ชื่อหนังสือ :ธารานิรมิต ผู้เขียน : สุชาคริยา

ฉบับพิมพ์ครั้งแรก  พฤษจิกายน ๒๕๕๒ โดย สำนักพิมพ์อินเลิฟ

ราคาหน้าปก  ๒๙๙ บาท จำนวน ๔๑๑ หน้า

ISBN: ๙๗๘-๖๑๖-๗๑๙๐-๒๒-๘

ปกหลัง

คืนนี้ข้าหนาว                  ข้าอ้างว้างเดียวดาย

คืนนี้ข้าฝืน                        สุดสะอื้นและอาลัย

    คืนนี้ข้าเศร้าใจ                          คนรักข้าจากไป ไม่กลับคืน

ใครจะมีรัก...และภักดี เท่าตัวข้านี้...ผู้บูชารักขื่นขม

ใครเล่ายอมโศกตรม...ปวดร้าวเกินทน...

รอหนึ่งคนคู่เคียง...

......................

ความสุข...เริ่มต้นยังริมฝั่งธาราสัตย์สาบานที่มั่นคงจากหนึ่งหัวใจ-จรด-หัวใจอีกดวงความตายจากอดีตชาติ...อาจพรากได้เพียงสังขาร แต่หนึ่งหัวใจจะสงบนิ่ง มั่นคง ณที่เดิม กี่ภพ กี่ชาติ กี่บาทวิถี ผืนฟ้าอาจเปลี่ยนสี แต่หนึ่งใจจะยังคงมั่นรอคอย....ติดตาม...คู่เคียงจวบสิ้นกาลนิรันดร์

เนื้อเรื่องย่อ(เอง)

การขุดค้นพบคัมภีร์โบราณสมัยสุโขทัยได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการโบราณคดีของไทยเนื่องด้วยความสมบูรณ์ของคัมภีร์ดังกล่าวที่ยังคงสภาพงดงามราวกับไม่เคยข้ามผ่านกาลเวลามานับร้อยปี“ติชรินทร์” นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งผู้เป็นหัวหน้าทีมในการขุดค้นตัดสินใจมอบคัมภีร์ล้ำค่าให้แก่สำนักงานหอสมุดแห่งชาติหวังจะให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษาความเป็นมาของคัมภีร์เล่มนี้

ณ ที่แห่งนี้ ชายหนุ่มได้พบกับ “อลินา”เจ้าหน้าที่สาวของสำนักงานหอสมุดฯ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชายหนุ่มก็มีเหตุให้พบเจอกับภาพหลอนที่แวบเข้ามาในสมองของเขาภาพชายหญิงสี่คู่ที่มีความรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง การพลัดพรากจากลาที่ล้วนแล้วแต่สร้างความปวดร้าวในหัวใจของเขาอย่างเกินจะทานทนและที่ยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวนามว่า “อลินา”ก็มีเหตุเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ประหลาดและพบเจอกับภาพหลอนไม่ต่างจากเขา ทั้งสองตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อค้นหาความจริงภายใต้อาถรรพ์ของคัมภีร์โบราณ ความชิดใกล้ก่อเกิดเป็นความรักและความผูกพันจนแม้แต่กาลเวลาต่างภพชาติก็ไม่อาจแยกจากดวงใจรักมั่นทั้งสองดวงให้เปลี่ยนผันไปตามกระแสของกาลเวลาได้เลย

“ไม่มีคำว่าบังเอิญในโลกนี้โดยเฉพาะความรัก

เพราะบุพเพสันนิวาสจะชักพาให้คนสองคนมาพบกัน”

เมาท์มอยด์กัน(นะ)

นิยายเก่าที่กำลังจะถูกเอามาเล่าใหม่Pd ก็เลยถือเป็นฤกษ์ดีหยิบนิยายในดวงใจอีกเรื่องที่อยู่ในกรุขึ้นมาเขียนรีวิวซะเลย “ธารานิรมิต” ตีพิมพ์ครั้งแรกกับสนพ.อินเลิฟ ตั้งแต่ปี๒๕๕๒ โป้นนนน แต่ถ้าบวกอายุที่ Pdได้อ่านจากเวบ Dek-Dก็นับย้อนไปอีก ๑๑ เดือน นานอยู่เหมือนกันนะคะ

คุณอ้อย หรือในชื่อนามปากกา “สุชาคริยา”(คนมักจะจำสับสนกับ ชาครียา คนละท่านกันนะคะ) ค่อนข้างพิถีพิถันกับงานชิ้นนี้พอสมควรเธอใช้เวลาเตรียมข้อมูลนานมาก จำได้ว่าสมัยนั้นไม่ค่อยจะมีคนเขียนนวนิยายที่อ้างอิงยุคสมัยสุโขทัยสักเท่าไหร่ส่วนมากที่เราจะเห็น ๆ กัน ก็จะเป็นย้อนยุคช่วงอยุธยา หรือ รัตนโกสินทร์ เสียเป็นส่วนมากแต่คุณอ้อยเธอเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่กล้าจะเขียนงานในช่วงสุโขทัย และที่ Pd ประทับใจสุดๆ เห็นจะเป็นสำนวนภาษาการสนทนาของคนยุคพ่อขุนที่คุณอ้อยเธอบรรยาย หลงรักเลยค่ะ Pd ลองยกตัวอย่างให้ลองอ่านดูซักย่อหน้าหนึ่งละกัน

“พี่บอกแม่วันเข้าหอไว้อย่างใด แม่จำมิได้ฤา... พี่บอกแม่ว่า เมื่อใดแม่เจ็บพี่จักเจ็บตาม เมื่อใดแม่สุข พี่จึ่งสุขใจแต่แม่มิรู้ดอกว่าพี่ช้ำใจเพียงใดที่แม่เสือกใสพี่ แล้วแม่มาเจ็บปวดเพียงลำพังบัดนี้วาจาพี่แม่จุ่งแจ้งใจ สัจจะของพี่แม่จุ่งเห็นพี่กระทำอกพี่จักรับความเจ็บช้ำของแม่แต่ผู้เดียว อกพี่จักมีเพื่อแม่แต่ผู้เดียวจนกว่าเราตายจากกัน จักบ่มีหญิงใดได้อกพี่เป็นแม่นมั่น น้ำคำพี่นั้นผีเทพดาทั้งหลายจุ่งเป็นพยานจากนี้ไปชั่วกาล ชีวิตพี่จักมีแต่แม่แก้วผู้เดียว จักรักแม่แต่ผู้เดียวจักรักแม่แต่ผู้เดียว จักปัดเป่าทุกข์ทั้งหลายของแม่ด้วยตัวพี่แต่ผู้เดียว”

จริง ๆมีบทที่สำนวนงามงดกว่านี้เยอะ แต่ Pd อ่านย่อนี้แล้วชอบที่สุดอ่านแล้วแล้วซึ้งกับคำมั่นสัญญารักของพี่เจ้าเจ้าข้าซะเหลือเกิน ส่วนการดำเนินเรื่องก็จะตัดไปมาทั้งชาติปัจจุบัน และชาติก่อน มีทั้งหมดสามภพสามชาตินะคะชาติที่สองสะเทือนซางมาก รักมากแต่แสดงออกไม่ได้ว่ารักกันแค่ไหน แล้วมาบอกเอาตอนกำลังจะตายจากกันอ่านครั้งแรกน้ำตาซึมเลยค่ะ คุณอ้อยเขียนรวมได้หลายรสชาติมาก เปิดเรื่องมาแอบน่ากลัวด้วยคำสาปและอาถรรภ์เลยมาหน่อยก็แอบหวาน กลาง ๆ เรื่องก็เศร้าซะน้ำตาแตก แต่สุดท้ายก็คลี่คลาย จบแบบ Happy Ending ถ้าเป็นตำซั่วก็ขอบอกเลยว่านัวมากๆ

ถ้าใครเป็นชมชอบนิยายทะลุโลกเหมือนPd ก็อยากจะให้ได้ลองอ่านกันค่ะ ธารานิรมิตไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ

Pd แปะรูปปกใหม่ที่ตีพิมพ์ครั้งที่สองกับสถาพรมายดรีมให้นะคะ กำหนดออกเดือนมิถุนายนนี้ล่ะค่ะแต่เหมือนจะยังไม่ได้เอาขึ้นหน้าเวบ และยังไม่ได้ระบุราคาไม่แน่ใจว่ามีการแก้ไขกำหนดการอะไรหรือเปล่า ลองเช็คข่าวกันอีกทีนะคะ

Prophet Doll

๐๓มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๗