ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2567
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 กรกฏาคม 2567
 
All Blogs
 
"ได้โปรด! Please!" บทที่ 7 (ํYURI)

7

 

“ไมล์เป็นของฉัน และฉันไม่มีทางยกให้ใคร”

ถ้อยคำของสาวสวยไม่เพียงแต่พันไมล์กับนาตาลีได้ยิน เหล่าสมาชิกของ SPY 123 ล้วนได้ยินชัดเต็มสองหู

ทุกคนหยุดกินดื่มหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่ระแคะระคายมาก่อนว่า สาวแว่นจะมีคนรักแล้ว แถมเป็นไฮโซชื่อดังควบตำแหน่งรองประธานบริษัทใหญ่ยักษ์ที่ชื่อ...รังสิมา

“พี่ไมล์มี ฟะ แฟนแล้ว!”

“บ้าน่า!”

กิตติพึมพำอย่างไม่อยากเชื่อ วราวุธสบถอย่างแตกตื่น หลังแอบมีใจให้เธอมาตั้งนานแล้ว ทว่าอีกฝ่ายไม่เคยคิดอะไรกับเขามากกว่าลูกน้องเพื่อนร่วมงาน ส่วนวรรษมนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เหลือแค่จงรักที่นิ่วหน้าเล็กน้อย

ทั้งสี่คนปรายตามองไปทางประตูที่คู่กรณีกำลังเกิดศึกชิงนาง แต่ไม่มีใครคิดเข้าไปสอดมือ ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวคนอื่น ยกเว้นได้รับการร้องขอ

“คุณ...”

“เงียบค่ะที่รัก เรื่องนี้ฉันจัดการเอง” รังสิมาหันมาทำเสียงดุพันไมล์

หา!

เธอยืนนิ่ง งงว่าตนไปเป็นที่รักของอีกฝ่ายตอนไหน

หล่อนปรายตามองแฟนเก่าเธอ ด้วยท่วงท่าเชิดสวยหยิ่งในแบบฉบับเฉพาะตัว เอียงคอเล็กน้อย

“ฉันรู้ว่าคุณเป็นดารา แต่ไม่ว่าคุณจะเคยเป็นอะไรกับไมล์ จำไว้ว่าคุณเป็นแค่อดีต...คุณไม่ควรมายุ่งกับคนของฉัน” รังสิมากระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “แค่ฉันพูดไม่กี่คำ ฉันสามารถทำให้ชื่อเสียงคุณพังได้...อยากลองดูไหมล่ะ?”

กล้าดียังไงมาขู่ฉัน

นาตาลีกัดฟันกรอด เจ็บใจแค้นใจที่โดนข่มขู่ ยามกะทันหันนึกคุ้นวงหน้าสวยหยิ่ง แต่นึกไม่ออกว่าเป็นใคร ดูจากการแต่งตัวที่เรียบหรู กระเป๋าสะพาย นาฬิกา และส้นสูงแบรนด์เนม บ่งบอกว่าไม่ใช่พนักงานธรรมดา

สำหรับอาชีพนักแสดงนางแบบ ชื่อเสียงคือสิ่งสำคัญอันดับต้น กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ต้องเหนื่อยยากเลือดตาแทบกระเด็น จึงไม่อยากให้ด่างพร้อยหรือยอมสูญเสียไปง่ายๆ

แม้อยากคืนดีกับพันไมล์ แต่ไม่อยากแลกด้วยชื่อเสียง หรือโดนตราหน้าว่าเป็นมือที่สาม

...นาตาลีเป็นคนโลภ ต้องการครอบครองทั้งสองอย่าง

“อย่างนั้นเหรอ ขอให้โชคดีนะคะ” นาตาลีอวยพรด้วยเสียงไม่สดใสเช่นปกติ เวลาผิดหวังใครจะเสแสร้งได้แนบเนียนกัน ถึงจะเป็นดาราดังก็เถอะ หญิงสาวปรายตาไปทางคู่แข่งแวบหนึ่ง ก่อนเอียงหน้าไปทางคนรักเก่า

“ถ้ามีอะไรจะปรึกษาฉัน ฉันก็พร้อมฟังเสมอ เรายังคงเป็นเพื่อนกันได้...ใช่ไหม?”

เพื่อนงั้นเหรอ!

พันไมล์กัดกรามแน่น เบือนหน้าหนี ไม่ปริปากใดๆ

การเจอนาตาลีวันนี้ ทำให้สาวแว่นรู้ความจริงที่ว่า...แผลเก่ากลางใจยังไม่หายสนิท มีเจ็บหน่วงบ้าง แต่ไม่ทรมานมากเท่าช่วงแรก

“ไม่จำเป็น ไมล์มีฉันแค่คนเดียวก็พอ” รังสิมาไม่คิดให้โอกาสดาราสาวมาวนเวียนใกล้พันไมล์ ก่อนตัดจบบทสนทนา “ลาก่อนคุณดารา เพื่อนๆ รอพวกเราอยู่”

“...”

“ไปค่ะที่รัก ฉันหิวแล้ว”

“อา...” เธอรับคำเบาๆ พันไมล์เดินนำเข้าห้องไปก่อน รังสิมาหันมาจ้องหน้าคู่แข่งแวบหนึ่ง ส่งยิ้มทั้งปากทั้งตาอย่างผู้ชนะ ก่อนปิดประตูลง

บ้าเอ๊ย!

นาตาลีมองตามพันไมล์กับรังสิมาด้วยสายตากรุ่นโกรธ ยืนขาตายจนประตูปิดไปหลายวินาที กำหมัดข้างตัวแน่น เล็บแหลมจิกอุ้งมือเป็นรอยลึก แต่ไม่รู้สึกรู้สาแม้สักนิด หลังบาดแผลปรากฏที่หัวใจเหวอะหวะ เจ็บปวดจนเกินจะทนไหว

คิดไม่ถึงว่าตนจะมีวันนี้...วันที่สูญเสียพันไมล์ไปจริงๆ นักแสดงสาวไม่คิดจะโทษใคร นอกจากโทษตัวเอง

ฉันทระนงตัวเองเกินไป ที่คิดว่าไมล์จะรักฉัน และจะรอฉันเสมอ

...บ้าบอที่สุด!

 

“ตกลงพี่ไมล์เป็นแฟนกับคุณลูกค้าคนสวยเหรอครับ?”

“ลูกพี่ทำแบบนี้ได้ไง ผมเสียใจนะ”

“พี่ไมล์นิสัยไม่ดีมากๆ”

กิตติถามด้วยเสียงตื่นเต้นชนิดเก็บอาการไม่อยู่ วราวุธโวยวาย ตามด้วยวรรษมนที่ต่อว่าหน้าบึ้งไม่รับแขก ทั้งสามคนลืมกระทั่งมารยาทพื้นฐานในการแนะนำตัวต่อหน้าลูกค้า

“เอ่อ...”

พันไมล์ยกมือลูบต้นคออย่างลำบากใจ ไม่รู้จะตอบอย่างไร ขณะที่หล่อนมองทั้งสามคนด้วยสายตาแปลกใจ เชิดยิ้มสวยพอประมาณ

“เสียมารยาทจริงพวกนี้ ไม่คิดจะแนะนำตัวก่อนหรือไง” จงรักต่อว่าเหล่าลูกลิง หันหน้ามายังรังสิมาแล้วพูด “ขอโทษด้วยค่ะคุณรังสิมา ฉันจงรักเป็นผู้จัดการ SPY 123 และเป็นเลขาของคุณร่มฉัตร”

“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เราได้คุยกันแล้วทางโทรศัพท์” หล่อนเป็นคนยกหูโทรหาอีกฝ่าย

“ใช่ค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ” จงรักเชื้อเชิญแขก

“ขอบคุณค่ะ” รังสิมานั่งแทนที่ตำแหน่งเดิมพันไมล์ ข้างจงรักที่นั่งหัวโต๊ะ อีกข้างเป็นพันไมล์ ตรงข้ามหล่อนเป็นหนุ่มสาวสามคน

“สามคนนี้เป็นลูกน้องพันไมล์ นายวุธ นายติ แล้วก็ไอซ์ค่ะ” จงรักทำหน้าที่แนะนำสมาชิกทีละคน

“สวัสดีค่ะ” หล่อนส่งยิ้มบางเบา

“สวัสดีครับ” / “สวัสดีค่ะ”

“แม่เจ้าหัวใจผมจะละลาย” กิตติเอ่ยแบบเพ้อๆ ยกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเอง ไม่บ่อยที่จะได้เห็นสาวสวยสง่าชวนตะลึงลานแบบใกล้ๆ

ในรูปว่าสวยแล้ว แต่ตัวจริง Super beautiful

“เดี๋ยวส่งไปวัด” วราวุธพูดอย่างหมั่นไส้

“ผมยังไม่ตายครับ”

“เหรอ โทษที” คนตัวสูงใหญ่ยักไหล่แบบกวนๆ

“ชิส์” กิตติเบ้ปาก

“ทานไปเงียบๆ ผู้ใหญ่จะคุยกัน” จงรักเอ็ดลูกน้องอีกรอบ สองหนุ่มหุบปากสนิท ต่างฝ่ายต่างก้มหน้าตักอาหารเข้าปาก

“คุณดื่มอะไรดี?” พันไมล์ถามหล่อนเบาๆ

“เอาแบบเธอ” รังสิมาตอบแบบไม่เสียเวลาคิด

“สักครู่ค่ะ” สาวแว่นลุกไปยังรถเข็นที่มีน้ำแข็งเครื่องดื่ม แล้วจัดการเทเครื่องดื่มใส่แก้วเปล่า

คนอื่นลอบมองสายตาของรังสิมา ที่ดูจะมองตามพันไมล์ทุกอิริยาบถ จนกระทั่งเธอนำแก้วมาวางข้างกายหล่อน

“ขอบคุณ”

“สั่งอาหารเพิ่มไหม?” พันไมล์เดาว่ารังสิมายังไม่ได้ทานอะไรมา ไม่อยากให้ดื่มขณะท้องว่าง

“ขอข้าวผัดกุ้งจานหนึ่ง แบ่งกันนะ”

“อา โอเคค่ะ”

เอาใจกันน่าดูเลย นี่ใช่พี่ไมล์ตัวจริงหรือเปล่า?

สองหนุ่มสื่อสารกันผ่านสายตา ไม่บ่อยที่จะเป็นพันไมล์อ่อนโยนเอาใจใส่ใครแบบนี้...ยกเว้นคุณพันสา

“ฉันคิดว่าคุณรังสิมามาถึงที่นี่ น่าจะไม่ใช่เพื่อดื่มอย่างเดียว” จงรักเอ่ยขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ หลังลูกค้าคนสำคัญน่าจะพร้อมคุยแล้ว

ฉลาดไม่เบา

รังสิมาเอียงหน้ามองจงรัก นับถือในความช่างสังเกต ไม่แปลกใจที่เป็นผู้จัดการสำนักงานนักสืบ

“อย่างนั้นก็เข้าเรื่องเลยนะคะ”

.

.

.

“เรื่องนี้ขอฉันไปปรึกษากันก่อนได้ไหมคะ?” จงรักเผยสีหน้าหนักใจ หลังฟังรายละเอียดงานที่หล่อนเสนอ ซึ่งไม่ใช่ภารกิจเล็กๆ

“ตามสบายค่ะ” รังสิมาพยักหน้าเข้าใจ กวาดตามองทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด จึงเปลี่ยนหัวข้อไม่ให้เสียบรรยากาศ “คุยเรื่องงานจบแล้ว มาดื่มกันดีกว่า ถือว่าฉลองที่เราได้คุ้นเคยกัน ชนแก้วค่ะคุณรัก”

“อา ค่ะ” จงรักยกแก้วชนกับหล่อน

“ชนกับผมบ้างสิครับคุณเค้ก”

“ได้สิ” หล่อนไม่ปฏิเสธคำขอของกิตติ

“ผมด้วย” วราวุธยื่นแก้วมาขอแจมด้วย ซึ่งหล่อนก็ไม่ขัดข้องยกแก้วชนกับเขาอย่างไม่ถือตัว

“ดื่มค่ะน้องวุธ”

“แหม คุณเค้กทำให้ผมชอบชื่อตัวเองขึ้นอีกเป็นกอง”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” หล่อนหัวเราะคิกคัก ท่วงท่ามีเสน่ห์หยาดเยิ้มชวนให้สองหนุ่มใจละลาย

ปกติดูหยิ่งเชิด คิดไม่ถึงว่าจะซื้อใจคนเก่งขนาดนี้

พันไมล์คิดประเมินหล่อนในใจ ทั้งโต๊ะมีเพียงวรรษมนคนเดียวที่ดูจะไม่พอใจรังสิมา แต่ด้วยสาเหตุอะไรนั้น เธอไม่อาจทราบได้

“ไอซ์ทำไมวันนี้เงียบจัง ไม่สบายรึเปล่า?”

“พี่ไมล์สนใจกันด้วยเหรอคะ?”

เธอถามอย่างเป็นห่วงผู้ที่เป็นไม่ต่างจากน้องสาว ทว่ากลับได้รับค้อนวงโตเป็นการตอบแทน

“ค้อนพี่ทำไมเนี่ย?”

“คิดว่าสนใจแต่ ‘คุณคนนั้น’ เสียอีก” วรรษมนปรายตาไปทางเพื่อนใหม่แวบหนึ่ง

พูดอะไร?

"พี่ไม่ได้สนใจใคร-” เธอพูดไม่ทันจบประโยค

“ไม่ต้องเขินค่ะที่รัก” รังสิมาเอื้อมมากุมมืออีกคนต่อหน้าคนอื่น จงใจแสดงให้วรรษมนเห็นว่า...ตนเป็นคนพิเศษของพันไมล์

“อย่าเล่นแบบนี้” สาวแว่นเอ็ดเบาๆ พยายามชักมือออก แต่หล่อนไม่ยอมปล่อย

“ฉันไม่ได้เล่น ฉันจริงจังมากๆ”

“คุณกำลังทำให้คนอื่นเข้าใจผิด”

“เปล่าสักหน่อย” รังสิมายิ้มทั้งปากทั้งตา ชำเลืองมองคนอื่นที่ดูจะอึ้งตะลึงค้างกับการแสดงออกของเรา แล้วกล่าวขึ้นเหมือนรู้ความคิด “จริงๆ ฉันกับไมล์ยังไม่ได้เป็นแฟนกันค่ะ”

“เหรอครับ!” / “ค่อยยังชั่วหน่อย”

คนอื่นสามัคคีผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่โล่งได้เพียงแค่อึดใจ หล่อนก็กล่าวต่อ

“แต่ฉันเพิ่งขอคบกับไมล์ และกำลังรอคำตอบอยู่”

“เอาจริง!” / “พูดจริงเหรอครับ!” / “ไม่จริง!”

ลูกลิงสามตัวกล่าวแทบจะพร้อมเพรียงกัน

“เดี๋ยวๆ คุณพูดตอนไหน? ทำไมฉันไม่รู้?” พันไมล์ทำหน้าเหวอ

“ตอนที่อยู่ในออฟฟิศฉันไง”

สาวแว่นย้อนคิดถึงคำพูดแปร่งๆ ของหล่อน ก่อนแค่นหัวเราะ

“นั่นเรียกว่าขอคบเหรอ?”

“อาฮะ”

“มันใช่ที่ไหนกัน” เธอค้าน

“อ้าว ไม่ใช่เหรอ” หล่อนส่งยิ้มยียวน “งั้นฉันขอคบกับเธอตอนนี้ ให้คุณรักกับคนอื่นๆ เป็นสักขีพยานดีไหม?”

“อะไรนะ!”

“คบกับฉันนะพันไมล์” รังสิมาจับมือของพันไมล์ไว้ แล้วพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ ทว่าดูสวยสง่าหยิ่งเชิดที่แสนเป็นเอกลักษณ์

ทุกคนออกอาการตะลึงงัน ขณะที่พันไมล์อ้าปากค้าง

หา!

 

“ดูตัวบางร่างน้อยน่าจะเบา ที่ไหนได้ตัวหนักเอาเรื่อง กินเหล็กเข้าไปหรือไง”

พันไมล์บ่นเป็นหมีกินผึ้ง หลังประคองปีกหล่อนขึ้นคอนโดหรูหราชั้นบนสุดอย่างทุลักทุเล หลังอีกฝ่ายบอกว่าให้คนขับรถกลับไปแล้ว จากนั้นชนแก้วกับสองหนุ่มหลายแก้ว ส่วนวรรษมนก็ยกซดกระดกเอาๆ ไม่รู้โกรธอะไรใครมา

สุดท้ายทั้งโต๊ะมีแค่พันไมล์กับจงรักที่อยู่ในสภาพมีสติที่สุด

“จะเที่ยงคืนแล้ว กลับเถอะ” จงรักชวนขึ้น

“งั้นไมล์ขอไปเคลียร์ก่อน”

หลังพันไมล์จ่ายค่าเสียหาย จงรักบอกจะพาหนุ่มๆ ไปส่งที่สำนักงาน ส่วนวรรษมนจะพาไปค้างคอนโดตัวเอง ทิ้งให้พันไมล์รับผิดชอบรังสิมา ด้วยไม่เหมาะที่จะส่งหล่อนกลับด้วยแท็กซี่ในสภาพมึนเมาแบบนี้

“บ่น อะไร” หล่อนพึมพำทั้งที่สองตาปิดสนิท แค่เมาแต่ไม่ได้หลับ

“บ่นคุณนั่นแหละ เป็นสาวเป็นนางดื่มหนักแบบนี้ได้ไง ไม่ระวังตัวเอาเสียเลย”

“ขี้ บ่น...”

“ฉันจะบ่นคุณบ่อยๆ บ่นจนคุณรำคาญนั่นแหละ เตรียมใจไว้เลย”

หล่อนหัวเราะคิกคักเหมือนชอบใจ

“ให้ตายสิ!” พันไมล์พารังสิมาไปนอนบนเตียงได้สำเร็จ ก่อนยกแขนเสื้อขึ้นปาดเหงื่อ “เอาล่ะเรียบร้อย คุณนอนไปนะ ฉันจะกลับแล้ว”

“จะ รีบไป ไหน”

“รีบกลับไปนอนบ้านสิ ง่วงจะแย่” เธอยกมือป้องปากหลังหาวหวอด

“อยู่เป็น เพื่อนหน่อย...”

“ไม่เอาหรอก” พันไมล์ไม่อยากให้แม่เป็นห่วง เธอวางคีย์การ์ดห้องหล่อนไว้ที่โต๊ะหัวเตียง “ถ้าพรุ่งนี้ไม่ไหวก็ลางานสักวัน คุณเป็นรองประธานคงไม่มีใครกล้าไล่ออกหรอกมั้ง”

“มานี่หน่อย” รังสิมาสั่ง ปรือตาที่หนักอึ้งมองสาวแว่น

“อะไรอีก?”

“มีอะไร จะบอก”

พอพันไมล์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ สองแขนเรียวของรังสิมาก็รวบต้นคอของเธอไว้ แล้วจุ๊บแก้มเบาๆ

“ขอบคุณนะ ที่รัก”

เฮ้ย!

“ฉันไม่ใช่ที่รักของคุณ” พันไมล์เถียงเสียงสั่นๆ หัวใจเต้นแรงจนแทบกระโดดออกมานอกเหนือ วันนี้เธอโดนหล่อนขโมยหอมแก้มถึงสองครั้ง

“เดี๋ยวก็ใช่” รังสิมายกมุมปากอย่างมั่นใจ “กลับบ้านดีๆ นะ”

หล่อนคลายวงแขนปล่อยสาวหน้าคมให้เป็นอิสระ แล้วหลับตาพริ้ม ดูท่าจะเข้าภวังค์นิทราไปเรียบร้อยแล้ว

พันไมล์ถอนใจเฮือก คว้าผ้าห่มคลุมเรือนร่างงดงาม

รับมือยากชะมัด อยู่ใกล้ไม่ถึงวันยังแทบตาย จะทำครบสามเดือนไหมนะ?

เธอวางคีย์การ์ดบนโต๊ะรับแขก ก้าวไปหน้าประตู ขยับมือจะดับไฟ แต่แล้วเปลี่ยนใจ เดินกลับไปหยิบคีย์การ์ดใส่กระเป๋า ปิดไฟแล้วออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ

พันไมล์ก้าวไปยังลิฟต์ ใจลอยล่องไปถึงสาวสวยบนเตียงกว้างนุ่ม ยกมือลูบแก้มตัวเองที่ร้อนวูบวาบ

ฝันดีนะคุณแมวหยิ่ง




Create Date : 08 กรกฎาคม 2567
Last Update : 8 กรกฎาคม 2567 19:15:20 น. 0 comments
Counter : 257 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


Friends' blogs
[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.