Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
การเล่นเพื่อน, Homosexuality, และกามวิตถาร, ในทัศนะของข้าพเจ้า (ไม่ต้อนรับพวกมือถือสากปากถือศีล)

[เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ตอนอื่น]


ส่วนนี้เป็นบทนำปฐมเหตุ (เนื่อเรื่องอยู่ด้านล่าง)

ก่อนอื่น ข้าพเจ้าต้องขอชี้แจงว่า จู่ ๆ ข้าพเจ้าไม่ได้อยากเขียนเรื่องนี้ เพียงแต่ข้าพเจ้าไปตอบกระทู้ของคนอื่นเขามา ตอบไปแล้วก็เสียดายในคำตอบที่พิมพ์ไว้ จึงนำมาเรียบเรียงใหม่ และนำมาบันทึกไว้ที่ blog

อนึ่ง ข้อความใน blog entry นี้ ข้าพเจ้าเรียบเรียงจากคำตอบ (และตัวกระทู้บางส่วน) จากกระทู้ชื่อ "จิตร ภูมิศักดิ์ แอนตี้เกย์ (?)" หากสนใจตัวกระทู้ เชิญสหาย click ไปอ่านโดยพลัน


เจ้าของกระทู้จั่วว่า

ในตอนหนึ่งของโฉมหน้าศักดินาไทย จิตรบรรยายเพศวิถีในกลุ่มศักดินาว่า

"ระบบฮาเร็มหรือสาวสวรรค์กำนัลในราชสำนักและในบ้านผู้ดีเป็นระบบที่แพร่หลายทั่วไป การที่ถูกกักขังจนผิดธรรมชาติทำให้การเล่นเพื่อน (Homosexuality) ในหมู่ราชสำนัก และฮาเร็มของสำนักขุนนางระบาดทั่วไป ชีวิตทางกามารมณ์ของเจ้าขุนมูลนายเพิ่มความวิตถารขึ้นเป็นลำดับ เป็นต้นว่าการสำเร็จความใคร่ทางเว็จมรรค"


เจ้าของกระทู้ได้ตั้งสมมติฐานว่า จิตร ภูมิศักดิ์ Anti-Gay? ตามหัวกระทู้ ซึ่งทางเจ้าของกระทู้ได้ให้เหตุผลไว้แล้ว ข้าพเจ้าไม่ขอพูดถึงอีก หากท่านสนใจกรุณา Click อ่านที่นี่

อย่างไรก็ตาม ประโยคที่ยกมานั้น อันที่จริงแล้วลอกมาไม่ครบ โดยที่ข้าพเจ้าเองก็ไม่ทราบมาก่อน จึงอภิปรายไปตามที่อ่านพบในตอนแรก (อันที่พิมพ์ตกไป) ซึ่งประโยคที่ถูกต้องแล้วจะเป็น ดังนี้

"ระบบฮาเร็มหรือสาวสวรรค์กำนัลในราชสำนักและในบ้านผู้ดีเป็นระบบที่แพร่หลายทั่วไป การที่ต้องถูกกักขังจนผิดธรรมชาติทำให้การเล่นเพื่อน (Homosexuality) ในหมู่สตรีราชสำนัก และฮาเร็มของสำนักขุนนางระบาดทั่วไป ชีวิตทางกามารมณ์ของเจ้าขุนมูลนายเพิ่มความวิตถารขึ้นเป็นลำดับ เป็นต้นว่าการสำเร็จความใคร่ทางเว็จมรรค"

จาก "โฉมหน้าศักดินาไทย" โดย "จิตร ภูมิศักดิ์" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 9 หน้า 60
(ภาพได้รับอภินันทนาการจาก "คุณแสนสุขสม"winbookclub)


กล่าวคือ ตกคำว่า "สตรี" ไป ซึ่งก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลกลใด เจ้าของกระทู้จะทำด้วยความตั้งใจ หรือ ไม่ตั้งใจเพราะหนังสือที่อ้างมานั้นพิมพ์ผิด หรืออาจจะเป็นเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ อีกก็ตาม

และแม้ว่า Anti-Gay นั้น โดยความหมายแล้วจะเท่ากับ Homophobia คือเป็นการต้านรักร่วมเพศโดยรวม โดยไม่จำเป็นต้องหมายถึงแต่เฉพาะ ชาย-ชาย เท่านั้น แต่ทิศทางการสนทนาในกระทู้นั้น ถูกชักจูงให้พูดถึงแต่ประเด็นของ Gay โดยแทบไม่พูดถึง Lesbian เลย

ข้าพเจ้าจึงเข้าไปเสวนาในส่วนว่า ตกลงแล้ว Homosexuality หรือรักร่วมเพศนั้น วิตถารหรือไม่ในทัศนะของข้าพเจ้า หรือว่า... ถ้าจะวิตถารนั้น เป็นวิตถารเพราะเรื่องอื่น (โดยตีความจากประโยคที่ถูกยกมาจากในหนังสือ)

อนึ่ง ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น ในบทความนี้ ข้าพเจ้าอภิปรายโดยที่ไม่ทราบว่า ข้อความดังกล่าวพิมพ์ตกไป 1 คำ

คำเตือน
1. เนื่องจากนี่ไม่ใช่บทความวิชาการ โปรดอย่างได้นำไปอ้างอิงต่อ
2. เนื้อหาโจ่งแจ้ง โจ๋งครึ่งอยู่บ้าง ดังนั้นเด็ก, สตรีมีครรภ์ และพวกมือถือสากปากถือศีล ไม่สมควรอ่านโดยเด็ดขาด



การเล่นเพื่อน, Homosexuality, และกามวิตถาร, ในทัศนะของข้าพเจ้า
"ระบบฮาเร็มหรือสาวสวรรค์กำนัลในราชสำนักและในบ้านผู้ดีเป็นระบบที่แพร่หลายทั่วไป การที่ถูกกักขังจนผิดธรรมชาติทำให้การเล่นเพื่อน (Homosexuality) ในหมู่ราชสำนัก และฮาเร็มของสำนักขุนนางระบาดทั่วไป ชีวิตทางกามารมณ์ของเจ้าขุนมูลนายเพิ่มความวิตถารขึ้นเป็นลำดับ เป็นต้นว่าการสำเร็จความใคร่ทางเว็จมรรค"


ข้าพเจ้าคิดว่า ประโยคที่ยกมานั้น คำที่เป็นหลักคำหนึ่ง ก็คือ "เว็จมรรค" ซึ่งแปลว่า "ทวารหนัก"

"การสำเร็จความใคร่ทางเว็จมรรค" หรือ "การสำเร็จความใคร่ทางทวารหนัก" (ซึ่งก็น่าจะหมายรวม "การร่วมเพศทางทวารหนัก" เอาไว้ด้วย) นั้น หากอ่านดู "เผิน ๆ" แล้ว ก็อาจจะเข้าใจไปว่า นี่เป็นวิธีการหาความสุขทางเพศของ "เกย์" หรือ "ชายต่อชาย" เพียงเท่านั้น

แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากพิจารณาถึงการร่วมเพศโดยเป็นฝ่ายรับ (หรืออีกนัยคือ ถูกกระทำ) แล้วล่ะก็ การใช้งานทวารหนักเป็นดั่งอวัยวะเพศนั้น ก็สามารถทำได้ทั้งหญิงและชาย หากพิจารณาถึงการร่วมเพศของฝ่ายผู้กระทำแล้วล่ะก็ ผู้ชายที่ไม่ใช่เกย์บางคนก็ยังชมชอบการร่วมรักกับทวารหนักของฝ่ายหญิง แถมหญิงบางคนก็ยังชอบให้ฝ่ายชายร่วมเพศด้วยท่าทางทวารหนักด้วยเช่นกัน

ดังนั้นจะกล่าวว่าร่วมเพศทางทวารหนักเป็นพฤติกรรมของเกย์ (ชายรักร่วมเพศ) เพียงเท่านั้นก็คงมิได้ และแม้แต่หญิงรักร่วมเพศ ก็ยังมีวิธี "เล่นหาความสุขกัน" ทางทวารหนัก โดยพึ่งพาการใช้อุปกรณ์บางอย่าง

อีกคำที่เป็นคำหลักก็ตือ "วิตถาร"

เมื่อพิจารณาประโยคที่ยกมา ก็จะเห็นได้ว่า คำว่าวิตถารนี้ ได้วางไว้หน้าวลี "เป็นต้นว่าการสำเร็จความใคร่ทางเว็จมรรค" แสดงว่า ผู้เขียน (จิตร ภูมิศักดิ์) ตั้งใจจะบอกว่า การร่วมเพศทางทวารหนัก (ไม่ว่าฝ่ายรับเป็นหญิง หรือ ชายก็ตาม) นั้นเป็นพฤติกรรม วิตถาร

จากประโยค "การที่ถูกกักขังจนผิดธรรมชาติทำให้การเล่นเพื่อน (Homosexuality) ในหมู่ราชสำนัก และฮาเร็มของสำนักขุนนางระบาดทั่วไป"

แสดงว่า การเล่นเพื่อนนั้น เกิดจากการกักขังที่ผิดธรรมชาติ แต่จะวิตถารหรือไม่นั้น น่าจะอยูที่ว่ามีการ "เล่นทวารหนัก" ด้วยหรือไม่

ดังนั้นอ่าน ๆ ดูแล้ว ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยว่า ประโยคที่ยกมานั้นจะเป็นการต่อต้านเกย์ หรือ การรักร่วมเพศ (เพียงแค่มองว่า มีบ่อเกิดจากการกักขังที่ผิดธรรมชาติ)

แต่ว่า.. ถ้าท่านผู้อ่านยังจะยืนยันว่า นี่เป็นการ "ต่อต้านการรักร่วมเพศ" โดยเฉพาะแล้วล่ะก็ ข้าพเจ้า ก็ขอโน้มนำพวกท่านว่า นี่ไม่ใช่การเจาะจง "ต่อต้านการรักร่วมเพศ" โดยเจาะจงเพียงเท่านั้นหรอก หากแต่ต่อต้านการ "ร่วมเพศทางทวารหนัก" มากกว่า โดยไม่จำเป็นว่าคนนั้นจะเป็นชายรักร่วมเพศหรือไม่ก็ตาม (ดังที่กล่าวมาแล้วว่า ชายปกติ ก็ร่วมเพศทางทวารหนักกับหญิงปกติได้)

ส่วนสาเหตุที่ต่อต้านนั้น ข้าพเจ้าวิเคาะห์ได้ว่า เพราะผู้เขียนเห็นว่ามัน "ผิดธรรมชาติ" ดังที่เขียนเขียนว่า "การที่ถูกกักขังจนผิดธรรมชาติทำให้การเล่นเพื่อน" แสดงว่า ปฐมเหตุจริง ๆ คือ "การทำอะไรที่ผิดธรรมชาติ" ซึ่งก็คือ การกักข้งหญิงหลายคนเอาไว้ในฮาเร็มไว้เป็นสมบัติของตัว โดยไม่ยอมให้พบชายอื่นได้ (ในที่สุดก็เลยต้องเล่นเพื่อนกันเอง)

การกักขังจนผิดธรรมชาติเป็นเหตุ การเล่นเพื่อนเป็นผลที่ตามมา เรื่องนี้ข้าพเจ้าวิเคราะห์ไม่ได้ว่า จิตร (ผู้เขียน) รังเกียจว่าวิตถาร อย่างไรก็ตาม พิจารณาได้ว่า สิ่งที่ผิดธรรมชาตินั้นไม่ดี อะไรที่ผิดธรรมชาตินั้นย่อมน่ารังเกียจ วิตถาร สมควรถูกต่อต้าน

หญิงนั้น ถูกขังไว้ รอให้ชายมาร่วมรัก พออยู่ด้วยกันนาน ๆ จึง "เล่นเพื่อน" น่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้โดยบริบท และเป็นความต้องการตามธรรมชาติ ข้าพเจ้ามองว่า ถ้าหญิงจะร่วมรักกับหญิงโดยให้เครื่องเพศมาให้ความสำราญแก่กันนั้น "โดยบริบท" ของเหตุการณ์แล้ว น่าจะยอมรับได้

ทั้งนี้เป็นผลมาจาก "การที่ถูกกักขังจนผิดธรรมชาติ" จึงหาควรตัดสินว่า หญิงรักหญิง เป็นเรื่องชั่วช้าเลวทรามไม่ แต่ว่า การร่วมเพศทางทวารหนักนั้น จะยอมรับได้หรือไม่ ประเด็นน่าจะอยู่ที่ว่า สามารถจะพิจารณาได้หรือไม่ว่า การร่วมเพศทางทวารหนักเป็นเรื่องที่ไม่ผิดธรรมชาติ

ถ้าพิจารณาไม่ได้ตามนั้น ก็ตืองถือว่า "การสำเร็จความใคร่ทางเว็จมรรค" นั้น วิตถาร น่ารังเกียจ และน่าจะต่อต้านจริง

ข้าพเจ้าพิจารณาดังนี้ ลองคิดดูว่า ถ้าธรรมชาติให้อวัยวะอะไรมา เราก็ควรจะใช้อวัยวะตามหน้าที่ของมัน ปากนั้นมีไว้พูด มีไว้รับประทานอาหาร มีไว้รับ "ของเข้า" ในปากมีลิ้นไว้เลีย ไว้ชิม ไว้รับรส ธรรมชาติให้มือมาไว้จับต้อง ส่วนทวารหนักนั้น ธรรมชาติมีไว้ขับถ่ายเอาของเสีย "ออกจากร่างกาย"

นั่นเป็นเรื่องของคนหนึ่งคน แล้วถ้าตั้งแต่สองคนขึ้นไปเล่า การประกบกันของอวัยวะตามธรรมชาติ ก็ควรประกบกันตามอวัยวะที่มีโครงสร้าง หรือมีหน้าที่คล้ายคลึงกัน (analogy) และมีการรับซึ่งกันและกัน มือจึงจับมือด้วยกัน ปากจึงควรประกบกับปากด้วยกัน ลิ้นก็ตวัดเข้าหากัน

อวัยวะเพศชายจึงประกบและสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศหญิงเป็นปกติ

ทวารหนักเล่า... ทวารหนักอยู่ในซอกหลืบ ไม่สามารถประกบกันได้ อนึ่งทวารหนักมีไว้ถ่ายของเสียออก การประกบกันจึงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด้

นั่นคือการประกบกันตามปกติ ทีนี้ลองพิจารณาการประกบกันแบบผิดคู่อวัยวะบ้าง เช่นการทำ oral sex ข้าพเจ้ามองว่า การนำปากมากจูบอวัยวะเพศ นำลิ้นมาเลีย ให้แก่กันนั้น ถ้ามองจากส่วนของอวัยวะเพศแล้วย่อมผิดธรรมชาติ เพราะไม่ได้เป็นการประกบกันระหว่างอวัยวะที่คล้ายคลึงกัน แต่ถ้ามองจาก "ปากและลิ้น" แล้วล่ะก็ ยังอาจจะพอรับได้ เพราะปากและลิ้นยังมีหน้าทีเลียและชิมรส การที่ฝ่ายหนึ่งอยากลองชิมดูสิว่า อวัยวะเพศฝ่ายตรงข้ามรสชาติจะเป็นอย่างไร จึงไม่น่าจะผิดธรรมชาติ

แต่ถ้าไปเลียทวารหนักแล้วล่ะก็ น่าจะผิดธรรมชาติแน่ เพราะโดยปกติ เราคงไม่ไปชิมหรือเลียของเสีย

โดยหลักการเดียวกัน การเอามือไปจับเขี่ยอวัยวะเพศฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าจะเป็นเพศเดียวกันก็ตาม จึงไม่น่าผิดแปลกอะไร (ด้วยวิธีคิดคล้ายคัน คือมือ มีไว้จับต้อง) แต่ว่าการนำอวัยวะเพศไปสอดใส่ทวารหนักย่อมต้องผิดธรรมชาติด้วยประการทั้งปวง เพราะทวารหนักไม่มีหน้าที่รับของสิ่งใด และ อวัยวะเพศก็ควรต้องประกบกับอวัยวะเพศด้วยกัน การร่วมเพศทางทวารหนักจึงเป็นพฤติกรรมวิตถาร น่ารังเกียจ สมควรต่อต้าน

แล้วถ้าเพศเดียวกัน เอาอวัยวะเพศมาประกบกันเล่า โดยความเห็นแล้ว ถ้าหากว่าสามารถให้ความสุขแก่กันได้ ก็ไม่น่าผิดธรรมชาติเช่นกัน เช่น การเล่นเพื่อนของหญิงในฮาเร็ม แต่อวัยวะเพศชายที่แข็งตัวแล้วสองคนมาประกบกันนั้นคงทำไม่ได้ (ข้าพเจ้าก็นึกไม่ออกว่าจะไปประกบให้เกิดความสุขได้อย่างไร กรณีนี้ข้าพเจ้าขอพิจารณาว่านอกประเด็น... หรือใครคิดออก)

ในความคิดของข้าพเจ้า ถ้าชายรักชาย (หรือหญิงรักหญิง) จะจูบปากกัน หรือทำ oral sex ให้กัน ด้วยเหตุผลตามที่ข้าพเจ้าอภิปรายมานี้ ไม่น่าจะผิดปกติ และไม่น่าจะถือว่าเป็นกามวิตถาร

แต่ถ้าหญิงหรือชายใด โก้งโค้งให้อีกฝ่ายกระทำอันใดต่อทวารหนักเมื่อใด เมือนั้นเป็นกามวิตถารแน่นอน




[เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ตอนอื่น]


Create Date : 15 มีนาคม 2550
Last Update : 15 มีนาคม 2550 15:49:58 น. 15 comments
Counter : 2276 Pageviews.

 
ข้าพเจ้าได้รับความรู้ใหม่จากสหายที่เป็นเกย์ว่าเดี๋ยวนี้เกย์ไม่ต้องโก้งโค้งกันก็สามารถใช้เว็จมรรคได้อ่ะ ที่ท่านสรุปมาก็ไม่ครอบคลุมน่ะซี้

เขียนบทความนี้ไป ท่าน จขบ. คงจะปลงอสุภะไปด้วย
กำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเพื่อมาประกอบการเขียนวิจัย -สตรีสยามในอดีต โดย น.พ.วิบูล วิจิตรวาทการ-ก็มีบันทึกเรื่องการทารุณทางเพศ รวมทั้งวิตถารอีกแบบ ไม่อยากเชื่อว่ามีบันทึกในพงศาวดารด้วยอ่ะ ...



ขอส่งแมวของศูนย์สื่อสำหรับคนตาบอด ที่ถามไว้นะฮะ เอ๊ยยย ค่ะ ๆ ๆ
subolwat@hotmail.com
pat@tab.or.th
-นี่เป็นที่อยู่ที่ไว้ถามชื่อหนังสือที่สนใจจะอ่านและส่งไฟล์ สำหรับคนบ้านไกลไปไม่ถึงศูนย์ แต่น่าจะถามเรื่องอื่นๆได้



โดย: หน้าม้าแถวบ้าน วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:4:14:36 น.  

 
อ่า
ในฐานะ
ข้าพเจ้าเป็น ญ ร ญ

ข้าพเจ้าว่า . . .

อ่านแล้วอายง่ะ

ดันนึกภาพตาม ฮี่


โดย: กาต่ายตากลม IP: 125.24.133.112 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:12:08:02 น.  

 
มนุษย์เหมือนกันไม่เป็นไรหรอกม้าง.. ถ้าเป็นมนุษย์กับสัตว์นี่สิผมว่าวิตถารกว่าเยอะ..


ปล.ได้ความรู้เรื่องคำไทยๆด้วยล่ะคร้าบ..


โดย: มือถือสาก ปากคาบ(ขนม)ครก (smartman หล่อสุดๆ ) วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:14:05:48 น.  

 
จะว่าไปแล้วเรื่องของฮาเร็ม มันก็ไม่ใช่แค่เรื่องของการกักขังเพียงอย่างเดียวนะคะ หลายกรณีก็เป็นการสมยอมของผู้หญิงเพราะนั่นเป็นหนทางทีจะหลุดพ้นความยากจน โดยรู้ถึงผลภายหลังอยู่แล้วว่าตนจะต้องไปเป็นคนของกษัตริย์ หรือขุนนางใหญ่ อีกประเด็นก็เป็นประเด็นเรื่องอำนาจ และการเมือง ถ้าจะหันไปมองประวัติศาสตร์ของฮาเร็มต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่นตุรกี ก็จะเห็นว่าไม่ใช่ผู้ชายใช้ผู้หญิงอย่างเดียว ผู้หญิงก็หลอกปั่นหัวผู้ชายได้เหมือนกัน

ว่าไปถึงเรื่องการเล่นเพื่อน จริง ๆ แล้วไม่ใช่เพราะผู้หญิงถูกกดดันเรื่องนั้นหรอก ผู้หญิงสามารถช่วยตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องไปเล่นเพื่อน ดังนั้น มันก็เป็นทางเลือกของผู้หญิงที่จะเล่นอะไรก็ได้

การร่วมเพศแบบประตูหลังจะเรียกว่าวิตถารก็ได้ แต่มันก็เป็นรสนิยมส่วนบุคคล ปัจจุบันก็อย่างที่จขบ. กล่าวไว้ข้างต้น ว่ามีทั้งในเกย์ เลสเบี้ยน แล้วก็ยังมีในไบเซกช่วล หรือแม้จะกระทั่งชายจริงหญิงแท้ ก็มีเหมือนกันที่นิยมการร่วมเพศแบบนี้

ถ้าจะพูดกันให้ยาวไปอีก การรักร่วมเพศของกลุ่มชาย นั้นมีมาตั้งแต่สมัยนานแล้ว เหมือนที่พวกเราเคยดูหนัง อเล็กซานเดอร์ แล้วเห็นตัวอย่างนั่นแหละค่ะ ดิฉันเคยอ่านหนังสือ ว่าบ่อยครั้งที่ผู้ชายมักจะมีอะไรกันในหน้าหนาว เพราะว่าหน้าหนาวนั้นเนื้อตัวของบุรุษเพศจะอุ่นกว่า ของสตรีเพศ นอนกอดกันแล้วเป็นสุขกว่า ส่วนหน้าร้อนก็จะนิยมผู้หญิงเพราะผู้หญิงเนื้อเย็นกว่า

แล้วพวกทหารโรมัน หรือชาติไหน ๆ เวลาเดินทัพกลับจากการต่อสู้ พอผ่านทุ่งไหน ๆ ที่มีแกะ หรือสัตว์ฟาร์ม ก็จะแอบไปทำมิดีมิร้ายสัตว์เหล่านั้น คนพวกนี้นี้ ไม่ได้เป็นเกย์อะไรเลยนะคะ ชายแท้ทั้งแท่ง แล้อย่างนี้เรียกว่าวิตถารหรือเปล่าคะ (ฟังดูคล้าย ๆ กับพวกกะลาสีเรือกลัดมันเลย)

ดิฉันมาแสดงความเห็นไม่ค่อยตรงประเด็นเท่าไหร่นะคะ แต่อยากจะสรุปประเด็นย่อ ๆ ว่า ตอนนี้คงต้องทำใจเปิดกว้างยอมรับรสนิยมส่วนบุคคลแล้วล่ะค่ะ ดิฉันว่าเรื่องเพศในปัจจุบันเป็นสิ่งเลือกได้ เจ้าตัวมีสิทธิจะใช้ชีวิต และรสนิยมแบบที่ตนเองชอบ และสรุปจากข้างต้นก็เห็นด้วยค่ะว่ามิได้เป็นการแอนตี้เกย์ แต่อย่างใด


ปล. จขบ. คะ ข้างบนที่ท่านเขียน ดิฉันเห็นภาพพพ เลยค่ะ


โดย: MoneyPenny วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:17:43:01 น.  

 
อ่านจบค่ะ

แต่ไม่รู้จะ comment ว่าอะไรดี

ที่แน่ๆไม่เคยรังเกียจสมาคมคนรักร่วมเพศค่ะ

เพราะมีเพื่อนรัก พี่ น้อง หลายคนใน bloggang ที่เป็น

...

อ้าว ยัยกาต่ายตากลมมาด้วยเหรอจ๊ะ


โดย: random-4 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:19:42:48 น.  

 
ธรรมชาติสร้างสองสิ่งให้ร่วมกันอาจเพื่อสืบเผ่าพันธุ์หรืออื่นใดก็ตามก็ดีอยู่แล้ว... นอกเหนือก็คือความต้องการที่ผิดปกติของธรรมชาติการสืบเผ่าพันธุ์ออกไป ต้องการมากๆ ต้องการหลายรูปแบบ ต้องการไม่สิ้นสุด ก็วุ่นได้เช่นกันครับ


โดย: เขาพนม วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:21:02:51 น.  

 
ไม่เม้นต์นะคะ.................................
แค่อยากบอกว่า คาใจเคยเรียนคลาสปรัชญา
และอาจารย์เอา บทความชื่อ "กามวิตถาร ที่ไม่วิตถาร" อะไรประมาณนี้มาให้อ่านน่ะค่ะ แล้วมาเจอบทนี้เลยลองอ่านดูน่ะค่ะ

อ้อ เพราะ Bossavana ด้วยนำพามาที่นี่ค่ะ


โดย: คาใจ IP: 202.57.176.204 วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:14:50:02 น.  

 
เหอเหอ


โดย: เ พี ย ง ค ว า ม ฝั น วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:10:21:07 น.  

 
ก็เคยดูบ้างเป็นความรู้ค่ะ คิดว่าเป็นความชอบส่วนบุคคลน่ะ นานาจิตตัง ปลงเถอะเดี๋ยวนี้มีอะไรที่แปลกกว่านี้เยอะ


โดย: เด็กดีอยากรู้ IP: 58.137.63.66 วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:14:56:28 น.  

 
ก็ไม่คิดว่าตัวเป็นน่ะ แต่บางครั้งก็อยากลอง


โดย: เด็กดีอยากรู้ IP: 58.137.63.66 วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:14:59:44 น.  

 

ชอบความคิดเห็น และเรื่องราวต่างๆในบทนี้ เป็นกลางดี
และเปิดโลกทัศน์ทำให้รู้ว่า..การวิตถารต่างๆมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ


โดย: p_tham วันที่: 13 เมษายน 2550 เวลา:20:38:32 น.  

 
เอ่อ..ผ่านมาถึงยุคโลกาภิวัตน์แล้วเนี่ย..รู้สึกว่าองค์การอนามัยโลกหรืออะไรสักอย่างเขาประกาศว่ามันไม่ใช่เรื่อง"วิตถาร"ต่อไปอีกแล้ว ไม่ใช่เหรอครับ

กลายเป็นแค่รสนิยมส่วนตัวทางเพศอย่างที่ว่า ตราบเท่าที่ไม่ได้ไปทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน จะหกคะเมนตีลังกากับใครหรือด้วยวิธีไหน ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา...

บทความของคุณจิตรนั้น ก็เลยดูออกเป็นเรื่องทัศนคติแบบโบราณไป เหมือนอย่างบางความเห็นที่ว่า รักร่วมเพศมีมาตั้งแต่สมัยกรีกโรมัน และเขาก็มองเป็นเรื่องปรกติ ดูท่าคนยุคก่อนจะศิวิไลซ์กว่ารุ่นเราไม่น้อย


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:10:07:07 น.  

 
เรื่องที่เห็นว่ารักร่วมเพศเป็นพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน หรือเป็นความวิตถารนี่ เป็นความคิดที่ยังไม่เป็นวิทยาศาสตร์ และถือว่าเป็น "ผลิตภัณฑ์ความคิดที่ตกรุ่น" ในทางวิทยาศาสตร์ ความเป็นเกย์ (ทั้งหญิงและชาย) เกิดจากความเด่นของ gene ไม่ใช่เพราะการเลี้ยงดู เมื่อเป็นเรื่อ่งของ gene แล้ว ก็ช่วยไม่ได้ และการร่วมเพศ ในระหว่างเพศเดียวกัน ก็ต้องเป็นไปตามสัญชาติญาณ ที่จะสนองความสุขให้ได้ เช่นเดียวกับหญิงชาย เรื่อง "เวจมรรค" นี่ ใครยังคิดว่าอุบาทว์ ก็ลองไปดูหนัง X ชายหญิงสมัย 10 ปี ที่ผ่านมาได้เลย ประตูหลังฮิตสุด ๆ แล้วหลังจากที่ดาราหนังเอ็กซ์ เขาทำกันแล้ว ก็ขยายวงกว้างขึ้น ในคนรุ่นใหม่ ผู้หญิงสาว ๆ ก็ลอง ต่อมาคนรุ่นเก่ากว่า ก็เริ่มจะลอง ในบ้านเรามีค่านิยมฝังหัว ในแง่ของกริยา (แม้บนเตียง) หลายประการ หญิงไทยคงยังไม่กล้า ทำได้หน้าตาเฉย แต่ว่า ไม่ว่าจะร่วมเพศกันด้วยวิธีใด จุดมุ่งหมายคือการ เสพย์ให้ได้รับความพึงพอใจที่สุด ดูพฤติกรรมในยุคโบราณของอารยธรรมสำคัญของโลก มีการร่วมเพศกับเพศเดียวกันทั้งนั้น ใช่ไหมครับ

ประเด็นสำคัญก็คือ เราต้องไม่บังคับกัน เพราะการฝืนใจ หรือการบังคับ ก็ผิดจุดประสงค์ของการเสพย์กามเพื่อความสุขสมแล้ว


โดย: Baconbkk IP: 203.156.84.111 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:21:05:51 น.  

 
ก่อนจะไปกันใหญ่

ขอบอกว่า ที่เขียนท้งหมดเนี่ย คือ การตอบ comment กระทู้คนอื่น พอดีตอบยาวมาก เลยย้ายมาทีนี้ด้วย ถ้าจะให้เข้าใจเรื่องทั้งหมด ต้องไปอ่านกระทู้ด้วย

(ได้ให้ link ไว้แล้ว)

อนึ่ง การเขียนนี้ เป็นการเห็นแย้งกับเจ้าของกระทู้ที่บอกว่า จิตร ภูมศักดิ์ ต่อต้านเกย์ แต่ผมอ่านแล้วไม่เห็นว่าเป็นแบบนั้น

ผมอ่านแล้วคิดว่า จิตรต่อต้านการร่วมเพศทางทวารหนักมากกว่า และ.. ที่เขียนนี่คือ เพื่อว่าจะลองคิดดูสิว่า ถ้าผมเป็นจิตร ภูมิศักดิ เมื่อวิเคราห์จากที่อ่านมาแค่นั้น (ประโยคที่ยกตัวอย่างมา) ผมจะคิดด้วยเหตุผลอะไรบ้าง ถึงจะไปบอกว่า อะไรมันจะวิตถารน่ะ

ก็สรุปคือ เป็นการลองจินตนาการว่า ถ้าผมเขียนประโยคนั้น ที่จริงแล้วผมกำลังคิดอะไรอยู่ เพื่อที่จะเข้าใจเหตุผลของคนเขียน (จิตร ภูมิศักดิ์) มากขึ้น

งง มะ ฮา งง แน่เลย ถ้างง ก็อ่านใหม่อีกรอบ และอ่านที่เจ้าของกระทู้เดิมเขียนด้วย


โดย: Plin, :-p วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:21:17:42 น.  

 
วิเคราะห์ได้ดีมากเลย
ในความเห็นผม...สนับสนุนความคิดคุณเลยครับ


โดย: jetmom3425 วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:31:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Plin, :-p
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]









Instagram






บันทึก ท่องเที่ยว เวียดนาม


e-mail : rethinker@hotmail.com


Friends' blogs
[Add Plin, :-p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.