จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มกราคม 2549
 
All Blogs
 

ระหว่างการเดินทาง

1



ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมมีโอกาสได้เดินทางไกล การเดินทางที่ขยับขับเคลื่อนจากตรงนี้ไปตรงโน้น คืนนี้นอนบ้านเพื่อนบ้าง คืนต่อไปนอนโรงแรมหรือนอนรีสอร์ทบ้าง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและสถานการณ์นั้นๆ นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมเดินทางอยู่นอกบ้านยาวนาน

การย้ายที่นอนอยู่บ่อยๆนั้นแตกต่างจากการไปอยู่นิ่งๆที่บ้านพักต่างจังหวัด การไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านต่างจังหวัดคราวละนานๆนั้นจะเกิดความเคยชิน เพราะตื่นขึ้นมากิจวัตรประจำวันก็จะเหมือนๆเดิม อะไรอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น ออกไปซื้อกับข้าวที่ร้านไหนก็ร้านนั้น ผู้คนที่ได้พบเห็นก็ค่อนข้างซ้ำหน้า

ในแต่ละวันจึงดูว่าคล้ายๆกันทุกวันจนแทบแยกไม่ออกว่าวันไหนเป็นวันไหน แต่การออกเดินทางไกลและนอนไม่เป็นที่อย่างนี้ สำหรับผมแล้วทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตเพิ่มขึ้น ได้เห็นอาชีพที่แตกต่างของผู้คนต่างถิ่นรวมถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป ได้เห็นธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ซึ่งแปลกไปจากที่คุ้นเคย ทำให้นึกถึงคำพูดของนักเขียนใหญ่ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่กล่าวไว้ว่า “การเดินทางคือสายตาของนักเขียน”

ผมเริ่มต้นเดินทางพร้อมกับลูกและภรรยาเพื่อไปฉลองปีใหม่ที่บ้านแม่ยายที่ตะกั่วป่า จังหวัดพังงาตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2548 จากนั้นผมก็ปล่อยให้ลูกและภรรยาเดินทางกลับกรุงเทพฯสองคน ส่วนผมขออนุญาตเดินทางไปหาเพื่อนๆแถบนครศรีธรรมราช เป้าหมายคือไปบ้านกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ (นักเขียนรางวัลซีไรต์คนหนึ่ง) ที่ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติที่หุบเขาฝนโปรยไพร อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช

ผมเห็นชีวิตกับการงานของเขาดำเนินไปด้วยกันอย่างเรียบง่ายและงดงาม คู่ชีวิตของเขาคือนักเขียนสาวอุรุดา โควินท์ ทั้งสองคนเลือกเดินบนเส้นทางถนนนักเขียนด้วยกัน ผมนอนซึมซับบรรยากาศอยู่สองคืนทำให้ได้รับพลังอย่างประหลาดเมื่อได้พูดคุยกับคนพันธุ์เดียวกัน

กนกพงศ์ พาไปคารวะพี่จำลอง ฝั่งชลจิตรที่บ้านในเมืองนครศรีธรรมราช ถึงแม้สภาพที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกัน เพราะบ้านพี่จำลองเป็นทาวน์เฮ้าส์เป็นชีวิตของคนเมือง แต่สิ่งที่ทั้งสองคนไม่แตกต่างกันก็คือความเป็นนักเขียนและการเลือกเดินทางตามสิ่งที่ตัวเองเชื่อ

สิ่งที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผมเป็นพิเศษก็คือเมื่อพี่จำลองหยิบต้นฉบับยาว 197 หน้า กระดาษขนาด A4 (ซ้ำยังตัวพิมพ์ขนาด 14) ให้ผมดู มันเป็นนิยายแฟนตาซีที่เขียนโดยลูกสาววัย 12 ปีของเขา ซึ่งใช้เวลาเขียนเพียงสองอาทิตย์เท่านั้น

ระหว่างพักอยู่ในอำภอเมือง นครศรีธรรมราชนั้น ผมได้รับการดูแลให้ความสะดวกในเรื่องต่างๆจากเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นนักเขียน ไม่ว่าจะเป็นพี่อุทัยกับคุณแต๋วคู่ชีวิตซึ่งค้าขาย(ส่ง)พริก และคุณจอยสาวสวยตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์นูสกิน (NUSKIN) เธอเป็นเจ้าของบริการห้องน้ำในตลาดกลางรวมพืชผล(หัวอิฐ)ที่เต็มใจบริการให้ผมเดินทางไปไหนมาไหนโดยสะดวกด้วยรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วีป้ายแดงของเธอ ผมต้องขอขอบคุณทุกๆคนด้วยใจจริง

จุดหมายปลายทางต่อมา เพื่อนที่ทำงานเอ็นจีโอชื่อ เงาศิลป์ มีความตั้งใจอยากให้ผมเดินทางไปยังเกาะตาครุฑเพื่อจัดกิจกรรมงานวันเด็กที่เกาะตาครุฑกับเธอด้วย เธอคนนี้เป็นนักเขียน และเป็นอะไรต่อมิอะไรมาสารพัด เมื่อก่อนนี้เราเคยแต่พบปะกันตามงานสังสรรค์ต่างๆในเมืองหลวง เรารู้จักกันเพียงผิวเผินเท่านั้น แต่ครั้งนี้เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกันมากมายหลายเรื่องจึงทำให้รู้จักกันในแต่ละด้านมากขึ้น

การไปร่วมกิจกรรมกับเธอครั้งนี้มีข้อแม้ว่าผมต้องมารอเธออยู่ที่หมู่บ้านจันดี กิ่งอำเภอช้างกลาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองนครนัก เพื่อที่จะได้มาพักซึมซับบรรยากาศภูเขาทางแถบบ้านของเธอบ้าง เธอส่งผมมาพักที่ “เขาเหมนรีสอร์ท” (ทางเข้าอยู่ทางวัดมะนาวติดกับตลาดคลองจันดี)ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่หลานๆ ของเธอดูแลอยู่

การสนทนากับเธอเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของเธอมากขึ้น ผมรู้สึกทึ่งกับการเดินทางไปในที่ต่างๆและการงานของที่เธอได้ทำมา ผมว่าชีวิตของเธอสามารถเขียนเป็นหนังสือได้หลายเล่มหากเธอต้องการ เพราะประสบการณ์ต่างๆที่เธอเล่าให้ฟังนั้นถือว่าเป็นวัตถุดิบชั้นดีทีเดียว

ปัจจุบันนอกจากจะทำงานให้ความช่วยเหลือชาวบ้านหลังคลื่นยักษ์สึนามิในเขต 6 จังหวัดแล้ว เธอยังทำห้องอบสมุนไพรที่บ้านเพื่อให้ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพได้มาใช้บริการ โดยที่ไม่ได้กำหนดราคาค่าอบสมุนไพรว่าเป็นราคาเท่าไร เธอให้ผู้ใช้บริการหย่อนเงินไว้ในหม้อดินตามความสมัครใจ เธอบอกเหตุผลที่ทำแบบนี้ว่าเพราะสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นี้ขาดหายไปจากสังคมไทยนานแล้ว เธออยากให้มีเหลือเอาไว้บ้าง

สี่คืนที่พักอยู่บนเขาเหมนสีรอร์ท ผมได้อยู่กับบรรยากาศเงียบสงบ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวชอุ่มของภูเขา และน้ำใจแสนดีของเจ้าของที่พัก

การเดินทางต่างบ้านต่างเมืองครั้งนี้ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ ทั้งประสบการณ์ภายนอกที่มองเห็นด้วยตาได้ยินด้วยหูและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ เรียกว่าการเดินทางครั้งนี้ผมมีแต่ “ได้รับ” จากเพื่อนฝูงรอบข้างทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พักหรือการเดินทาง ผมสัมผัสได้ว่ายามที่เป็น “ผู้รับ” จากผู้ที่เต็มใจให้นั้นก็เป็นความสุขชนิดหนึ่ง แม้ไม่อาจเทียบได้กับการเป็น “ผู้ให้” ก็ตาม

2/


เมื่อนึกถึงการงานของเพื่อนๆทำให้ผมนึกถึงหนังสือชื่อ “เป็นเรื่องเล่าที่สอนให้เราเติบโต” มีชื่อภาษาอังกฤษเก๋ๆว่า Once Upon a time เป็นการรวมผลงานระหว่างพ่อกับลูกสาววัย 6 ขวบ พ่อชื่อรักษ์ มนัญญา ลูกสาวชื่อจิรภิญญา สมเทพ ชื่อเล่นของเธอน่าเจียวกับไข่มาก คือ “หอมหัวใหญ่”

พ่อก็เขียนเรื่องของพ่อ ลูกสาวก็เขียนเรื่องของลูกสาวและเป็นผู้วาดภาพระบายสีประกอบเรื่องด้วย

เป็นเรื่องเล่าธรรมดาๆในชีวิตครอบครัวของพ่อแม่ลูก แต่ผมกลับรู้สึกว่าแต่ละเรื่องไม่ธรรมดาเลย ผมเคยอ่านบทกวี เคยอ่านเรื่องสั้นของเขามาไม่น้อย แต่ผมกลับชอบงานเขียนที่เล่าเรื่องแสนจะธรรมดาของเขาชุดนี้ เป็นเรื่องจริงที่เล่าอย่างเรียบง่ายแต่มีมุมมองที่แหลมคม ความคมในความหมายของผมบางทีอาจไม่ได้อยู่ที่การเล่นคำหรือสำนวนโวหารหรอก แต่ผมว่าความคมเกิดจากการมองเห็นแง่มุมของชีวิตมากกว่า แม้แต่คำนำผมว่ายังคมเลย ลองอ่านดูสิ...

“การที่ผมได้เริ่มเขียนงานชุดนี้ ผมเริ่มเข้าใจบางสิ่งบางอย่างมากขึ้น ทำให้ผมเขียนงานชุดนี้ได้เรื่อยๆ เขียนแล้วก็กลับมาอ่าน ทบทวนและตรวจสอบตัวเอง บางครั้งก็มองเห็นความผิดพลาดบางอย่าง ซึ่งไม่ใช่งานเขียน แต่เป็นความผิดพลาดของตัวเอง ผมเริ่มได้คิดว่า การให้อภัยแก่ตัวเองอยู่ใกล้เคียงกับคำว่าแก้ตัวให้ตัวเองเป็นอย่างมาก…

ผมต้องขอบคุณคนที่อยู่ใกล้ชิดชีวิตผมทุกๆคน ทั้งภรรยาและลูกๆที่ทำให้ผมได้มองเห็นความเป็นจริงที่เหมาะแก่ตนเอง ทำให้ผมรู้ว่าควรจะเว้นสิ่งใด และรู้ว่าควรจะทำสิ่งใดบ้าง”


นี่ไงประสบการณ์ชีวิต ผมอ่านแล้วบอกตัวเอง ประสบการณ์แบบนี้ที่ไม่ต้องขึ้นเขาลงห้วย หรือปีนหน้าผาสูงชัน หรือเดินทางหมื่นลี้ หรือเสพยาเสพติด แต่ทว่าเป็นประสบการณ์ที่เกิดจากการเดินทางภายใน เป็นการเดินทางของชีวิต ทำความรู้จักกับชีวิตระหว่างการก้าวไปข้างหน้า เพราะในแต่ละวันมีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นและผ่านเข้ามาให้เราเรียนรู้มากมาย

หนูหอมหัวใหญ่นั่นแหละที่สอนสิ่งเหล่านี้ให้แก่พ่อของเธอ สอนให้เรียนรู้ที่จะรักอย่างไร้ขอบเขต สอนให้เรียนรู้ที่จะอดทน สอนให้รู้จักความอ่อนโยน ฯลฯ

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผู้เป็นนักเขียน หรือบุคคลในอาชีพอื่นๆ,หรือต๋อง ศิษย์ฉ่อย นักสนุกเกอร์, หรือ ภราดร ศรีชาพันธุ์นักเทนนิส หรือ อดีตแชมป์มวยสากล แสน ส.เพลินจิต หรือใครก็ตามที่ทำงานตามสายงานของตน ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม ต่างก็ได้เรียนรู้ชีวิตจากการงานของตนทั้งสิ้น

ถ้าไม่ได้เรียนรู้จากสิ่งที่ประสบมาแล้วก็ไม่อาจเรียกว่าประสบการณ์ได้ เพราะประสบการณ์นั้นไม่ใช่เพียงแค่การพบและผ่านมาเท่านั้น แต่ทว่าต้องได้เรียนรู้จากสิ่งที่พบและผ่านมาด้วย บางคนผ่านมาทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่ทว่าไม่ได้รู้จักตัวเองหรือชีวิตดีขึ้นเลย นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้เรียนรู้จากสิ่งที่ผ่านมานั่นเอง

---------------------------------------------




 

Create Date : 16 มกราคม 2549
20 comments
Last Update : 16 มกราคม 2549 11:31:46 น.
Counter : 484 Pageviews.

 

ผมเพิ่งกลับมาถึงบ้านเมืองนนท์เมื่อวานนี้
ปรากฏว่าไม่สบายเล็กน้อย
คิดว่าพักฟื้นสักวันสองวันก็คงหาย

หวังว่าทุกคนที่เข้ามอ่านคงสบายดีนะครับ

ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลต่างๆในการประกวดบล็อกด้วย

 

โดย: พ่อพเยีย (พ่อพเยีย ) 16 มกราคม 2549 4:23:22 น.  

 

หายเร็วๆนะคะ

 

โดย: Justin's mommy (Baby I love you ) 16 มกราคม 2549 5:24:53 น.  

 

หวัดดีค่ะ เดินทางบ่อยๆต้องรักษาสุขภาพนะค่ะโดยเฉพาะเรื่องท้อง อิอิ มาชวนไปฟังเพลงรุ่นเดียวกันค่ะ จะได้หายไวๆค่ะ

 

โดย: พี่เจี้ยวค่ะ (sutida_jeaw ) 16 มกราคม 2549 8:15:53 น.  

 

หายเร็วๆ นะคะ

อ่านการเดินทางของคุณแล้วรู้สึกดีจัง


งานของเราเกี่ยวข้องกับการเดินทาง

มีแต่คนอิจฉา แต่หารู้ไม่ว่าเรากระหายการเดินทางที่ไม่ใช่การทำงานมากเหลือเกินค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 มกราคม 2549 8:58:22 น.  

 

พักผ่อนเอาแรงให้เต็มที่นะพี่โดม
รออ่านเรื่องจากการเดินทางอบู่ครับ

 

โดย: J IP: 203.154.114.149 16 มกราคม 2549 9:30:35 น.  

 

ถ้าไม่ได้เรียนรู้จากสิ่งที่ประสบมาแล้วก็ไม่อาจเรียกว่าประสบการณ์ได้ เพราะประสบการณ์นั้นไม่ใช่เพียงแค่การพบและผ่านมาเท่านั้น แต่ทว่าต้องได้เรียนรู้จากสิ่งที่พบและผ่านมาด้วย บางคนผ่านมาทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่ทว่าไม่ได้รู้จักตัวเองหรือชีวิตดีขึ้นเลย นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้เรียนรู้จากสิ่งที่ผ่านมานั่นเอง

เวลาที่ผ่านไปในวันหนึ่งๆแทบไม่เคยใช้เพื่อมองดูตนเองเลยครับ เห็นก็เพียงเงาสะท้อนจากกระจก

 

โดย: gutofmadness 16 มกราคม 2549 9:37:46 น.  

 

รักษาสุขภาพนะคะพี่
อากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง เราจะแย่

 

โดย: มรกตนาคสวาท 16 มกราคม 2549 10:41:24 น.  

 

หวัดดี พี่โดม เมื่อวานไปบนภูเขามาแล้ว ไปถึงต้นน้ำ..อึ้ง
มันคิดได้ยังไงกัน น่ากลัวมาก...สภาพดินที่ทำถนน และความลาดชัน ก็หวาดเสียวต่อการถล่มทลายพอแล้ว ความบอบบางของพื้นที่อีกล่ะ

แล้วจะใส่รูปในบล็อค...ให้ดูนะคะ แต่ตอนนี้ ทำงานที่เขาจ่ายตังค์ก่อน

เหนื่อยเหลือเกิน....เหนื่อยล้า จนอยากร้องไห้ ให้สาแก่ใจ
แล้วลุกขึ้นมาใหม่...เพื่อจะบอกกับ"มัน"ว่า...ฆ่าฉันเสียซี ก่อนที่ฉันจะเติบโตและมีพิษสงมากไปกว่านี้

บอกได้คำเดียวว่า....ทำใจยาก...ยากที่จะเฉยเมย

หายไข้เร็วๆนะพี่โดม ถ้าว่าง...เรามีแผนสำรวจ ถึงยอดเขา ในวันที่ 13 -14 กุมภา คาดว่าน่าจะประกอบไปด้วยผู้รู้หลายฝ่าย เพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ที่สร้างสรรค์(แล้วฆ่ามันทีหลัง.....แค้นนัก อิ อิ อิ)

 

โดย: shadow-of-art (shadow-of-art ) 16 มกราคม 2549 11:06:57 น.  

 

ขอให้เริ่มต้นสัปดาห์ด้วย






นะครับ

 

โดย: ชายคา 16 มกราคม 2549 11:47:45 น.  

 


บางครั้งคนเข้ามาblog ก็ชอบอ่านอะไรที่ยาวๆ แบบนี้เหมือนกันนะคะ
มีพี่ชายที่นับถือกันกับเขาอยู่คนหนึ่งค่ะ พี่เขาสังเกตว่าพักนี้มีเพื่อนแปลกหน้าเข้าไปเยี่ยมในblog น้องสาวของเขา คือคุณพ่อพเยีย และเขาบอกว่า ดีใจ ที่น้องหัดรู้จักคบเพื่อนดีๆ กับเขาบ้าง


เป็นคำชมที่มีต่อคุณพ่อพเยีย

 

โดย: filmgus 16 มกราคม 2549 13:30:58 น.  

 

ลืมบอกไปว่า บทความนี้อ่านแล้วรู้สึกมีความสุข อิ่มอกอิ่มใจมากค่ะ

 

โดย: filmgus 16 มกราคม 2549 13:32:22 น.  

 

รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณพ่อพเยีย
กำลังกายก็สำคัญสำหรับนักเขียนด้วยนะคะ

ขอทึ่งด้วยคนกับผลงานเขียนนิยายแฟนตาซีของลูกสาวคุณจำลอง คิดว่าน่าจะได้รับการตีพิมพ์ คงต้องคอยติดตามผลงานสาวน้อยคนนี้ซะแล้ว

 

โดย: เฉลียงหน้าบ้าน 16 มกราคม 2549 13:40:00 น.  

 

แวะมาอ่านค่า

Image hosted by Photobucket.com

 

โดย: Batgirl 2001 16 มกราคม 2549 14:02:54 น.  

 

อ่านที่คุณไปคอมเม้นท์เรื่องการดูหนังแล้วรู้สึกดีจังค่ะ


เรากับคนรักเองก็ผลัดกันเป็นคนเลือกหนังเหมือนกัน

บางเรื่องที่เรารู้ว่าเขาดูไม่ได้เราก็จะไปดูคนเดียว

บางเรื่องที่เขารู้ว่าเราดูไม่ได้ เขาก็จะเช่ามาดูคนเดียว



ด้วยมิตรภาพเช่นกันค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 มกราคม 2549 17:01:53 น.  

 

วันนี้ผมอ่านรวมเรื่องสั้นเก้าก้าว และเข้ามาอ่านblog นิยมและชื่นชมนะครับ ถึงจะอ่านช้าไปนิดก็ตาม
ด้วยความเคารพ
(//stillstranger.blogspot.com/)

 

โดย: stillstranger IP: 58.10.160.242 16 มกราคม 2549 21:43:33 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะน้าโดม ..

 

โดย: ดุสิตา (ดุสิตา ) 16 มกราคม 2549 22:13:53 น.  

 

อ่านแล้วอบอุ่น...

น้ำใจเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เรารู้สึกเย็นใจก็ได้ อุ่นใจก็ได้นะคะ

ขอให้หายป่วยในเร็ววันค่ะ

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.136.66.135 16 มกราคม 2549 22:45:56 น.  

 

ดีขึ้นยังค่ะ เพลงที่ขอพี่ยินดีจัดให้เลยค่ะ อิอิ เพราะข้อมูลครบ ไว้เสร็จเมื่อไรจะมาตามไปฟังนะค่ะ

 

โดย: พี่เจี้ยวค่ะ (sutida_jeaw ) 17 มกราคม 2549 2:13:49 น.  

 

ตามมาอ่านจากทู้คุณมาซาค่ะ น่าสนใจจัง ไว้วันหยุดขออนุญาตมาอ่านต่อนะคะ วันนี้แวะมาทักทายเฉยๆค่ะ

 

โดย: P.Ta 17 มกราคม 2549 13:23:19 น.  

 

แวะมาถามทุกข์สุขค่ะ

 

โดย: พี่เจี้ยวค่ะ (sutida_jeaw ) 18 มกราคม 2549 4:44:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.