พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2560 โดย สำนักพิมพ์ บางรัก

ราคาหน้าปกชุดละ 680 บาท จำนวน 470+422 =892 หน้า

รายละเอียด

ภูเมฆ มีพี่สาวคนละพ่อชื่อ มาตาลดา เขาเกิดและโตที่อเมริกาซึ่งเป็นประเทศของพ่อแต่พูดภาษาไทยได้ดี

เขาเป็นคนพิเศษนั่นคือพูดและฟังกับสัตว์ได้ทุกชนิดได้ตั้งแต่เกิดดังนั้นเขาจึงมีเพื่อนมากมายที่ไม่ใช่มนุษย์

เมื่อเติบใหญ่ภูเมฆทำงานเป็นช่างภาพของนิตยสารสารคดีระดับโลกทำให้เขาได้มีโอกาสเดินทางไปทั่วโลก

และวันนี้...เขาเดินทางมาทำงานที่ประเทศของแม่

เรื่องราวความรักแสนละมุนใจก็เกิดขึ้น...เมื่อเขาได้พบเจอกับสาวร่างเล็กที่มีนามว่าลินจง

โดยมีสุนัขคู่หูและนางเหมียวไฮโซ พี่สาวแสนซึนและมิ่งมิตรมากมายมาร่วมในบันทึกการเดินทางครั้งนี้ด้วย

"ไม่เหงาเอาเท่าไรครับ... ผมภูเมฆขอถาม"

เมาท์มอยด์กัน(นะ)

ภูเมฆ จะเรียกว่าเป็นภาคต่อจาก มาตาลดา ก็ได้ค่ะ เพราะ ภูเมฆเป็นน้องชายต่างพ่อของมาตาค่ะ เป็นลูกชายของแม่มลฤดีกับสามีชาวอเมริกันผลิตผลที่ได้มาจึงเป็นหนุ่มลูกครึ่ง สูงยาวเข่าดี และดาเมจขั้นสุดค่ะคุณ แต่ด้วยอาจจะเป็นพันธุกรรมทางสายเลือดข้างแม่อันรุนแรงรึเปล่าก็ไม่รู้นิสัยอ้อร้อแบบเพี้ยนๆจึงไม่ต่างจากพี่สาวอย่างมาตาซักเท่าไหร่ ...

ภูเมฆ ของเรานอกจากออร่ากระจายในฐานะช่างภาพหนุ่มลูกครึ่งพี่แกยังมีความสามารถพิเศษอันเลอค่า นั่นคือสามารถพูดคุยสื่อสานกับสัตว์ได้ทุกชนิด#นี่มันดอกเตอร์ดูลิตเติ้ลชัดๆ และความสามารถนี้ถือเป็นผลดีทำให้ชายหนุ่มเป็นช่างภาพดาวรุ่งที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของสัตว์นานานชนิดผ่านภาพถ่ายได้อย่างลึกซึ้งให้กับนิตยสารชื่อดังระดับโลกจนเป็นที่กล่าวขวัญ

โปรเจคล่าสุดของภูเมฆก็เช่นเดียวกันเขากลับมาเมืองไทยบ้านเกิดของแม่พร้อมโปรเจคใหม่กับการถ่ายภาพและนำเสนอชีวิตหมาจรจัดในเมืองไทยจนเขาได้มีโอกาสได้พบกับ หนูลิน หรือ ลินจง ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ภายนอกเธอช่างมืดมนเก็บเนื้อเก็บตัวหากแต่ถ้าเป็นรื่องของหมาแมวแล้วละก็ เธอจะเป็นดั่งนางฟ้าของพวกมันอย่างแท้จริง

สำหรับ ภูเมฆ ชะนีรู้สึกว่ามันไม่พีคเท่ามาตาลดานะ ถ้าจะให้อธิบายก็คง ความรู้สึกมันไม่ว้าววววเท่ามาตาละมั้งแต่ยังเป็นนิยายสบายๆที่ตีแผ่ปัญหาสังคมหลายๆด้านได้อย่างชัดเจน เจาะจง ตรงประเด็นไม่ว่าจะเป็นปัญหาสัตว์จรจัด ที่เกิดจากความไม่รับผิดชอบของคนเลี้ยง ปัญหาครอบครัวการเลี้ยงดู การเอาใจใส่คนในครอบครัวแบบผิดๆ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมเลี้ยงลูกการดูแลเอาใจใส่คนเฒ่าคนแก่ในบ้าน การมอบให้แต่วัตถุแต่หลงลืมว่าควรใส่ใจด้วยในเวลาเดียวกันหรือแม้แต่ปัญหาใกล้ตัวสุดๆ อย่างปัญหาสังคมโซเชียล บลาๆนักเขียนจัดทุกประเด็นร้อนเข้ากับยุคสมัยใส่มาให้เราเยอะเชียวค่ะทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้นิยายเรื่องภูเมฆเป็นอีกหนึ่งงานเขียนที่ช่วยจรรโลงใจให้แง่คิดเหมือนงานหลายๆเล่มๆจากปลายปากกาของณัฐณรา

จุดที่ติดใจในนิยายเรื่องนี้เห็นจะเป็นจุดเด่นจุดขายของนิยายเนี่ยล่ะแก ก็เรื่องอภินิหาริย์ของภูเมฆขา Talk พ่อหนุ่มคนนี้เมาท์มอยด์หอยกาบไปเรื่อย อืม...มันออกจะแฟนตาซีไปซักหน่อย555+ อาจจะด้วยความ Real ของนิยายและบริบทโดยรวมพอมาเจอแฟนตาซีหมาจ๋า ของภูเมฆมันเลยดูผิดที่ผิดทาง แต่ถามว่าถ้าไม่คิดอะไร อิฉาก Talk กับหมาแมวมันก็น่ารักดีนะ เพราะหมาดำ กับ เหมียวดอกนี่จัดว่าฮาจริงๆ เป็น 2 ตัวละครที่ขโมยซีนสุดๆ

โดยรวม ภูเมฆ ยังเป็น ณัฐณราที่เรารักและประทับใจในงานเขียนของเธอ ยังคงใส ยังคงคลีน และ Feel Good แบบสุดๆ อ่านแล้วรักโลกมากๆเป็นนิยายดีงามทีไม่เป็นพิษภัยต่อสังคมจริงๆ ควรจะมีไว้ให้ลูกเล็กเด็กแดงได้อ่านนะหรือป้าๆ อย่างเราๆก็อ่านได้ พักสมองเบาสบายดีค่ะ