ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 

ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์-เปี๋ยกคนขับรถยนต์

วงจรชีวิตมนุษย์เงินเดือนมักจะซ้ำ ๆ ซาก ๆ
ถ้าทำเป็นประจำก็จะเกิดอาการเบื่อหน่าย
หรือกลายเป็นมนุษย์เครื่องจักรกล
ดังนั้น หน่วยงานต่าง ๆ จึงต้องหาเครื่องมือมากระตุ้น
เช่น เป้าเงินฝาก เป้าสินเชื่อ เป้าประกันภัย เป็นต้น
แต่ยากระตุ้นประเภทนี้มักจะเป็นยาฉีดใส่เฉพาะคน
ไม่ค่อยมีผลต่อการทำงานเป็นทีมงานมากนัก

ดังนั้น จะเห็นว่าทั้งเมืองนอกหรือเมืองไทย
แต่ละปีมักจะพยายามจะหายากระตุ้น
เพื่อทำให้องค์การมีการตื่นตัวหรือเรียกว่าเขย่ากัน
ปลุกเร้าให้คนงานในองค์การมีการตื่นตัวมีความคึกคักมากขึ้น
เช่น กิจกรรมคุณภาพงาน QC  Reengineering  KPi BSC  Lean เป็นต้น
หน่วยราชการไทย/รัฐวิสาหกิจบางแห่งก็เลียนแบบมาใช้บ้าง
จะได้รับเงิน/รับงบประมาณหมวดพัฒนาบุคลากร
ตามที่เสนอของบประมาณหรือโครงการ
เรียกว่า ใช้ไปหมดไป งุบงิบไป พัฒนาจริงหรือไม่ ตรวจสอบกันยาก
เพราะการจัดโครงการอบรมสัมนาจะจ่ายวันเท่าไรก็ได้
อยู่ที่การตั้งงบค่าใช้จ่ายต่อหัว ค่าวิทยากร ค่าเดินทาง ฯลฯ
เป็นประเภทใช้ไปหมดไป ตรวจสอบยากว่าได้ผลหรือไม่ได้ผล
เคยเจอประเภทเซ็นชื่อเช้าบ่ายแล้วขอรับเอกสารงานสัมนา
เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ามาเข้ารับการอบรม
พอช่วงเบรคก็หายหัวไปแล้ว หรือกินอาหารกลางวันเสร็จก็หายหัวไปเช่นกัน
กลับหน่วยงานแล้วมักจะยกเมฆเขียนรายงานส่ง ๆ ไป
หรือหน้าด้านขอเบิกเงินว่ามาร่วมโครงการแล้ว

ส่วนที่ธนาคารไทยแห่งแรกในสมัยนั้น
มีกิจกรรมคุณภาพงาน QC ที่นำเข้ามา
เพื่อใช้กระตุ้นมนุษย์เงินเดือน
หนังสือบอกว่าเชิญชวนให้ช่วยกันทำ
แต่เอาเข้าจริงเหมือนมวยไฟล์บังคับ
ที่ทุกสาขาต้องทำอย่างน้อย 1 กลุ่ม
สาขาขนาดใหญ่ต้องมี 2-3 กลุ่ม
ทำเสร็จแล้วต้องส่งเรื่องที่ทำเข้าเพื่อประกวดแข่งขันกัน
เรียกว่าเกณฑ์กันทำกับสั่งให้ทำทั้งสาขาทีเดียว
งานนี้เปี๊ยกไม่มีบทบาทหน้าที่อย่างใด

ส่วนของสาขาจำไม่ได้แล้วว่าทำเรื่องอะไร
จำได้กิจกรรม QC มีความคึกคักอยู่ประมาณ 4-5 ปี
แล้วก็เฉาตายไปในที่สุดเหมือนกับที่ชอบแซวกันว่า
เกิดในญี่ปุ่น โตในสหรัฐ มาตายที่เมืองไทย
สหรัฐมีการพัฒนา QC จนเป็น TQM
เป็นงานใหญ่มีการแจกรางวัลระดับชาติกันทุกปี

การประกวดแข่งขันให้คะแนนตามโพยที่กำหนดไว้
ไม่มีการคิดวิเคราะห์หรือไม่มองถึงประโยชน์สุดท้ายว่า
ธนาคารได้ประโยชน์/เสียประโยชน์แต่อย่างใด
เช่น ทำให้พนักงานลดเวลาทำงาน บริการลูกค้าได้ดีขึ้น
ทำให้งานบริการรวดเร็วมีคุณภาพมากขึ้น
หรือเรียกว่าจบงานประกวด QC ทุกอย่างที่ทำมาก็จบลงด้วย
ไม่มีการนำผลงานไปขยายผลหรือใช้ต่อเนื่องอย่างจริงจัง
ไม่มีการติดตามประเมินผลหรือชี้วัดผลตามหลังแต่อย่างใด
จบกันที่วาทกรรมและพิธีกรรมประกวดกิจกรรมคุณภาพงาน
แต่ที่ธนาคารได้คือ การกระตุ้นเขย่ามนุษย์เงินเดือน
ให้ตื่นตัวตื่นใจไม่มีอาการเฉื่อยชาไปช่วงหนึ่งแล้ว

มีเรื่องตลกเรื่องหนึ่งของสาขาแห่งหนึ่ง
คือทำ QC เรื่องลดจำนวนบัญชีเงินฝากทอดทิ้งของลูกค้า
ด้วยการติดตามไปที่บ้านลูกค้าหรือส่งจดหมายหาลูกค้า
ทำให้ลดบัญชีเงินฝากทอดทิ้งได้ 2 ล้านกว่าบาท
พอส่งเข้าประกวดกิจกรรม  QC
ขั้นตอนกระบวนการทำกิจกรรม
ตามใบคะแนนการให้รางวัลกิจกรรมถูกต้องเลยได้รางวัลไป
แต่เพราะสุดท้ายธนาคารเสียประโยชน์
คือขาดรายได้จากเงินฝากก้อนนี้ที่ควรจะได้ในที่สุด
จึงไม่มีการเผยแพร่หรือสรุปกิจกรรมดังกล่าว
ในหนังสือวารสารประจำเดือนของธนาคารแต่อย่างใด
กลัวการเลียนแบบหรือทำให้ธนาคารขาดทุนกำไร

ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีระบบ Computer
ใช้งานกันอย่างแพร่หลายเหมือนทุกวันนี้
บัญชีทอดทิ้งคือ บัญชีเงินฝากลูกค้า
ที่มียอดเงินจำนวนหลักร้อยถึงหลักแสนบาท
ไม่มีการติดต่อกับธนาคารมากกว่า 2 ปีแล้ว
คือไม่มียอดเคลื่อนไหว ฝาก ถอน ปรับยอดสมุดบัญชีเงินฝาก
เงินฝากประเภทนี้  คือ รายได้หลักของสาขา/ธนาคาร
เพราะเงินจำนวนดังกล่าวยิ่งไม่มีการเบิกถอน
การสำรองสภาพคล่องของธนาคารก็ยิ่งง่ายขึ้น

ปกติการประมาณการสภาพคล่องของธนาคารสมัยก่อน
สมมุติสิ้นวันนี้มีเงินฝากทุกบัญชียอดรวม 100 ล้านบาท
สภาพคล่องวันรุ่งขึ้นจะประมาณ 20% หรือ 20 ล้านบาท
กล่าวคือ พรุ่งนี้จะมีคนมาถอนเงินฝากไม่เกิน 20 ล้านบาท
โดยจะถอนเป็นเงินสดหรือเช็คหักบัญชีหรือรายการบัญชีระหว่างกัน
แต่ในสภาพความจริงแล้วเงินสดจะมีการถอนไม่มากนัก
แต่สาขาจะสำรองเงินสดไว้ไม่เกิน 2-5 ล้านบาท
เพราะคนส่วนมากจะมาถอนเงินสดไม่มากนัก
ยกเว้นแต่ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว
จึงจะต้องมีสำรองเงินสดกับสภาพคล่องมากกว่าปกติ

เงินส่วนที่เกินจากสภาพคล่องที่ตัวเลข 80 ล้านบาท
สาขาจะแจ้งยอดเงินฝากไปที่สำนักงานใหญ่
เพื่อปล่อยกู้รายวันประเภท Call Loan/Inter Bank
อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำถ้ามีสภาพคล่องในตลาดเงินมาก
หรือเรียกกันว่ามีเงินฝากล้นตลาดจนต้องให้ดอกเบี้ยต่ำ ๆ
เป็นการผลักไสไล่ส่งทางอ้อมอย่าให้คนมาฝากเงินมาก
หรือแนะใหไปซื้อกองทุน ประกันชีวิตแทนเป็นต้น

ถ้าเงินฝากขาดตลาดหรือสภาพคล่องในตลาดลดลง
ธนาคารต้องรีบให้ดอกเบี้ยสูง ๆ จูงใจคนมาฝาก
ปกติธนาคารปล่อยกู้กันประมาณ 1.50% ต่อปี
ดูตัวเลขค่อนข้างน้อย แต่ต้องไม่ลืมยอดเงินกู้กัน
สถาบันการเงินกู้ยืมกันครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
ระยะเวลา 1-7 วัน 1 เดือนหรือ 3 เดือนเป็นต้น
รายได้แบบนี้จะมหาศาล/มีหนี้เสียหนี้สูญค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว
อัตราดอกเบี้ยแบบนี้บริษัทขนาดใหญ่ในเมืองไทยก็ได้เช่นกัน

ดังนั้นธนาคารที่มีเงินฝากทอดทิ้งมาก
ยิ่งรวบรวมยอดไว้ได้มากยิ่งมีโอกาสหากำไรจากเงินส่วนนี้มาก
เพราะพอครบ 10 ปีก็โอนเป็นรายรับของธนาคาร
แต่ในปัจจุบันถ้ายอดเงินฝากต่ำกว่าที่กำหนด
จะทะยอยตัดบัญชีอัตโนมัติจนเงินฝากในบัญชีหมด
แล้วธนาคารจะปิดบัญชีไปโดยอัตโนมัติ
บางธนาคารกำหนดยอดเงินฝากต่ำกว่า 2,000 บาท
แต่ถ้าเป็นเงินฝากประจำจะตัดแบบนี้ไม่ได้
ต้องคงต้างยอดไว้อีกนานแสนนานเช่นกัน

เงินฝากทอดทิ้งจะมีมากในบางสาขา
โดยเฉพาะสาขาที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ 
จากจำนวนนักศึกษาที่เปิดบัญชีไว้หักค่าเล่าเรียน
หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในเวลาเรียน
แม้จะมียอดเงินฝากจะไม่มากนักแต่มีจำนวนคนมาก
ยิ่งนักศึกษาเรียนจบแล้วถ้ายอดเงินฝากน้อย ๆ
มักจะลืมหรือไม่มาถอนเพราะไม่สะดวกในการเดินทางแล้ว
หรืออายที่จะมาถอนปิดบัญชี สมุดหายต้องแจ้งความ
ยุ่งยากมากความเลยไม่ไปถอนเงินปิดบัญชี 
สะสมไว้หลาย ๆ ปี หลาย ๆ คน 
จะมียอดเงินฝากสะสมจำนวนหลักแสนขึ้นไป
ยิ่งช่วงเปลี่ยนผ่านจากระบบเงินฝากที่ใช้เครื่องจักรกล Nec,Adler, Kiienzle
มาเป็นระบบ Computer ATM ฝากถอนเงิน
ยังไม่มีการหักบัญชีเงินฝากยอดต่ำกว่า 2,000 บาท
มีสาขาแห่งหนึ่งมียอดเงินฝากบัญชีทอดทิ้งมากกว่า 4 แสนบาท

สาขาแห่งนั้นเจอพนักงานบัญชีหรือเงินฝาก
ทำรายการถอนเงินฝากจากบัญชีทอดทิ้งเข้ากระเป๋าตนเอง
โดยทะยอยแอบถอนเงินฝากดังกล่าวทีละเล็กทีละน้อย
โดยการทำใบรายการ Slip ขึ้นมาถอนเงินฝากดังกล่าว
บางครั้งลงทุนถ่ายสำเนาบัตรประชาชน/นักศึกษา
ที่เปิดบัญชีไว้นานแล้วทำการปิดบัญชีเงินฝาก
แล้วถอนเงินสดเข้ากระเป๋าตนเอง

แต่คราวหลังโลภมากขึ้นจนมีรายการสะสมผิดสังเกต
ธนาคารจึงส่งคนเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุว่า
ทำไม่จู่ ๆ รายการบัญชีทอดทิ้งมีการถอนเงินมากผิดปกติ
เพราะปัจจุบันมีการสุ่มตรวจจากรายงาน Computer
ด้วยการตั้งเงื่อนไข querry ต่าง ๆ เช่น 
รายการใดที่ diff จากปกติหรือผิดปกติ
จากฐานข้อมูลเดิมหรือข้อมูลเฉลี่ย

เช่น มีช่วงหนึ่งมีพนักงานเล่นพนันบอลล์กันมาก
บางคนทำหน้าที่เป็นปั้วบอลล์หรือรับฝากแทงบอลล์ให้คนอื่น
ธนาคารจะใส่ message พนักงานไว้ในบัญชีเงินฝากในระบบ Computer
แล้วให้พิมพ์รายงานเฉพาะพนักงานที่มีเงินฝากเกินกว่าหลักแสน
มียอดเงินฝากเคลื่อนไหวสูงผิดปกติ
ต่างกับเงินฝากพนักงานในสาขาหรือเฉลี่ยของธนาคาร
นำมาเรียงลำดับรายการแล้วสอบถามไปที่สาขา
หรือดูรายการ Transaction ย้อนหลังจากระบบ
ถ้ามียอดเงินฝากเข้าออกจำนวนมากผิดปกติ
สันนิษฐานได้เลยว่ามีอะไรผิดปกติแล้ว
จะต้องรีบดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด
เช่น ย้ายหน้าที่ทำงาน หรือ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน เป็นต้น
เพราะโอกาสทุจริตมีมากจากการเสียการพนัน
นี่คือสมมุติฐานและข้อสันนิษฐานหลักของธนาคาร

เลยมีคำถามที่คาใจพนักงานกันเองว่า
แล้วสมัยก่อนที่ยังไม่มีรายงาน Computer
มีการฉ้อโกงเงินจากบัญชีเงินฝากทอดทิ้งหรือไม่
มีหลักฐานว่าเคยมีแต่จับได้ในที่สุด
แต่ที่จับไม่ได้น่าจะมีเช่นกันในบางสาขาบางธนาคาร

บัญชีทอดทิ้งคือ รายได้เสริมของธนาคาร
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  ที่ตลาดย่านยาว พังงา
มีการเงินคึกคักเดินสะพัดมากมายยิ่งนัก
ธนาคารต่าง ๆ ต่างแห่กันไปเปิดสาขาที่นั่น
เพราะมีการขุดแร่ดีบุกจากใต้ท้องทะเลขึ้นมาขาย
มีรายได้และเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาลในแต่ละวัน
ในยุคนั้นที่แร่ดีบุกราคาดีมาก

การขุดแร่ดีบุกจากทรายใต้ท้องทะเล
จะใช้วิธีการดำน้ำลงไปขุด
ไม่มีชุดประดาน้ำแบบปัจจุบัน
แต่มีการขายหมวกเหล็กกลมมีหน้าต่างกระจก
ปิดกันไม่ให้น้ำเข้าไปในหน้าของคนดำน้ำ
แล้วต่อท่อสายอากาศติดกับหมวกดำน้ำ
ให้คนงานหรือเพื่อนร่วมงานลงไปในน้ำหาแร่ดีบุก
โดยการให้ลมด้วยการใช้ปั้มลมแบบที่ใช้ในร้านซ่อมจักรยานยนต์
ฉุดเครื่องยนต์ด้วยเครื่องเรือยนต์หรือเครื่องปั่นไฟฟ้า
อัดอากาศลงไปตามท่ออากาศในหมวกดังกล่าว
เรียกว่าทำกันแบบไทย ๆ ไม่ต้องมีงานวิจัย

เกิดปั้มเสียหรือปั้มชำรุดคนอยู่ใต้น้ำไม่ตายก็พิการ
บางรายตาถลนเลือดออกตามหูตามตา
เจอลูกค้าปาดังเบซาร์รายหนึ่งเคยไปทำงานแบบนี้
ปรากฎว่าหูตึงกว่าปกติเพราะแกเคยดำน้ำขุดแร่
ในบริเวณตลาดย่านยาวเขตนี้มาก่อน
แกเล่าว่าเพื่อนแกตายไปหลายคนเหมือนกัน
เพราะปั้มอากาศไม่ทำงานกับเพราะความดันในน้ำ
จากการต้องรีบดำน้ำขึ้นบนเรืออย่างรวดเร็ว
เวลาขุดได้แร่ดีบุกหรือหลบหนีพายุ/คนมารีดไถ
หรือเวลาไม่มีอากาศอัดลงในหน้ากากดำน้ำ
เพราะบางครั้งเครื่องยนต์ดับหรือวาว์ลเสีย
เรียกว่าคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์หรือเรียนรู้
แบบนักประดาน้ำที่ต้องเรียนต้องฝึกฝนกันนาน
ไม่ตายก็พิการมามากมายหลายคนแล้ว

การที่มีคนตายจำนวนมากในตลาดย่านยาว
เพราะยุคนั้นมีคนแห่มาจากหลายภาคหลายแห่ง
ต่างแห่แหนกันมาหากินจากการดำน้ำขุดแร่ดีบุก
หรือค้าขายบนบกให้คนที่ทำมาหากินในท้องทะเล
มีการยิงกันฆ่ากันแย่งชิงกันเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน
เพราะเงินสดสะพัดกันมากในช่วงนั้น

ทำให้มีตำนานเล่าขานกันมานานแล้วว่า
มีเงินฝากทอดทิ้งในธนาคารที่ตลาดย่านยาว
รวมทุกธนาคารหลังจากที่ตลาดย่านยาววายไปแล้ว
มียอดเงินฝากทอดทิ้งไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ในสมัยเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน
พอพูดไปพูดมาบางคนว่า 100 กว่าล้านบาท
เพราะคนที่มาฝากเงินธนาคารไม่ตายในท้องทะเลก็บนบก

ส่วนมากมาจากต่างจังหวัด
หรือดินแดนที่ห่างไกลในประเทศไทย
โดยบรรดาญาติพี่น้องครอบครัวไม่รู้ว่าฝากเงินไว้
หรือถ้ารู้ก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อถอนเงินอย่างไร
ไปถามธนาคารก็ไม่บอกอ้างว่าความลับลูกค้า
รวมทั้งไม่ใช่หน้าที่ธนาคารที่จะแจ้งเรื่อง
การมีบัญชีเงินฝากไปยังบ้านลูกค้า
ถ้ายังมีหลักฐานเช่น สมุดเงินฝากหลงเหลือไว้
ธนาคารมักจะบอกให้ไปแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
ยุ่งยากมาก ๆ เงินฝากไม่มากก็เลยปล่อยเลยตามเลย
แบบชาวบ้านบางคนก็ไม่กล้าติดต่อธนาคาร 
หลาย ๆ คนหลาย ๆ บัญชีนาน ๆ เข้า
ธนาคารก็งาบเป็นรายได้ธนาคารไปในที่สุด

ในยุคนั้นแม้ว่าจะมีคำสั่งศาลหรือหนังสือจากทายาท
ขอให้ธนาคารตรวจสอบเงินฝากผู้ตาย
แต่ระบบการเก็บข้อมูลยังเป็นสมุดเล่มใหญ่ ๆ เขียนด้วยปากกา
ถ้าพนักงานจำชื่อลูกค้าได้ก็แล้วไป
เกิดจำไม่ได้ขี้เกียจไปค้นหารายชื่อ
มักจะบอกปัดไปว่าไม่มี หมดเรื่องไป ไม่ต้องทำงาน
หรือเรียก/ด่ากันภายในว่า  โง่แล้วสบาย  ฉลาดแสนวุ่นวาย

แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นระบบ Computer
แต่ในยุคแรก ๆ ยังเป็นภาษาอังกฤษ
ค้นหาก็ยาก บรรทัดก็ไม่ครบ ขาด ๆ แหว่ง ๆ
สะกดเป็นไทยก็ตลกชะมัดบางรายชื่อ
กว่าจะเป็นระบบภาษาไทยเหมือนทุกวันนี้
ต้องใช้เวลานานมากเพราะยุคนั้น
การประมวลผลคอมพิวเตอร์ช้าส่วนหนึ่ง
ระบบเครือข่ายสื่อสารยังติด ๆ ดับ ๆ
รวมทั้งภาษาไทยมี 4 บรรทัด 
สระล่าง(อุ อู)  พยัญชนะ สระด้านบน วรรณยุกต์ 
ประมวลผลยาก/ช้ากว่าภาษาอังกฤษบรรทัดเดียว

เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดที่เขาศูนย์ (ทานพอ)
จังหวัดนครศรีธรรมราช  ไม่แตกต่างกัน
แต่ยอดเงินฝากไม่ชัดเจนมากนัก
จำคร่าว ๆ ว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทที่ธนาคารแห่งหนึ่ง
เพราะในช่วงมีการขุดแร่กันในใต้ดิน
มีการยิงกันทิ้งในหลุมขุดแร่ที่นั่น
เผลอ ๆ หลุมไหนดีมีแร่มากกว่าหลุมอื่น
มักจะมีการเรียกค่าคุ้มครองหรือขอหุ้นลม
ถ้าไม่ยอมหรือต่อต้านอาจจะมีการยิงทิ้งแย่งหลุม
หรือเผลอ ๆ มีการโยนระเบิดลงไป
ให้ตายในหลุมนั้นก่อนแล้วค่อยเข้าไปขุดวันหลัง

เรียกกันว่าพอ ๆ กับสมัยคาวบอยอเมริกันบุกเบิกฝั่งตะวันตก
ใครดีใครได้  ใครมีเพื่อนพ้องน้องพี่พรรคพวกมาก
มีหูมีตามีเยอะ มีคนคอยกระซิบบอก มีคนคุ้มกันก็อยู่รอดได้
ใครตัวเปล่าเล่าเปลือยหรือพรรคพวกน้อย
มีสิทธิ์ที่จะตายหรือถูกปล้นกลางทางมากเข่นกัน

เหมือนหนังสือกำลังภายในสมัยก่อนที่มักเขียนว่า
ผิดของเจ้าไม่มีหรอก  แต่ผิดที่ครอบครองของดีของหายาก
ที่ทุกคนทั้งแผ่นดินแสวงหาและอยากเป็นเจ้าของสิ่งนั้น
ข้าเลยต้องแย่งชิงจากเจ้า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็อุบาย
ไม่ได้ด้วยอุบายก็ด้วยความตายของเจ้า

เรื่องคาวบอยในเขาศูนย์รับรู้จากหนังสือยุคหนึ่ง
จากเพื่อนที่เคยไปทำงานที่นั่นสักพัก
ไม่ถึงอาทิตย์ต้องรีบกลับมาแบบกลัวตายเหมือนกัน
ส่วนญาติฝ่ายภริยามีศักดิ์เป็นตาคนหนึ่งที่เคยไปขุดแร่ที่นั่น
แต่แกไม่ยอมบอกเล่าเรื่องราวบนเขาศูนย์แต่อย่างใด

ญาติคนนั้นเป็นฝ่ายตาอยู่ที่บางแก้ว จังหวัดพัทลุง
เป็นเรื่องแปลกที่คนเราบางคนไม่รู้จักกัน
แต่ไปพบกันเจอกันกับสนิทสนมรักใคร่กัน
คู่นี้เจอกันที่เขาศูนย์กลายหุ้นส่วนกัน
แล้วผูกพันสนิทสนมกันยิ่งกว่าญาติพี่น้อง

ลูกหลานแกเล่าให้ฟังว่า
ตอนแกไปขุดแร่ใหม่ ๆ ที่นั่นไปรู้จักวัยรุ่นคนหนึ่ง
รุ่นน้องแกร่วมสิบปีขึ้นไปทีเดียว
ไม่รู้ถูกชะตากันอย่างไรเลยคบหากัน
แล้วร่วมกันลงทุนขุดแร่ที่เขาศูนย์
พอมีรายได้ที่คิดว่าเพียงพอหรือรวยแล้ว
ก็แยกย้ายกันไปทำมาหากินที่ถนัด

ฝ่ายตาก็ซื้อที่ดินปลูกสวนยางพารา
แล้วส่งลูกเรียนต่อจนจบมหาวิทยาลัย
ไปทำงานราชการ/รัฐวิสาหกิจมีรายได้เลี้ยงชีพได้ทุกคน
ส่วนวัยรุ่นหุ้นส่วนกับแกคนนั้น
ก็ไปซื้อสวนยางพาราแล้วทำมาหากินตามเรื่องตามราว
ทั้งคู่ต่างสนิทสนมกันมาก
มักไปมาหาสู่และพบปะพูดคุยกันสม่ำเสมอ
ผมเคยเจอแกครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
แกผ่านมาทางสทิงพระรู้ว่าตาอยู่ที่นั่น
เลยแวะเยี่ยมตาที่มาเยี่ยมญาติที่นั่น
เห็นนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมมาก
สุดท้ายแกมาบอกลาตาที่งานศพตาที่พัทลุง
ด้วยวัยที่น้อยกว่ากันมากแต่นับถือกันว่าเป็นยิ่งกว่าเกลอ
ลูกหลานของตาเลยให้ความเคารพเหมือนญาติคนหนึ่ง
เพราะกิจการฐานะของตามาจากการหุ้นส่วนกับวัยรุ่นคนนี้ในอดีต

ส่วนเงินฝากอีกประเภทหนึ่งที่ธนาคารชอบๆๆๆ มาก ๆๆๆๆ
คือเงินฝากที่ทางการสั่งอายัดธุรกรรมทางการเงิน
เพราะเหตุผลต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ตราบใดที่ยังไม่มีคำสั่งศาลหรือคำสั่งทางการ
ให้โอนเงินเข้าเป็นเงินกองกลางของหลวง
ยอดเงินฝากดังกล่าวธนาคารเอาไปปล่อยกู้รายวัน
ได้อย่างสะดวกสะบายกว่าเดิม
เหมือนอย่างเงินฝากของอดีตนายกรัฐมนตรีรายหนึ่ง
ที่มียอดเงินฝากหลักสามหมื่นกว่าล้านบาท
ถูกอายัดไว้หลายปีก่อนยึดเป็นของหลวง
ธนาคารปล่อยกู้รายวันได้อย่างสบาย ๆ เหมือนเพลงของ Bird  เลย

มีเรื่องหนึ่งคือ เงินฝากจำนวนมาก ๆ
ธนาคารมักจะต่อรองไม่ให้ดอกเบี้ยเงินฝาก
หรือให้ดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำมาก ๆ 
เคยมีสมัยหนึ่งที่  ทุกธนาคารต้องมีการปล่อยสินเชื่อเกษตร
ตามข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทยตังแต่ปี 2518
ถ้าจำไม่ผิดขั้นต่ำ 15% ของยอดเงินฝากเฉลี่ยของสาขา
ถ้าปล่อยไม่ได้ต้องนำเงินก้อนที่ปล่อยสินเชื่อไม่ได้
ไปฝากที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส)

มีช่วงหนึ่งยุคก่อนปี 2530  มีเรื่องเล่าขานแต่จริงว่า
มีผู้จัดการ ธกส. แถวสามจังหวัดชายแดน
ได้มีการเจรจากับหลายธนาคาร
ขอฝากเงินจำนวน 2 พันกว่าล้านบาท
เพราะปล่อยสินเชื่อไม่ได้เลย
หรือถ้าปล่อยสินเชื่อได้ก็มีความเสี่ยงหนี้สูญสูง
หลายธนาคารบอกฝากได้แต่ไม่ให้ดอกเบี้ย

เพราะเปรียบเสมือนไถเบี้ยแป๊ะ
แล้วมาฝากกินดอกเบี้ยกับแป๊ะ
รวมทั้งเงินฝากก้อนใหญ่ ๆ 
ถ้ามีการถอนเงินฝากออกไปทั้งหมด
จะมีปัญหากระทบกับสภาพคล่องของธนาคารอย่างรุนแรง
ต้องสำรองสภาพคล่องกันอย่างหนัก
หรือระดมเงินฝากกันครั้งใหญ่
เพื่อชดเชยเงินฝากก้อนใหญ่ที่ขาดหายไป

ส่วนเรื่องที่ว่า  ทำไมธนาคารชอบปล่อยสินเชื่อรายใหญ่
แม้ว่าจะได้ดอกเบี้ยต่ำติดดินหรือน้อยมาก
เมื่อเทียบกับการปล่อยสินเชื่อรายย่อยหรือลูกค้ารายเล็ก ๆ
ที่เก็บกันแพง ๆ หรือเต็มแม็ก Maximum

มีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ว่า
ร้านค้าขายก้วยเตี๋ยวต้องขายวันเป็นร้อยชามขึ้นไป
จึงจะได้กำไรวันอย่างต่ำสองพันบาทขึ้นไป
แต่ถ้าขายรถยนต์หนึ่งคันในแต่ละเดือน
จะมีรายได้มากกว่าขายก้วยเตี๋ยวทั้งเดือน
การบริหารจัดการก็ยุ่งยากน้อยกว่า
การเก็บเงินเก็บทองก็ง่ายกว่า
แม้ว่าจะมียอดขายน้อยกว่า

หรือเรียกว่า กำไรน้อย กำไรมาก
ขายก้วยเตี๋ยวกำไรน้อย แต่หลาย ๆ รายก็ได้กำไรมาก

กำไรมาก  กำไรน้อย
ขายรถยนต์หนึ่งคันได้เงินได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ
แต่ไม่ใช่ขายรถยนต์ได้ทุกวัน เป็นต้น

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนธนบัตรรุ่นเก่า ๆ




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2557
2 comments
Last Update : 24 มกราคม 2558 22:51:04 น.
Counter : 3379 Pageviews.

 

 

โดย: เสลาสีม่วง 15 ธันวาคม 2558 13:08:44 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะ สนุกมาก ชอบอ่านค่ะ
คำพูดเลือนไป ตัวหนังสือคงอยู่ (จำเขามา)

 

โดย: ริสา IP: 212.47.252.101 18 สิงหาคม 2560 1:44:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.