กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 กรกฏาคม 2552
 
 
ละคร ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ตอนที่ 9

ตอนที่ 9

ลีนวัตรแตกตื่นตกใจวิ่งกลับมาที่บ้านตัวเอง ค้นหายาในตู้อย่างรีบเร่ง แม่ปุยพอรู้ว่ามาลินีไม่สบายก็อดบ่นลูกชายไม่ได้ว่า ชอบแกล้งเธอนัก บอกเท่าไหร่ ก็ไม่ฟัง เธอตัวเท่านั้น ลมพัดก็แทบจะปลิว คนกรุงเทพฯเขาไม่ได้กระดูกแข็งเหมือนพวกเรา
"หนูไม่ได้คิดจะแกล้งเขาแค่เล่นสนุกซะหน่อยนี่แม่ ที่ทำลงไปน่ะก็แค่อยากสอนให้จำแค่นั้นเอง"
"สอนให้จำ...แต่มันก็แรงไปหน่อยอยู่ดี"
"เอาเหอะแม่ หนูรู้แล้วว่าหนูผิดเอง หนูก็กำลังรับผิดชอบอยู่นี่ไง"
"แล้วผู้ใหญ่ก็ควรจะจำเอาไว้ด้วยว่าผู้ใหญ่จะสอนอะไรใครก็แล้วแต่...แต่ละคนไม่เหมือนกัน ผู้ใหญ่จะใช้วิธีสอนวิธีเดียวกันน่ะมันไม่ได้"
"จ๊ะแม่ หนูจะจำไว้จนวันตายเลย หนูไปนะ" ลีนวัตรรีบวิ่งออกไปพร้อมยาในมือ ฉลวย เฉลา และปื๊ดช่วยกันหอบผักกาดเขียวที่เพิ่งถอนจากแปลงสวนเข้ามา เห็นท่าทีรีบร้อนของลีนวัตรก็พากันสงสัย พอรู้จากแม่ปุยว่ามาลินีไม่สบาย ทุกคนจึงแห่กันไปดูด้วยความเป็นห่วง
ลีนวัตรตั้งใจจะเอาข้าวต้มให้มาลินีรองท้องก่อนกินยา แต่ถึงเวลาจะต้องถึงเนื้อถึงตัวเธอ เขาเกิดหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก พอดีพวกแม่ปุยมาถึงจึงช่วยกันจัดการแทน แล้วไล่ทั้ง ลีนวัตรและปื๊ดออกไปจากห้อง เพราะต้องเช็ดตัวให้มาลินีด้วย
ขณะนั่งรอนอกห้อง ลีนวัตรถูกปื๊ดต่อว่ายกใหญ่ เพราะปื๊ดกลัวว่ามาลินีถูกลีนวัตรแกล้งแล้วจะไม่อยากอยู่ที่นี่ ลีนวัตรหน้าจ๋อยยอมรับผิด ปื๊ดเลยเดาถูกเผงว่าพ่อก็ไม่อยากให้คุณมา กลับกรุงเทพฯเหมือนกัน...หลังจากมาลินีได้รับความช่วยเหลือให้กินข้าวกินยาและเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว ลีนวัตรยังไม่ค่อยวางใจจะไปตามหมอที่อนามัยมาดู แต่แม่ปุยบอกว่าให้เธอนอนพักก่อนดีกว่า เฉลาจึงเสนอตัวคืนนี้จะนอนเป็นเพื่อนมาลินีเอง แต่ลีนวัตรกับปื๊ดรีบแย่งกันใหญ่ ทำเอาฉลวยอดค่อนแคะไม่ได้ว่า อยากรู้จริงๆ ถ้าตนไม่สบายขึ้นมาบ้าง พี่ชายกับหลานจะเป็นห่วงแบบนี้ไหม?
มาลินียังมีอาการหนาวสั่นเพราะพิษไข้ ลีนวัตรจึงไปเอาผ้านวมในตู้มาเพิ่ม มาลินีได้ยินเสียงปื๊ดเรียกพ่อ นึกว่าผู้ใหญ่ลีมาเยี่ยม แต่เธอลืมตาไม่ขึ้น ได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณเขาปลกๆ พอสักพักลืมตาได้ กลายเป็นเห็นนายเหว่า ทำให้เธอทั้งแปลกใจทั้งผิดหวัง
ทางด้านประดิษฐ์ที่วันก่อนรู้จากสมรว่ามาลินีไปสุพรรณฯ วันนี้เขาจึงวนเวียนมาวิงวอนสมรอีกครั้ง จนได้ที่อยู่ของมาลินีที่คลองหมาหอน แต่ไม่ทันที่ประดิษฐ์จะนำกระดาษแผ่นนั้นกลับไป วลัยก็พรวดพราดมาดึงจากมือประดิษฐ์ไป...วลัยขัดขวางเต็มที่จะไม่ยอมให้ประดิษฐ์ตามไปรังควานมาลินี แต่ในที่สุดทัดทานเขาไม่สำเร็จ วลัยจึงชวนสมรเดินทางไปกับประดิษฐ์ด้ว


ooooooo


มาลินีหลับยาวตลอดคืน มาตื่นเอาตอนเช้าอีกวัน พินยกอาหารเข้ามาให้ถึงห้องนอน พร้อมกันนี้พินก็แนะนำตัวเอง และว่าผู้ใหญ่ลีตามให้พินมาช่วยดูแลคุณ เมื่อก่อนพินเคยมารับจ้างคุณนายวันที่นี่เหมือนกัน คุณนายวันยังเคยชมว่าตั้งแต่คลองหมาเห่ายันมาถึงคลองหมาหอน หาใครซักผ้าถูเรือนได้เรี่ยมเท่าพินไม่มีแล้ว
"เหรอจ๊ะ งั้นพินจะมาทำงานให้ฉันยังไงล่ะ เป็นรายวัน หรือทำประจำเป็นรายเดือนดี"
"ก็แล้วแต่คุณเถอะค่ะ แต่เท่าที่ฉันฟังๆผู้ใหญ่ลีแก แกเหมือนอยากให้ฉันมาช่วยแบบประจำเลยน่ะค่ะ แกว่าสงสารคุณ"
"แล้วพินจะคิดเงินเดือนเท่าไรล่ะ"
พินบอกว่าแล้วแต่คุณจะให้ มาลินีจึงถามว่าหมื่นห้าพอไหม พินถึงร้องว้าย...เรียกหาคุณพระคุณเจ้าอย่างตกใจ มาลินีรีบขอโทษ นึกว่าให้น้อยไป
"น้อยอะไรล่ะคะคุณ มากไปค่ะ เอาแค่สี่พันห้าพอแล้ว คุณจะมาจ้างให้ฉันเป็นเจ้าของบ้านเหรอคะ ให้ตั้งหมื่นห้า ไม่เอ๊า"
"จ้ะๆ สี่พันห้าก็สี่พันห้า นี่ฉันเป็นหนี้บุญคุณผู้ใหญ่ลีอีกแล้วเหรอเนี่ย อุตส่าห์หาคนมาให้ฉัน"
"ผู้ใหญ่ลีแกเป็นคนมีน้ำใจ เรื่องของลูกบ้านต้องมาก่อนเรื่องของแกเองทุกทีแหละ"
"พินเชื่อไหมล่ะ ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันยังไม่เคยเจอตัวผู้ใหญ่ลีซักที"
"อาไร้...บ้านผู้ใหญ่ลีแกก็อยู่ใกล้แค่นี้"
"ก็นั่นน่ะสิ"
"แล้วตอนคุณนอนซมเป็นไข้น่ะ แกก็มาเยี่ยมคุณทั้งเช้า กลางวัน เย็น วันละสามเวลาก่อนอาหารเลยนะ"
"เหรอ...นี่ฉันไม่รู้เลยนะเนี่ย"
หลังจากนั้น มาลินีลุกออกไปสูดอากาศตรงนอกชาน เห็นปื๊ดวิ่งมาแต่ไกล ปื๊ดดีใจที่มาลินีอาการดีขึ้นแล้ว มาลินีเองก็ขอบใจปื๊ดและทุกคนที่พลอยลำบากเพราะเธอ อีกทั้งพ่อของปื๊ดยังเป็นธุระไปตามพินมาช่วยดูแลเธอ จึงฝากปื๊ดขอบคุณผู้ใหญ่ลีด้วย แต่ปื๊ดไม่รับฝาก ให้มาลินีไปขอบคุณพ่อของตนเอาเอง พ่ออยู่ในท้องนาทางโน้น
มาลินีไม่รอช้า เดินตากแดดหัวแดงออกไปหาผู้ใหญ่ลี แต่พอไปถึงกลับเจอแต่นายเหว่า...ลีนวัตรหรือนายเหว่าที่มาลินีเข้าใจมาตลอดเป็นห่วงมาลินีที่ออกมาตากแดดตากลมทั้งที่ ฟื้นไข้ เขาถอดหมวกบนหัวตัวเองใส่ให้เธอ พร้อมกับขอโทษถ้าเขาเป็นต้นเหตุให้เธอไม่สบาย
"นายนี่ทำตัวเป็นคนดีกะเขาเป็นเหมือนกันนี่"
ลีนวัตรอึกๆอักๆ อยากจะบอกว่ากลัวเธอเกลียด แต่ใจไม่กล้าพอ เลยบอกว่ากลัวผู้ใหญ่ลีไล่ออก อ้างให้สมเหตุสมผลว่าเศรษฐกิจยิ่งไม่ค่อยดี งานการหายากขืนตกงานมีหวังอดตาย
"กลัวเป็นกะเขาเหมือนกันเหรอ"
"โธ่คุณก็...ผู้ใหญ่ลีแกดุยังกะอะไรดี แกพูดจริงทำจริงนะครับ"
"นี่เป็นครั้งแรกนะเนี่ย ที่ฉันได้ยินนายพูดถึงผู้ใหญ่ลีในด้านดี"
"เวลาคุณเจอตัวแก คุณก็บอกแกด้วยละกัน เผื่อแกจะขึ้นเงินเดือนแถมโบนัสปลายปีให้ผมมั่ง"
เป็นครั้งแรกที่มาลินีรู้สึกดีหลังจากคุยกับนายเหว่า เธอเดินกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม แต่พอถึงบ้านถูกพินคะยั้นคะยอให้ กินยาหลังอาหารกลางวัน มาลินีหน้าเบ้ บอกว่าเธอหายแล้ว ไม่กินได้ไหม เธอเกลียดการกินยาที่สุด พินบอกไม่ได้ ยังไงก็ต้องกินให้หมดชุด ผู้ใหญ่ลีแกสั่งเอาไว้
"เอาอีกแล้ว ผู้ใหญ่ลีอีกแล้ว ฉันรู้สึกว่าผู้ใหญ่ลีนี่เข้ามากำหนดโน่นนี่บงการชีวิตฉันมากขึ้นทุกทีแล้วนะ"
"แกหวังดีก็ปล่อยให้แกกำหนดบงการไปเถอะค่ะ"
"มันเป็นเรื่องตลกนะพิน ที่ฉันต้องยอมทำตามคำสั่งของคนที่ฉันไม่เคยเจอตัวเลยเนี่ย"
"อ้าว คุณลงไปที่ท้องนาเมื่อเช้าไม่ได้เจอผู้ใหญ่ลีแกหรอกเหรอคะ"
"ก็ไม่ได้เจอน่ะสิ"
"อ้าว ก็พินมองไปจากบนบ้านก็ยังเห็นคุณยืนคุยอยู่กับแกนี่คะ"
"ฉันไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่ลี ฉันคุยกับนายเหว่าต่างหาก"
พินนิ่วหน้าแปลกใจ ถามย้ำว่านายเหว่าคนงานผู้ใหญ่ลีน่ะเหรอ มาลินียืนยัน พินเลยบ่นตัวเองคงจะหูตาฝ้าฟาง เห็นนายเหว่าเป็นผู้ใหญ่ลีไปได้ ทันใดทั้งคู่ต้องสะดุ้งกับเสียงแตรรถที่ดังทางหน้าบ้าน พินนึกว่าเป็นพวกรถรับซื้อของเก่า ขอออกไปดูเอง แต่กลายเป็นว่าสมรกับวลัยโผล่ลงจากรถคันหรูของมาลินีที่มีประดิษฐ์เป็นคนขับ
มาลินีหุบยิ้มทันทีที่เห็นประดิษฐ์ เธอหันขวับไปทางวลัยกับสมร วลัยเบะปากยักไหล่เหมือนจะบอกว่างานนี้ตนไม่เกี่ยว ขณะที่สมรยิ้มแหยอย่างยอมรับ ประดิษฐ์ถือช่อดอกไม้ สวยสดตรงเข้ามาหามาลินี
"มาครับ ดอกไม้ที่มาเคยชอบ ดิ๊กสั่งให้เขาจัดมาให้มาเป็นพิเศษเลยครับ" ประดิษฐ์ทำตาละห้อย ยื่นดอกไม้ให้ มาลินีจำใจรับช่อดอกไม้อย่างเสียไม่ได้ ประดิษฐ์ถือโอกาสนี้สวมกอดมาลินีและจูบข้างแก้มได้หนึ่งที ปื๊ดซึ่งยืนดูอยู่มุมหนึ่งตาโตเป็นไข่ห่าน เพราะไม่เคยเห็นคนจูบกันต่อหน้าต่อตา
มาลินีผละออกจากและมองประดิษฐ์ตาเขียวอย่างไม่พอใจ ประดิษฐ์ทำไม่รู้ไม่ชี้ ถามเอาใจมาลินีว่า เนี่ยเหรอบ้านของเรา น่าอยู่จังเลย...ฝ่ายปื๊ดวิ่งแจ้นไปบอกลีนวัตรถึงในแปลงนาว่ามีผู้หญิงสองคนกับผู้ชายอีกหนึ่งมาหามาลินี ผู้หญิงน่าจะเป็นเพื่อน แต่ผู้ชายไม่น่าจะใช่ เพราะเห็นเขาจูบมาลินีด้วย ลีนวัตรได้ฟังก็อึ้งไปเลย ปื๊ดยังจะทำภาพการจูบประกอบ ลีนวัตรเลยดุเอาว่า เอ็งไปดูเขาทำไม เดี๋ยวเขาจะว่าเราไม่มีมารยาท...ว่าแล้วลีนวัตรก็ทำเป็นไม่สนใจ หันไปขุดดินต่อได้ สองทีก็ค่อยๆชะเง้อมองไปทางบ้านมาลินี ใจคอห่อเหี่ยวไม่น้อย
วลัยเดินสำรวจไปทั่วบ้าน พลางก็บ่นมาลินีว่าอยู่เข้าไปได้ยังไง เท่าที่ดู รัศมีสุดลูกหูลูกตาไม่เห็นสิ่งมีชีวิตที่เรียก ว่าคนเลยสักคน มาลินีบอกว่า ตอนเธอมาถึงครั้งแรกก็รู้สึก อย่างนั้นเหมือนกัน
"นี่ขนาดกลางวันยังน่ากลัวขนาดนี้ แล้วกลางคืนจะขนาดไหน" สมรทำท่าหวาดๆ
"อยู่ๆไปก็ชินไปเองน่ะแหละ จะบอกอะไรให้ ฉันน่ะไม่เคยนอนหลับสนิทอย่างนี้มาก่อนเลย ถ้าแกสองคนมาอยู่ซักอาทิตย์นึงจะติดใจ"
"เห็นจะไม่รับประทานด้วยหรอกย่ะ ฉันต้องขับรถกี่ร้อยกิโลกันถึงจะได้เจอผับผับแรกเนี่ย"
"ยัยมา...ฉันถามจริงๆเหอะ แกทำยังงี้เพราะแกจะประชดคุณดิ๊กเขาเท่านั้นใช่ไหม"
"พวกแกตอบฉันก่อนดีกว่า ใครเป็นต้นคิดพาเขามา ที่นี่ด้วย"
"คุณดิ๊กเขาตั้งใจมาของเขาเอง เขาขอร้องให้ฉันบอกที่อยู่แก" สมรเสียงอ่อยๆ
"ถึงฉันจะไม่เห็นด้วยเท่าไร แต่พอฉันได้มาเห็นกับตาว่าแกกินอยู่ที่นี่ยังไง ฉันว่าแกกลับกรุงเทพฯด้วยกันเถอะ ที่นี่ไม่ได้เหมาะกับแกเลยยัยมา" วลัยยืนยันจากใจ
"ฉันขอบใจที่พวกแกเป็นห่วงฉัน แต่ฉันจะยังไม่กลับไปกรุงเทพฯตอนนี้หรอกเพราะงานที่นี่กำลังยุ่ง"
วลัยค้านว่ายุ่งอะไร ศพยายก็เผาไปเรียบร้อยแล้ว มาลินีกลับบอกว่า เธอต้องเตรียมตัวใส่ปุ๋ยข้าว สองเพื่อนสาวตะลึงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
"มันเป็นช่วงที่ฉันกำลังต้องเรียนรู้งานใหม่ แล้วก็ปรับตัวด้วย ยังมีอะไรๆที่ฉันยังไม่รู้อีกเยอะเลย"
"ยัยมา...เลิกประชดชีวิตซะทีเถอะ แกควรจะกลับมาอยู่ในโลกของความเป็นจริงได้แล้ว" สมรวิงวอน
"ก็นี่ไง...โลกของความเป็นจริงของฉัน ฉันมีนาตั้งเป็นร้อยไร่ต้องดูแล"
"แต่แกไม่ใช่ชาวนา ยังไงแกก็ทำนาไม่ได้หรอก"
"ก็ฉันกำลังพยายามจะเป็นอยู่นี่ไง"
"แกเป็นไม่ได้หรอก เชื่อฉันสิ ขนาดเริ่มต้นแกยังต้องนอนซมเป็นไข้แทบเอาชีวิตไม่รอดอย่างนี้" "ทุกคนก่อนจะเดินได้มันก็ต้องผ่านการคลานแล้วก็หกล้มกันก่อนทั้งนั้นแหละ"
สมรกับวลัยหันมองหน้ากัน ก่อนที่สมรจะถามมาลินีว่า อะไรดลใจแก...มาลินีบอกว่าหลายอย่าง วลัยเดาทันทีว่าหนึ่งในหลายอย่างคงมีผู้ชายคนใหม่รวมอยู่ด้วยใช่ไหม
"ผู้ชายคนใหม่" มาลินีทวนคำงงๆ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองเคยบอกประดิษฐ์ไปทางโทรศัพท์
"แกบอกนายดิ๊กเขาเองว่าแกเจอผู้ชายคนใหม่ที่ถูกใจที่นี่ จนนายดิ๊กทุรนทุรายจะขาดใจตายซะให้ได้ แกบอกมาตามตรง ถ้าแกยังเห็นฉันสองคนเป็นเพื่อนแกอยู่...จริงไม่จริง"
ถูกวลัยคาดคั้น มาลินีตัดรำคาญจะได้ไม่ต้องเซ้าซี้ลากเธอกลับกรุงเทพฯกันอีก ตอบออกไปว่า ก็คงจะจริง...สองสาวแทบกรี๊ด อยากรู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ทำอะไรอยู่ที่นี่
"แล้วแกสองคนก็เห็นเองแหละ" มาลินีตอบเอาตัวรอด ไปก่อน...
ooooooo
ขณะที่สมรกับวลัยพยายามเกลี้ยกล่อมมาลินีให้กลับกรุงเทพฯ อีกด้านหนึ่งประดิษฐ์ก็กำลังไขข้อข้องใจเรื่องที่มาลินีบอกว่าเธอมีแฟนใหม่ ซึ่งประดิษฐ์ อยากรู้ว่ามันเป็นใคร จึงซักถามพินว่าระหว่างที่มาลินีอยู่ที่นี่มีผู้ชายคนไหนมาเกาะแกะเธอบ้างไหม พินก็ตอบไปตามที่เห็นว่ามีคนเดียวที่ขยันมาทุกวัน เขาชื่อปื๊ด เป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ประดิษฐ์ได้ฟังก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ที่ชายคนใหม่ของมาลินีเป็นแค่ลูกผู้ใหญ่บ้าน คิดว่าคงจะตัวดำๆเชยๆ เทียบกับตนไม่ได้อยู่แล้ว แต่ พอเขามาคุยกับมาลินีด้วยเรื่องไอ้ปื๊ด มาลินีแอบขำแต่ก็เออออไปว่าเธอเป็นฝ่ายหลงรักปื๊ด
ประดิษฐ์หงุดหงิดไม่พอใจ ไปเล่าให้สมรกับวลัยฟัง วลัยแค่ได้ยินชื่อเชยๆแฟนใหม่ของมาลินีก็ไม่อยากเชื่อ ขณะที่สมรขอร้องประดิษฐ์ใจเย็นๆ เธอเองก็ไม่เห็นด้วยที่มาลินีจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ดังนั้น เรามาช่วยกันค่อยๆคิดหาทางให้มาลินีเปลี่ยนใจกลับกรุงเทพฯกันดีกว่า
มาลินีตั้งใจให้พินทำอาหารเย็นเลี้ยงแขก พินจึงออกไปเก็บผักริมรั้ว ส่วนมาลินีออกไปกลางทุ่ง ไปขอซื้อปลานายเหว่า ที่ทอดแหได้เต็มข้อง แต่เหว่างอนเรื่องแฟนมาลินีมา จึงไม่ยอมขายให้ อ้างว่าปลาเป็นของผู้ใหญ่ลี ถ้าจะซื้อต้องไปซื้อกับเจ้าของ ไม่ใช่ลูกจ้างอย่างตน มาลินีเห็นท่าทางนายเหว่าก็รู้ว่างอน แต่เธอเข้าใจไปว่าเขางอนเพราะเธอไม่แนะนำเพื่อนสาวสวยๆของเธอให้เขารู้จัก เธอจึงเดินตามตื๊อเขาต้อยๆ จะพาเขาไปรู้จักเพื่อนของเธอ
พินกลับจากเก็บผักมาเจอปื๊ดเอาเต้าเจี้ยวหลนฝีมือแม่ปุยมาให้มาลินี พินบอกดีจริง กำลังคิดอยู่เชียวว่าจะทำอะไรจิ้มผักสดที่เก็บมา ประดิษฐ์ สมร และวลัยที่ยืนคุยกับปื๊ดอยู่ก่อน ต่างมองเด็กชายเป็นตาเดียวเมื่อพินเรียกเขาว่าปื๊ด จากนั้นไม่นานความจริงก็เปิดเผยว่า ปื๊ดที่มาลินีอ้างว่าเป็นแฟนใหม่ ที่แท้ก็คือเด็กชายตัวน้อยคนนี้นี่เอง สมรกับวลัยถึงกับหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง
เมื่อเห็นว่ามาลินีหายไปนาน ประดิษฐ์จึงชวนวลัยกับสมรไปตาม แล้วไปพบมาลินีอยู่กับหนุ่มหน้าตาดีที่มาลินีบอกว่าชื่อเหว่า และเธอกำลังพยายามจะขอซื้อปลาจากเขาอยู่ แต่เขาไม่ยอมขาย ประดิษฐ์ไม่พอใจ พูดจาดูถูกเหว่า และชวนมาลินีกลับบ้านทันที ทางด้านปื๊ดที่ถูกประดิษฐ์หัวเราะเยาะ ปื๊ดกลับไปบ้านเจอลีนวัตรจึงอ้อนพ่อให้ซื้อกางเกงยีนส์ ตนจะใส่ไปอวดแฟนมาลินี ให้มันรู้เสียบ้าง ปื๊ดก็มีกับเขาเหมือนกัน แต่
ลีนวัตรไม่เห็นด้วย บอกปื๊ดว่ากางเกงยีนส์ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราดูดีหรือไม่ดี เราควรเป็นตัวของตัวเองจะดีกว่า จากนั้นลีนวัตรวานปื๊ดเอาปลาในข้องทั้งหมดไปให้มาลินี และให้บอกเธอสั้นๆว่าพ่อฝากมาก็พอ
ครั้นปื๊ดย้อนกลับมาอีกครั้งพร้อมปลาทั้งข้อง สมรกับวลัยรับรู้ถึงความมีน้ำใจของผู้ใหญ่ลี แล้วนึกอยากจะเห็นเขาเหมือนกันว่าหน้าตาเป็นยังไง ปื๊ดสบโอกาสบอกว่าตนหล่อยังไง พ่อของตนก็หล่อยังงั้น สองสาวเลยหัวเราะชอบใจกันใหญ่
ตกเย็น ลีนวัตรกินข้าวไม่ค่อยลง และมีอาการซึมเศร้าอย่างคนอกหัก ซึ่งมีเพียงแม่ปุยเท่านั้นที่ดูออกว่าลูกชายเป็นอะไร พอหลังอาหารแม่ปุยจึงตามลีนวัตรเข้าไปที่ห้องทำงาน เห็นลูกนั่งใจลอยอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
"งานในนาก็หนักอยู่แล้ว ยังจะต้องเรียนหนังสืออีก มันหนักเกินไปก็ไม่ต้องเอาก็ได้มั้งปริญญาโทเนี่ยผู้ใหญ่ แค่ ปริญญาตรีที่ได้มาแม่ก็ภูมิใจจะแย่แล้ว"
"ไม่ได้หรอกแม่ ทนเรียนมาจนจะจบอยู่แล้ว เหลือวิทยานิพนธ์อีกนิดเดียว"
"แล้วจะมีสติทำเรอะ อกหักรักคุดซะขนาดนี้"
"แม่ก็พูดไปเรื่อย หนูอกหักอะไรที่ไหนกัน"
"ยังจะมาทำปากแข็ง แค่แฟนเขามาผู้ใหญ่ก็ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่เรียกว่าอกหักแล้วจะให้เรียกว่าอะไร"
"หนูรู้ตัวของหนูดีว่าชาตินี้ไม่มีวาสนาหรอกแม่ เขามันพวกไฮโซ"
"ผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่คนขี้ริ้วอะไร จะต้องไปกลัวทำไมล่ะ"
"แม่...แฟนเขามีอยู่ทั้งคนแล้วนะแม่ แม่จะให้หนูไปแย่งเขามาเหรอ"
"ผู้ใหญ่ไม่รู้อะไร สมัยก่อน ก่อนจะได้กับพ่อผู้ใหญ่น่ะ แม่ก็มีคนมารุมจีบไม่น้อยนะจะบอกให้ แต่สุดท้ายแม่ก็เลือกพ่อของผู้ใหญ่เขา"
"แม่จะบอกอะไรหนูเนี่ย"
"ถ้าผู้ใหญ่ไม่บอกเขาว่าชอบ แล้วเขาจะรู้ไหมล่ะว่าผู้ใหญ่ชอบเขาน่ะ ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่นะ...สบายใจยังไงก็ทำไปตามนั้นละกัน แม่พูดได้แค่นี้แหละ เดี๋ยวจะหาว่าชี้โพรงให้ กระรอก" แม่ปุยผละไปแล้ว ทิ้งลีนวัตรนั่งหน้าละห้อย...
ส่วนทางบ้านมาลินี สมรกับวลัยกำลังมองมุ้งที่มาลินีกางให้นอน สองสาวทำราวกับเห็นสิ่งแปลกประหลาด เพราะในกรุงเทพฯไม่เคยเห็นมุ้งมานานแล้ว พัดลมก็ไม่มี ยิ่งแอร์ไม่ต้องพูดถึง ไม่รู้ว่ามาลินีอยู่เข้าไปได้ยังไง
"เอาเถอะน่า ดึกอีกหน่อย แกจะคว้าผ้าห่มด้วยซ้ำ"
"ยัยมา...อย่าหาว่าฉันพูดซ้ำพูดซากเลยนะ แกจะทนใช้ชีวิตแบบนี้ไปได้ยังไง ชีวิตจริงนะแก ไม่ใช่ถ่ายรายการเรียลลิตี้เข้าค่ายพัฒนาชนบท"
"นั่นสิ...มาอยู่พอเปลี่ยนบรรยากาศแก้เบื่อละพอทน แต่แกจะมาอยู่เลยน่ะมันเป็นไปไม่ได้หรอกนะยัยมา"
"พรุ่งนี้แกกลับกรุงเทพฯกับพวกฉันเลยดีกว่านะ"
"วลัย...ชีวิตในกรุงเทพฯมันก็เรียลลิตี้โชว์เหมือนกันนั่นแหละ บางทีมันก็อยู่เหนือความเป็นจริงด้วยซ้ำ มีแต่การแก่ง แย่งชิงดีกัน นินทาว่าร้ายเอาดีใส่ตัว หรือแม้แต่ไม่พูดความจริงใส่กัน ทุกคนเล่นละครใส่กันได้ตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเองดูดี แล้วก็อยู่เหนือคนอื่น ฉันว่าพอฉันมองย้อนไปแล้ว ฉันพบแต่ ความไม่จริงใจต่อกัน แต่ที่นี่มันตรงกันข้าม ฉันกำลังรู้สึกว่าที่นี่คือความจริงสำหรับฉัน"
"นี่แกอกหักจนคิดได้ขนาดนี้เลยเหรอ"
"แกจะว่ายังงั้นก็ได้นะหมอน อาจจะต้องขอบคุณดิ๊กเขาด้วย ที่ทำให้ฉันได้คิด"
"แกอยู่ที่นี่แกไม่มีวันมีความสุขหรอกยัยมา" วลัยเน้นย้ำ
"สุขบ้างทุกข์บ้างก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลยนี่วลัย ไม่มีใครหรอกที่จะมีความสุขอยู่ได้ตลอดเวลา ในเมื่อฉันเลือกได้ทำไมฉันจะไม่เลือกล่ะ ระหว่างความสุขปลอมๆในกรุงเทพฯกับความสุขบนความเป็นจริงที่คลองหมาหอนนี่"
วลัยกับสมรได้แต่อ้าปากหวอ รับรู้แต่ไม่เข้าใจสิ่งที่มาลินีพูดยืดยาวอยู่ดี
พอมาลินีกลับเข้าห้องนอนของตน หลังจากเตรียมที่หลับที่นอนให้เพื่อนเสร็จแล้ว สักครู่ประดิษฐ์ก็มาเคาะประตูห้องเรียกมาลินี มาลินีเปิดรับอย่างจำใจ พูดคุยกันไม่กี่คำเธอก็พยายามไล่เขาออกไป มีอะไรเอาไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก่อนเขากลับกรุงเทพฯ ประดิษฐ์ได้ยินก็อึ้ง มาลินีพูดแบบนี้แสดงว่าเธอจะไม่กลับไปกับเขาด้วย นอกจากนี้มาลินียังบอกด้วยว่า ถ้าเขากลับถึงกรุงเทพฯแล้ว ช่วยเอารถไปจอดไว้ที่คอนโดฯ แล้วเอากุญแจรถฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ให้เธอด้วย ประดิษฐ์ยิ่งเฮิร์ตใหญ่ที่ท่าทางมาลินีหมดเยื่อใยจากเขาแล้วจริงๆ
ยิ่งเช้าวันรุ่งขึ้น เขาออกไปเห็นมาลินีหัดพ่นปุ๋ยอินทรีย์หมักเองของผู้ใหญ่ลี ซึ่งมาลินีให้เหว่าสอนวิธีการพ่นอย่างใกล้ชิด ประดิษฐ์เห็นภาพบาดตาก็หึงหวงจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ ผลุนผลันเข้าชกต่อยเหว่าหรือลีนวัตรซะล้มกลิ้ง ลีนวัตรฉุน ไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว สองหนุ่มจึงซัดกันนัวเนีย สมรกับวลัยกรีดร้องตกใจ ขณะที่มาลินีก็ตะโกนห้ามทั้งคู่ให้หยุด แล้วต่อว่าประดิษฐ์อย่ามาใช้นิสัยอันธพาลแถวนี้ นายเหว่าเขาไปทำอะไรให้
"นี่มายังเข้าข้างมันอีกเหรอ มันฉวยโอกาสถึงเนื้อถึงตัวมาเมื่อกี้ ดิ๊กไม่ฆ่ามันทิ้งก็บุญแล้ว"
"ก็ทำไมฉันจะถึงเนื้อถึงตัวเขาไม่ได้ ในเมื่อฉันชอบเขา แล้วนายเหว่าเขาก็ชอบฉันด้วย ใช่ไหมนายเหว่า"
ลีนวัตรตาตั้งเพราะไม่คาดคิดว่าจะได้ยินสิ่งนี้ วลัยกับสมรก็ตกใจถึงกับร้องอุทานกันลั่น ขณะที่ประดิษฐ์ช็อก ชาไปทั้งตัว ถามมาลินีว่าพูดอะไรออกมา รู้ตัวหรือเปล่า
"รู้...ทำไมจะไม่รู้ ฉันกับนายเหว่าเราเป็นแฟนกัน...รู้แล้วก็เลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉันซะที"
ประดิษฐ์ วลัย สมร อ้าปากค้าง มองมาลินีขยับเข้าไปถามนายเหว่าอย่างห่วงหาอาทร
"เจ็บมากไหมนายเหว่า"
ลีนวัตรตั้งรับสถานการณ์แทบไม่ทัน ทั้งที่ในใจก็ชื่นมื่นบอกไม่ถูก


ooooooo

จบตอนที่ 9

เครดิต //www.thairath.co.th





Create Date : 27 กรกฎาคม 2552
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 10:06:39 น. 3 comments
Counter : 355 Pageviews.

 
สนุกมากจริงๆจ้าาาาาาา


โดย: thank IP: 115.67.122.75 วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:43:12 น.  

 
ตามอ่านทุกวันเลย ตอนนี้ กะลังติดละครเรื่องนี้เป็นอย่างมาก สนุกจริงๆ ไม่เครียดดี

ขอบคุณนะคะ สำหรับความอุตสาหะในการพิมพ์ จะติดตามตอนต่อไปค่า



โดย: เม้ยหลงกรุง IP: 203.112.84.139 วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:52:00 น.  

 
สนุกมากต่ะ


โดย: มานิตา IP: 124.120.43.90 วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:9:30:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com