ไปไหนไปกัน..คว้ากล้อง.. ส่องเลนส์..
ขึ้นเขาอิวากิ (Iwaki Skyline)


ภูเขาอิวากิ (Iwaki san) เป็นกลุ่มภูเขาไฟที่อยู่ทางตอนใต้ของที่ราบ ทซึการุ (Tsugaru Plain) เป็นภูเขารูปกรวยคว่ำมียอด 3 พีค ด้วยความสูง 1,625 เมตร (ถือว่าสูงที่สุดในจังหวัดอาโอโมริ) ถูกจัดเป็นอุทยานแห่งชาติ บนยอดเขาที่สถานที่ 9 สามารถมองได้ไกลถึง Mausumaezaki ในฮอกไกโด



เขาอิวากิอยู่เป็นภูเขาคุ่บุญของเมืองฮิโรซากิ ไม่ว่าจะไปมุมไหน ก็มองเห็นภูเขานี้เสมอ

สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของภูเขาลูกนี้ นอกจากจะมีหิมะคลุมยอดเขา แลคล้าย ๆ ภูเขาไฟฟูจิแล้ว เส้นทางขึ้นไปยังสถานีที่ 8 ของเขาอิวากิ ยังเป็นเส้นโค้งพับไปพับมาถึง 69 โค้ง ...




เดิมทีตั้งใจจะขึ้นไปตั้งแต่เช้า แล้วไปเดิน trekking บนเขา กะเอาให้ถึงยอดเขาอิวากิ .. ถ่ายรูป 360 องศารอบเขามาให้เพื่อน ๆ ดู ..


แต่ต้องตัดโปรแกรมนี้ออก เพราะเช็คสภาพอากาศแล้วมีฟ้าครึ้มเมฆฝน ยิ่งมาเจอเจ้าของเรียวคังบอกว่า เด็กนักเรียนที่มาพักเรียวกังกับเราไปเล่นสกีบนเขา บนเขาอิวากิหิมะยังไม่ละลาย ไม่สามารถเดิน trekking ได้ ..

แต่พอเราไปสวนแอปเปิ้ลแล้วก็เปลี่ยนความคิดใหม่ ความอยากจะไปเยือนเขาอิวากิ..ยังไม่หายไปไหน .. มีเวลาแค่ครึ่งวัน .. ก็เอานะ นั่งรถไปถึง ทันได้ขึ้นไปถึงสถานีที่ 8 (ไม่ต้องขึ้นไปให้ถึงสถานีที่ 9 ก็ได้) ...

ถามสมาชิก..ทุกคนพยักหน้าก็เป็นอันว่า รื้อแผนเก่ากลับมาใช้ เรากลับเข้า JR Hirosaki station ไปทบทวนแผนเดินทางกับ Hirosaki Information Center ที่สถานีรถไฟฮิโรซากิ ติดประตูทางออก ได้ใบนี้มา




ทีแรกนึกว่าเวลาไม่พอ เลยกะไปแค่ Iwakiyama Shrine ซึ่งเป็นศาลเจ้าอยู่ตีนเขาอิวากิ .. แต่ดูเหมือนจะไม่แล้วใจ ไปให้สุด ๆ เลยก็แล้วกัน

วิธีเดินทาง เราต้องนั่งรถ Konan Bus ไปลงที่ Dake Onsen แล้วเปลี่ยนรถบัส (เค้าเรียก shuttle bus แต่หน้าตามันเหมือนบัสคันเดิมที่เราลงมาเลย) เดินทางออกจาก Dake Onsen มุ่งไปตามเส้นโค้งพับไปพับมา ศิริรวมระยะทางแค่ 10 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาขับรถ 30 นาที เพื่อขึ้นไปให้ถึงสถานีที่ 8 ของเขาอิวากิ (ถ้าเป็นฟูจิ ก็เหมือนสถานีที่ 5 แหละค่ะ แต่ร้านค้าเล็กกว่า และเอาเปรียบกว่า คือนั่งกอนโดล่าต่อไปอีกหน่อยก็ถึงสถานีที่ 9 แล้วเดินเท้าอีกหน่อยก็ถึงยอดเขา ไม่ต้องเดินข้ามวันข้ามคืนอย่างฟูจิ .. แหม เทียบกันไม่ได้เนอะ ความสูงเค้าต่างกันเยอะ)



มีวิธีเสียเงินค่าเดินทาง 3 วิธีคือ
1. จ่ายมันตรง ๆ .. Konan bus จาก JR Hirosaki station ถึง Dake onsen ราคาเที่ยวละ 1,040 เยน/คน ไปกลับก็ 2,080 เยน แล้วไปจ่ายค่า Shuttle bus จาก Dake onsen ถึงสถานีที่ 8 ไปกลับ 2,000 เยน รวมแล้วก็ 4,080 เยนต่อคน

2. ประหยัด ๆ หน่อย ซื้อตั๋วเหมา Skyline-round ticket ราคาคนละ 2,500 เยน นั่งได้ตั้งแต่ JR Hirosaki station จนถึงสถานีที่ 8 บนเขาอิวากิ แถมใช้ตั๋วนี้ไปลดค่าโดยสาร Chair-lift ที่จะขึ้นไปสถานีที่ 9 จาก 820 เยนเหลือแค่ 500 เยน แต่ Skyline-round ticket จะมีขายเฉพาะต้นเดือน พ.ค. - ต้นเดือน พ.ย.เท่านั้น



หน้าตาตั๋ว ก็ธรรมดามาก ประมาณเอากระดาษสีไปปริ้นท์ เวลาจะขึ้นลง ก็ยื่นเจ้ากระดาษใบนี้ให้คนขับรถบัสดู

สถานที่ซื้อ Skyline-round ticket คือ JR Bus shop เป็นร้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ด้านนอกของ JR Hirosaki station ทางขวามือของประตูที่ออกไปทางฝั่งป้ายรอรถบัส



(ร้านป้ายเขียว ๆ เล็ก ๆ นั่น)

วิธีที่ 3 : ใช้ Tsugaru free pass ราคาตั๋วคนละ 2,060 เยน ใช้ได้ 2 วัน ใช้ขึ้นรถไฟ JR (Conventional JR train), รถไฟของบริษัท Tsugaru railway, รถไฟ Konan railway และ Konan bus ในพื้นที่ที่ระบุ

Tsugaru free pass

หน้าตาบัตร เหมือนตั๋วจองของ JR train ที่เราคุ้นเคย



วิธีใช้ ก็ใช้โชว์ให้ดูเหมือนกัน ตอนขึ้นลงรถไฟ รถบัสตามกำหนด
สถานที่ซื้อ : ใน JR ticket office ในสถานี JR Hirosaki station ค่ะ
แต่ใครซื้อ Tsugaru free pass แล้ว ยังต้องไปจ่ายค่า shuttle bus ขึ้น Iwaki san อีกต่างหากค่ะ


ทำไม จบข. มีตั๋วของทั้ง 2 pass ... ก็โง่ ไงคะ ตอนเตรียมข้อมูลมา หาข้อมูล Skyline-round ticket ไม่ได้เลย รู้แต่ว่าราคาเท่าไหร่ แต่ไม่รู้ว่าใช้อะไรได้บ้าง พอไปซื้อ Tsugaru pass แล้วก็ขี้เกียจไปจ่ายค่า shuttle bus บนรถ เลยซื้อตั๋วไปเลย วิ่งหอบแฮ่ก ๆ ไปซื้อ Skyline-round ticket อีกที (ตอนนั้นไม่รู้เลยว่า ใช้เดินทางตั้งแต่ออกจาก JR Hirosaki station ได้เลย) เลยจ่ายค่าโง่ไป (รวมของเพื่อนร่วมทริปด้วยนะคะ .. ขอโทษค่า...)

ระหว่างที่วิ่งวุ่นหาตั๋ว เพื่อนร่วมทางก็ไปหาซื้อข้าวกล่องมาให้ กินกันหน้าห้องน้ำใน JR Hirosaki station เลยค่ะ เข้าห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อย ทันขึ้นรถรอบ 13.06 น. ไปถึง Dake onsen 13.59 น.



บรรยากาศในรถ .. ประมาณรถเมล์บ้านเราแหละค่ะ .. ผู้โดยสารขึ้นลงระหว่างทางตามป้ายไปเรื่อย ๆ ..



ชมวิวเพลิน ๆ ..



ผ่านสวนแอปเปิ้ล ไร่นา ของชาวบ้าน







พอรถเข้าเขตสวนแอปเปิ้ล เขาอิวากิจะอยู่ฝั่งขวามือ มองไปทีไรก็โผล่มาให้เห็นเรื่อย ๆ



เราเริ่มเป็นเจ้าของรถบัสคันนี้แล้วค่ะ ไม่เหลือผู้โดยสารอื่น นอกจากเรา



พอเลยป้ายศาลเจ้า Iwakiyama shrine ..ศาลเจ้าชื่อดังตีนเขาอิวากิ .. ก็จะเข้าสู่เขตไร้ป้ายจอดรถบัส .. แต่รถบัสจะวิ่งทะลุผ่านทิวซากุระ







ซากุระ เดือน พ.ค. .. ร่วงไปเยอะแล้วค่ะ .. เจอดงซากุระแต่รถบัสไม่จอด .. ถ้าอยากดูก็ต้องขับรถมาเองหรือไม่ก็เหมาแท็กซี่มาเองล่ะค่ะ (คนเค้าทำกันเยอะ ช่วงที่ซากุระบานพีค ๆ ประมาณปลายเดือน เม.ย.)



เขาอิวากิยังอยู่ทางขวามือไปเรื่อย ๆ ค่ะ ..




จนรถพาเรามาถึง Dake onsen ... ป้ายรถเมล์อยู่ตรงข้ามส้วมพอดีค่ะ .. ต้องระลึกรู้และลงเองนะคะ เพราะรถบัสจะเลยไปต่อ ป้ายนี้ไม่ใช่ป้ายสุดท้ายปลายทาง



รถเข้าป้าย Dake onsen เวลา 13.59 น. มีเวลาว่างอีกนิดหน่อย แล้ว Shuttle Bus ขึ้นเขา จะมาในเวลา 14.15 น. จอดปุ๊บ อีกหน่อยก็ออกปั๊บเลย

ไปเดินเล่นก่อนค่ะ สมาชิกปวดห้องน้ำ จะเข้าส้วมตรงป้ายรถเมล์ก็ได้กลิ่นเหม็น เพื่อนเลยไม่เข้า จริง ๆ เป็นกลิ่นแก๊สกำมะถันค่ะ ออนเซ็นที่นี่เป็นกลิ่นกำมะถัน ไปเข้าในร้านขายของก็ได้ค่ะ

อาคารในรูปนั่นแหละ เดินขึ้นไปมีสินค้าจำหน่าย แล้วเราก็ขอเข้าห้องน้ำ



สำรวจบริเวณนี้เล็ก ๆ นะคะ มีเวลาไม่มาก



วันนี้เป็นวันธรรมดา เลยเทศกาลดูซากุระ ยังไม่ถึงเทศกาลเดินป่า ปีนเขา ร้านรวงเลยเงียบสนิท ..



คุณน้องหนิงหนาวมาก อยากได้อะไรแก้หนาว เลยไปอุดหนุนข้าวโพดต้ม ฝักละ 300 เยน .. อย่าทำเป็นเล่นไปค่ะ ข้าวโพดที่นี่ขึ้นชื่อมาก ข้าวโพด “ดะเขะคิมิ” ได้ความว่า เพราะได้ปุ๋ยภูเขาไฟ เลยมีรสหวาน .. หวานจริง ๆ ด้วยค่ะ แต่จะมีรสเป็นเลิศที่สุดในช่วงเทศกาลโอบ้ง แต่ตอนขึ้นเขา เราใช้กอดและถือให้อุ่น



แล้ว shuttle bus ขึ้นเขาก็มาถึงในเวลา 14.15 น. (ประมาณนะคะ ไม่ได้ดูนาฬิกาหรอก .. ไม่น่าคลาดเคลื่อนมาก) หน้าตารถและภายในรถ เหมือนคันที่เราลงเมื่อตะกี้เลย .. แยกไม่ออก ถามเลยค่ะ



กรี๊ดต่อได้ค่ะ รถแล่นในเส้นทางสายซากุระ .. ก่อนเลี้ยวขวาขึ้นเขา แยกตรงข้ามกับที่เราเลี้ยวขึ้นเขา เป็นถนนสายซากุระทั้งเส้น ที่มองมาจะเห็นเขาอิวากิอยู่ด้านหลัง แบบนี้


เครดิต : Apinet: Aomori Sightseeing Guide

พยายามหาข้อมูลแทบตาย ก็ไม่มีใครบอกพิกัดได้ ว่าตรงที่เห็นในภาพคือที่ใด .. โห.. รู้ล่ะ .. ซากุระโรยล่ะ

เราไม่ได้มาล่าซากุระบนเขาอิวากิ.. ปล่อยเธอไปค่ะ



รถไต่เขาขึ้นไปเรื่อย ๆ จากหิมะ..กระดำกระด่างในป่าที่ใบยังไม่แตกยอดอ่อน



เริ่มมีหิมะหนาขึ้น (แต่ไม่ถึงขั้นเป็นกำแพงหิมะ ..)

เราก็เสพกันเพลินค่ะ คนขับเป็นผู้หญิงขับเก่งมาก กับโค้ง 69 พับ ..ไม่เวียนหัวค่ะ (ไม่ใช่คนขี้เมารถ) น้องเค้าขับไม่เร็ว เอาแบบมั่น ๆ ปลอดภัย .. มีด่านเก็บเงินค่าเข้าสำหรับคนที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา (ไม่อนุญาตให้ปั่นจักรยานบนเส้นทางนี้ ยกเว้นกรณีที่เค้าจัดเป็นงานเทศกาลพิเศษ)









เพราะยังมีหิมะปกคลุม เราเลยเห็นถนนพับไปพับมาไม่ได้ทั้งหมด ..



ภูเขาข้างเคียง ..





ถึงแล้วค่ะ .. สถานีที่ 8 ของเขาอิวากิ ใช้เวลา 30 นาทีเป๊ะ



ที่ระดับความสูง 1,625 เมตร



อากาศข้างบนสถานีที่ 8 หนาวสัก 6-7 องศาเซลเซียส ..แต่สมาชิกเราใส่เสื้อไม่หนาพอ (ตอนไปลุยสวนแอปเปิ้ล ยังร้อนอยู่เลยค่ะ) เข้าไปหลบในตัวอาคาร อุ่นสบายดี มีของฝากให้ช้อป มีน้ำอุ่น กาแฟอุ่น มาม่า และห้องน้ำให้บริการ





รถบัสคันเดิมจอดรอออกจากป้ายในเวลา 15.45 น. (เที่ยวสุดท้าย) เวลา 1 ชั่วโมง เกินพอสำหรับสำรวจบริเวณรอบ ๆ ค่ะ



อาคารสถานีที่ 8 กับลานจอดรถเหงา ๆ .. มีรถยนต์ขึ้นมาไม่กี่คันค่ะ .. แดดก็พลุบ ๆ โผล่ ๆ แต่ไม่ถึงกับฝนตก



อีกฝั่งเป็นสถานี Chair-lift ที่จะไต่ขึ้นไปสถานีที่ 9 ค่ะ .. แต่เค้าปิดบริการ ........แง้......................





ใจร้ายเนอะ อุตส่าห์ขึ้นมาถึงแล้ว .. แต่คนญี่ปุ่นก็แบบนี้ล่ะค่ะ ถ้าขึ้นไปแล้วอาจเกิดอันตรายได้ เค้าก็ไม่เปิดให้ขึ้น



มองเธอในมุมไกล ๆ ...





เอาสีแดงเข้าไปใส่.. ช่างใส่เสื้อถูกสีอะไรเช่นนี้





เครดิต : พี่หนู ถ่ายให้



บนพื้น มีดอกไม้ชนิดนี้งอกอยู่ นางกำลังออกดอกเคียงข้างหิมะที่กำลังละลาย





ฟ้าใสมาแว๊บเดียว ที่เหลือฟ้าเน่า เพราะเมฆเลียยอดเขา ขาวแบบนี้ มองอะไรแทบไม่เห็น มิน่าเค้าไม่ให้ขึ้นไปบนเขา







เอาเสื้อแดงไปตัด ... ใส่เสื้อสีสด ๆ เข้าไว้ค่ะ



ไปทำซึ้งก็ได้นะคะ บรรยากาศให้





เสพความสวยในระดับความหนาวที่พอทน









เห็นรอยพับของโค้งไม่ค่อยชัด

ไต่ลงเขาด้วยรถคันเดิม และมีเราชาวไทย 3 คนเป็นผู้โดยสาร (เหมือนเหมามาเลยนะคะ)









ลงมาแล้ว .. อิวากิซัง ...



วิวสวยก่อนเข้า Dake Onsen



รถมาเทเราลงหน้าส้วม ที่เดิมค่ะ 16.15 น. อีก 10 นาที จะมีรถ Konan Bus มารับเราเข้าไป JR Hirosaki station ขึ้นรถฝั่งหน้าห้องน้ำ

แต่เราก็ยังไปซุกซนตามประสา



พี่.. กองขาว ๆ น่ะ กองอะไร น้องหนิงถามตอนมาถึงใหม่ ๆ
.. ตอบแบบไม่คิด .. เกลือมั้ง (คิดถึง เบ็ปปุออนเซ็น ..ที่เค้าทำดอกเกลือออนเซ็น คิดว่า น่าจะอันเดียวกัน)

ที่ไหนได้



หิมะ ค่ะ คุณพี่..

เจอดอกไม้อันเดียวกับที่อยู่บนเขาด้วย ยังหาชื่อไม่ได้ แต่ต้องรู้ให้ได้สักวัน



และเจ้าต้นไม้นี่ คนญี่ปุ่นชอบเก็บมาเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารฤดูใบไม้ผลิ ..



มัวแต่เล่น เลยไม่ได้ไปรอที่บ้าน พอรถบัสมาถึง เข้าป้ายปุ๊บ ก็ออกรถเลยไปเลย วิ่งสิคะ .. วิ่งตามรถ โชคดีที่คนขับมองเห็น เลยจอดรับ

พร้อมกับดุ โวยวายเป็นภาษาญี่ปุ่นใหญ่เลย แต่เราฟังไม่ออก (พี่หนูเป็นคนแปลอากัปกิริยา ... ) แห่ะ ข้าน้อยผิดไปแล้ว ช่วยพาข้าน้อยกลับไปสถานีใหญ่ด้วยคร้าบ..

รถทั้งคันมีแต่เราอีกแล้ว จนถึงเขตตัวเมืองค่อยมีเพื่อนร่วมทางหน่อย ..

ถึง JR Hirosaki station 17.20 น. ยังไม่มืดเลย .. ช้อปปิ้งที่ห้าง Appliese ที่ติดกับ JR Hirosaki station นิดนึงก่อน



ก่อนหาอาหารกินในร้าน Izakaya แถว ๆ สถานีนั่นล่ะค่ะ





แล้วก็นั่งแท็กซี่กลับโรงแรม .. ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร .. แต่เดินไม่ไหวหรอกค่ะ เคยลองเดินแล้ว ไม่ถึง เมื่อยมาก (เพราะว่าเดินกันทั้งวันตั้งแต่ตอนเที่ยวแล้ว)

พรุ่งนี้เราจะออกจากเมืองฮิโรซากิ พร้อมกับมารู้ตัวว่า ทิ้งแว่นสายตาสั้นไว้ที่สวนแอปเปิ้ล...ยอมทิ้งแว่นค่ะ ถ้ากลับไปเอาพรุ่งนี้ โปรแกรมจะรวนไปหมดเลย

ในที่สุดเราก็ได้ไปยืนบนเขาอิวากิจริง ๆ ...





ตอนที่ 1 Hirosaki Cherry Blossom Festival 2017

ตอนที่ 2 Hirosaki Park & Castle ... ดีใจที่ได้เจอกันอีก

ตอนที่ 3 Cafe Buruman คาเฟ่น่านั่ง ใกล้ ๆ Hirosaki Park

ตอนที่ 4 Hirosaki Apple Blossom Festival 2017







Create Date : 30 พฤษภาคม 2560
Last Update : 2 มิถุนายน 2560 22:30:33 น. 13 comments
Counter : 5014 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณJinnyTent


 
555 ไว้ไปอีกรอบหน้าไม่ต้องวิ่งซื้อตั๋วใหม่แล้วเนาะ

เซ็ตที่เราปีนขึ้นไปตามพ่อหนุ่มคนนั้น สวยเนอะ

เอาคลิปที่ปุ้งมาแปะด้วยสิ https://www.youtube.com/watch?v=0T4AIBgRNA4


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 30 พฤษภาคม 2560 เวลา:19:57:34 น.  

 
ขอบคุณค่ะ พี่หนู ..
ถ่ายคลิปในมือถือพี่หนู ชัดจริง ๆ .. แม้กระทั่งเสียงสั่นเครือ
(หนาวและตื่นเต้น)


โดย: poongie วันที่: 30 พฤษภาคม 2560 เวลา:20:03:33 น.  

 
ขอบคุณมากสำหรับรีวิวนี้

ผมหาข้อมูลที่นี่ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ติดว่ามีลูกเล็กไปด้วยเลย กว่าจะมีโอกาสไปคงยากอยู่
แต่ไว้ว่าจะขับไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีปี 61 ไม่รู้จะไหวไหม


โดย: Ampamuka IP: 171.97.174.243 วันที่: 31 พฤษภาคม 2560 เวลา:7:38:45 น.  

 
ยินดีค่ะ คุณ Ampamuka ..
ขับรถไปก็ง่ายค่ะ เที่ยวระหว่างทางได้ด้วย
เส้นทางที่เป็น apple road น่าจอดแวะถ่ายรูปที่สุดเลยค่ะ ยิ่งช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะเห็นแอปเปิ้ลเต็มต้น เด็ก ๆ น่าจะชอบ


โดย: poongie วันที่: 31 พฤษภาคม 2560 เวลา:7:45:38 น.  

 
จินรู้แระ ว่าทำไมรูปเยอะแต่ไม่จุใจ
รูปเล็กนี่เอง พี่ปุ้งทำรูปใหญ่ ๆ หน่อยสิ นะนะ
จินใส่แว่นหล๋าววว อ่านหนังสือเยอะ
ท่องเน็ตก็เยอะ สายตามะค่อยดีแล้ว 555

เปิดบล็อกมา เห็นถนนเลื้อยเป็นงู
โอ้โหในใจเลย นี่ถ้าเป็นคนขี้เมารถ
ท่าจะจอดตั้งแต่สองสามโค้งแรกละ
นี่ตั้ง 69 โค้ง แม่เจ้า

ดูแล้วมันไม่เหมือนโค้งแบบเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนไรงี้
มันโค้งแบบเลี้อย แบบยังไม่ทันจะหายมึน
โค้งอีกแระ ถึงไม่ใช่คนเมารถ ก็ท่าทางจะหนักเอาการเนอะ

พี่ปุ้งไปญี่ปุ่นคล่องปร๋อเหมือนเที่ยวบ้านเราแระ
แบบนี้ ไปทัวร์อึดอัดตาย
แอบอิจพี่หนูอ่ะ ไปกับพี่ปุ้งได้ไงนิ
ไม่ยอมชวนน้องนุ่งเลยนะ




โดย: JinnyTent วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:21:27:11 น.  

 
ปรับแล้วค่ะ
ใหญ่มากก็กวาดสายตาดูได้ไม่หมด กลาง ๆ ก็แล้วกันนะคะ


โดย: poongie วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:23:06:24 น.  

 
ค่อยยังชั่วค่า จุ๊บ

จินก็ยังถามพี่หนูอยู่ว่า ทำไมไม่ซื้อต้นไม้ติดมือมาด้วย
เพราะ succulent จากญี่ปุ่นกับเกาหลีเป็นที่นิยมมาก
ไปถึงที่ด้วย แถมดอกไม้สวย ๆ ใจละลายทั้งนั้นเลย
พี่หนูกลัวหิ้วกลับไม่ไหว เสียดายอ่ะ

เห็นพี่ไปเป็นเลขคี่ก็คิดแปลกใจอยู่ค่ะ
ปกติต้องเป็นคู่ เพื่อสะดวกในการจองและแชร์ห้องพักกัน
เพื่อความคุ้มค่าหลาย ๆ อย่าง ในเวลาที่เราแบคแพค
บอกได้มั้ยคะ ว่าไปทริปนี้ งบประมาณเท่าไหร่
จะลองวาดฝันหยอดกระปุกไว้มั้ง 555

ช่วงนี้ จินกำลังเป็นผีบ้านแคคตัส กับ succulent ค่ะพี่ปุ้ง
นี่ ก็มีพี่อดีตบล็อกแก๊งค์ พี่ปุ้ม (MaePumpui)
ส่งหนังสืออิชิวาเรีย ของญี่ปุ่นมาให้ ดีใจมากกก

ทางเหลือที่เที่ยวธรรมชาติเยอะ ใกล้
แต่ยังไงจินก็ยังอยากจะไปเที่ยวทางอิสานอยู่ดี
ตั้งแต่คุยกับพี่ปุ้งหลายปีก่อน ว่าจะไป ๆ แอ่วอิสาน
จนป่านนี้ ฝันยังไม่เป็นจริงเลยค่ะ

ไม่เคยไปอยู่ภาคเดียวเลย
อ้อนคนข้าง ๆ อ้อนแล้วอ้อนอีก อ้อนทุกปี
ไม่ใจอ่อนให้สักที



โดย: JinnyTent วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:11:39:50 น.  

 
ทริปนี้ 5 หมื่น รวมค่าเครื่องไปกลับอุบลด้วย ค่าทุกอย่าง ยกเว้นช้อปปิ้ง .. อันนั้น มีเท่าไหร่ก็หมด อย่าให้มีเยอะ เปลือง


โดย: poongie วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:11:49:03 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 6 มิถุนายน 2560 เวลา:4:18:59 น.  

 
ภาพ..แปลกตา สวย.. น่าไปเที่ยว.... แต่ให้ปั่นจักรยานขึ้น
มะหวายครับ 555 ชันเกิน


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 6 มิถุนายน 2560 เวลา:13:43:56 น.  

 
รู้แล้วค่ะ เจ้าดอกไม้สีเหลืองที่อยู่บนเขา โผล่พ้นหิมะออกมา

นั่นคือ ดอก ฟุกิ (Petasites japonicus)



หน้าตาต้นเป็นแบบนี้ เวลาไม่จมอยู่ใต้หิมะ ..

https://en.wikipedia.org/wiki/Petasites_japonicus


โดย: poongie วันที่: 10 กรกฎาคม 2560 เวลา:22:40:47 น.  

 
ตามมาชมภาพครับ (ชมภาพบล็อกพี่หนูด้วย) ชมกันหลายๆมุมครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 31 กรกฎาคม 2560 เวลา:8:03:57 น.  

 
ได้ดูดอกไม้แปลกก็คุ้มแล้วค่ะ ถูกจริตย่าดามากๆเลย อ่านไปก็ลุ้นไปเกือบตกรถเลย ช่างกล้า 555
ไปเที่ยวแถวๆมีหิมะ ต้องใส่เสื้อแดง กางเกงน้ำเงินอย่างงี้แหละ ถ่ายรูปออกมาสวยเรี่ยมเร้เรไรเลยจริงๆ


โดย: ดา ดา วันที่: 24 เมษายน 2561 เวลา:15:21:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poongie
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




มามะ มาเที่ยวกัน มามะ มาถ่ายรูปกัน..
I'm an one who fall in love with photographing and travelling, Let's travel by my photos together.
...การท่องเที่ยว คือกำไรของชีวิต.. ช่วงนี้เลย .. หัด .. ค้ากำไร .. เกินควร ถึงรูปจะไม่สวย เรื่องจะไม่เด่น แต่ขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อกนะคะ
Visitor Map
Create your own visitor map!
New Comments
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2560
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 พฤษภาคม 2560
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add poongie's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.