|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๓ .. O
 ภาพ .. ผลงาน อ.จักรพันธ์ โปษยกฤต.
เพลง .. นางครวญ เอื้อเฟื้อ .. เพรง.พเยีย
.. พ.ศ.๒๓๐๐ ..
๒๓๒. ทูลกระหม่อมกรมขุนพรพินิต ขึ้นประดิษฐานยังที่วังหน้า ด้วยหลักแหลมยึดมั่นในธรรมา กอปรปัญญาอำนวยจักช่วยงาน
๒๓๓. ส่วนกรมขุนอนุรักษ์มนตรี เหมือนสุดที่ทางสิ้นไร้ถิ่นฐาน เมื่อล้นเกล้าออกหน้าบัญชาการ บวชสืบสานพรหมจรรย์ .. ให้มั่นคง ..
.. พ.ศ.๒๓๐๑ ..
๒๓๔. เข้าเดือนหกเหนือเกล้าสวรรคต เหมือนรูปรอยกำสรดปรากฏบ่ง เชษฐาหวังอำนาจไม่อาจปลง มุ่งหมายทรงบัลลังก์ .. เข้านั่งเมือง
๒๓๕. คือเจ้าฟ้าเอกทัศน์ผู้ขัตติยะ ไม่ลดละประสงค์จำนงเนื่อง ด้อยสามารถอำรุงความรุ่งเรือง ย่อมเปล่าเปลืองโอกาสของชาติแล้ว
.. พ.ศ.๒๓๐๙ บ้านริมคลองมอญ ..

๔ ๒๓๖. กอปรบุญกราบบาทแก้ว - - - กมลา อธิษฐานพุทธธรรมา - - - แม่ต้อง กระจ่างทุกอัสสา- - - - สะแม่ นาแม่ เป็นร่มโพธิ์รูปพ้อง - - - แผ่สิ้นกัลปาวสาน
๒๓๗. กรประนมก้มกราบระนาบตัก ขอความรักยิ่งใหญ่แผ่ไพศาล ได้คุ้มครองชายชาติไปราชการ หวังช่วยผลาญทานทัดเหล่าศัตรู
๒๓๘. ผู้เชี่ยวกล้าอาวุธ..ชาญยุทธศึก จิตหาญฮึกองอาจ .. เพื่อชาติอยู่ มอบสิ้นแล้วชีวาตม์เอาลาดปู หวังรับรู้ทั่วสิ้น .. นี้ถิ่นใคร
๒๓๙. แต่ข่าวม่านรวมพลเข้าปล้นเมือง ก็ขุ่นเคืองสาหัสเกินตัดได้ ที่ปะทุพลุ่งนำ .. ย่อมน้ำใจ อันผุดไหลย้อมหน้าขับอารมณ์
๒๔๐. แกล้วห่างศึกนึกไปก็ใจหาย ย่อมผ่อนคลายกำลังเคยสั่งสม ทิ้งมีดดาบสนิมจับไม่ลับคม แต่คารม .. หรือจะด้นเข้ารณรงค์ ?
๒๔๑. แม่เรไร .. มองอยู่เอ็นดูลูก คำพรผูกพรมเพิ่มเข้าเสริมส่ง จงสัมฤทธิ์กิจทำ .. ดั่งจำนง จิตให้ลงในธรรมด้วยสัมมา
๒๔๒. วันนี้แม่ .. จะไปตำหนักน้อย กราบเยี่ยมท่านหญิงสร้อยสักหน่อยหนา คิดถึงนัก .. พระองค์เจ้าหญิงดารา แต่หายหน้าห่างเห็น .. อยู่เป็นนาน
๒๔๓. พ่อ .. ตามแม่ไปด้วยได้ช่วยถือ อีกสองมือหิ้วหมากไปฝากท่าน เผื่อมีกิจอันใดอาจไหว้วาน ได้สืบสานเกื้อหนุนแทนคุณคน
๒๔๔. ถึงตำหนักริมตลิ่ง .. ท่านหญิงสร้อย ดูเงียบหงอยเหงาแฝงทุกแห่งหน แต่สิ้นศอคู่บุญ .. สร้อยกุณฑล ดั่งปลิดป่นแสงอับไม่จับตา
๒๔๕. หากสนมจอมขวัญพระบัณฑูร ยังเพียบพูนราศี .. งามทีท่า กุลผู้ดีมีวัตรเป็นพัสตรา ใช่อาจว่า .. มีเป็น .. ดังเช่นกัน
๒๔๖. เมื่อวิสูตรม่านกั้นเริ่มสั่นไหว ก็เมื่อใครเผยพักตร์จำหลักขวัญ เหมือนกรุ่นหอมรวยรินของกลิ่นจันทน์ เมื่อสู่อกหนึ่งนั้น .. ต้องกลั้นใจ
๒๔๗. อยู่ต่อหน้าพระสนมท่าก้มกราบ ฤๅจักสบเนตรปลาบจนทราบได้ ว่าหอมกรุ่นชื่นอยู่ .. หอมผู้ใด จะลอบเหลือบแลไป .. เกรงไม่งาม
๒๔๘. อกแกล้วย่อม .. รุ่มร้อนเกินผ่อนได้ แว่วตอบแม่เรไรที่ไต่ถาม รับสั่งนั้นสดใสอยู่ในยาม จนต้องคอยหักห้ามให้ขามใจ
.. สบรูป ..

๒๔๙. ถึงยามบ่ายกราบกรานลาท่านหญิง เงยหน้าก็ .. งามยิ่ง .. เกินหญิงไหน ก็รู้ว่า .. กรุ่นหอม .. นั้นหอมใคร พร้อมอุ่นไอไหลแอบลงแนบทรวง
๒๕๐. เนตรนั้นเหมือนชายตอบ .. แต่ลอบเหลียว หากแวบเดียว .. วูบดับจนลับล่วง ใจเอยนั่น .. จันทร์เพ็ญลอยเด่นดวง ใช่หิ่งห้อยอาจล่วงขึ้นช่วงชิง
๒๕๑. ประสูติใต้ร่มบุญสกุลเจ้า มีรากเหง้าสูงส่ง .. เป็นองค์หญิง จำเริญในตำหนักที่พักพิง ย่อมเฉกกิ่งดอกฟ้า .. เกินคว้าชม
๒๕๒. รำลึกรูปอำไพแล้วใจหาย เพียงเนตรปรายชม้ายสู่ .. ยากรู้สม เก็บงำสิ้น .. แววตาสื่ออารมณ์ หากเงื่อนปมจิตใคร .. ผูกไขว้แล้ว
.. รอบคำนึง ..
๒๕๓. ร่างนั้นค่อยเคลื่อนลับไปกับแม่ รำพึงแผ่สำเนียงอยู่เพียงแผ่ว ผึ่งผายชายชาตรีบ่งวี่แวว ยอดหมู่แกล้วอาจ-องในสงคราม
๒๕๔. อุบัติรอบคำนึงด้วยซึ้งซาบ ก็แต่ภาพรูปพักตร์สุดหักห้าม ใจหญิงย่อมขัดเขิน .. ว่าเกินงาม มาย้อนคิดรุมลาม .. แต่ยามนั้น
๒๕๕. ราตรีอวลกลิ่นร่ำ .. หอมซ้ำซ้อน เพิ่มอาวรณ์แทรกใส่ห้วงใจฝัน มาเผยหน้าเหมือนปลูก .. ความผูกพัน แล้วลับเลยล่วงกัน .. ให้หวั่นคอย
๒๕๖. เมื่อจารีตขีดกรอบเป็นขอบคั่น และชนชั้นขับเน้นจนเด่น-ด้อย หากท่ามกลางต่างช่อง .. มีร่องรอย เหมือนลอบปล่อยเร้นสู่ .. ให้รู้กัน
๒๕๗. ด้วยสถานะพิมลกุณฑลทิพย์ เพียงกระซิบนัยน้อมเข้ากล่อมขวัญ หวังประเดียงรอยคำที่จำนรรจ์ ผ่านรำพันลมร่ำ .. ช่วยรำเพย
.. ศึกล้างแผ่นดิน พ.ศ.๒๓๑๐ ..
๒๕๘. แต่ทัพม่านยกย่ำมาล้ำล่วง ใช่ทัพหลวงกระบวนรบ .. ที่พบเผย เพียงทัพแกล้วรุกล้ำมากล้ำเกย หวังชื่นเชยเชิงรณ .. ของคนไทย
๒๕๙. อกไทยเอ๋ย .. โดนแยกจนแตกข้าง ผลัดกันล้างคาวเลือดยากเหือดไหล ที่สามารถการณรงค์ .. ก็ส่งไป มอบหน้าที่อื่นให้ .. ยากได้ดี
๒๖๐. เมื่อพี่น้องผองพวก .. ดังปลวกหิว ได้ชี้นิ้วบัญชาการหน้าที่ ชั้นมือเท้านำหน้า .. เข้าราวี ชีพเหมือนมีสำหรับ .. เข้าลับคม
๒๖๑. อนิจจาขัตติยะภาวะด้อย พาชาติถอยร่นอยู่ไม่รู้สม หมายอำนาจ, บัลลังก์ .. นำสังคม เมืองจะล่มจมมิด .. ไม่คิดรู้
๒๖๒. ยกเทือกเถาเหง้าสนม .. มาข่มมิตร โมหะจิตในหญิงเข้าสิงสู่ หมกมุ่นมัวสำเริงแต่เชิงชู้ จนศัตรูจ่อดาบ .. ขึ้นทาบคอ
๒๖๓. แม้นผู้ดีมีวัตรเป็นพัสตรา และศรัทธามีสัตย์ช่วยตัด-ต่อ ต้องสามารถคู่เคียงจึงเพียงพอ อาจสานก่อเกื้อหวังกำลังใจ
๒๖๔. ใช่เพียงชาติวาสนาจักพาด้น หากต้องขวนขวายคิดเป็นนิสัย เค้นสำนึกตรึกตรองทำนองนัย ทั้งครวญใคร่เหตุผล .. เข้าค้นความ
๒๖๕. เป็นผู้นำอยู่หน้าประชาราษฎร์ ไร้สามารถโง่เขลาใครเล่าขาม อาจเสพสุขเมามัวได้ชั่วยาม คนจะหักเข้าหามเอาทรามทิ้ง
๒๖๖. เหมือนแว่วเสียงพยากรณ์ .. ครั้งก่อนเก่า ที่บอกเล่าผ่านยุค .. บ่งทุกสิ่ง โอ .. เพลงยาวเศร้าสร้อย .. ละห้อยจริง ช่างอ้อยอิ่งผ่านย้ำ .. เฝ้ารำพัน ..
.. คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น ด้วยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงทศพิธราชธรรม์ จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ
.. คือดาวเดือนดินฟ้าจะอาเพท อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง .. พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง ผีเมืองนั้นจะออกไปสู่ไพร
.. พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี พระกาฬกุลีจะเข้ามาเป็นไส้ พระธรณีจะตีอกไห้ อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม ..
๒๖๗. คุณหลวง .. แม่เรไร .. ห่วงใยนัก แต่ลูกรักไปทัพ .. เพื่อขับข่ม เหล่าข้าศึก .. ให้ดาบได้ทราบคม อกย่อมตรมตรอมห่วง .. พ่อดวงใจ
๒๖๘. เคยวิ่งเล่นเคลียคลอด้วยพ่อแม่ บัดนี้แลรูปรอยก็พลอยให้ ปลาบปลื้มด้วย .. สามารถ .. องอาจใคร ที่เห็นไฟสุมแดน .. ก็แค้นครัน .. !
.. ขื่นคาวเลือด ..

๒๖๙. ดาบประดาบ .. วาบแรกก็แยกเนื้อ ก่อนเลือดเรื่อแดงร้อน .. ไหลกร่อนขวัญ อวลกลิ่นคาวคลุ้งคา .. โรจน์ตาวัน คือโทษทัณฑ์ศัตรู .. ของผู้ไทย
๒๗๐. ดาบฟาดฟันเท้าย่ำเข้ากรำศึก ด้วยสำนึกตั้งมั่นไม่หวั่นไหว พร้อมหาญหักถ้วนหน้าไม่ว่าใคร เลือดที่ไหลอุ่นพอ .. จักก่อคาว
๒๗๑. หากน้ำน้อยแน่แท้ .. ย่อมแพ้ไฟ ทั้งโดยไม่ชำนาญเรื่องการข่าว จึงถูกหลอกตลบหลังหลายครั้งคราว เลือดย่อมหลั่งปวดร้าวถึงราวใจ
๒๗๒. สิ้นสามารถกำลังแกล้ววังหลวง จักรุกล่วงเข้าสู้ศัตรูได้ ยุทธวิธีนั้นเล่าก็เก่าไป จิตฮึกเหิมจะชิงชัย .. ก็ไม่มี
๒๗๓. ทั้งตำแน่งแม่ทัพ .. ย่อมรับรู้ ล้วนแต่ผู้ปราศัยอยู่ในที่ จักฉวยดาบฉาบฉุดเข้ายุทธี ย่อมพิรี้พิไร .. อยู่ไม่วาย
๒๗๔. ด้วยจิตใจหวั่นหวาดและขลาดเขลา ย่อมกระเส่าสั่นอยู่ไม่รู้หาย โยธยาแผ่นดิน .. เหมือนสิ้นชาย ที่ผ่องถ่ายความกล้า .. จนล้าลับ
๒๗๕. หากเป็นช่วงวาระ .. องค์นเรศ ย่อมโหมเดชเข้าข่มจนล่มดับ เลือดศัตรูจักหลั่ง .. ชีพพังยับ ดาบจักสับแทรกเนื้อ .. เข้าเถือแล้ว
๒๗๖. ย่อมนำหน้าเหล่าทัพ .. เข้ารับรบ เอาดินกลบศัตรูพร้อมหมู่แกล้ว ให้เข็ดหลาบระย่อสิ้นทั่วถิ่นแนว ยอมชีพแคล้วคลาดกัน .. จนวันตาย
๒๗๗. เกิดผิดที่ผิดยุคยากทุกสิ่ง จากไร้มิ่งขวัญชาติ .. ให้มาดหมาย แม้นเดือดพลุ่งพล่านอยู่ .. เลือดผู้ชาย จักขวนขวายต่อสู้ .. เพื่อผู้ใด .. ?
๒๗๘. หมดสิ้นความร่วมรักสมัครสมาน ที่ห้าวหาญแกร่งกล้า .. ก็หาไม่ แต่เบือนหน้าหลบเสียง .. แล้วเลี่ยงไป ช่างยากไร้ .. ศักดิ์ศรีเสรีชน
.. เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล สัปบุรุษจะแพ้แก่ทรชน มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
.. ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์ ลูกศิษย์จะสู้ครูนัก จะหายหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
.. ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
.. ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า เพราะจัณฑาลมันเข้ามาเสพสม ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์ เพราะสมัครสมาคมซึ่งมารยา
.. พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา อาสัตย์จะเลื่องลือชา พระธรรมาจะตกลึกลับ
.. ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ จะสาปสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์ สัปบุรุษจะอับซึ่งน้ำใจ
.. ทั้งอายุศม์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปี ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป ผลหมากรากไม้จะถอยรส
.. ทั้งแพทย์พรรณว่านยาก็อาเพศ เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด จวงจันทน์พรรณไม้อันหอมรส จะถอยถดไปตามประเพณี ..
๒๗๙. ลูกชายแม่เรไร .. ดาบไหววาด หลังเลือดสาดชีพคนก็ป่นปี้ เหล่าแกล้วผู้แกร่งไกรเข่นไพรี จนเลือดผีเปรอะทั่วเพียงชั่วยาม
๒๘๐. พร้อมเพื่อนแกล้วผู้กล้า .. ย้อนมาบ้าน เข้ากราบกรานแม่พ่อ .. ที่รอถาม เห็นจะเปลืองเปล่าค่าพยายาม คงยากห้ามหายนะ .. วาระนี้
๒๘๑. ครั้นฟังลูก .. พ้องศัพท์ว่าคับขัน ก็ฉับพลัน .. ห่วงใยส่วนในที่ แต่ล้วนสูงศักดินา .. เหล่านารี จักหลบลี้หลีกเข่น กันเช่นไร
๒๘๒. หากคุณหลวงเมื่อฟัง .. ก็นั่งคิด กังวลจิตรุ่มร้อนเกินผ่อนได้ กราบทูลเพื่อเจ้าหลวง .. จักห่วงใย หวังจะให้ออกหน้าบัญชาการ
๒๘๓. โดยรูปเป็น .. สมณะวาระนี้ จักผิดที่ผิดทาง .. ร่วมล้างผลาญ หวังเหล่าท่านป้องถิ่นด้วยวิญญาณ ดำเนินงานเฉกเช่นที่เห็นงาม
๒๘๔. ทรงน้อยใจเชษฐาไม่มาขอ ร่วมต้านต่อ .. ไพรินทร์ที่หมิ่นหยาม ก็จงสำแดงเดชป้องเขตคาม หวังได้ตามกำลังความตั้งใจ
.. ภูตคร่ำวิญญาณครวญ ..

๑๔ ๒๘๕. อึงเอิกเกริกพละสมร อุระร้อนประหวั่นไป อ่อนเอียงเพราะเสียงนุชะไฉน ปะเหลาะให้ละห้าวหาญ
๒๘๖. เพียงอึกทึกศักยะอา- วุธะกล้าก็กรมการณ์ ร่ำขอชะลอรณะสะท้าน กระแสะซ่านกระเส่าเสียง
๒๘๗. เสี้ยนศึกผนึกรหัสะกรรม ระบุนำกะสำเนียง สับพลระคนมุสะเผดียง พละเกรียงก็กร่อนหาย
๒๘๘. เกินการณ์จะทานวิบัติหา- ยนะวาระวอดวาย ศักดิ์ชาติพินาศะละสลาย ทุขะสายก็บรรสาร
๒๘๙. เร้ารุมผชุมอัคนิเชื้อ ระอุเหลือจะทนทาน ท่ามทัณฑ์กระชั้นหัตะปหาร ชิวะลาญลุบรรลัย
๒๙๐. กำแพงบ่แกร่งปะทะทะแกล้ว หัตะแล้วณกลางไฟ พลม่านก็ผ่านอุระไผท ขณะไห้น่ะโหยหวน

๒๙๑. ผ่านเห็นก็เข่นประทุษะทา- รุณะคร่าลุคร่ำครวญ ขมขื่นผิว์คืนอสุระผวน ทุษะนวลและย่ำยี
๒๙๒. เพลิงป่นพระมณฑิระทลาย เพราะพระพายนะพัดวี โหมไหม้ฤทัยทุขะทวี นัยน์นีระนองเนือง
๒๙๓. ทอดร่างระหว่างกิติวิบัติ เพราะสมรรถะหมดเมือง สิ้นบุญและสุนทริยะจะเรื้อง และกระเบื้องก็ฟูลอย
๒๙๔. เขตคามสยามสิริพิสุทธิ์ ก็ประดุจะสุดรอย ธรรมอรรถพระรัตนะผละถอย ก็ละห้อยระโหยเห็น
๒๙๕. นัยน์ตาก็พร่าชละสลด ตละหยดสิเยียบเย็น ห้วงอกวิตกอดุระเข็ญ บ่จะเว้นประหวั่นไหว
๑๑. ๒๙๖. พล่านเพลิงพะพวยพลุ่ง ขณะรุ่งระรำไร ควันม้วนและป่วนไป ระดะไหวเพราะลมวน
๒๙๗. ปลายดาบวะวาบแวว สะบัดแล้วมลายชนม์ ร่วงร่างระหว่างหน และร่วงป่นก็ศักดิ์ไท
๒๙๘. เสียงกรีดวะหวีดก้อง ปะทุพ้องกะบรรลัย อึงอวลกำสรวลไห้ กละไว้จะให้ยิน
๒๙๙. สูรย์เลื่อนเสมือนเศร้า ทวิเล่าบ่โผบิน ธารยั้งบ่หลั่งริน ดุจะสิ้นสมัยกาล
๓๐๐. ครืนครืนสิคลื่นแค้น ระอุแน่นให้ทนทาน ศักดิ์สิ้นกะดินดาน ทรมานและอดสู
๓๐๑. สิ้นแล้วบัลลังก์รัตน์ เพราะประหัตะศัตรู สิ้นราชะอาชญ์หรู บ่อาจชูให้ชื่นชม
๓๐๒. สิ้นปรัชญาการ อวสานและล่มจม สิ้นยุคะสุขสม สละห่มอยู่บนแดน
๓๐๓. สรรพธรรมระส่ำโทษ บ่อุโฆษแต่คลอนแคลน สัตว์ส่ำระกำแสน ทุขะแม้นจะม้วยลง
๓๐๔. ทวยแกล้วสิแผ่วพล อริป่นก็ปลิดปลง ทวยไทก็ไว้วงศ์ บ่ประสงค์จะร่วมใจ
.. อพยพ ..

๓๐๕. คุณหลวงรีบสั่งบ่าวเก็บข้าวของ เครื่องเงินทองฝังดินจนสิ้นได้ มอบเงินทองจ่ายแจก .. ให้แยกไป ท่ามกลางเสียงร่ำไห้อาลัยลา
๓๐๖. แล้วมองลูกปลูกฝังพร้อมสั่งความ พ่อจักข้ามเมืองผ่านไปบ้านย่า จงไปตำหนักน้อยหม่อมสร้อยพา- เอาองค์หญิงดารา .. จากนาคร
๓๐๗. คอยดูแลปกป้อง .. ทั้งสองท่าน รีบจัดการไปพบพาหลบซ่อน คอยดูแลสำรับ .. ที่หลับนอน ให้พ้นร้อนพ้นเข็ญได้เย็นใจ
๓๐๘. รับคำพ่อ .. ทันใดมิได้ช้า ก็มุ่งหน้าคุ้มครองปกป้องให้ เข้ากราบทูลเรื่องราวบอกข่าวไป ขณะน้ำเนตรใคร .. หลั่งไหลแล้ว
๓๐๙. แรกเห็นหน้าอาวรณ์ .. ก็ย้อนกรุ่น กล่อมละมุนห้วงใจ .. จนไหวแผ่ว หากพักตร์นั้นนิ่งอยู่ยากรู้แกว ยังแต่แววโศกถวิล .. ด้วยถิ่นนี้
๓๑๐. เห็นเพลิงท่วมมณเฑียร .. จวนเจียนล่ม ใจก็ขมขื่นนัก .. เมื่อศักดิ์ศรี ทวยไทถูกกระทำถูกย่ำยี จนสุดที่สุดทาง .. จักย่างยืน
๓๑๑. ครานั้นเมื่อพลม่านมาผ่านพบ ดาบประดาบเลือดกลบสู่ภพผืน ดาบวาดศพร่วงซ้ำ .. กลางค่ำคืน คาวเลือดขื่นโลมร่าง .. อยู่กลางจันทร์
๓๑๒. หมู่เพื่อนแกล้วห้าวหาญป้องท่านหญิง เมื่อม่านวิ่งโหมซ้ำเข้าห้ำหั่น เอากระบวนเพลงดาบกำราบกัน เอาเชิงชั้นทวนขอเข้าต่อกร
๓๑๓. ลูกชายแม่เรไร .. หัวใจแกร่ง เงื้อดาบแทงวกวาด .. ที่ขาดท่อน- ย่อมแขนขา .. ชีวาตม์ .. ที่ขาดรอน แล้วเอื้อมกรจูงหัตถ์เลาะลัดไป
๓๑๔. อนิจจาธานินทร์มาสิ้นสูญ แรงอาดูรพลุ่งผุดฤๅหยุดไหว แต่เสียศักดิ์เสียสินเสียสิ้น .. ไท จักซาบสู่หัวใจ .. เอาไว้จำ
๓๑๕. พลัดหลงกับพวกหมู่ .. ไม่รู้แล้ว เหลือแต่แก้วร่วมทางร่วมย่างย่ำ เหมือนรอบบุญรอยบาปได้สาปทำ พาร่วมกรรมทุกข์เข็ญ .. จนเห็นใจ
๓๑๖. โอ้ .. ปราสาทราชวังเผาพังยับ ที่ประทับเพลิงเยี่ยมก็เกรียมไหม้ ศิลปะหัตถกรรมล้วนอำไพ ต้องเปลวไฟล่มลบ .. กลางศพคน
.. กรุงประเทศราชธานี จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล จะสาละวนทั่วโลกหญิงชาย
.. จะร้อนอกสมณาประชาราษฎร์ จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ
.. ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบก เวียงวังจะรกเป็นป่าเสือ แต่สิงห์สาราสัตว์เนื้อเบื้อ นั้นจะหลงเหลือในแผ่นดิน
.. ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย จะสาปสูญล้มตายเสียหมดสิ้น ด้วยพระกาฬจะมาผลาญแผ่นดิน จะสูญสิ้นการณรงค์สงคราม ..
๓๑๗. วันนี้แตกกระเซ็นไม่เป็นทิศ ย่อมครุ่นคิดย้อนเกร็ดให้เข็ดขาม จักทวงคืนนคเรศและเขตคาม คืนเหยียดหยามหมิ่นแคลน .. ทดแทนไป
๑๔. ๓๑๘. นั่น ! .. ล้วนขบวนบุพะประภพ อพยพลุแดนไกล แว่วครวญจะหวนปุระไผท สุตะไห้คระโหยหา
๓๑๙. โอ ! .. โสตอุโฆษสรรพะสำเนียง ระบุเพียงจะพึ่งพา แว่ววอนจะย้อนอยุธยา บ่จะว่าจะสิ้นหวัง
.. ยามสิ้นสุด .. ราชวงศ์บ้านพลูหลวง เดือนสิบ ๒๓๑๐ ..
๓๒๐. อาดูระพูนอยุธยา ระบุภาวะพ่ายพัง สิ้นสายเพราะหายนะพลัง ปะทุถั่งก็ยากทาน
๘ ๓๒๑. โอ้ .. เมืองแก้วเมืองฟ้าถึงคราล่ม บัลลังก์จมมอดไหม้ด้วยไฟผลาญ ปราสาทยอดใหญ่โตสูงโอฬาร ถูกพลม่านเหนี่ยวรั้งเผาพังยับ
๓๒๒. ท่ามกลิ่นคลุ้งคาวเลือดจากเชือดหลั่ง คือสุดรั้งกายทอดลงมอดดับ หลังพลุ่งเพลิงโหมซ้ำเกินรำงับ คือชีพสรรพทอดเถ้า .. สิ้นเงาไท
๓๒๓. โอ้ .. ว่ารอยโศกเศร้าในเงาเนตร จากสุดเขตศักดินาเคยอาศัย กระบวนทัศน์ศรัทธาล้วนปราชัย เหลืออาลัยเรื่องหลังที่ยังคง
๓๒๔. ต้องจำพรากจากถิ่นมาสิ้นศักดิ์ ละห้อยหักอาดูรประยูรหงส์ พลัดเวียงวังร้างหมู่มาอยู่ดง กับอีกผู้ซื่อตรงมั่นคงนั้น
๓๒๕. คือหนึ่งแกล้วผู้กล้ายังปรากฏ ข่มกำสรดเพื่อใครสิ้นไหวหวั่น เป็นปราการผ่อนค่ารอยจาบัลย์ ร่วมปกป้องคุ้มกันตราบบรรลัย
๓๒๖. พระพายเฉื่อย .. เริ่มโหมเข้าโลมโลก ดังโบยโบกศรัทธาให้อาศัย หวังนิทราย้อนย้ำความอำไพ สัมผัสใจเยียวยาทุกอารมณ์
๓๒๗. พระเขนยเคยหนุน .. เป็นดุ้นพฤกษ์ แกล้วก็นึกกล้ำกลืนกับขื่นขม โอ้ .. ดอกฟ้าร่วงผล็อยลิ่วลอยลม ความขืนข่ม .. ฤๅจะกลบให้ลบเลือน
๓๒๘. หัวอกเอ๋ย .. เคยหนักด้วยศักดิ์ราช ต้องบำราศรูปรอยมาคล้อยเคลื่อน เคยสูงส่งสุกสกาวดุจดาวเดือน กลับแล่นเลื่อนลอยล่างลงข้างกาย
๓๒๙. ทูลกระหม่อม .. เคยห่มล้วนรมย์รื่น แต่เนตรตื่นชื่นฤทัยอยู่ไม่หาย นางกำนัลหมอบเมียงเฝ้าเรียงราย บัดนี้ดายเดียวเหงา... ใต้เงาจันทร์
๓๓๐. จักเค้นชีพบีบชาติมาลาดรับ เพื่อสำหรับนอบน้อม .. ใจหม่อมฉัน จักรองภาษพจนีย์ด้วยชีวัน ทอนโศกศัลย์ห่างเหพระเทพินทร์
๓๓๑. กระท่อมทับเปรียบว่าเช่นปราสาท เรไรดั่งพิณพาทย์ระนาดศิลป์ ครวญขับกล่อมห้อมให้หนึ่งใครยิน ประโลมถิ่นห้วงฤดีดั่งมีมา
๓๓๒. โกสุมกลีบดอกก้านประสานประดุจ เช่นมงกุฏแห่งนาฏพิลาสสถา- นะภาพในศักดิ์สกุลผู้บุญญา แทนรูปทรงสูงค่ากลางป่าไพร
๓๓๓. โสมกลางสรวงแทนดวงอัจกลับ ทอดแสงโลมที่ประทับผู้หลับใหล แผ่วลมผ่าวผ่านฤดีผู้มีใจ กระซิบให้สุจริตสัมฤทธิ์รู้
๓๓๔. บรรจถรณ์หมอนม่านย่อมลาญลับ เยียรบับแพรผืนยากคืนสู่ อุบะกรองหอมร่ำสิ้นดำรู ที่ยังอยู่เคียงใจ .. ย่อมใจคน
๓๓๕. อัสสาสะในครานิทราสนิท พาดวงจิตเรื่อยเร่กลางเวหน หมายลับล่วงเรื่องหลังสิ้นกังวล วางชีพชนม์เคียงแกล้วผู้แววไว
๓๓๖. สิ้นสุดแล้วไอศูรย์จำรูญรัศมิ์ สิ้นจำรัสบริบทเคยสดใส สิ้นประยูรวงศ์นาถบำราศไกล สิ้นจากไร้รอยบุญเคยหนุนนำ
๓๓๗. อุษาสาง .. พลางถวิลถึงปิ่นเกล้า เคยแหนเฝ้ากลับผวนเป็นครวญคร่ำ คง..อำนาจกฎเกณฑ์ของเวรกรรม มาช่วยย้ำช่วยยุดจนสุดรอย
๓๓๘. ปานฉะนี้ปิตุลามาตุเรศ จะเทวษกำสรดใจถดถอย จักลำบากทดท้อท่ามรอคอย หรือละห้อยถึงบุตรก็สุดเดา
๓๓๙. สิ้นแผ่นดินสิ้นบุญสิ้นคุณค่า แต่นองหน้าหยาดรอยล้วนสร้อยเศร้า เพียงหนึ่งผู้คู่เข็ญยังเห็นเงา ช่วยบรรเทาทดท้อให้พอทน
๓๔๐. แต่เหลือบเหลียวลืมเนตรสบเลศหนึ่ง แววซาบซึ้งถนอมรับสิ้นสับสน อุ่นหทัยเคียงข้างใครบางคน พาอึงอลขวยเขินสะเทิ้นอาย
๓๔๑. แม้นอยู่สองต่อสองในห้องเก่า ยังลงเข่ากราบก้มประนมถวาย คงสำรวมใจอยู่ ..ใจผู้ชาย ว่าอย่าหมาย .. สูงส่ง .. เกินวงศ์ตน
๓๔๒. เอื้อมหัตถ์เนียนจับกรที่ซ่อนอยู่ ย้อนนัยสู่รำงับความสับสน ว่าสิ้นแล้วช่วงต่างระหว่างคน สร้อยกุณฑลจะพาดสายบนกายนี้
๓๔๓. แล้วเลื่อนองค์ทรงร่างอยู่กลางอก แกล้วก็ปกกรป้องตระกองศรี สะท้านด้วยแววตาและท่าที อ้อมอารีก็โอบอุ้มเข้าหุ้มเนื้อ
๓๔๔. วิเวกแว่วลมไหวยอดไม้แกว่ง แม้นโศกแห่งเบื้องหลังจะยังเหลือ หากอาวรณ์อบอุ่นได้จุนเจือ สองใจเอื้อปลิดสร้อยกลบรอยกรรม
๓๔๕. อธิษฐานผ่านวาสน์ให้พาดช่วง ทุกภพล่วงพบเจอให้เพ้อพร่ำ ใจทั้งดวงรอคอยทุกรอยคำ จนเนื่องนำน้อมสู่เป็นคู่เคียง
๓๔๖. ใจต่อใจดังว่าร่วมสาธก ท่ามเหล่านกเขาไพรที่ให้เสียง พระพายเอื่อยคนแนบแก้มแอบเอียง เสนาะเพียงสองใจเต้นไหวรับ
๓๔๗. กรุ่นมาลีไหนเห็นจะเช่นหอม ดั่งใจหลอมลึกล้ำเป็นลำดับ วงแขนแกร่งโอบย้ำดั่งกำชับ ว่าแม้นยับชีพวายไม่คลายคลอน
๓๔๘. แรงสุดถิ่นดินฟ้ามหาสมุทร ฤๅอาจฉุดจิตชายให้ถ่ายถอน ลึกล้ำห้วงน้ำสวรรค์สีทันดร ฤๅเทียบตอนลึกล้ำแห่งจำนง
๓๔๙. ถ้วนถิ่นแถนแมนสรรพ .. โปรดรับรู้ จักเชิดชูอยู่ข้างด้วยนางหงส์ ตราบสุดช่วงชีวิตถึงปลิดปลง ขอร่วมวงเวียนวัฏฏ์ .. เป็นสัจจัง
๑๔ ๓๕๐. โอ ! .. ศัพท์สดับนยะวะแว่ว ปุระแก้วและบัลลังก์ สิ้นแล้วเพราะแผ่วพละพลัง ฤจะยั้งนะยับเยิน
๓๕๑. เผาแผดเพราะแพศยะอธรรม ทุระกรรมะก้ำเกิน สิ้นชาติและวาสนะเผชิญ สรเสริญก็สิ้นตาม
.. กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้ว จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม ไปจนคำรบปีเดือนคืนยาม จะสิ้นนามศักราชห้าพัน
.. กรุงศรีอยุธยาเขษมสุข แสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์ จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์ นับวันจะเสื่อมสูญ เอยฯ
จบภาค ๓
หมายเหตุ
กลอนในส่วนที่มีจุดนำหน้าบททั้งหมด เป็นสำนวนจาก .. เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา .. ไม่ทราบนามผู้แต่งที่แน่นอน
Create Date : 23 สิงหาคม 2549 |
Last Update : 2 มีนาคม 2565 7:28:42 น. |
|
84 comments
|
Counter : 7311 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ดอกบัว IP: 58.10.192.71 วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:18:27:48 น. |
|
|
|
โดย: พี่ (สดายุ... ) วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:14:47:03 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 27 สิงหาคม 2549 เวลา:0:05:14 น. |
|
|
|
โดย: นาง (เพรง.พเยีย ) วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:5:40:41 น. |
|
|
|
โดย: พี่เอง IP: 124.120.197.219 วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:6:02:20 น. |
|
|
|
โดย: แกงเกอรู IP: 61.7.159.253 วันที่: 31 สิงหาคม 2549 เวลา:1:22:45 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 31 สิงหาคม 2549 เวลา:6:32:02 น. |
|
|
|
โดย: ลมลวง IP: 202.5.87.142 วันที่: 1 กันยายน 2549 เวลา:10:53:19 น. |
|
|
|
โดย: ดอกเข็มขาว IP: 58.9.191.252 วันที่: 1 กันยายน 2549 เวลา:20:30:31 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:7:25:42 น. |
|
|
|
โดย: เรนเอง.. IP: 203.151.140.118 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:8:13:53 น. |
|
|
|
โดย: ตะวัน IP: 61.47.122.140 วันที่: 16 กันยายน 2549 เวลา:0:30:37 น. |
|
|
|
โดย: เด็กน้อย IP: 202.44.135.35 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:47:55 น. |
|
|
|
โดย: ต้น จอมอสูร IP: 58.8.122.203 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:06:39 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 26 ธันวาคม 2549 เวลา:19:22:10 น. |
|
|
|
โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:20:55:45 น. |
|
|
|
โดย: เรือจ้าง IP: 203.188.63.159 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:23:02:07 น. |
|
|
|
โดย: ฅนสมุย IP: 61.7.160.116 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:08:20 น. |
|
|
|
โดย: jj IP: 203.156.141.26 วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:15:10:26 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ IP: 203.188.46.81 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:7:05:06 น. |
|
|
|
โดย: ศารทูล IP: 125.24.154.25 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:12:23:57 น. |
|
|
|
โดย: พิจักษณา วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:13:17:44 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:23:17:14 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:23:18:39 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:23:31:43 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:7:06:54 น. |
|
|
|
โดย: พิจักษณา วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:12:31:17 น. |
|
|
|
โดย: พิจักษณา วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:0:56:58 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ IP: 203.188.47.91 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:7:36:21 น. |
|
|
|
โดย: Jean IP: 80.85.216.64 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:14:20:19 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:18:00:18 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:19:42:08 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:20:57:59 น. |
|
|
|
โดย: พิจักษณา วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:21:06:12 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:0:09:26 น. |
|
|
|
โดย: นางค่ะ IP: 125.25.190.102 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:5:43:45 น. |
|
|
|
โดย: พิจักษณา วันที่: 13 เมษายน 2550 เวลา:1:20:47 น. |
|
|
|
โดย: ศารทูล IP: 203.113.51.164 วันที่: 13 เมษายน 2550 เวลา:15:52:17 น. |
|
|
|
โดย: ศารทูล IP: 125.24.176.201 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:13:29:14 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:21:42:47 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:7:20:15 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:7:27:22 น. |
|
|
|
โดย: ห้วงคำนึง IP: 202.12.97.115 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:11:38:08 น. |
|
|
|
โดย: ห้วงคำนึง IP: 202.12.97.115 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:12:02:40 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ IP: 58.137.10.34 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:12:07:47 น. |
|
|
|
โดย: ธรรม IP: 202.28.27.3 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:17:24:01 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:23:30:12 น. |
|
|
|
โดย: big-lor วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:13:56:16 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:7:06:37 น. |
|
|
|
โดย: ตองสี่ IP: 125.25.54.196 วันที่: 27 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:30:01 น. |
|
|
|
โดย: dragonV IP: 124.120.238.71 วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:9:08:58 น. |
|
|
|
โดย: dragonV IP: 124.120.238.71 วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:13:35:23 น. |
|
|
|
โดย: เมเปิ้ลลีฟ IP: 24.71.223.148 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:42:33 น. |
|
|
|
โดย: หญิง IP: 58.8.185.162 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:39:07 น. |
|
|
|
โดย: Proud's mom IP: 124.120.128.181 วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:20:14:30 น. |
|
|
|
โดย: วัลย์ IP: 70.87.207.234 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:5:55:14 น. |
|
|
|
โดย: Moh IP: 203.118.74.10 วันที่: 26 ธันวาคม 2550 เวลา:21:23:44 น. |
|
|
|
โดย: กระบี่ไล่ล่า //// IP: 58.147.40.32 วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:9:09:47 น. |
|
|
|
โดย: ยอพระกลิ่น วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:16:26:15 น. |
|
|
|
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:23:50:46 น. |
|
|
|
โดย: พลอย IP: 124.121.121.108 วันที่: 28 ธันวาคม 2550 เวลา:5:41:11 น. |
|
|
|
โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 28 ธันวาคม 2550 เวลา:9:25:14 น. |
|
|
|
โดย: พิจักษณา วันที่: 28 ธันวาคม 2550 เวลา:14:20:40 น. |
|
|
|
โดย: a_mulika วันที่: 29 ธันวาคม 2550 เวลา:0:41:10 น. |
|
|
|
โดย: Nok_Noah วันที่: 29 ธันวาคม 2550 เวลา:22:37:23 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ IP: 61.7.175.127 วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:8:29:31 น. |
|
|
|
โดย: Ni IP: 124.120.162.126 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:9:45:16 น. |
|
|
|
โดย: แน๊ท IP: 222.123.91.232 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:17:56:26 น. |
|
|
|
โดย: jar IP: 202.29.92.253 วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:34:25 น. |
|
|
|
โดย: aom IP: 124.122.200.226 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:02:59 น. |
|
|
|
โดย: สมชาย IP: 125.27.25.96 วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:19:30:43 น. |
|
|
|
โดย: อุตรพินา IP: 58.9.172.128 วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:10:53:37 น. |
|
|
|
โดย: นันท์คนเขียนโคลงกลอน IP: 118.172.93.97 วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:18:20:46 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:18:31:03 น. |
|
|
|
โดย: jj IP: 118.175.64.208 วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:23:13:16 น. |
|
|
|
โดย: "ตัวเติมเต็ม" IP: 125.27.43.59 วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:4:13:08 น. |
|
|
|
โดย: คนสวย IP: 115.67.70.255 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:12:31:25 น. |
|
|
|
โดย: นครเหมันต์ IP: 203.155.224.154 วันที่: 16 ตุลาคม 2552 เวลา:23:56:15 น. |
|
|
|
โดย: เสมอจุก IP: 125.27.205.133 วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:10:57:22 น. |
|
|
|
โดย: kalieon IP: 124.121.16.96 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:23:29 น. |
|
|
|
โดย: tee : teerayutt@live.com IP: 112.142.232.187 วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:19:22:14 น. |
|
|
|
โดย: Chibiasa วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:59:49 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:18:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]

|
|
|
|
|
|
|
|
บัวเข้ามาอ่านงานของพี่ค่ะ
บัวจะมาติดตามตอนต่อไปค่ะ
พื้นบล๊อคก็เป็นไทยงานก็ไทยๆ
แถมเพลงแบบไทยเสียด้วยสิค่ะ
น้อยมากค่ะที่จะมีใครๆทำแบบนี้นะค่ะ
มี่พี่สดายุกับพี่นางนี้แหละ
พี่สดายุสบายดีนะค่ะ
บัวขอให้พี่มีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ