Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
มีนาคม 2553
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
26 มีนาคม 2553
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค อวสาน .. O
All Blogs
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค อวสาน .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๙ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๘ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๗ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๖ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๕ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๔ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๓ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๒ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค ๑ .. O
O สายธาร .. กาลเวลา ภาค อวสาน .. O
เพลง .. ลาวสองคอน
๙๕๐. ทรุดกายนั่งตั่งหมอน .. มืออ่อน-กราบ
ปล่อยจิตทราบ .. อธิษฐานคนผ่านให้
รอคอย .. หมายรูปคราญ .. ฝ่ากาลไป
ที่ท่าน้ำระลอกไหล .. รอใครคืน
บ้านสาทร .. ริมน้ำ ..
๙๕๑. อัมพรโอภาสแจ้ง - - - จันทร์ฉาย
ระริกหลั่งผืนน้ำราย - - - รอบล้อม
จิตหนึ่งเพ่งรำบาย - - - ความบอก
บอกสู่อีกจิตพร้อม - - - ผ่านรู้แรงถวิล ฯ
๙๕๒. เรื้องแสงจันทเรศเมื้อ - - - เมฆบน
เหลื่อมละลานอำพน - - - แผ่นฟ้า
แว่วสังคีตประณีตดล - - - โสตสดับ
พร้อมศัพท์เสียงเหว่ว้า - - - หว่างละห้อยคอยเห็น ฯ
๙๕๓. อาวรณ์ถวิลผ่านฟ้า - - - เฟือนจันทร์
ส่งรับข้ามกัปกัลป์ - - - กล่อมชู้
สอดแทรกสู่ภาคฝัน - - - เพื่อกล่อม ขวัญนา
สามโลกย่อมยินรู้ - - - รักนี้นิรันดร์สมัย ฯ
๙๕๔. อาสูรรูปสวาดิสร้อย - - - สายสมร พี่แม่
ด้วยกิจจึ่งพราก-จร - - - จากหน้า
บัดนี้กลับนาคร - - - คอยอยู่
คอยแม่ข้ามฝั่งฟ้า - - - วกซ้ำคืนสม ฯ
๙๕๕. ครั้งรูปนาริศน้อม - - - แนบทรวง
โอบตระกอง, อิ่มดวง- - - - ฤดิล้น
ปรางนั่น-กรุ่นหอมพวง- - - - ผกาเปรียบ ได้ฤๅ
สุดจิตจักฝ่าพ้น - - - ภาคเนื้ออ่อนไฉน ฯ
๙๕๖. ครั้งองค์ยุพเรศน้อม - - - แนบอิง
อ้อมอกยกให้พิง - - - ผ่อนล้า
เกษินีกรุ่นหอมหญิง - - - ราวยั่ว
ให้จบจูบนานช้า - - - เนิ่นช้าถนอมโฉม ฯ
๙๕๗. ครั้งนิลเนตรช้อนสบ - - - ซึ้งผสาน
บ่งบอกเดียงสาคราญ - - - ใคร่รู้
ว่าระทึกดวงมาน - - - ในแม่ นั้นเนอ
ด้วยตระกองกอดชู้ - - - เช่นนั้นฤๅไฉน ฯ
๙๕๘. บัวตูมเทียนธูปพร้อม - - - นำถวาย พระเอย
เพ่งศรัทธะมุ่งหมาย - - - หนึ่งหน้า
แรงรำลึกจุ่งกราย - - - กรอมอก ใครเนอ
ให้อกนั้นวุ่นว้า - - - หวั่นร้างคำเรียม ฯ
๙๕๙. โอม..บุญช่วยก่อเกื้อ - - - บงการ
ร้อยพจน์รสผูกมาน - - - แม่ไว้
พากย์ใดที่พบพาน - - - พร่ำห่วง อย่าแม่
อย่าชำเลืองเนตรได้ - - - ดั่งเนื้อพรรณนา ฯ
๙๖๐. เพรงกรรมคงร่วมรู้ - - - รับรอง
บาปแยกเราห่างสอง - - - ฝั่งฟ้า
บุญกลับเชื่อมครรลอง - - - รอยเหลื่อม กาลเนอ
ช่วยร่นน้ำร่นหล้า - - - ร่นฟ้ารวมฝัน ฯ
๙๖๑. รอมาแต่ภพเบื้อง - - - ปางบรรพ์
รอบาปคลายโทษทัณฑ์ - - - เท่าสร้าง
รอบุญบ่มทรวงขวัญ - - - รู้ฝาก นัยแม่
ร่วมฝากนัยล่มล้าง - - - บาปร้อนเบื้องบุราณ ฯ
๙๖๒. แจ่มแจ้งสองฝั่งฟ้า - - - เพียงไหน
ฤๅเท่ากล่าวคนไกล - - - ก่อนกี้
หวานฉ่ำมธุรสใด - - - เสพทราบ
ฤๅเท่าใครบ่งชี้ - - - ตอบเนื้อความสนอง ฯ
๙๖๓. เดือนหกฝนหกฟ้า - - - พาหนาว
ทรวงหนึ่งบ่อยครั้งคราว - - - กลับร้อน
รุมอยู่แต่เนตรวาว - - - วามจับ ใจแม่
แต่รับรู้, อุ่นซ้อน - - - แทรกซึ้งตรึงทรวง ฯ
๙๖๔. ดาวเกลื่อนเดือนก่ำคล้าย - - - โคมแขวน
เทียบรูปอำไพแดน - - - เด่นฟ้า
รอเจ้าแต่เงยแหงน - - - มองเงียบ อยู่เนอ
สำเหนียกความเหว่ว้า - - - หว่างละห้อยคอยหวน ฯ
๙๖๕. แทนบัวมือกราบค้อม - - - คอถวาย
เพ่งรูปพระรำบาย - - - บอกรู้
พากย์ยกลูกแยบคาย - - - ควรอยู่ ไฉนนา
ควรช่วย..กล่อมใจผู้ - - - อยู่พู้นเพรงยาม ฯ
๙๖๖. ชมเฌอฤๅใช่หน้า - - - นวลผจง
จักเหม่อเพ่งพิศพะวง - - - วุ่นว้า
รำไรเหลื่อมแสงบง- - - - กชมาศ
นึกแต่หน้าหนึ่งหน้า - - - ยิ่งหน้าเคยคะนึง ฯ
๙๖๗. ราตรีดารดาษด้วย - - - แพรดาว
แหนห่มจนห้วงหาว - - - ผ่องแผ้ว
ห่วงเมื่อนิทราคราว - - - โดยเดี่ยว นะแม่
ใดอาจห่มกายแก้ว - - - กอดน้องป้องหนาว
๙๖๘. มองจันทร์นึกแจ่มหน้า - - - นวลนาง
เผยผ่านจิตเลือนลาง - - - ลอบเร้น
แก้มอิ่มเอิบยิ้มกลาง - - - วิกาลดึก นั้นนา
หวังรูปเรียมนิมิตเต้น - - - แต่งเจ้าภิรมย์ใจ ฯ
๙๖๙. โฉมเจ้าจอดรูปไว้ - - - ในตา พี่ฤๅ
เนื้ออ่อนแนบติดนา- - - - สิกซ้ำ
เสียงกระซิบแผ่วมา - - - มอมโสต
กระแจะจันทน์หอมล้ำ - - - ยากแล้วเลือนสลาย ฯ
บ้านอัมพวา ..
พศ.๒๓๓๒
๙๗๐. ธูปเทียนประทีปตั้ง - - - บุษบา เพลิงเอย
จุดแจร่มชวาลา - - - ร่วมน้อม
รำลึกพุทธปฏิปทา - - - บูชิต พระเอย
สัททะตั้งมั่นพร้อม - - - พรั่งพร้อมสิ่งสักการ ฯ
๙๗๑. จิตประเทิงทัศนะเอื้อ - - - อธิษฐาน
หากคู่เคยสาบาน - - - บอกไว้
ทุกรอบวัฏฏะสงสาร - - - จักสบ กันนา
จะอยู่ไกลหรือใกล้ - - - ย่อมต้องมาเจอ ฯ
๙๗๒. อ้างกุศลเสี่ยงตั้ง - - - สัตยา ธิษฐานแฮ
ปลุกบำบวงพจนา - - - เนิ่นย้อน
เข้าอำอกเชษฐา - - - อีกฝั่ง ฟ้าแล
ให้ระรุมรุ่มร้อน - - - หยั่งรู้ใจสมร ฯ
๙๗๓. สองรอบศตวรรษร้าง - - - รอยกัน
ตราบภพเหลื่อมจบฝัน - - - บอกรู้
เหนี่ยวดึงจิตดวงขวัญ - - - ฝากสวาดิ
คอยเร่งเร้าแรงชู้ - - - อยู่เชื้อเชิญประชัน ฯ
๙๗๔. กำสรดสร้อยฟ้าคลี่ - - - ครวญคะนึง
แต่เมื่อรูปเหนี่ยวดึง - - - จิตน้อง
ฤๅทอนรอบถวิลถึง - - - ทวนเทวษ
เห็นแต่คอยพร่ำพร้อง - - - ผ่านฟ้าประนอมฝัน ฯ
๙๗๕. เพรงพรัด-นรนารถน้อย - - - นางเมือง
กรอมโศกกำสรวลเนือง - - - เนิ่นช้า
ร้างรูปรสบรรเทือง - - - ทูนเทียบ
แต่ล่องใจไขว่คว้า - - - อุ่นอ้อมกอดถนอม ฯ
๙๗๖. พร่ำพบ-มาโนชสร้อย - - - กระซิบเสียง
หวังเชษฐะจะประเดียง - - - สดับรู้
คำสัตย์พากยะก็เพียง - - - ร่วมผูก จิตนา
รอร่วมใจกายกู้ - - - กลับพ้นอดีตกรรม ฯ
๙๗๗. ปรัถพีพิโยคพื้น - - - ทรวงธร-
ณีฉุดสินธุสาคร - - - คลื่นคว้าง
เงามืดทาบจันทร - - - สิ้นขจ่าง
หลังจิตแม่ลูกร้าง - - - ล่วงพ้นยามเพรง ฯ
๙๗๘. สุดโพยมเวหาสห้อง - - - หาวหน
สองรูปเหลือหนึ่ง-บน - - - แผ่นหล้า
รูปหนึ่งซบพักตร์พิมล - - - ที่ตั่ง หมอนนา
อีกจิตทับซ้อนหน้า - - - หนึ่งหน้าในหมอน ฯ
๙๗๙. สิ้นรูปในภพเบื้อง - - - บุพกาล
เมื่อภาคเพ็ญแขตระการ - - - กลับแจ้ง
บั่นช่วงถี่แสงวาน- - - - วันดับ
สุดรูปจิต-อาจแว้ง - - - วกย้อนเพรงยาม ฯ
๙๘๐. ลืมเนตรในห้องพระ - - - พิศอนงค์
หาแม่ - ร้างรูปองค์ - - - อกร้อน
ค่อยย่องจดเท้าลง - - - เบาเงียบ
จำทิศทางก้าวย้อน - - - สู่ห้องท่านหญิง ฯ
๙๘๑. เนตรหลับโอษฐ์อิ่มคล้าย - - - ยิ้มเย็น
เอิบอิ่มลำเพาเพ็ญ - - - ภาคผู้-
ไกลห่างทุกข์ลำเค็ญ - - - โดยจิต
ทัณฑ์โทษปราโมทย์รู้- - - - เท่ารู้ทันเสมอ ฯ
๙๘๒. ยามดึกเงียบสงัดด้าว - - - เดือนฉาย
เมื่ออัสสาสะรำบาย - - - ผ่อนช้า
ทรุดลงเพ่งพิศหมาย - - - รอเมตต ตาแฮ
นานเนิ่นห่างเห็นหน้า - - - รูปหน้าในคะนึง ฯ
๙๘๓. เหมือนจิตจดจ่อด้วย - - - ดวงสุดา
จึงเนตรตื่นมองมา - - - รูปเจ้า
ยิ้มเยื้อนรูปโอษฐ์วา- - - - ระแรก พิศเนอ
ลุกตระกองรูปเฝ้า- - - - กอดไว้ในทรวง ฯ
๙๘๔. เพียงที่กระซิบถ้อย - - - อาทร
แต่งภิรมย์บังอร - - - เอ่อล้น
คือแม่-ที่เฝ้าวอน- - - - ว่ากล่าว สอนเนอ
จิตผูกพันยากพ้น - - - ผ่านห้วงกรรมะกระแส ฯ
๙๘๕. สัญญาเก่าทับซ้อน - - - รูปทรง
เปลี่ยนผ่านเจตนะประสงค์ - - - แทรกไว้
สำเหนียกแต่รูปมง- - - - คลภาค
เพียงหนึ่งเท่านั้นไซร้ - - - สืบรู้ปรารมภ์ ฯ
๙๘๖. แววเนตรมองสบเจ้า - - - แจ้งนัย
คือลูกโทนแห่งสมัย - - - เก่าโพ้น
แต่ครั้งเมื่อหลบภัย - - - จากอยุท ธยาฮา
คืนภาพกาลก่อนโน้น - - - แนบย้อมสัญญา ฯ
๙๘๗. สาวน้อยมาโนชหน้า - - - แนมสุวรรณ แม่เอย
ด้วยรักด้วยผูกพัน - - - แม่แล้ว
แต่นี้ร่วมครองขวัญ - - - ด้วยแม่ แลนา
ไม่ห่างร้างคลาดแคล้ว - - - ตราบสิ้นวัฏฏะกระแส ฯ
สาวน้อยที่ริมน้ำ ..
๙๘๘. ตกดึกเสียงคลื่นครื้น - - - ครวญฟอง
ยิ่งกว่าคลื่นครวญคะนอง - - - อกนี้
ทิพเอยจักคืนครอง - - - นุชเมื่อ ใดนา
ขอท่านโปรดช่วยชี้ - - - แนะให้ขจ่างเห็น ฯ
๙๘๙. ถวิลสร้อยเสาวภาคเนื้อ - - - นวลนาง
สถิตที่บรรจถรณ์กลาง - - - กล่าวอ้อน
อ้อมกอดโอบสรรพางค์ - - - เพียรกระชับ
อบอุ่นโอนย้ำ, ย้อน - - - หยั่งรู้แรงถวิล ฯ
๙๙๐. พักตราไตรเตรียบสร้อย - - - เสาวคนธ์
หอมรื่นงามรูปกมล - - - กมลาศเนื้อ
แช่มช้อยอิริยายล - - - ยามยาตร เยื้องนา
ประณีตจิตจริตเอื้อ - - - อ่อนเจ้าตระกองใจ ฯ
๙๙๑. ปักษีเสาวเลขล้วน - - - ลือประโคม
เมื่อผ่านพิศรูปโฉม - - - ช่วยซ้อง
อกเอยเมื่ออุ่นโลม - - - รอยร่าง
ย่อมแต่ครวญพร่ำพร้อง - - - พากย์ไว้ประโลมหวัง ฯ
๙๙๒. แสนสัตว์นาเนกล้วน - - - ระลอกสินธุ์
ทราบทุกข์เมื่ออกภินท์ - - - พ่ายแพ้
ไฟฟอนที่ในจินต์ - - - โจมจู่
สุดจิตนี้อาจแก้ - - - กลับร้อนเหือดแรง ฯ
๙๙๓. โอ้รัตนนารีศเนื้อ - - - นงพงา
สุดกัดกร่อนเสน่หา - - - เหือดแล้ว
จนแม้ภาคอิศวรา - - - ชะลอรูป
ยังยากลบเลือนแก้ว - - - กลบให้นิวรณ์หาย ฯ
๙๙๔. วรรณาโมลิสแล้ง - - - รอยเขษม
แต่เมื่อร้างรูปเขม- - - - ภาคนั้น
อัมพรวรรษาเปรม - - - ปริ่มหยาด
เช่นอกใจบีบคั้น - - - หยาดน้ำใจคะนึง ฯ
๙๙๕. อัญชันชระอุ่มแต้ม - - - ตาไพร
นึกเนตรเมื่อหวั่นไหว - - - แต่งแต้ม
ลึกล้ำดุจชลาลัย - - - รอหยั่ง
แต่เมื่อผ่องผกายแย้ม - - - ยากแล้วเลือนสลาย ฯ
๙๙๖. นับวารวรรณิศถ้า - - - นับเดือน แดฤๅ
วันและคืนผ่านเลือน - - - ล่วงคล้อย
จากรูปจิตเรียมเหมือน - - - จักมอด หมายแฮ
รำลึกรูปแน่งน้อย - - - ค่ำเช้าฤๅคลาย ฯ
๙๙๗. พรรษาสโรชฟ้า - - - ไขธาร ท่อแฮ
เพรียกหม่นหมองครองกาล - - - กล่อมหล้า
ปรารมภ์ที่ดวงมาน - - - ฤๅต่าง ฟ้าแม่
เมื่อแต่เฝ้าไขว่คว้า - - - อ่อนเนื้อประนอมคะนึง ฯ
๙๙๘. วันทาวรโพธิไหว้ - - - เติมหวัง พี่แม่
กราบพระจิตเพ่งประนัง - - - นิ่งช้า
เหมือนธรรมแว่วให้ฟัง - - - ฝากคิด
กล่อมจิตผู้วุ่นว้า - - - หว่างเคลิ้มคลอถวิล ฯ
๙๙๙. กรจบบทมาศไท้ - - - ธาตุศรี ศากย์แฮ
รำลึกคุณบารมี - - - มอบไว้
สรรเพชญ์ยิ่งเมธี - - - ทอนเทวษ ชนแฮ
ธรรมพระหนึ่งเดียวได้ - - - ดับร้อนทอนลง ฯ
๑๐๐๐. ดาวเดือนกระดากฟ้า - - - เฟือนสี
จวนรุ่งดวงรัชนี - - - เริ่มคล้อย
คะนึงโฉมจำพรากลี- - - - ลาลับ นานแม่
เย็นหยาดน้ำค้างย้อย - - - ยะเยือกขั้วหัวใจ ฯ
๑๐๐๑. เดือนพ้นอุรภาคเพี้ยง - - - ภินทนา
หมายเปล่าเปลี่ยวคะนึงหา - - - ต่างห้อง
แรงกระพริบดาริกา - - - ต่างประทีป
หอมกรุ่นสุมาลย์ต้อง - - - ต่างอ้อมทรวงขวัญ ฯ
๑๐๐๒. หวนกมลมาเลศสร้อย - - - สงสาร พี่เทอญ
แต่จำพรากทรมาน - - - ยิ่งแล้ว
ฝากลมช่วยกล่าวขาน - - - คำสู่ ทรวงนา
มอบรัก...มอบใจแก้ว - - - กลับย้อนร่วมสมัย ฯ
๑๐๐๓. สางรุ่งสุริยะเรื้อง - - - ราศี
ลมแผ่วผ่านลำวี - - - วาดไม้
อกครวญรำลึกศรี - - - เสาวภาค พี่เอย
หมายรูปเผยรอยให้ - - - อยู่ห้อมประนอมใจ ฯ
๑๐๐๔. ตกสายก้าวสู่บ้าน - - - รั้วติด กันนา
พบท่านป้ามองพิศ - - - รอบห้อง
รู้สึกแปลกในจิต - - - ฉงนอยู่
แววเนตรท่านจับจ้อง - - - ดั่งคล้ายเพิ่งเห็น ฯ
๑๐๐๕. แววอ่อนโยนลึกล้ำ - - - เหลือคณา
ก่อนทอดทอเมตตา - - - ตอบให้
เปล่งปลั่งรูปพักตรา - - - เตรียบอัป สรแม่
มือประนมก้มไหว้ - - - หว่างละล้าละลังเหลียว ฯ
๑๐๐๖. แววไหวในเนตรคล้าย - - - ครวญการณ์
เห็น-ปรารถนาชายชาญ - - - ช่วงแท้
ใครเล่าผูกดวงมาน - - - จนมั่น คงนอ
บ่วงเยื่อใยสุดแก้ - - - บั่นให้ขาดหาย ฯ
๑๐๐๗. ชายนี้ฤๅผู้-ลูก - - - ปรารมภ์
องอาจผึ่งผายสม - - - ศักดิ์เจ้า
สูงสง่ารูปหน้าคม- - - - คายอยู่ พ่อเอย
ควรคู่ใจใฝ่เฝ้า - - - แต่ละห้อยคอยเห็น ฯ
๑๐๐๘. เอ็นดูยิ้มเยื้อนเนตร - - - ทอดมา
เอมอิ่มรอบรมยา - - - อยู่ห้อม
เชื้อเชิญสู่ริมชลา - - - เขื่อนท่า นั้นเนอ
ข้าวกับสำรับพร้อม- - - - พรั่งแล้วคอยรอ ฯ
๑๐๐๙. ท่านป้าให้ล่วงหน้า - - - นำไป
เดินค่อยคล้อยหว่างใบ - - - พุ่มไม้
เมื่อรูปหนึ่งผ่านไหว - - - หว่างพฤกษ์ พรรณนา
เลี้ยวเลาะเสาะตาให้ - - - ห่วงรู้ดูเห็น ฯ
๑๐๑๐. เห็นหลังรูปแน่งน้อย - - - นาดกร
ทรงพัสตราอาภรณ์ - - - ยุคนี้
ผมแค่ไหล่ปลายงอน - - - งามอยู่
แว่วสั่ง .. บ่าวใช้-ชี้ - - - เช่นนั้น-นี้แถลง ฯ
๑๐๑๑. หยุดมองรูปลักษณ์ด้วย - - - ดุษฎี
จนรูปงามราศี - - - สื่อรู้
หันกายกลับเนตรนรี - - - เหลียวสบ
จึงบัดนั้นสบผู้- - - - พร่ำเพ้อละเมอถวิล ฯ
๑๐๑๒. ขวัญเมืองพิมพ์มาศแม้น - - - เหมือนโฉม แม่ฤๅ
เผยลักษณ์ร่วมบรรโลม - - - จิตไว้
เจ้าเอยดั่งดวงโคม - - - ฟ้าส่อง ใจแล
ปันอบอุ่นโอบไล้ - - - สุดล้างจางเลือน ฯ
๑๐๑๓. บ่าวใช้ค่อยปลีกพ้น - - - ลับตา
เมื่อร่องรอยปรารถนา - - - สื่อรู้
สองร่างนิ่งงันภา- - - - วะสบ กันเนอ
สองร่างสองจิตผู้ - - - อยู่พร้อมหลอมถวิล ฯ
๑๐๑๔. รูปเอยรูปแน่งน้อย - - - ในคะนึง
เผยลักษณ์เหนี่ยวจิตตรึง - - - ตอกไว้
ผองพากย์ที่รำพึง - - - ฝากผ่าน ลมนา
ลมช่วยผ่านโลมไล้ - - - มอบรู้ปรารถนา ฯ
๑๐๑๕. ก้าวประชิดโอบเนื้อ - - - นวลประคอง
ดูเถิดเนตรใครนอง - - - หยาดน้ำ
โผหาอกอุ่นตระกอง - - - ก่ายกอด
แก้มเกลือกกลิ้งอกย้ำ - - - ยากเว้นวางถวิล ฯ
๑๐๑๖. แขนเรียวกอดร่างไว้ - - - เวียนซบ พักตร์แล
พร้อมปากใครโน้มจบ - - - จูบแก้ม
เนตรงามเมื่อช้อนสบ - - - ซึ้งอยู่ นั้นนา
รอปากน้อมแตะแต้ม - - - ตอบรู้แรงภิรมย์ ฯ
๑๐๑๗. หน้าแนบเนื้อกรุ่นเนื้อ - - - นงพาล
นาสิกจบเนื้อคราญ - - - ข่มละห้อย
ปากจบรูปปากนาน - - - นิ่งอยู่
ตราบระทวยร่างน้อย - - - อ่อนไร้แรงขืน ฯ
๑๐๑๘. ทอดน่องเดินเกี่ยวก้อย - - - เคียงขวัญ
แรงบาปพาแยกกัน - - - พรากร้าง
แรงบุญร่วมรังสรรค์ - - - สืบวาส นาแฮ
บุญข่มบาปบาปล้าง - - - ลบเศร้าคืนสรวล ฯ
๑๐๑๙. ถึงท่าน้ำว่างไร้ - - - คนรอ
รูปแน่งน้อยเคลียคลอ - - - เคลิบเคลิ้ม
เนตรช้อนสบราวพะนอ - - - รอกล่อม ขวัญนา
ปากจบ-คนสั่นเทิ้ม - - - อกสะท้อนระทดระทวย ฯ
๑๐๒๐. ขวัญเจ้าจึงสะเทิ้น - - - ทรมาน
เหมือนทิพท่านเตรียมการณ์ - - - กลั่นแกล้ง
โอนฤทธิ์เดชอ่อนหวาน - - - วาบสู่ อกนา
ล่วงข่มความแห้งแล้ง - - - เหือดสิ้นหทัยสาว ฯ
๑๐๒๑. แต่สบรูปลักษณ์แล้ว - - - ฤๅเลือน
ใจหนึ่งประหนึ่งเหมือน - - - ม่านห้อม
คันธะรสกรุ่นกลิ่นเยือน - - - ย้อนจู่ อกเนอ
พาอ่อนโยนรายล้อม - - - รอบเวิ้งนทีถวิล ฯ
๑๐๒๒. จำรูญจำรัสเบื้อง - - - บูรพา
เมื่อหัตถ์ทิพนำพา - - - พบพ้อง
โอนฤทธิ์แห่งอิฏฐา - - - ทอดบท
สัมผัสความนัยต้อง - - - ต่างไว้ถวิลหวัง ฯ
๑๐๒๓. สีสันกุสุมะพร้อม - - - พันแสง
งามย่อมเห็นด้วยแรง - - - โรจน์เรื้อง
โดยรูปจริตสำแดง - - - ภาพหนึ่ง
ภาพงดงามประณีตเปลื้อง - - - ปิดได้ฉันใด ฯ
ปรารมภ์แห่งใจชาย ..
๑๐๒๔. รอคอยแต่ภพเบื้อง - - - บุพกาล
เริ่มเมื่อชีวาตม์ลาญ - - - ลับเจ้า
จำพรากสู่ทรมาน - - - มืดหม่น
ลอยช่วงวิญญาณเฝ้า - - - ฝ่าเวิ้งไฟสวรรค์ ฯ
๑๐๒๕. ร่วมภพร่วมภาคพื้น - - - ปฐพินทร์
บรรจบบรรเจิดถวิล - - - ผ่านเร้า
ประหนึ่งประณีตพิณ - - - พาทย์กล่อม
ให้ประโมทย์คลอเคล้า - - - สดับคล้อยรอยคำ ฯ
๑๐๒๖. รูปเอย-ขออาจเอื้อม - - - โดยใจ
ฟังเถิดฟังความใน - - - อกฟ้อง
ขวากหนามมรรคาใด - - - มุ่งฝ่า
เช้าค่ำจักพร่ำพร้อง - - - ผ่านร้อยพจีเรียง ฯ
๑๐๒๗. ล่องลอยผ่านฟากฟ้า - - - สู่ขวัญ
ผู้ผ่านรังสีพรรณ - - - พิลาสให้
ประเทียบแต่วงจันทร์ - - - จางรูป
โอนอบอุ่นแอบไว้ - - - หว่างห้วงคะนึงหา ฯ
๑๐๒๘. สุดรอคอยค่อยแย้ม - - - เยือนตา
งามรูปงามลักขณา - - - เนตรเจ้า
ลอยรูปทุกอัสสา- - - - สะช่วง แม่เอย
จนจับใจใฝ่เฝ้า - - - สุดล้างจางสลาย ฯ
๑๐๒๙. ใจเอยต่อแต่นี้ - - - นับนาน
จนบาปกรรมบันดาล - - - ดับดิ้น
ขอเคียงอยู่ด้วยคราญ - - - ครองคู่
โลก-จักรภพจบสิ้น - - - ห่อนสิ้นอาลัย ฯ
๑๐๓๐. อุ่นอยู่กลางอ้อมกอด - - - ในกาล
ร่วมหล่อหลอมวิญญาณ - - - อยู่-ยั้ง
ร่างแอบจักอุ่นนาน - - - นิรันดร์อยู่ แม่เอย
แม้นขอบฟ้าเหนี่ยวรั้ง - - - พรากร้าง-ขอขืน ฯ
๑๐๓๑. กำลูนมาเลศสร้อย - - - ทรามสงวน พี่เอย
อกหนึ่งรอพักตร์ซวน - - - ซบอ้อน
รอเนื้อนิ่มแขนนวล - - - เหนี่ยวโอบ รอบแม่
รอเกลือกแก้มเนตรช้อน - - - ฉ่ำซึ้งแววผสาน ฯ
๑๐๓๒. กฤษฎางค์ชุลิตน้อม - - - นอบกร
ปรุงภาษเป็นอนุสรณ์ - - - สืบไว้
สองใจตราบม้วยมรณ์ - - - ขอมั่น รักนา
อย่าจืดจางร้างได้ - - - ชั่วฟ้าดินสมัย ฯ
อวสาน
Create Date : 26 มีนาคม 2553
Last Update : 9 ธันวาคม 2559 13:10:58 น.
12 comments
Counter : 12217 Pageviews.
Share
Tweet
...สวัสดีค่ะ
...แวะมาอ่านค่ะ
...ไพเราะทั้งคำประพันธ์..
และเนื้อหาค่ะ
โดย: แสงสว่าง IP: 97.123.85.29 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:21:47:11 น.
พี่กาย
อ่านเพลินค่ะ ...แรงแห่งรัก กาลเวลาก็ไม่อาจขวาง จินตนาการล้ำเลิศ...บทร้อยกรองไพเราะ
ขอบคุณสำหรับความรื่นรมณ์ ที่มอบให้คนอ่านนะคะ
โดย: ทิพย์ IP: 202.149.25.235 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:22:54:52 น.
ระทึก....
อ้าว...จบแล้วเหรอ
โดย: ม่านเอง IP: 112.142.9.155 วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:5:54:53 น.
แสงสว่าง....
สวัสดีครับ....งานเก่าในชื่อ...สองฝั่งฟ้า อยู่ในนิราศเรื่องยาว
ครับ
ทิพย์....
เรื่องนี้ค่อนข้างยาวอยู่สักหน่อย....คร่อมหลายยุคหลายสมัย
เป็นงานที่ตอนแรกเขียนไว้แค่ 3 ภาคแรก....แล้วมาขยายเพิ่ม
อีก 7 ภาคหลัง...เพราะเรื่องราวมันยังไม่น่าจะจบอยู่แค่นั้น
เป็นการสร้างตัวละครแทรกลงไปในประวัติศาสตร์จริงค่ะ
ม่าน....
จบแล้วสิ...10 ภาคตั้ง 1000 กว่าบทแล้ว....สร้างหนังได้เรื่องนึง
555
อัล.....
ตั้งแต่ภาค 4 เป็นต้นมาจนจบ นี่เขียนไว้ 2 ปีแล้ว....อยู่ในนิราศเรื่องยาว
สองฝั่งฟ้า ภาค 1-7 มันแยกกันอยู่ทำให้คน งง พี่เลยจับมารวมกันซะ
บางส่วนเอาโคลงบทสั้นๆที่เคยเขียนไว้แล้วมาแทรกไว้เป็นระยะตาม
แต่เนื้อหาจะสอดคล้องกัน....
ส่วนรูป...จะหารูปที่ต่อเนื่องจากรูปบนสุดแต่ไม่มี....
เลยต้องหาเอาเฉพาะที่มีบริบทสอดรับกันมาสื่อให้คนอ่านพอเห็นภาพ
จะหาภาพลูกครึ่งจาก ภาค 9 มาใส่ชุดปัจจุบันก็หายาก....555
ส่วนภาพของ SBS นั้น....เห้นผู้หญิงสวยดี....พี่อยากได้ท่าทางประมาณนั้น
หาใน google immage มันไม่มีอะ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:7:52:10 น.
พี่ชาย...
และแล้วก็ถึงตอน...อวสาน..สายธาร..กาลเวลา...
พี่ชายใช้จิตนาการ..ในการแต่ง..ได้ดีจริง ๆ ค่ะ..
..จิตนาการ..นี่สร้างความสูข..
ให้กับอีกหลาย ๆ คน..นะคะ..
และที่สำคัญ..มี..บางคน..
ต้องมีความสุข..มากมาย..แน่.แน่.ค่ะ..
..แบ่งปัน..ความสุข..จากบางคน..
ให้อีกหลายๆ คน..นะคะ..
โดย: ฟาง IP: 118.172.90.243 วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:9:58:09 น.
...อ๋อ..เหรอค่ะ
โดย: แสงสว่าง IP: 97.123.85.29 วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:13:48:32 น.
พี่กาย
กลับมาอ่านอีกหลายรอบค่ะ
บทนี้ไพเราะมาก โดยเฉพาะ
"ช่วยร่นน้ำร่นหล้า .... ร่นฟ้ารวมฝัน ฯ"
๖๐๙. เพรงกรรมคงร่วมรู้........รับรอง
บาปแยกห่างเราสอง.............ฝั่งฟ้า
บุญกลับเชื่อมครรลอง...........รอยเหลื่อม กาลเนอ
ช่วยร่นน้ำร่นหล้า .... ร่นฟ้ารวมฝัน ฯ
โดย: ทิพย์ IP: 202.149.25.235 วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:16:27:24 น.
ฟางน้อย....
จินตนาการสร้างเรื่องราวได้สารพัดค่ะ...
ภาค 1 นั้นเป็นจินตนาการบางส่วนจาก..somewhere in time..เรื่องเหรียญเงินแห่งยุคอนาคตจะสัมผัสกับ"รูปธรรม"ที่มีอยู่ก่อนเหรียญนั้นไม่ได้...
หากสัมผัสกันเมื่อไร"ความรู้สึกที่เหมือนจริง" ก็จะกลายเป็นแค่ความฝันไปทันที !
การย้อนอดีต...ในความคิดของเรื่องมีเค้าโครงความคิดมาจากวิทยาศาสตร์ของคลื่นแสงที่ว่า...
คนเรามีกระจกตารับภาพได้ในช่วงคลื่นความถี่แสงหนึ่งๆเท่านั้น...หลังจากแสงตกกระทบรูปธรรมใดๆ..แล้วสะท้อนเข้าตา...เราจึงเห็นภาพนั้น
แล้วหากเป็นคลื่นความถี่แสงที่อยู่นอกขอบเขตที่สายตาคนจะรับได้ล่ะ...เรามองไม่เห็นก็จริง...แต่มันจะไม่มีอยู่หรือ...?
ในเวทีการแสดงละคอนที่มืดมิด...คนดูจะเห็นตัวละคอนเฉพาะในวงแสงที่ฉายลงมาบนพื้นเวทีเท่านั้น...วงหนึ่งก็เหมือนช่วงเวลาหนึ่ง...อีกวงหนึ่งก็อีกช่วงเวลาหนึ่ง...จนสองวงเกิดมาทับซ้อนกัน...คนที่อยู่ตรงช่วงทับซ้อนก็จะเห็นคนทั้งสองวงแสงนั้นพร้อมกันได้...
นี่คือการมองเห็นที่คนอื่นมองไม่เห็นเพราะการทับซ้อนอาจเกิดเพียงวูบเดียว...
คนที่อยู่ในวงทับซ้อนที่เกิดก้าวผิดทางไปใน"วงเก่า"ก็จะกลายเป็นย้อนสู่อดีต...
ส่วนคนในวงเก่าที่ก้าวหลงมาใน"วงใหม่"ก็เหมือนกระโดดข้ามมาในโลกอนาคต..! นั่นเอง
คนที่เรียนมาทางวิทยาศาสตร์เวลาจินตนาการก็จะออกมาแนวนี้แหละ...ไม่ค่อยจะไปทางโลกแห่งวิญญาณเอาซะเลย.....อิๆๆ
แสงสว่าง...
ตามนั้น
ทิพย์....
บทนี้พี่เอามาจากบท"สองฝั่งฟ้า" ในนารีปราโมชค่ะ...
เขียนไว้เยอะ...พอเขียนเรื่องยาวก็ไปเอามาลงได้เลยค่ะ...ไม่ต้องขออนุญาตคนเขียนมันอีก...555
บทนี้คล้ายๆกับว่า...
การที่ต้องอยู่กันคนละฟากฟ้า...ทำให้ได้รู้จักกันจนเกิดความผูกพันนั้น...เป็นเพราะบาปเคยสร้างเอาไว้...
จนเมื่อรอบบุญตามทัน...ก็มีเหตุให้ต้องกลับมาอยู่ร่วมฟ้าเดียวกัน...แล้วมาคอยอ่านกลอนบล็อคนี้ต่อไงคะ...
ทีนี้ก็คิดถึงคนเขียนทุกวันล่ะสิ...เพราะเคยให้สัญญาไว้อย่างนั้น...ผิดสัญญาไม่ได้-บาปมาก....อิๆๆ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:17:27:13 น.
พี่กายขา..ทิพย์ ไม่ทราบเลยนะคะ ว่าบทนี้ แปลความตามที่พี่กายว่าได้ด้วย...
คิดว่าพระเอก คิดถึงนางเอก ที่อยู่ต่างกันคนละช่วงเวลา
แต่อย่างไรก็ต้องขอบคุณ..ที่ช่วยแปลความนะคะ
"บางคน" น่าจะ กำลังหมั่นไส้ ใคร "บางคน" อยู่นะคะ
โดย: ทิพย์ IP: 202.149.25.225 วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:17:55:43 น.
ค่อยๆ ละเลียดอ่าน ฮิฮิ จักได้ซึ้งซาบ คุณกายเก่งมากนะคะ ในนารีปราโมชว่าเยี่ยม มาอ่านเรื่องยาวทั้ง 10 ภาค เยี่ยมยิ่งกว่าเยี่ยม ถือได้ว่า สุดยอดค่ะ บัวชื่นชมมากมายแล้วนะคะ
โดย: สโรชินี IP: 203.172.141.227 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:46:52 น.
อ่านเเล้วรู้สึกดี๊ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ
โดย: อุไรพร IP: 192.168.212.157, 118.173.244.51 วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:12:24:51 น.
ดีครับพี ครั้งแรกที่เข้ามาอ่าน รู้สึกดีมากมากครับ
ขอบคุณครับที่นำบทความดีดีมีความหมายดีดีมาให้อ่าน
มีเวลาจะเข้ามาอ่านบ่อยบ่อยนะครับ
โดย: วายุ IP: 117.47.66.73 วันที่: 6 ตุลาคม 2553 เวลา:2:19:07 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
...แวะมาอ่านค่ะ
...ไพเราะทั้งคำประพันธ์..
และเนื้อหาค่ะ