"ได้โปรด! Please!" บทที่ 9 (ํYURI)
9 “ใส่ชุดนี้แล้วดูดีมากเลยค่ะ” กมลพรชมขึ้น หลังพันไมล์สวมชุดเสื้อสูทกางเกงสีเข้ม ณ ห้องเสื้อชื่อดังโดยลองไปสองสามชุด พร้อมรองเท้าหนังสีดำ ด้วยรูปร่างสูงโปร่งไม่ต่างจากนางแบบ จึงเลือกชุดได้ไม่ยาก “เหรอคะ?” พันไมล์เผยสีหน้าไม่ค่อยมั่นใจ หลังเห็นป้ายราคาที่แพงกระฉูด เสื้อผ้าชุดนี้รวมรองเท้าถุงเท้า เธอต้องทำงานเกือบทั้งเดือนถึงจะซื้อได้ แม้ใส่แล้วเท่ดูดี แต่รู้สึกเกร็งหายใจไม่ทั่วท้องอย่างไรไม่รู้ ถ้าชุดขาดนิดเดียว มีหวังเป็นลม “หมุนตัวหน่อย ช้าๆ นะ” รังสิมาสั่ง อยากดูความเรียบร้อยให้แน่ใจอีกครั้ง พันไมล์ทำตามอย่างว่าง่าย “ลองขยับตัวสิถนัดไหม? คับไปหรือเปล่า?” “ไม่ค่ะ” เธอลองเดินไปเดินมา นั่งย่อเข่าอย่างเป็นธรรมชาติ “ชุดนี้ใส่สบายมาก” “อืม” หล่อนพยักหน้ารับรู้ มองไปยังหญิงสาวที่อายุสามสิบกลางๆ ซึ่งเป็นรองผู้จัดการร้านเสื้อผ้าชื่อดัง “ขอไซซ์นี้แบบคล้ายๆ กัน สักสามสี่สี แล้วก็รองเท้าหนังสีอื่นด้วย ส่งไปที่คอนโดฉันนะ” “ได้ค่ะคุณเค้ก” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มกว้าง หลังหล่อนเป็นลูกค้ากระเป๋าหนัก ขอเพียงถูกใจก็เปย์ไม่อั้น แม้จะแอบสงสัยว่าพันไมล์เป็นใคร สำคัญอย่างไรกับรองประธานสาว แต่สงบปากได้แต่เพียงเก็บคำถามไว้ในใจ รู้จักอะไรควรไม่ควรเป็นอย่างดี “คุณ...” พันไมล์เดินไปกระซิบกระซาบกับหล่อน สีหน้าไม่ค่อยดีหลังได้ยินว่าอีกฝ่ายจะซื้อให้ตนอีกหลายชุด ฉันจ่ายไม่ไหวหรอกนะ “ไม่เป็นไร ต่อไปเธอต้องออกงานกับฉันบ่อยๆ” รังสิมารู้ว่าเธอจะพูดอะไร ก่อนยกกมลพรมาเป็นข้ออ้าง “พี่พรจะได้มีเวลาพักมากขึ้นหน่อย” “นั่นสิคะ ถือว่ามาช่วยแบ่งเบาพี่” เลขาสาวพูดสนับสนุน รู้สึกดีที่มีคนมาช่วยเจ้านายเพิ่ม “แต่มันแพงอ่ะ” สาวแว่นบ่นอุบอิบ พร้อมทำตาปริบๆ น่าเอ็นดู น่าแกล้งมาก รังสิมาเม้มเรียวปากเล็กน้อย “แค่นี้เรื่องเล็กน้อย อย่าคิดมาก” เล็กน้อยของคุณ แต่มันเยอะมากสำหรับฉันนะ “ขอบคุณค่ะ” พันไมล์ซาบซึ้งหล่อนอย่างบอกไม่ถูก หากถามว่าชอบไหม ก็ชอบนะ ส่วนใหญ่เธอไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย แต่จะซื้อเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น และชุดพวกนี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย การเป็นบอดี้การ์ดให้ไฮโซชื่อดังแบบรังสิมา จะมาแต่งตัวธรรมดายืนเคียงข้างหล่อนก็ใช่ที่ “แค่เธอชอบก็พอ” “...” พันไมล์หน้าขึ้นสี ก้มหน้าต่ำไม่กล้าสบสายตานิ่งๆ ของหล่อน รังสิมายิ้มบางเบาอย่างพึงพอใจ อ๊าย! ถ้ามีใครทำกับฉันแบบนี้บ้าง ฉันคงรักตายเลย รองผู้จัดการร้านชะงักอึ้งกับคำพูดของรังสิมา ที่สามารถตีความไปได้ไม่กี่อย่าง ฟังแล้วหัวใจเต้นแรงรัว หน้าร้อนวูบเขินอายแทนพันไมล์ นัยน์ตาเป็นประกายวิบวับ ถึงบางอ้อแล้วว่า ...หล่อนกับเธอน่าจะมีความสนิทสนมกันแบบพิเศษ หืม? กมลพรมองเงียบๆ เธอเป็นคนจำพวกไม่ไวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ทว่าสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างหล่อนกับบอดี้การ์ดสาวที่ให้ความรู้สึกพิเศษในแบบที่ไม่เคยเห็นเจ้านายสาวแสดงกับใครมาก่อน กระทั่งปฐมพงศ์ตัวเก็งว่าที่สามีในอนาคต ซึ่งตามจีบหล่อนมานานกว่าผู้ชายคนอื่น ยังไม่เคยได้รับความเอาใจใส่แบบนี้ คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกมั้ง เลขาสาวไม่อยากด่วนสรุปเร็วเกินไป หากรังสิมาออกนอกลู่นอกทาง เชื่อว่ารุ่งนภา ท่านประธานคงไม่ชอบใจแน่ ความซวยมหาซวยไม่พ้นหล่นใส่หัวพันไมล์ แค่คิดก็เสียวสันหลังแทนแล้ว กมลพรเคยได้ยินเรื่องแว่วมาว่า รังสิมาสนิทสนมกับหญิงสาวหลายคนช่วงเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ ไม่แน่ชัดว่าเป็นเพื่อนหรือมากกว่านั้น หลังจากหล่อนกลับมาไทยก็เปลี่ยนไปมาก จากสตรีผู้งดงามที่อารมณ์ดี กลายเป็นนางพญาสวยสง่าทว่าเย็นชา สูงส่งจนเอื้อมไม่ถึง แตะต้องไม่ได้ ...คลับคล้ายเห็นเงาของรุ่งนภาทับซ้อนบนหล่อนก็ไม่ปาน ตั้งแต่กลับมา รังสิมาถูกมารดาเล่นเกมจับคู่ให้เดตกับหนุ่มหลายคน แต่ละคนล้วนแต่หน้าตาจัดว่าหล่อเหลา ฐานะร่ำรวย หมายให้ปักหลักลงเอยสร้างครอบครัว แต่หล่อนก็ยังไม่มีทีท่าชอบพอใครเป็นพิเศษ มีเพียงปฐมพงศ์ที่ดูจะมีภาษีดีที่สุด หลังเขาได้ไปทานข้าวกับรังสิมาหลายครั้ง สุดท้ายเขาจะได้เป็น ‘คนนั้น’ ของหล่อนหรือไม่ คงต้องดูกันต่อไป กมลพรอยู่ในภวังค์คิดตึกันในสมอง ก่อนสะดุ้งหลังได้ยินเสียงไพเราะของรังสิมาถามความเห็นพันไมล์ “ชุดนี้ฉันดูเป็นอย่างไร?” “สะ สวยค่ะ” “แปลว่าปกติไม่สวย?” “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” สาวแว่นยกมือลูบต้นคอ ใบหูเผยสีแดงจาง คิดเถียงในใจ มีตอนไหนที่คุณไม่สวยบ้าง คุณสวยสง่าตลอดนั่นแหละ...ไม่น่าถาม ผู้หญิงอะไรขนาดเมาเละแบบเมื่อคืน ก็ยังน่าหลงใหล รังสิมาซ่อนยิ้มพึงพอใจในหน้า หลังบอกรองผู้จัดการร้านขอใช้ห้องแต่งตัว เพื่อเปลี่ยนมาใส่ชุดเดรสสีดำผ้ามันที่เว้าหลังลึก โชว์แผ่นหลังขาวดูเนียนนุ่มน่าสัมผัส ส่วนชุดด้านหน้าแหวกขาผ่าสูงขึ้นไป ส้นสูงสามนิ้วยิ่งเสริมส่งให้ดูร่างเพรียวสูง ยามก้าวขาจะเผยให้เห็นความเซ็กซี่เล็กๆ ชวนให้คนมองใจสั่น จินตนาการไปไกลจนกู่ไม่กลับ รองประธานสาวแต่งหน้าเข้มกว่าตอนไปทำงาน สวมสร้อยคอและแหวนเพชรที่ดีไซน์หรูเตะตา เรียบง่าย ชัดเจน แต่โดดเด่น หรูหรา ดูดี ...หล่อนชอบไอเดียแบบ Less is more. หลังทุกอย่างพร้อม หล่อนชำระค่าเสียหายและทิปแบงค์สีเทาให้รองผู้จัดการร้าน ขึ้นรถเบนซ์คันงามที่มีลุงเชิดเป็นสารถี โดยให้แวะไปส่งกมลพรที่บริษัทเดอะวันก่อน แวะไปทานมื้อเย็นกับบอดี้การ์ดสาว แล้วไปสถานที่จัดงานประมูลต่อ “ไม่ต้องตื่นเต้น เดินยืดอก เชิดหน้าขึ้นหน่อย” รังสิมากระซิบขณะก้าวไปภายในงาน โดยพันไมล์เดินตามหลังครึ่งก้าว สาวแว่นดูล่อกแล่กแบบเก็บอาการไม่อยู่ ขณะเดินอยู่ในส่วนแสดงเครื่องเพชรที่มีผู้เข้าชมหลักหลายร้อยคน ณ ห้องประชุมใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมือง “จะพยายามค่ะ” เธอพูดอย่างไม่มั่นใจ พันไมล์ไม่ชินกับงานใหญ่ ที่มีไฮโซคุณหญิงคุณนายในชุดราตรี แต่ละคนสวมชุดราวกับหลุดมาจากเวทีแฟชั่น สวมเครื่องประดับวิบวับระยิบระยับชวนละลานตา บางคนจัดเต็มคลับคล้ายตู้เครื่องเพชรเคลื่อนที่เสียมากกว่า นี่มันงานอวดบารมีของคนรวยสินะ พันไมล์ดูไม่ออกว่ามันสวยงามตรงไหน อาจเพราะเธอไม่รู้จักรสนิยมของคนรวย ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีบุญได้รู้จักคำว่า ‘รวย’ หรือเปล่า? เธอจึงไม่กล้าวิจารณ์ในสิ่งที่ตนไม่รู้ แต่สาเหตุแท้จริงที่ทำให้สาวแว่นกดดันคือ สายตาหลายสิบคู่มองมาที่รังสิมาอย่างหลงใหลได้ปลื้ม สาวสวยได้รับรอยยิ้มและคำทักทายนับไม่ถ้วนตั้งแต่เข้ามาในงาน จากนั้นมองมายังเธอพร้อมสายตาสงสัยว่า นี่ใคร? ถึงได้มีสิทธิ์มาติดตามหล่อนต้อยๆ ...พันไมล์รู้สึกอยากเป็นอากาศธาตุก็ตอนนี้ “คุณค่อยยังชั่วแล้วเหรอ?” เธอหันมาสนใจหล่อนที่ดูสีหน้าดีขึ้นกว่าตอนแรกที่เห็นในช่วงบ่าย “ต้องขอบใจพาราของเธอ ช่วยฉันได้มาก ไม่งั้นคงมาไม่ไหวแน่” “ยินดีค่ะ” สาวหน้าคมยกมุมปากขึ้น ดีใจที่ได้ทำอะไรเพื่อหล่อนบ้าง “แล้วคืนนี้คุณสนใจอะไรเหรอ?” “ไม่รู้เหมือนกัน” พันไมล์ทำหน้าเหวอ แล้วรังสิมาก็พูดอธิบาย “ฉันมาแทนแม่น่ะ” “อ๋อ” ขณะที่กำลังจะเข้าส่วนจัดงานประมูล มีเสียงเรียกที่คุ้นเคยดังจากด้านหลัง “อ้าว เค้กมาด้วยเหรอ?” มาศปรียาที่เดินคล้องแขนมากับรดาคนรัก ทั้งสองแต่งในชุดราตรีสวยดูกลมกลืนกับงานวันนี้เป็นอย่างดี “มาศ รดา” “สวัสดีค่ะเค้ก” รังสิมากับรดาทักทายกันด้วยรอยยิ้ม แม้รดาจะรู้จักหล่อนมาหลายปีในฐานะเพื่อนสนิทของคนรัก ส่วนตัวถือว่ารู้จักแบบผิวเผิน สาวสวยมักจะเว้นระยะห่างกับผู้คนเสมอ ถึงรู้จักแต่หล่อนยากจะเข้าถึง เดาใจยาก ลึกลับแต่มีเสน่ห์เย้ายวนใจ ใครก็ตามที่อยากไขว่คว้านางพญาผู้นี้ มักจะพบจุดจบด้วยการอกหักรักคุด รดาคันใจอยากรู้มาก จึงเลียบๆ เคียงๆ ถามคนข้างกาย มาศปรียาหัวเราะเบาๆ หลังโดนถามเรื่องคนรักของรังสิมา “เค้กไม่ใช่คนไร้หัวใจหรอกนะ แค่ยังไม่เจอคนถูกใจมากกว่า” “จะมีเหรอคะ รดาคิดว่าเค้กสมบูรณ์แบบเกินไป รังสีข่มคนอื่นเกิน” “ลองดูต่อไปสิ ฉันว่าประตูหัวใจที่ปิดตาย อาจจะโดนเจาะ” “จริงอ่ะ ใครคะ?” รดาตาโตอยากรู้ แต่มาศปรียายิ้มๆ ไม่ปริปากบอกอะไร “โห ไมล์แต่งแบบนี้แล้วเท่มากๆ” เพื่อนสนิทหล่อนจุ๊ปากหลังเห็นรุ่นน้องแต่งตัวดูดีต่างจากปกติคนละเรื่อง หันไปบุ้ยใบ้ต่อกับคนรักที่อยู่ข้างๆ “ใช่ไหมรดา?” “ทรงหลัวมาก เท่ขนาดนี้ มาศต้องชวนไมล์ไปช่วยงานที่ Citrus บ้างแล้ว มีหวังเป็นดาวรุ่งของคลับแน่” “ไอเดียดีมากรดา” “พี่มาศ พี่รดาอย่าแซวไมล์สิคะ ไมล์โดนคุณเค้กบังคับให้แต่งแบบนี้ค่ะ” พันไมล์โยนกองไปที่รังสิมา หล่อนเลิกคิ้วเรียวขึ้นข้างหนึ่ง เหมือนจะถามว่า ‘เป็นความผิดฉัน?’ “ขอโทษค่ะ” สาวแว่นยิ้มแหย คุยกันดีๆ ก็เป็นนี่ มาศปรียามองสองคนไปมา แล้วขำในใจ หลังเห็นสาวรุ่นน้องดูจะเกรงอกเกรงใจรังสิมามากเป็นพิเศษ พอมองเข้าไปในห้องประมูลขนาดหลายร้อยกว่าที่นั่ง ดูน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ร่วมงาน “ไปหาที่นั่งเถอะ วันนี้คนน่าจะเยอะ” “อืม” “คืนนี้มีอะไรพิเศษ?” หล่อนถามหลังนั่งเก้าอี้เรียบร้อย โชคดีที่ได้เก้าอี้ว่างเรียงกัน ข้างหนึ่งเป็นพันไมล์ อีกข้างเป็นมาศปรียา ส่วนรดานั่งถัดจากเพื่อนหล่อนออกไป “เครื่องเพชรชุดฟินาเล่เปิดตัวยี่สิบล้าน เห็นว่าเป็นของอดีตภรรยาผู้นำประเทศอะไรสักแห่ง” “เหรอ” รังสิมาพยักหน้ารับรู้ มองเป็นเรื่องปกติที่จะต้องนำสินค้าพิเศษน่าสนใจที่สุดปิดท้ายรายการ “ชุดนั้นนาตาลีเป็นคนใส่โชว์” เพื่อนหล่อนลดเสียงเบาเป็นกระซิบ ไม่อยากให้พันไมล์มาร่วมรับรู้ หล่อนปรายตามองเพื่อนรัก ดวงตาคู่สีนิลฉายแววเย็นชา ไม่ถูกชะตากับดาราสาวคนนั้นเอาเสียเลย คนขี้อิจฉา เพื่อนรักอ่านสายตาของรังสิมาออกว่า มองนาตาลีเป็นคู่แข่ง ด้วยสาเหตุบางประการที่น่าจะอยู่บริเวณนี้ “ไมล์เริ่มงานแล้วเหรอ?” “เริ่มต้นเดือน วันนี้ชวนมาเป็นเพื่อน” แค่ชวนมาเป็นเพื่อน แต่จัดเสื้อผ้าชุดหรูให้เป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า ป๋ามากเพื่อนเรา แม้มาศปรียาจะรู้เรื่องใจกว้างของหล่อน...แต่นี่มันมากไปหรือเปล่า? แต่เอาเถอะนั่นเป็นเงินของรังสิมา แค่หลักหมื่นหลักแสนบาทไม่ทำให้เพื่อนรักสะดุ้งสะเทือนอยู่แล้ว แสดงว่าจริงจังมากสินะ “ปกติชอบมาคนเดียวไม่ใช่เหรอ?” ทว่าอดแกล้งแหย่ต่อไม่ได้ “อะไร?” “ก็ไม่อะไร” มาศปรียาคลี่ยิ้มรู้ทัน เธอนับเป็นไม่กี่คนที่รู้จักหล่อนดี ดียิ่งกว่าแม่แท้ๆ ของหล่อนเสียอีก ก่อนปรายตามองไปทางเดิน “ตัวปัญหามาโน่นแล้ว” รังสิมาถอนใจเบาๆ หลังมองตามสายตาเพื่อนสนิท คิดผิดจริงๆ ที่ชวนไมล์มา “เค้ก ดีใจจังที่คุณมา” ปฐมพงศ์เรียกหล่อนอย่างตื่นเต้น “ไม่คิดว่าจะเจอพี่พงศ์ที่นี่” หล่อนกล่าวเรียบราบ “บังเอิญน่ะครับ” เขาหัวเราะแก้เก้อ ที่จริงแล้ว ปฐมพงศ์มาที่นี่เพราะแม่หล่อนโทรมาบอก จึงรีบเคลียร์งานแล้วเผ่นมาอย่างเร็ว ไม่ได้มีความสนใจการประมูลแม้แต่น้อย เขาสนใจรังสิมามากกว่า คิดถึงสาวสวยดุจนางพญาหลังไม่ได้พบหน้าหลายวัน เขาอยากเป็นมากกว่าคนที่กำลังดูใจ ทว่าการก้าวข้ามกำแพงที่มองไม่เห็นของรังสิมา...ง่ายเสียที่ไหน ใช้สารพัดวิธีในการเกี้ยวพาราสีหล่อน แต่รู้สึกเหมือนวนอยู่ในอ่าง ที่ผ่านมา ชายหนุ่มทำได้มากที่สุดคือจับมือหล่อนเท่านั้น แถมสัมผัสได้ไม่กี่วินาทีอีกต่างหาก ...ยิ่งรังสิมาหวงตัว ก็ยิ่งทำให้เขาอยากได้มากขึ้นไปอีก “นี่ใครครับ?” เขามองไปยังพันไมล์ ก่อนหันไปถามสาวเจ้า จำได้ว่าเจอผู้หญิงคนนี้ครั้งหนึ่งเมื่อหลายวันก่อนที่ออฟฟิศของหล่อน แต่วันนั้นไมได้สอบถาม “ผู้ช่วยคนใหม่ของฉันค่ะ” รังสิมาตอบเสียงเรียบ ถ้าแค่ผู้ช่วยก็น่าจะไม่มีปัญหา ปฐมพงศ์ยิ้มน้อยๆ ก่อนเอ่ยกับพันไมล์ว่า “ถ้างั้นผมขอแลกที่กับคุณผู้ช่วยได้ไหม? ผมอยากนั่งติดกับเค้ก”
Create Date : 19 กรกฎาคม 2567 |
|
0 comments |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2567 22:19:03 น. |
Counter : 128 Pageviews. |
|
|
|