็นฝ้าหน้าตกกระ หมอช่วยไดทั้งนั้น ก่อให้เกิดการกล่าวขานกันปากต่อปาก ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งลูกค้ามากมาย ต้องมีบัตรคิวแจก และจำกัดจำนวนลูกค้าในแต่ละวัน เพราะหมอคนเดียวรักษาให้ไม่ไหว
คุณอรวรรณเล็งหาทำเลตั้งสาขาใหม่อย่างคนที่มองการณ์ไกล ความเป็นคนกว้างขวางและความชาญฉลาด ประกอบกับความคล่องแคล่วเฉียบคมในเชิงธุรกิจของคุณอรวรรณ รวมทั้งการตระเตรียมระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพเอาไว้พร้อมพรั่ง กับการสรรหาหมอผิวหนังมือดีมาผนึกกำลังช่วยกันดูแลกิจการ ทำให้ในเวลาต่อมาคุณอรวรรณสามารถเพิ่มจำนวนสาขาของบิวตี้แอนด์คลีนได้มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
คุณอรวรรณวางมือจากการเป็นผู้ช่วยในคลีนิกเล็ก ๆ แล้วกลายมาเป็นผู้ควบคุมกิจการอย่างเต็มตัว ด้วยเงินทุนมากมายที่คุณอรวรรณใช้ความน่าเชื่อถือของตัวเองในการเสาะแสวงมา คุณอรวรรณรู้ว่าเสี่ยง แต่เพราะความกล้าได้กล้าเสีย ทำให้ในที่สุดความสำเร็จก็มาอยู่ในกำมือ และทำให้คุณอรวรรณกลายเป็นเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยที่เป็นที่กล่าวขวัญถึง ชื่อเสียงดังกลบหมอสมภพผู้เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งคลีนิคเสียด้วยซ้ำไป
สาขาแต่ละแห่งจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังประจำอยู่ ส่วนจะมีแพทย์มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าของสาขานั้น ๆ ซึ่งคุณอรวรรณจะเป็นผู้คำนวณจำนวนหมอเอง
เพราะความเก่งกาจของคุณอรวรรณ ทำให้บทบาทของหมอสมภพลดลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายหมอสมภพก็วางมือโดยสิ้นเชิงเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง เพราะเริ่มมีแนวความคิดที่ขัดแย้งกับภรรยาบ่อย ๆ และยิ่งนานวันเข้า คุณอรวรรณก็ยิ่งไม่ฟังเสียงหมอสมภพ ยิ่งการตัดสินใจของคุณอรวรรณถูกต้องมากกว่า ยิ่งทำให้คุณอรวรรณเชื่อมั่นในตัวเองและหมดความรู้สึกอยากจะปรึกษาหารือผู้เป็นสามีอีกต่อไป
ปราณจะเจ้าชู้ประตูดินมากแค่ไหนแม่ไม่เคยว่า แต่ต้องมีขอบเขต อย่าให้เสียงานเสียการ แม่ขอแค่นี้ ปราณคงจะทำได้ คุณอรวรรณเอ่ยปรามลูกชายด้วยเสียงเย็น ๆ
ครับ
ได้ข่าวว่าตอนนี้กำลังไปจีบนักร้องของฟิฟตี้วันอยู่อย่างนั้นเหรอ.. แม่ของเขาหูตาไวเสมอ
ปราณปุริมเงยหน้าขึ้นมองเฉดอีกครั้ง อย่างต้องการจะแน่ใจว่า ข่าวสารที่ถึงหูมารดา ไม่ได้เกิดจากปากของเฉด
ถึงอย่างไรปราณปุริมก็ไม่เคยไว้ใจเฉดเลยสักครั้ง แม้จะได้รับคำรับรองจากมารดาถึงความสัตย์ซื่อของเฉดเข้าหูอยู่บ่อย ๆ ก็ตาม
ใบหน้าเรียบเฉย กับปากเม้มสนิทของเฉด ทำให้ปราณปุริมต้องหันกลับมามองหน้าแม่ของตัวเองอีกครั้ง
...อยากรู้นัก ใครนะ คาบข่าวไปบอก...
ก็เปล่านี่ครับ... ที่จริงข่าวนี้เก่าไปแล้ว นักร้องคนนี้กำลังกลายเป็น ของ ที่เขาเบื่อแล้วต่างหาก ไม่ได้เป็นระยะข้าวใหม่ปลามัน
ทำอะไรก็รักษาชื่อเสียงหน่อยก็แล้วกัน ถ้ารักสนุก ก็อย่าขี้เหนียว จ่ายเงินให้แม่พวกนั้นปิดปากให้สนิทด้วย แม่ไม่อยากให้เรื่องมันมากระทบชื่อเสียงของบิวตี้แอนด์คลีน..
คณอรวรรณหายใจเข้าหายใจออกเป็นคลีนิกอยู่แล้ว บางครั้งปราณปุริมยังเคยคิดว่า หากจัดอันดับในหัวใจของคุณอรวรรณกันจริง ๆ แล้วแม้แต่ลูกชายคนเดียวอย่างเขา ก็คงจะเป็นได้แค่ที่สองรองจากบิวตี้แอนด์คลีนเท่านั้น..
แล้วที่สำคัญ... สาขานี้ อย่าปล่อยวาง มันเพิ่มเริ่ม การเป็นสาขาในห้าง ทำให้เราจะได้ขยายวงลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย ลูกค้าบางคนที่ไม่คิดจะเป็นลูกค้าเรา อาจจะเดินเข้ามาเพื่อฆ่าเวลา ฉะนั้น เราต้องงัดทุกกลเม็ดออกมา เพื่อสร้างความประทับใจให้ได้ จะได้ดึงเขาให้มาเป็นลูกค้าของเรา และ...ต้องเป็นลูกค้าประจำอย่างถาวรของเราตลอดไปด้วย
ครับ ผมจะมาดูแลที่นี่ให้มากขึ้น... เขารับปากไปแกน ๆ รู้สึกเซ็งที่มารดามองเขาเป็นเด็กไม่รู้จักโต
อ้อ..สาขาที่เชียงใหม่กับขอนแก่น แม่อยากให้ปราณช่วยดูแลด้วยอีกแรงหนึ่ง แม่บินไปบินมาถี่ ๆ ไม่ไหว ระยะนี้แม่ปวดหลังบ่อย ๆ ไม่อยากนั่งเครื่องนาน ๆ
เขาจะทำอะไรได้ นอกจากรับปาก ครับ
คุณอรวรรณหันไปทางเฉด เฉดอย่าลืมจดรายละเอียดที่ฉันพูดทั้งหมดในวันนี้ให้กับปราณด้วยนะ เดี๋ยวจะมาทำเฉไฉใส่ฉัน บอกว่าฉันยังไม่สั่งไม่ได้ ฉันยังไม่อัลไซเมอร์ พูดอะไรออกไป ฉันจำได้ทั้งหมด แต่พอปราณลืม หรือขี้เกียจทำ ก็มาอ้างว่าฉันไม่ได้พูด ... ฉันไม่ชอบ
ถึงจะเป็นคำสั่งตรงไปที่เฉด แต่วาจาที่กระทบกระเทียบถูกลูกชายเข้าจัง ๆ ก็ทำให้ปราณปุริมเริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ
เฉดสังเกตเห็นสีหน้าของปราณปุริมก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เฉดจึงค้อมศีรษะให้คุณอรวรรณและบอกว่า
คุณท่านสบายใจเถอะครับ ผมจะจดรายละเอียดที่คุณท่านสั่งเอาไว้ให้คุณปราณทั้งหมด และจะช่วยคุณปราณด้วยอีกแรงหนึ่งเท่าที่ผมพอจะทำได้ เพื่อให้คุณท่านไม่ต้องลำบากมาดูที่นี่อีก คำตอบนั้นแสนสุภาพและแสดงความละเอียดรอบคอบอย่างที่ผู้สูงวัยพึงใจ
คุณอรวรรณยิ้มอย่างรู้ทันและขยับตัวทำท่าจะลุกขึ้น นี่คงจะบอกเป็นนัย ๆ สินะว่า ฉันควรจะกลับไปได้แล้ว เพราะนายของเฉดเริ่มไม่พอใจฉันมากขึ้นทุกทีแล้ว...
หามิได้ครับ... เฉดค้อมศีรษะตอบนอบน้อม
เอาเถอะ... กลับก็กลับ ฉันมันก็เหมือนขอนไม้เก่า ๆ ที่นับวันก็จะผุพังไปตามกาลเวลา ถ้าไม้ใหม่ ๆ อย่างปราณเขาไม่ลุกขึ้นมาดูแลทรัพย์สมบัติของเขาเอง ถ้าจะปล่อยเรื่อยเปื่อยให้มันหมดไปเรื่อย ๆ แทนที่จะงอกเงย ไม่นานมันก็คงจะหมดไปเอง ฉันก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้แล้วละ เพราะฉันเองก็คงจะไม่มีชีวิตยืนยาวไปจนถึงป่านนั้น...แต่ฟังเฉดพูดอย่างนี้แล้ว ฉันก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
คราวนี้คุณอรวรรณลุกขึ้นจริง ๆ เฉดรีบเดินเข้าไปใกล้ ๆ และช่วยประคองให้คุณอรวรรณยืนขึ้น แม้ว่าคุณอรวรรณจะยังดูสาวพริ้ง แต่ก็เพราะการดูแลรักษาตัวอย่างดี อายุจริง ๆ ของคุณอรวรรณไม่น้อยแล้ว กำลังวังชาก็ถดถอยลงไปทุกที ๆ
เฉดไปส่งคุณแม่ที่รถด้วย คนเป็นลูกรีบหันไปกำชับเฉด พร้อมกับเผลอแสดงอาการโล่งใจออกมา
ครับเจ้านาย...
ทำไม.. กลัวแม่จะไม่กลับไปจริง ๆ หรือยังไง โดนดักคอเข้าตรง ๆ เหมือนรู้ทันอย่างนี้ ปราณปุริมก็ได้แต่เงียบ และยิ้ม
...น้ำขุ่นไว้ข้างใน น้ำใสไว้ข้างนอก...
รอให้แม่เดินพ้นออกไปจากห้องนี้ก่อนเถอะ เขาจะร้องแหกปากโวยวายปล่อยอารมณ์ให้ลั่นเชียว...คอยดูเถอะ!
สักครู่ใหญ่ ๆ ต่อมา เฉดเดินกลับมาจากการไปส่งคุณอรวรรณที่รถ เขาเกือบจะเคาะประตูห้องทำงานอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะความเคยชินที่จะต้องหันไปมองพนักงานประจำร้านและนับจำนวน... หายไปหนึ่งคน
...ถ้าจำไม่ผิด สาวคนนั้นชื่อ เกศรินทร์...
พร้อม ๆ กันนั้น ขณะที่หูของเขาเกือบจะแนบกับประตู ก็ได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังเล็ดลอดออกมาเบา ๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน ไม่ใช่เพราะเฉดอยากจะสอดรู้สอดเห็นกับกิจกรรมพิเศษของเจ้านาย แต่เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจมากกว่าว่า ในเวลานี้ เขาควรจะผลักประตูเข้าไปในนั้นหรือไม่ต่างหาก
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปราณปุริมทำเช่นนี้...เรียกตัวของพนักงานเข้าไปในห้องทำงานของเขาสองต่อสอง
เฉดเคยพลาดถึงขั้นเปิดประตูเข้าไปพบภาพที่ไม่ควรจะเกิดในสถานที่ทำงานแล้วด้วยซ้ำไป แต่ที่เขาทำก็เพียงแต่ปิดประตูลงเบา ๆ เพื่อไม่ให้กิจกรรมและอารมณ์ของเจ้านายต้องสะดุดหยุดลง ก่อนที่จะเดินออกไปหาที่นั่งด้านนอกเงียบ ๆ ขณะที่ทำหน้าเฉยเหมือนใส่หน้ากาก และหันไปทำหน้าดุใส่พนักงานที่เหลืออยู่ด้านนอก ที่กำลังหัวเราะขำขันกับ สมภาร ที่กำลังขม้ำ ไก่วัด แบบไม่เกรงจะเสียการปกครอง
บางคนขำกับระบบพวกนี้ แต่บางคนก็อิจฉา... และรอคอยที่จะถึง คิว ของตัวเองบ้าง
พอมีเงินเสียอย่าง ใคร ๆ ก็อยากจะใกล้ชิดด้วย ทั้งทางถูกและทางผิด มันเหมือนเป็นสัจธรรมอีกอย่างหนึ่งของโลกใบนี้
ผู้ชาย.. หล่อ รวย มีชื่อเสียง จะทำอะไรก็ได้ โลกนี้เปิดกว้างสำหรับเขาไปทุกอย่าง หนทางสำหรับปราณปุริมมันราบรื่นยิ่งกว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะมันปูพรมแดงทอดไปจนเห็นอนาคตข้างหน้าได้ชัดเจน
ไม่น่าเชื่อ...เกศรินทร์เป็นเด็กสาววัยยี่สิบปี หน้าตาสะสวย ใสซื่อ หากให้เฉดเป็นผู้ตัดสินความงามอย่างกรรมการตัดสินนางงามบนเวที เขาคงจะบอกอย่างมั่นใจว่า เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาพนักงานในสาขานี้ เกศรินทร์สวยที่สุด ไม่ใช่แค่สวยเท่านั้น เธอยังเรียบร้อย นุ่มนวล ที่จริงเธอติดจะขี้อายด้วยซ้ำไป
เฉดยังจำวันแรกที่เธอเข้ามาทำงานได้ดี เกศรินทร์แต่งหน้าไม่เป็น เขาเป็นคนบอกให้เพื่อน ๆ ในร้านช่วยเธอแต่งหน้า ดีแต่ว่าที่นี่มีเสื้อผ้าที่เป็นยูนิฟอร์มให้พนักงาน เพราะไม่อย่างนั้นเกศรินทร์ก็คงจะอยู่ในชุดเชย ๆ ให้ต้องเสียดายหน้าสวย ๆ ที่ถูกห่อหุ้มด้วยอาภรณ์ที่ไม่เหมาะกันอย่างแน่นอน
เวลาจะพูดจะจา เกศรินทร์ก็เสียงเบาหวิวอย่างคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ทำอะไรก็กระดาก ขัดเขินไปเสียทั้งหมด อายแม้แต่จะเอ่ยปากเชิญชวนให้ลูกค้าซื้อสินค้า ทั้งที่การขายนั้นหมายถึงเธอจะได้เงินเปอร์เซ็นต์จากสินค้านั้นด้วย และเธอเองก็รู้ว่างานของเธอคืออะไรตั้งแต่กรอกใบสมัครแรกเข้ามาเป็นพนักงานนั่นแล้ว
จะไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขี้อายขนาดนั้น หัวหน้าพนักงานเคยบ่น ๆ อย่างหนักใจถึงเกศรินทร์ให้เฉดฟังอยู่หลายหน
เฉดได้เห็นเกศรินทร์ค่อย ๆ พัฒนาตัวเองขึ้นมาช้า ๆ นับว่าเชื่องช้าเกินไปด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะเกศรินทร์หน้าตาดีมาก เธออาจจะถูกปราณปุริมไล่ออกไปตั้งแต่เดือนแรกแล้วก็ได้
แต่ในที่สุด เธอก็เก่งขึ้นจนได้ หญิงสาวกล้าขึ้น คล่องขึ้น ไม่ใช่กล้าแค่เรื่องงาน เขาเห็นเธอชม้อยชม้ายตาให้ปราณปุริมอยู่หลายครั้ง
ถึงจะเห็นอย่างนั้น เฉดก็ยังนึกไม่ถึงว่า วันหนึ่งเกศรินทร์จะกล้าหาญชาญชัยขนาดที่ยอมเอาตัวเข้าแลกกับเสือผู้หญิงอย่างเจ้านายของเขา ทั้งที่น่าจะรู้ว่าเธอก็เป็นได้แค่ของเล่นแก้เบื่อ แค่คั่นเวลาของปราณปุริมเท่านั้นเอง วันใดที่เขานึกเบื่อหน่าย วันนั้นก็น่าจะเป็นวันที่เธอหมดราคา จนต้องกลับไปนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์อย่างขมขื่น ได้แต่รอคอยลูกค้าเงียบ ๆ และผลัดเปลี่ยนให้พนักงานคนอื่นที่สดกว่า ใหม่กว่า เข้าไปในห้องทำงานของปราณปุริมเพื่อมีกิจกรรมลับเฉพาะแทนที่เธอ
เฉดไม่เคยเตือนผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเจ้านาย เพราะเขารู้ว่าเป็นเรื่องของการยินยอมพร้อมใจ และหากทำอย่างนั้นแล้วเจ้านายของเขารู้เข้า ปราณปุริมคงจะโกรธเขาจนแทบคลั่ง ไม่มีประโยชน์ที่เฉดจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับผู้หญิงที่ไม่รักตัวเองเหล่านั้น
แต่เฉดก็อดไม่ได้ เขาเคยเปรย ๆ กับปราณปุริมถึงเรื่องนี้ ที่จริงเฉดไม่มีสิทธิ์จะไปตักเตือนได้ขนาดนั้น และมั่นใจว่ามือชั้นเซียนอย่างชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายไม่น่าจะพลาด แต่เฉดก็อดไม่ได้ ในขณะที่ปราณปุริมอารมณ์ดี ๆ เขาพอจะพูดเตือนได้บ้าง ต้องเลือกจังหวะให้ดีด้วย
ระวังด้วยนะครับ บางคนอาจจะต้องการจับเจ้านายก็ได้ เรื่องมันจะยุ่ง ถ้าเขาโวยวายขึ้นมา
คนที่มั่นใจในตัวเองสูงหัวเราะลั่นกลับมา ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันถูกใครจับ และ...จะบอกให้นะ ฉันตกลงกับแม่พวกนี้ไว้ก่อนแล้วทั้งนั้น เรื่องเงินทองฉันไม่หวง เท่าไรเท่ากัน ไม่มีอั้น ขออย่างเดียว อย่ามาสะดิ้งเรื่องมากให้รำคาญใจ ถ้าจะทำเป็นเสียดายเนื้อตัวทีหลัง ฉันไม่สนใจแน่ เพราะคนอย่างฉันไม่เอาเพชรเก๊มาประดับให้เสียของหรอก
เฉดได้แต่พยักหน้านิ่ง ๆ ที่เหมือนใส่หน้ากากเป็นเชิงรับรู้ และจบการสนทนาลงเพียงเท่านั้น ส่วนในใจของเขาจะคิดอะไรต่อไป ไม่มีใครรู้
Create Date : 20 กรกฎาคม 2554 |
|
17 comments |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2555 14:09:06 น. |
Counter : 1017 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ทอม IP: 223.205.45.6 20 กรกฎาคม 2554 1:00:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: แอ้ม IP: 192.168.151.35, 202.183.176.37 20 กรกฎาคม 2554 8:01:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: panwat 20 กรกฎาคม 2554 8:31:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 20 กรกฎาคม 2554 10:22:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: saengchot IP: 58.137.12.74 20 กรกฎาคม 2554 11:05:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 20 กรกฎาคม 2554 11:52:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: หญิงแก่น 20 กรกฎาคม 2554 13:02:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 21 กรกฎาคม 2554 21:43:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: saengchot IP: 58.9.101.33 22 กรกฎาคม 2554 23:22:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: saengchot IP: 58.137.12.74 25 กรกฎาคม 2554 14:23:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: TonMai2K IP: 125.27.125.232 26 กรกฎาคม 2554 18:53:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]
|
e-mail ติดต่อโสดในซอย singleinsoi@hotmail.com
Facebook โสดในซอย http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363
เติมรักให้เต็มรุ้ง งานเขียนล่าสุดของ โสดในซอย
สั่งซื้อในบล็อก พร้อมลายเซ็น ราคารวมค่าส่ง 305 บาท โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 020-056941-6 ชื่อบัญชี มนชญา โปรดโอนให้มีเศษสตางค์ เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง และแจ้งรายละเอียดการโอน พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง ที่หลังไมค์ได้เลย หรือตามร้านหนังสือค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง ของ "โสดในซอย" โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ
ขายหรือให้เช่า ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์ 35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข ไลน์ aazz999
|
|
|
|
|
|
|