ละคร ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ตอนที่ 2
ตอนที่ 2คืนเดียวกันนี้ที่ศาลาตั้งศพคุณนายวัน มีการสวดอภิธรรมศพตามปกติ...ครั้นพระลงจากศาลาไปเป็นอันเสร็จ ชาวบ้านก็ล้อมวงกินข้าวต้มที่เฉลากับฉลวยน้องสาวของลีนวัตรยกมาเสิร์ฟจนครบทุกคน จากนั้นสองสาวก็เลี้ยวมาที่พี่ชายกับแม่ที่นั่งอยู่หน้าโลงศพ "แม่...พี่ลี ข้าวต้มจ้ะ" ฉลวยยกถาดข้าวต้มส่งให้แม่กับพี่ชาย ปื๊ดที่นั่งโซ้ยข้าวต้มอยู่ก่อนแล้วรีบยกชามขึ้นซดน้ำจนเกลี้ยงแล้วหยิบชามใหม่ในถาดมากินอีก เฉลาจึงถามกึ่งบ่นปื๊ดว่ากินไปกี่ชามแล้ว ปื๊ดชูสามนิ้ว พลางก็พูดยิ้มๆ "ก็มันอร่อยนี่""ท้องแตกดีกว่าของเหลือใช่ไหม" ฉลวยพูดแล้วหัวเราะขำปื๊ด แม่ปุยไม่ว่ากระไร ได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ แล้วก็หารือ ลีนวัตรเรื่องหลานคุณนายวัน "นี่ก็ตั้งศพสวดมาตั้งสามวันแล้วนะผู้ใหญ่ หลานสาวคุณนายวันแกยังไม่มาเลย จะเอายังไงกันดี""ยังไงก็ต้องทำตามคำสั่งคุณนายวันจ้ะแม่ สวดสามวันก็คือสามวัน""รอแกอีกหน่อยก็ได้มั้ง พรุ่งนี้แกอาจจะมาก็ได้ เดี๋ยวแกจะหาว่าเราไม่รอแก""คำสั่งของคุณนายวันสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้นจ้ะแม่ หนูไม่อยากให้คุณนายวันไม่สบายใจ""แต่หนูว่าสวดไปเรื่อยๆก็ดี จนกว่าคุณแกจะมา""เอ็งจะได้มีของกินอร่อยๆอย่างนี้ทุกคืนใช่ไหมล่ะ""พ่อนี่รู้ใจปื๊ดที่ซู้ด..." ปื๊ดลากเสียงจนลีนวัตรหมั่นไส้ เขกหัวไปที "นี่แน่ะ เห็นแก่กิน"พอกลับถึงบ้านอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้ว ลีนวัตรหยิบเสื้อและกางเกงออกมาแขวนนอกห้อง แม่ปุยเห็นแล้วเกิดความสงสัย จึงสอบถาม ก็ได้ความว่าพรุ่งนี้ลีนวัตรจะเข้ากรุงเทพฯ ไปดูหลานสาวคุณนายวัน อยากรู้เธอติดขัดอะไรถึงไม่ยอมมางานศพยาย"แกอาจจะไม่ได้รับจดหมายของผู้ใหญ่ก็ได้""หนูว่าหนูทวนดูดีแล้วนะจ๊ะแม่ หนูจ่าหน้าซองไม่ผิดหรอก""แกอาจจะติดธุระสำคัญก็ได้นี่ผู้ใหญ่""ธุระอะไรมันจะสำคัญกว่ามาคารวะศพพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หนูก็อยากรู้เหมือนกัน""แล้วจะไปกี่โมงล่ะผู้ใหญ่""ก็คงออกแต่เช้ามืดแหละแม่ จะไปจับรถเที่ยวแรกให้ทัน""แม่จะนึ่งข้าว ทอดเนื้อไว้ให้ก็แล้วกัน ห่อข้าวไปกินจะได้ไม่ต้องไปซื้อเขาให้มันเปลือง""จ้ะแม่"แม่ปุยแยกตัวไปทางครัว ลีนวัตรนึกถึงการไปกรุงเทพฯครั้งนี้ แล้วรู้สึกหนักใจไม่น้อย oooooooมาลินีปักหลักอยู่ที่บ้านสมรตั้งแต่เมื่อคืน และข่มตาให้หลับไม่ได้เลย นั่งเฝ้าโทรศัพท์มือถือตลอดคืน เผื่อประดิษฐ์จะโทร.เข้ามา ถ้าเธอรับช้าเดี๋ยวเขาจะโกรธเอาอีก ครั้นเช้าขึ้นหน้าตามาลินีจึงอิดโรย สมรเห็นสภาพเพื่อนแล้วยิ่งสงสาร "สมร...ถ้าดิ๊กเขาไปจากชีวิตฉันจริงๆ ฉันจะทำยังไงดี""ไม่รู้สิ...ถ้าเป็นฉัน ฉันก็คงต้องอยู่ให้ได้ละมัง อยู่คนเดียวให้อะไรๆมันค่อยๆร่วงโรยไป...เหมือนดอกไม้ที่นับวันมีแต่จะเฉาลงๆ จนเหี่ยวแห้งไปในที่สุด""ดูโหดร้ายจังเลยนะ ทำไมผู้ชายถึงเข้าใจได้ยากขนาดนี้นะ""ฉันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน""ตลอดชีวิตของฉัน ฉันรู้จักผู้ชายอยู่แค่สองคน พ่อฉันกับดิ๊กนี่แหละ ถ้าเขาโทร.เข้ามาฉันควรจะพูดประโยคแรกกับเขายังไงดีสมร""ก็...ฮัลโหล สวัสดีค่ะไง""ไม่ใช่ จะพูดยังไงให้เขาหายโกรธ""ก็ขอโทษเขาสิ ถ้าเราเผลอทำอะไรให้เขาโกรธก็ขอโทษ""ดีเหมือนกันนะ ไม่มีอะไรดีไปกว่าคำว่าขอโทษ โทร.มาสิดิ๊ก โทร.มาสิคะ""ยายมา...แทนที่แกจะมัวมานั่งคอยให้เขาโทร.มา ทำไมแกไม่โทร.ไปหาเขาซะเองล่ะ""จะดีเหรอสมร""ฉันว่ามันไม่แปลกหรอกนะ ที่สมัยนี้ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายง้อผู้ชายก่อนน่ะ"มาลินีคล้อยตาม หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดทันที... ประดิษฐ์กำลังแทงสนุ้กกับเพื่อนๆ ซึ่งเล่นพนันกันมาตั้งแต่ เมื่อคืน อดนอนจนตาลาย พอเห็นมาลินีโทร.เข้ามา ประดิษฐ์กดรับแล้วเดินเลี่ยงจากกลุ่มเพื่อนที่ส่งเสียงแซวออกมาคุยข้างนอก"ดิ๊ก...มาเองค่ะ" น้ำเสียงมาลินีเกรงใจสุดขีด"ผมกำลังจะโทร.หามาอยู่พอดีเลย คิดถึงมาจะแย่อยู่แล้วรู้ไหม มาอยู่ไหนครับ""มา...มาอยู่บ้านสมรค่ะ""ไปอยู่บ้านเขาทำไม ทำไมไม่กลับบ้านเราครับ จะให้ ผมไปรับไหม"มาลินีตื้นตันใจปีติน้ำตาแทบร่วงเพราะพลิกล็อกผิดคาด ประดิษฐ์หวานสุภาพเหมือนลูกแมวเชื่องๆ"ไม่เป็นไรค่ะ มากลับเองได้ เดี๋ยวเจอกันที่คอนโดฯนะคะ มาจะซื้อของกินเข้าไปด้วย ดิ๊กอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ""อะไรก็ได้ครับ มาซื้ออะไรก็อร่อย แต่ผมอยากเห็นหน้ามาเร็วๆมากกว่า รีบมานะครับ คิดถึงนะ จุ๊บๆ"มาลินียิ้มแก้มปริที่รักคืนใจ สมรเงี่ยหูฟังอยู่ใกล้ๆ ก็พลอยยินดีกับเพื่อนไปด้วย"เห็นไหม...ฉันบอกแล้ว ไม่มีอะไรเยียวยาแผลจากความรักได้ดีเท่าความจริงใจหรอก""ขอบใจเธอมากจริงๆนะสมร เธอช่วยฉันได้มากจริงๆ ถ้าไม่ได้เธอ ฉันคงกลุ้มใจตายไปแล้ว" "มีอะไรก็ค่อยๆพูด ค่อยๆจากันนะ จะได้ไม่เกิดปัญหาอีก""ฮื่อ...ฉันจะพยายามพูดน้อยๆ จะได้ประคับประคองความรักของฉันให้อยู่นานๆ"สมรพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะสวมกอดให้กำลังใจมาลินีoooooooลีนวัตรออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ได้ขึ้นรถเที่ยวแรกอย่างที่ตั้งใจ แต่เมื่อเขาคลำทางมาตามที่อยู่ที่จดใส่ กระดาษจนถึงคอนโดฯของมาลินี เขาเข้ามาติดต่อประชา-สัมพันธ์ที่ชั้นล่าง ก็ได้คำตอบว่ามาลินีไม่อยู่ ออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อวาน...ชายหนุ่มบ้านนาจึงขอนั่งรอตรงมุมรับแขก แต่รอไปรอมารู้สึกหิวจึงงัดข้าวเหนียวกับเนื้อทอดของแม่ปุยออกมากินขณะเดียวกันนั้น มาลินีกำลังจะนั่งแท็กซี่ออกจากหน้าบ้านสมรด้วยหัวใจพองโตที่ประดิษฐ์ไม่โกรธเธอแล้ว...ฝ่ายประดิษฐ์ก็กำลังขับรถกลับคอนโดฯเช่นกัน ขณะซิ่งรถมาถึงหน้าคอนโดฯด้วยความรีบร้อนไม่เกรงใจใคร ประดิษฐ์เกือบเฉี่ยวชนลีนวัตรที่เดินข้ามฝั่งไปซื้อน้ำดื่ม ทั้งอาหารทั้งขวดน้ำในมือลีนวัตรเลยหลุดมือหล่นกระจายประดิษฐ์ไม่พอใจ กดกระจกลงร้องด่าเขาทันที"ไอ้บ้า...อยากตายรึไงวะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ถนนรถวิ่งนะโว้ย ไม่ใช่ทางควายเดิน""อ้าว..." ลีนวัตรร้องอ้าวได้คำเดียว ประดิษฐ์ก็รัวมาอีกชุด"รถอั๊วมันไม่ใช่บาทสองบาทนะโว้ย แค่สีถลอกลื้อก็ไม่มีปัญญาชดใช้แล้ว"ลีนวัตรระงับโทสะ ไม่อยากมีเรื่อง "ขอโทษครับ ผมขอโทษครับ""ไอ้บ้าเอ๊ย...บ้านนอกชิบเป๋ง" ประดิษฐ์ออกรถไปอย่างหัวเสีย"เป็นงั้นไป...คนกรุงเทพฯจงเจริญ" ว่าแล้วลีนวัตรก็ก้มลงเก็บห่อข้าวและขวดน้ำด้วยความเซ็งสุดขีด เสร็จแล้วเข้าไปนั่งอดทนรอมาลินีต่อไปแต่เมื่อมาลินีมาถึง เธอกลับควงประดิษฐ์ขึ้นลิฟต์โดยไม่ได้สนใจลีนวัตรที่พยายามจะเรียก ส่วนลีนวัตรเมื่อเห็นมาลินีแนบชิดผู้ชายหายขึ้นห้องไปก็หน้าเหี่ยวหน้าแห้ง เดินมาขอให้ พนักงานต่อสายขึ้นไปหามาลินีที่ห้องเพราะมีธุระสำคัญประดิษฐ์หงุดหงิดกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขัดจังหวะขณะเขากำลังสวีตกับมาลินี จึงขอเป็นคนรับเอง พอได้ยินพนักงานบอกว่ามีผู้ชายมาขอพบคุณมาลินี ประดิษฐ์หันมาจ้องมาลินีอย่างเอาเรื่อง"คุณนัดผู้ชายที่ไหนมา"มาลินีตกใจ รีบทำมือปฏิเสธ ประดิษฐ์จึงกระชากเสียงไปตามสายที่มีเสียงผู้ชายดังแว่วมา"ลื้อเป็นใคร รู้จักแฟนอั๊วได้ยังไง""ผมชื่อลีนวัตร ผม...""มันบอกมันชื่ออะไรวัดๆก็ไม่รู้" มาลินีส่ายหน้าดิก ยืนยันไม่รู้จักใครที่ชื่อวัด ประดิษฐ์ เลยใส่ต่อไม่ยั้ง"ลื้อมันพวกมิจฉาชีพ เดี๋ยวอั๊วจะเรียกตำรวจ อย่าหนีไปไหนนะโว้ย""มาจัดการเองค่ะ" เธอดึงโทรศัพท์จากมือเขาทันที "นี่...แก...แกมันพวกโรคจิตใช่ไหม""คุณ...คุณมาลินี...""มีไม่กี่คนหรอกที่รู้จักที่อยู่ของฉัน แกต้องเป็นพวกโรคจิตที่คอยสะกดรอยตามซุปเปอร์โมเดลอย่างฉันแน่ๆเลย ไปให้พ้นเลยนะ แล้วถ้ามาวอแวฉันอีก แฟนฉันต้องฉีกแกเป็นชิ้นๆแน่ ไอ้บ้า"มาลินีพูดจบก็วางหูดังโครม ลีนวัตรสะดุ้งสุดตัวกับเสียงกระแทกวางสาย หมดหวังหมดศรัทธาเหมือนถูกไล่ตะเพิด แถมปิดประตูใส่หน้า...ลีนวัตรเดินเซ็งออกมาหน้าคอนโดฯหันกลับไปมองที่ตัวตึกแล้วถอนใจเฮือก"เป็นอย่างคุณนายวันว่าไว้จริงๆ น่าเสียดาย" oooooooประดิษฐ์นอนหนุนตักมาลินีที่นั่งบนโซฟาตัวใหญ่ สองมือของเขากุมมือเธอไว้อย่างทะนุถนอมราวกับรักกันปานจะกลืนกิน"ดิ๊กง่วงก็นอนซะนะคะ มาจะไปเตรียมของกิน เดี๋ยวมามาปลุก""ไม่เอาหรอก ดิ๊กอยากหนุนตักมาอย่างนี้ไปนานๆ มันทำให้ดิ๊กคิดถึงแม่รู้ไหม มาดีกับดิ๊กเหมือนเป็นแม่ดิ๊กเลย"มาลินียิ้มเจื่อน เธอควรจะดีใจดีไหมหนอ..."เมื่อไหร่เราจะแต่งงานกันดีล่ะ ปีหน้าไหม" "มาแล้วแต่ดิ๊ก ดิ๊กพร้อมเมื่อไหร่ มาก็พร้อมเสมอ""ดิ๊กว่าจะกลับไปทำงานซะที ลอยไปลอยมาอยู่อย่างนี้ดิ๊กรำคาญตัวเองเหมือนกัน""ดีค่ะ...เราจะได้ช่วยกันเก็บตังค์เอาไว้สร้างครอบครัวของเรา ซื้อบ้านซักหลังที่มีบริเวณ มีสนามเอาไว้ปลูกดอกไม้สวยๆ"ทันใด ประดิษฐ์ลุกพรวดหน้าหงิก "พูดยังงี้หมายความว่ายังไง" มาลินีตกใจยิ้มค้างกับภาพฝัน "มากำลังด่าดิ๊กว่าดิ๊กเป็นแมงดาเกาะมากินใช่ไหม""มายังไม่ได้พูดซักคำ""ไม่ได้พูดแต่ความหมายมันเป็นอย่างนั้น""ดิ๊ก...มาไม่ได้ตั้งใจ""ใช่ซี้...ดิ๊กมันไม่มีอะไรดีเลยซักอย่าง จะกินยังต้องให้มาหาเลี้ยง" ประดิษฐ์คว้ากุญแจรถผลุนผลันจะออกไป มาลินีถามระรัวว่าดิ๊กจะไปไหน "ก็คงไปตระเวนหางานทำมั้ง งานอะไรดิ๊กก็ต้องทำทั้งนั้น มาจะได้เลิกดูถูกดิ๊กซะที ถ้ามาเข้าเซเว่นแล้วไปเจอดิ๊กเป็นพนักงาน ก็อย่าอายจนลืมทักทายกันบ้างก็แล้วกัน"ประดิษฐ์ปั้นฟอร์มหัวใจชอกช้ำก่อนจะพรวดพราดออกไป มาลินีแทบล้มทั้งยืน...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอoooooooข้างฝ่ายลีนวัตรที่ต้องผิดหวังกลับมา...แม่ปุยจึงว่าไปเสียเที่ยว ได้เจอแต่ไม่ได้คุยกัน ลีนวัตรไม่อยากพูดอะไรมาก ยังรู้สึกแปลบๆที่หัวใจเมื่อรู้ว่ามาลินีมีแฟนแล้ว เขาเสบ่นหิวข้าว และถามน้องๆว่าทำอะไรกินบ้าง พูดพลางก็เดินเลี่ยงไปทางครัว "พี่ลีทำท่าเหมือนคนอกหัก" ฉลวยแอบเม้าท์ จึงถูกแม่ปุยดุว่ารู้ดี"อย่างนี้ศพคุณนายวันมิต้องตั้งเอาไว้จนแห้งแหงแก๋เหรอแม่" เฉลาเอ่ยขึ้นมา แม่ปุยไม่ตอบ แต่ทำหน้าหนักใจแทนลูกชาย แล้วไล่สองสาวไปจัดสำรับกับข้าวให้พี่ชายก่อนด้านมาลินีที่เหมือนสวรรค์ล่มลงอีกครั้ง ทั้งที่ตั้งใจว่าจะประคับประคองความรักให้ได้นานๆอย่างที่บอกกับสมรเอาไว้ ครั้นสมรโทร.มาถามความคืบหน้าขณะอยู่กับวลัยที่บ้าน มาลินีเลยต้องกลบเกลื่อนปิดบังความทุกข์ ทำแจ่มใสเพราะกลัวเพื่อนด่า"ฮื่อ...ทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา""คุยกันเรียบร้อยแล้ว เข้าใจกันดีแล้ว ฉันก็ดีใจด้วย ยายวลัยมันเป็นห่วงแกมาก คุยกับมันหน่อยนะ ให้มันอิจฉาเล่น" "นี่ยายมา...ถ้าแกกับแฟนแกเคลียร์กันได้แล้ว ฉันก็ดีใจด้วย แต่ยังไงฉันก็ยังยืนยันว่าแกควรจะรักแล้วหยิ่งในศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงของพวกเราเอาไว้ให้มากๆ ไม่อย่างนั้น เช้าทะเลาะกัน ตกเย็นก็คืนดีกันอยู่อย่างนี้ เพื่อนอย่างฉันก็ไม่พ้นเป็นหมาหัวเน่าเข้าใจไหม" คำพูดของวลัยทำเอามาลินีน้ำตาแทบร่วง แต่พยายามปั้นหัวเราะ "ขอบใจนะวลัย เธอยังเป็นเพื่อนรักของฉันเสมอ ไม่มีวันเป็นหมาหัวเน่าหรอก...ดิ๊กเหรอ เขาก็อยู่แถวเนี้ย อาบน้ำอยู่มั้ง เดี๋ยวเขาจะพาฉันไปกินข้าวนอกบ้าน ยังไม่รู้เหมือนกันอาจจะเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสมั้ง...แค่นี้ก่อนนะ ฉันแต่งหน้าก่อน ดิ๊กเขาว่าหน้าฉันอ่อนไป" แล้วแกล้งตะโกนราวกับอยู่กับแฟนจริงๆ "จะไปแล้วค่ะ ดิ๊กเขาเรียกแล้ววลัย แค่นี้ก่อนนะ"มาลินีรีบกดวางสายแล้วร้องไห้โฮ ถ้าเพื่อนๆรู้ความจริง เธอต้องถูกประณามหยามเหยียดว่าโง่ ชีวิตเหมือนย่ำเท้าอยู่กับที่ ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย...oooooooแม่ปุยยังข้องใจเรื่องหลานสาวคุณนายวัน จึงหาโอกาสเหมาะๆคุยกับลีนวัตรตามลำพังในตอนกลางคืน"ผู้ใหญ่...ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่ เรื่องหลานสาวคุณนายวัน""เขาจะมาหรือไม่มามันก็เรื่องของเขาแล้วละแม่""แล้วเขาบอกผู้ใหญ่รึไงว่าเขาจะไม่มา""เปล่า""อ้าว แล้วผู้ใหญ่จะมาเหมาเอาเองยังงี้ได้ยังไง""คุณนายวันเป็นยายแท้ๆของเขาทั้งคน เขายังไม่มีแก่จิตแก่ใจจะมาทำศพเลยนะแม่""เขาอาจจะไม่ได้รับจดหมาย""มันเป็นไปไม่ได้หรอกแม่ เขาไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า เพราะมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องทำ""ยังไง...พูดยังไง""หนูว่าเราเตรียมเงินเอาไว้ซื้อที่นาของคุณนายวันเถอะ ยังไงเขาก็ต้องขาย น้ำท่วมหลังเป็ดแน่ ถ้าคนกรุงเทพฯอย่างเขาคิดจะทำไร่ไถนาอยู่บ้านนอกอย่างนี้" ลีนวัตรตัดบทอย่างมั่นใจ...เที่ยงคืนกว่าแล้ว มาลินียังนั่งตาแป๋ว ทั้งที่พยายามทำตัวเองให้ง่วง ให้ลืมเรื่องปวดใจด้วยการกวาดถูห้องตั้งแต่หัวค่ำ "ง่วงซะทีสิ ง่วงๆๆ ฉันจะได้หลับซะที...เฮ้อ จัดห้องใหม่ ดีกว่า"ขณะจัดห้องไปเรื่อยเปื่อย มาลินีสะดุดตากับกองจดหมาย จึงหยิบทั้งหมดมานั่งพิจารณาว่าอะไรเป็นอะไร แยกซองค่าใช้จ่ายต่างๆออก แล้วจึงพบจดหมายของผู้ใหญ่ลีที่จ่าหน้าซองด้วยลายมือ ซึ่งเธอแทบไม่เคยได้เห็นมาเป็นชาติแล้วหลังจากแกะจดหมายนั้นออกอ่าน มาลินีถึงกับน้ำตาร่วงเผาะ...พอเช้าขึ้นจึงออกเดินทางพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ ไปขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรีแต่การเดินทางไปคลองหมาหอนบ้านคุณนายวันไม่ ธรรมดาเลย มาลินีต้องขึ้นรถสองแถวเบียดเสียดไปกับชาวบ้าน ปุเลงๆไปตามถนนที่มีแต่ฝุ่น แถมเจอหลุมเจอบ่อน้ำเฉอะแฉะจนรถติดหล่มไปไม่ได้ ต้องลงเดินต่ออีกสองสามกิโลมาลินีแทบจะบ้าตาย กัดฟันเดินโขยกเขยกลากกระเป๋าเดินทางไปถึงตลาด เป็นเวลาที่ลีนวัตรขับเรือหางยาวมาจอดที่ท่าน้ำใกล้ร้านกาแฟที่คุ้นเคย พอชายหนุ่มเห็นกระเป๋าเดินทางไฮโซถูกลากผ่านหน้า เขาสะดุดตาจนอดไม่ได้ต้องเงยขึ้นมองหน้าเจ้าของกระเป๋าแล้วต้องตะลึงตาค้าง"ซื้อน้ำเปล่าขวดนึงค่ะ เอาเย็นๆนะคะ" "หยิบเอาเลย ในตู้น่ะ"มาลินีเดินไปที่ตู้แช่ตามที่เจ้าของร้านบอก กรีดนิ้วเปิดตู้ด้วยกลัวเล็บยาวๆของตนจะหัก และไม่ค่อยมั่นใจกับความสะอาด ลีนวัตรมองเธอจนแน่ใจว่าตาไม่ได้ฝาด แล้วรีบขนของออกไปที่เรือเตรียมกลับ...มาลินีจ่ายค่าน้ำและสอบถามเจ้าของร้านว่าเธอจะไปคลองหมาหอน จะไปยังไงได้ เจ้าของร้านซักกลับจนรู้ว่ามาลินีจะไปบ้านคุณนายวันผู้ขว้างขวางในแถบนี้ เขาจึงชี้มือไปทางผู้ใหญ่ลีทันที"โน่นเลย เรือลำนั้นน่ะ คุณขอเขาไปด้วย เขากำลังจะไปคลองหมาหอนพอดี""ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมาก" มาลินีรีบคว้ากระเป๋าลากออกไปจากร้าน ลีนวัตรชะเง้อมองเธออยู่ก่อนแล้ว รีบเอาผ้าขาวม้าคลุมปิดหัวปิดหน้า และทำวุ่นวายกับการจัดของใส่เรือหางยาวแล้วไม่ว่าหญิงสาวจะเข้ามาสอบถามอะไรเกี่ยวกับการไปบ้านคุณนายวันที่คลองหมาหอน ชายหนุ่มก็เอาแต่ก้มหน้าตอบรับสั้นๆอย่างเดียว"ถ้างั้นฉันขอไปด้วยคนได้ไหมคะ จะคิดค่าเสียเวลาเท่าไหร่"ลีนวัตรชะงัก...นึกในใจว่าคนกรุงเทพฯอะไรๆก็แลกได้ด้วยเงิน"นี่คุณ..." "ลงมา...หาที่นั่งเอาเอง" เขาพูดสวนขึ้นมาห้วนๆ เธอจึงวานเขาช่วยรับกระเป๋าลงเรือให้ด้วย กำชับว่าต้องระวังดีๆ กระเป๋ามันแพง แล้วก็มีของสำคัญๆทั้งนั้น ลีนวัตรรับฟังแต่ไม่ ทำตาม ยกกระเป๋าไฮโซของเจ้าหล่อนโยนโครมลงเรือ มาลินีแทบกรี๊ดแต่ระงับใจไว้ แค่นยิ้มปากสั่น"ลงมาสิ" เสียงเขาเร่ง เธอกลับให้รอแป๊บนึง ขอทาครีมกันแดดก่อน ว่าแล้วเธอถอยเข้าร่ม หยิบครีมกันแดดออกมาทามือทาแขน ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนรอด้วยความเซ็ง...ครู่ต่อมา เรือหางยาวของลีนวัตรแล่นตัดผิวน้ำ มาลินีนั่งห่อตัว บนหัวมีผ้าคลุมกันแดดกันลม แต่แล้วแรงลมก็ทำให้ผ้าปลิวหลุดมือคว้าไม่ทัน ผ้าลอยตามลมมาโป๊ะปิดหน้าลีนวัตรที่บังคับเครื่องท้ายเรือ ลีนวัตรมองไม่เห็น ตะกุยเอาผ้าออกจากหน้าอีนุงตุงนังมาลินียิ้มแหยเหมือนสำนึกผิดในที แต่พอลีนวัตรขยุ้มผ้าม้วนๆแล้วเขวี้ยงคืนมา เธอก็เอาผ้าคลุมหัวคลุมตัวกันแดดกันลมเหมือนเดิม ลีนวัตรหมั่นไส้เลยดับเครื่องมันซะดื้อๆ "ถึงแล้วเหรอ จริงๆก็ไม่ไกลเลยนี่""ยังไม่ถึง""แล้วดับเครื่องทำไมล่ะ""มันดับเอง เป็นยังงี้ประจำแหละ" พูดจบเขาแกล้งทำเป็นพยายามกระตุกเชือกสตาร์ตเครื่อง แต่ก็ไม่ติด มาลินีเริิ่มบ่น กลัวจะไปต่อไม่ได้ ลีนวัตรรีบบอกไปได้แน่ ถ้าช่วยกันพาย...พอเขาส่งพายให้ เธอโวยทันทีว่า ฉันเป็นผู้โดยสารนะ แล้วก็พายเรือไม่เป็นด้วย"จะไปไหม คลองหมาหอนน่ะ จะไปก็ต้องช่วยกันพาย" เจอไม้นี้เข้า มาลินีจำต้องจับพายจิ้มลงน้ำเก้ๆกังๆ ทั้งพายไม่เป็น ทั้งกลัวเล็บสวยๆจะหัก ลีนวัตรคิ้วขมวด ทั้งขำและปลงสังเวชกับท่าทางยักแย่ยักยันของเจ้าหล่อนอีกพักใหญ่ๆเรือเข้าเทียบริมตลิ่ง มาลินีลิ้นห้อยหมดสภาพสิ้นเรี่ยวแรง ลีนวัตรยิ้มสะใจ และเผลอเปิดผ้าขาวม้าที่คลุมหัวออกเพื่อเช็ดเหงื่อ"ถึงแล้ว" เขาบอก"ถึงแล้ว...ไหน ฉันไม่เห็นมีบ้านซักหลัง มีแต่ทุ่งหญ้า""นี่มันทุ่งนาไม่ใช่ทุ่งหญ้า ต้นข้าวยังไม่รู้จักเลยเหรอคุณ""มันก็เหมือนกันน่ะแหละ ไหนล่ะบ้านคุณวัน""คุณต้องเดินไปอีกหน่อย ไม่ไกลหรอก ไปตามคันนานี่นะ พอเจอทางถนนก็เลี้ยวขวา เจอแยกก็เลี้ยวซ้าย แยกอีกทีก็เลี้ยวขวา ซ้ายแล้วก็ขวา ขวาแล้วก็ซ้าย""โอ๊ย ใครจะไปจำได้ เอาอีกทีซิ""เอาเหอะน่า เดินไปเหอะ""แล้วถ้าเกิดฉันหลงขึ้นมาล่ะ""มีปากไหมล่ะคุณ ปากเขามีไว้ให้ถาม ไม่ได้มีไว้ให้บ่นอย่างเดียว"มาลินีโกรธกระฟัดกระเฟียดขึ้นจากเรือทันที "กระเป๋าฉัน ส่งกระเป๋ามาให้ด้วย ระวังหน่อยนะกระเป๋าแพง แล้วในนั้นก็..."ไม่ทันขาดคำ ลีนวัตรก็โยนกระเป๋าของเธอขึ้นไปนอนแอ้งแม้งบนตลิ่ง มาลินีกรี๊ดกระจาย แต่เขากลับหัวเราะชอบใจ พอเธอคว้ากระเป๋าจะเดินไป เขารีบท้วงเธอว่า ลืมอะไรไปอย่างนึง"อะไร" เธอหันมากระชากเสียง"ลืมขอบคุณ"หญิงสาวหน้าหงิก เปิดกระเป๋าถือหยิบเงินออกมาหนึ่งร้อย "ทีแรกฉันตั้งใจจะให้ซักห้าร้อย แต่บริการของนายแย่มากเข้าขั้นห่วยแตก เอาไปร้อยเดียวก็คงเหลือแหล่""คุณเก็บเงินคุณเอาไว้ซื้ออย่างอื่นเถอะ คนคลองหมาหอนเนี่ย บางทีเงินก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก""หยิ่งซะด้วย...ดี เพราะจริงๆแล้ว บาทเดียวกับบริการอย่างนี้ นายก็ไม่สมควรได้รับ" ว่าแล้วเธอเก็บเงินใส่กระเป๋า เตรียมลากกระเป๋าจากไป"โชคดีนะคุณ" ลีนวัตรร้องบอกพร้อมกับสตาร์ตเครื่องทีเดียวติด มาลินีชะงักกึก เพิ่งค้นพบบางอย่าง หันขวับกลับมา"นี่นายหลอกฉันนี่ เครื่องไม่ได้เสียซะหน่อย""น้ำมันมันแพง ต้องช่วยกันประหยัด"ลีนวัตรยิ้มร่าขับเรือออกไป มาลินีเต้นเป็นเจ้าเข้าด้วยความเจ็บใจoooooooจบตอนที่ 2เครดิต //www.thairath.co.th