ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
 
มกราคม 2565
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 มกราคม 2565
 
 
อ๋องน้อย เจ้าสำราญ - บทที่ ๔ (YURI)

 

“ขอถามว่านี่เป็นโอสถอะไร” พ่อบ้านเฉินถาม เพ่งมองขวดยาที่แขกแปลกหน้ายื่นออกมา ในใจคิดลังเลกึ่งสงสัย ด้วยอีกฝ่ายมีสถานะที่คลุมเครือ เพียงแค่มองแวบเดียวเขาก็ทราบว่า ผู้พูดเป็นสตรีมิใช่บุรุษ

“ยาเม็ดสิบราตรี เป็นโอสถวิเศษของสำนักเมฆาคราม” สตรีในชุดบุรุษกล่าวเสียงเรียบ

เฉินอี้ทำหน้าประหลาดใจ เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของสำนักแห่งนี้มาบ้าง ห้าสิบปีก่อนเจ้าสำนักได้สำแดงเพลงกระบี่ปราบมารจนมีชื่อเสียงกึกก้อง แต่ต่อมาไม่นานได้เงียบหายไปอย่างไร้ร่องรอย ตัวสำนักบนยอดเขาพังพินาศเหลือแต่ซาก ในสิบปีที่ผ่านมาไม่มีข่าวของศิษย์สำนักนี้ปรากฏตัวในยุทธภพอีก

“ท่านเป็นศิษย์ของเมฆาคราม” น้ำเสียงสอบถามสุภาพนุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความเคลือบแคลง ในฐานะพ่อบ้านเขาไม่อาจประมาทเลินเล่อล้อเล่นกับชีวิตของอ๋องน้อยได้

สงสัยข้าสินะ

สตรีในคราบบัณฑิตเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ทันขยับริมฝีปาก ก็โดนใครอีกคนพูดแทน

“นางเป็นศิษย์อันดับสามของท่านอาจารย์เจ้าสำนัก นอกจากเพลงกระบี่ดีเยี่ยม ศิษย์พี่ยังเชี่ยวชาญเรื่องปรุงยาไม่น้อย ข้าว่าท่านควรจะรับยาขวดนี้ไว้ ไม่เช่นนั้นพี่เหลียนซิงคงยากจะรอด” เฉียนซูเหิงพูดแนะนำยืดยาว

“ท่านพ่อบ้าน” หงซิ่วเรียกชายอาวุโสเบาๆ

เฉินอี้มองคนเรียก ก่อนกวาดตามองอีกสามคนที่เหลือ ซึ่งรอฟังการตัดสินใจของเขา พ่อบ้านถอนใจเบาๆ

“ถ้าคุณชายเป็นอะไร ข้าจะรับผิดชอบด้วยชีวิต”

“ไม่ใช่แค่ท่านพ่อบ้านหรอก พวกข้าก็จะตามไปด้วย” จื่อยวนพูดโพล่งขึ้น

สำหรับนางแล้ว อ๋องน้อยสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตนเสียอีก หากไม่ได้ความช่วยเหลือของมู่หรงเหลียนซิงหลายปีก่อน ตอนนี้นางอาจจะต้องทนทุกข์ไม่ต่างจากตายทั้งเป็นอยู่ในหอคณิกาสักแห่ง หลังครอบครัวยากจนข้นแค้นไม่มีข้าวจะกิน จึงถูกพ่อแม่นำมาขาย โชคดีที่มู่หรงเหลียนซิงผ่านไปพบ จึงอุปการะนางไว้และดูแลอย่างดี

“ใช่”

“ข้าด้วย”

สององครักษ์หนุ่มพยักหน้าพร้อมเพรียง

หงซิ่วไม่พูดอะไร แต่สีหน้าแววตาบอกชัดว่า นางคิดไม่ต่างจากคนอื่น

รักใคร่กลมเกลียวกันจริงๆ แปลก!

เยี่ยหยุนจือคิดแปลกใจ ที่ผู้คนในจวนดูจะผูกพันกับอ๋องน้อยผู้นี้มาก เท่าที่นางเห็นเขามีพฤติกรรมไม่จัดว่าดีงาม ก่อศัตรูไปทั่ว บุรุษดีที่ไหนไปเที่ยวหอคณิกา แถมยังใช้เงินไม่ต่างจากเบี้ย คาดว่าเขาคงทำเรื่องชั่วช้าไว้ไม่น้อย

“ข้าว่าตอนนี้ท่านควรให้เขากินยาก่อน ในขวดมียาเหลือสามเม็ด หนึ่งเม็ดจะยืดชีวิตไปได้ราวสิบวัน อย่างน้อยก็ประวิงเวลาได้สักเดือน หวังว่าพวกท่านจะหาหญ้า XXX มาปรุงยาทัน”

“ขอบคุณแม่นาง” เฉินอี้ประสานมือให้กับสตรีตรงหน้าอย่างนอบน้อม ก่อนส่งขวดยาให้หงซิ่ว

สาวใช้รีบเทยาป้อนใส่ปากเจ้านาย พลางใช้ผ้าซับเหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มหน้าผากของอ๋องน้อย

“อดทนหน่อยนะคุณชาย” นางกระซิบเบาๆ กับคนเจ็บ หากเจ็บแทนได้ หงซิ่วคงทำไปแล้ว

“ข้าจะดึงลูกศรออก เจ้ากับจื่อยวนทำแผลให้คุณชาย” พ่อบ้านกำชับ

“เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสองรับคำ

“คืนนี้ดึกมากแล้ว จงหลินซิงหุน พวกเจ้าช่วยพาแขกทั้งสองไปยังห้องรับรอง ต้อนรับอย่างดีด้วย อย่าให้มีอะไรขาดตกบกพร่อง”

“ขอรับ” องครักษ์หนุ่มตอบรับอย่างแข็งขัน

จงหลินผายมือ “เชิญคุณชายเฉียนกับแม่นางหยุนจือ”

“ขอบคุณท่านพ่อบ้าน” เฉียนซูเหิงกล่าวอย่างเกรงใจ

“พวกข้าต่างหากที่ควรกล่าวเช่นนั้น” พ่อบ้านเฉินพูดอย่างนอบน้อม “หากต้องการอะไรเพิ่มเติม สั่งทุกคนในจวนได้เลยนะขอรับ ขอให้คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของพวกท่าน”

ชายหนุ่มพยักหน้า หมุนตัวเดินตามองครักษ์ทั้งสอง

เยี่ยหยุนจือชำเลืองมองคนเจ็บบนเตียงแวบหนึ่ง ก่อนก้าวตามศิษย์ผู้น้องออกไป หลังพ้นห้องนอนนั้นเพียงไม่กี่ก้าว พลันได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังออกมา ชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ก่อนก้าวต่อไป

นางรู้สึกว่าคืนนี้คงเป็นค่ำคืนที่ยาวนานสำหรับหลายคน

 

มู่หรงเหลียนซิงสลบไสลไม่ได้สติไปจนถึงบ่ายอีกวัน โดยมีสองสาวใช้ผลัดกันคอยดูแลตลอดเวลา ทันทีที่รู้สึกตัวอ๋องน้อยรู้สึกเจ็บแปลบที่บาดแผล ฝืนลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นช้าๆ ภาพแรกที่เห็นคือหลังคามุ้งสีขาวที่คุ้นตา พร้อมกับได้ยินน้ำเสียงอันแสนคุ้นหู

“คุณชาย คุณชายฟื้นแล้ว” เสียงแจ๋วเจื้อยของจื่อยวนดังขึ้นไม่ไกล

หงซิ่วรีบก้าวมาข้างเตียงของเจ้านายทันที

“รู้สึกอย่างไรบ้างคุณชาย”

“เจ็บจนแทบขยับตัวไม่ได้” คนเจ็บตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าคมสันยามนี้ขาวซีด ริมฝีปากแห้งผาก ก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุดนอนสีขาวมีผ้าพันแผลที่เหนือตำแหน่งอก ไม่บอกก็รู้ว่าสองสาวช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำแผลให้ “ขอน้ำ”

“เจ้าค่ะ” จื่อยวนคว้าน้ำมาส่งให้หงซิ่วที่ประคองร่างคนเจ็บนั่ง แล้วป้อนน้ำให้อย่างระมัดระวัง

“ข้าเป็นอะไร” มู่หรงเหยียนซิงถาม

“เมื่อคืนท่านถูกยิงด้วยลูกศรเคลือบยาพิษ จงหลินกับลูกน้องออกไปหายาแก้พิษให้ท่านอยู่” จื่อยวนบอก

อ๋องน้อยพยายามนึกทวนความทรงจำ ก่อนถามออกมา

“แล้วหยุนจือกับน้องซูเหิง”

“สหายของคุณชายปลอดภัย พ่อบ้านเฉินเชิญให้พักอยู่ที่จวน เมื่อเช้าพวกเขาก็มาเยี่ยมท่าน” หงซิ่วตอบ

“ดีแล้ว”

“ไม่ดีเจ้าค่ะ คุณชายยังไม่พ้นขีดอันตราย ยาที่แม่นางหยุนจือให้ไว้แค่ยืดเวลาออกไปเท่านั้น ข้าไม่ยอมให้ท่านตาย” จื่อยวนไม่วางใจจนกว่าอีกฝ่ายจะหายสนิท น้ำตาเริ่มคลอเบ้าอีกรอบ วิตกกับอาการของเจ้านายจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน ขอบตามีรอยช้ำแดงหลังเมื่อคืนร่ำไห้ไปหลายรอบ

“ยาอะไร”

หงซิ่วจึงเล่าเรื่องเมื่อคืนออกมา รวมถึงเรื่องที่เยี่ยหยุนจือเป็นศิษย์ของสำนักเมฆาครามด้วย

สำนักเมฆาครามหายสาบสูญไปตั้งนาน จู่ๆ ปรากฎตัวแบบนี้ ต้องมีอะไรแน่

คนเจ็บนิ่งคิดในใจ เคยอ่านบันทึกเรื่องราวของสำนักนี้ผ่านตามาบ้างว่า จัดเป็นหนึ่งในห้าสำนักที่ยอดเยี่ยมทั้งเพลงกระบี่และวิชาแพทย์

สาวใช้ทั้งสองเห็นอ๋องน้อยทำหน้านิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่ จึงไม่รบกวน

“เดี๋ยวข้าไปต้มโจ๊กมาให้คุณชาย เจ้าอยู่ดูแลที่นี่” จื่อยวนบอกกับหงซิ่ว อีกฝ่ายพยักหน้า นางจึงเดินมาเปิดประตูห้อง ต้องทำหน้าประหลาดใจที่เห็นสหายของเจ้านายในชุดสตรีสีเขียวยืนอยู่ก่อน “แม่นางหยุนจือ”

“ข้าเอาโจ๊กมาให้”

“ขอบคุณแม่นางหยุนจือ” สาวใช้กล่าวอย่างสุภาพ ยื่นมือจะไปรับชามโจ๊กนั้นมาถือไว้

“ระวังร้อนด้วย” สตรีในชุดเขียวบอก ก่อนหมุนตัวหมายจากไป พลันได้ยินเสียงหงซิ่วดังออกมาจากด้านใน

“คุณชายขอเชิญแม่นางหยุนจือ”

เจ้าของชื่อตัดสินใจก้าวเข้าไปในห้องนอนนั้น โดยจื่อยวนตามอยู่ด้านหลัง

“ขอบคุณท่านมาก” คนเจ็บฝืนยิ้ม กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง มองแขกที่นั่งเก้าอี้ห่างออกไปหลายก้าว “ขอโทษที่ข้าต้อนรับท่านในสภาพแบบนี้”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ถือเป็นการตอบแทนที่เจ้าเลี้ยงเหล้าข้ากับซูเหิง” เยี่ยหยุนจือพูดอย่างไม่ใส่ใจ

การที่แขกสาวเลือกใช้คำว่า ‘เจ้า’ แทนที่จะเป็น ‘ท่าน’ เหมือนคนส่วนใหญ่ทำให้สองสาวใช้รู้สึกแปลกใจ แต่ไม่กล้าพูดอะไร

“ยาล้ำค่าตั้งสามเม็ดแลกกับค่าเหล้า ข้าว่าเจ้าขาดทุนมากนะ” คนบนเตียงพูดยิ้มทีเล่นทีจริง ไม่ได้วิตกกับใบหน้าสวยงามที่แสนจะเย็นชาแม้แต่น้อย

กำลังใจเข้มแข็งทีเดียว

สตรีในชุดเขียวคิดชมในใจ หลังอีกฝ่ายเจ็บหนักขนาดนี้ยังมีกะจิตกะใจพูดเล่นได้ หากเป็นคนทั่วไปคงร้องครวญครางจะเป็นจะตายไปแล้ว

“ยามีไว้ช่วยคน ไม่ได้มีไว้ขาย” น้ำเสียงกระด้างขึ้น หลังอีกฝ่ายทำท่าล้อเลียน

เปลือกนอกดูเย็นชา แต่แท้จริงเป็นคนจิตใจดีมาก

อ๋องน้อยสัมผัสได้ถึงตัวตนแท้จริงของอีกฝ่าย นางต่างจากผู้คนส่วนใหญ่ที่ต่อหน้าล้อมหน้าล้อมหลังประจบประแจงเอาใจ แต่ลับหลังไม่พ้นนินทาว่าร้าย

“โจ๊กกำลังอุ่นพอดี ข้าว่าเจ้ารีบทานเถอะ” เยี่ยหยุนจือเตือน

“ท่านทำให้ข้าเองรึ” อดถามไม่ได้

“อืม”

มู่หรงเหลียนซิงผุดยิ้มบางเบา นัยน์ตาเป็นประกายขึ้น

“ได้”

อ๋องน้อยขยับตัวจะรับชามโจ๊ก แต่จื่อยวนไม่ยอม

“คุณชายอย่าขยับตัวมาก แผลอาจจะปริอีก” สาวใช้กล่าวเสียงเย็น “เดี๋ยวข้าป้อนท่านเอง”

“เอ่อ...” คนเจ็บแสดงท่าทางลังเล ดูไม่เหมาะสมที่จะทำตัวอ่อนแอต่อหน้าสหายใหม่

“อ้าปาก” จื่อยวนสั่ง หลังตักโจ๊กใส่ช้อนแล้วเป่าไล่ความร้อนเบาๆ

มู่หรงเหลียนซิงยอมทำตามอย่างว่าง่าย รู้ซึ้งว่าหากต่อปากต่อคำกับสาวใช้ผู้นี้ คงยากที่จะชนะในความดื้อรั้นหัวแข็ง จึงปล่อยเลยตามเลย

...เหตุผลใช้กับคนบางจำพวกไม่ได้

“อืม อร่อยมาก ข้าชอบ” อ๋องน้อยเอ่ยชม หลังกลืนโจ๊กลงคอ เม็ดข้าวละเอียด รสชาติอ่อน มีกลิ่นหอมชวนทาน อร่อยต่างจากที่เคยทานมา

“เจ้าทานไปนะ” เยี่ยหยุนจือลุกยืนขึ้น รู้สึกเหมือนตนเป็นส่วนเกิน อึดอัดกับสายตาแปลกๆ ของจื่อยวนที่มองมาเหมือนไม่พอใจ จึงคิดขอตัวออกไป อิสตรีมักไวกับความรู้สึกของเพศเดียวกัน

“ท่านจะไปไหน” คนเจ็บถามขึ้นทันที

“ข้าจะไปทำธุระ เจ้ามีอะไร” นางย้อนถามเสียงเรียบ

“ข้าแค่อยากถามเรื่องคนร้ายเมื่อคืน” มู่หรงเหลียนซิงพูดออกไป ทั้งที่ไม่คิดสนใจเรื่องนั้นแม้แต่น้อย ผู้คิดกำจัดตนมีเยอะจนไม่อยากนับ ใจจริงแค่อยากหาเรื่องชวนอีกฝ่ายคุยเท่านั้น รู้สึกอยากเห็นหน้าสวยเฉยนานอีกสักหน่อย

สาวในชุดเขียวส่ายหน้า ทรุดนั่งลงตามเดิม

“บนตัวคนร้ายไม่มีป้ายคำสั่งหรือจดหมาย เจอแค่รอยสักรูปงูสองตัวพันกันที่ท่อนแขนกับบนอาวุธ”

“เป็นไปได้ว่าเป็นนักฆ่าจากหุบเขาหมื่นพิษ” หงซิ่วที่เงียบมาตลอดพูดขึ้น

แววตาของเยี่ยหยุนจือขยับไหววูบ เคยได้ยินมาว่าที่นั่นฝึกนักฆ่ามีฝีมือไว้มากมาย แต่ค่าจ้างก็สูงตามฝีมือ

“หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้” คนเจ็บพูดยิ้ม หลังกลืนโจ๊กไปอีกสองคำ สมองเริ่มปลอดโปร่งขึ้น

หงซิ่วนิ่งคิดหาเหตุผล

“ทำไมล่ะคุณชาย” จื่อยวนเอียงคอถามอย่างสงสัย

“ฝีมือแย่แบบนั้นไม่น่ามาจากหุบเขาหมื่นพิษ” คนเจ็บหัวเราะเบาๆ “จะฆ่าข้าต้องจ่ายถึงห้าหมื่นตำลึง จะมีสักกี่คนที่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้น”

“ห้าหมื่นตำลึง!” คนถามทำตาโต แทบหลุดมือปล่อยชามโจ๊ก ไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนั้นมาก่อน

ห้าหมื่นตำลึงอาจจะมหาศาลสำหรับผู้อื่น แต่เจ้ากลับเอาไปประมูลสาวงาม น่าขัน!

เยี่ยหยุนจือคิดประชดในใจ แต่เลือกที่จะไม่พูด

“พี่หงซิ่ว จื่อยวน” เสียงทุ้มต่ำแผ่วเบาของผู้ชายดังมาจากนอกห้อง เขาไม่กล้าส่งเสียงดังมาก เกรงจะรบกวนเจ้านายพักผ่อน

หงซิ่วลุกไปเปิดประตู “มีอะไร”

“องค์ชายสี่มาหาคุณชาย ตอนนี้รออยู่ที่ห้องโถง จะให้ข้าทำอย่างไร”

“รอสักครู่ ข้าจะไปถามคุณชาย” สาวใช้บอกกับเด็กหนุ่มอายุสิบต้นๆ ปิดประตูแล้วหายไปชั่วครู่ ก็เดินกลับมาบอกเขาว่า “เรียนองค์ชายว่าอีกสักครู่คุณชายจะออกไปพบ”

“ขอรับ”

“เจ้าไม่ควรฝืนตัวเอง” เยี่ยหยุนจือขมวดคิ้ว หลังได้ยินว่าคนเจ็บจะออกไปต้อนรับแขก ทั้งที่สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย

“ถ้าข้าไม่ออกไปพบเขา เกรงว่าเรื่องข้าบาดเจ็บจะรู้กันทั่ว” อ๋องน้อยพูดเสียงแผ่ว ไม่อยากเปิดโอกาสให้คนพวกนั้นมาไล่ฆ่าซ้ำถึงที่นอน

“งั้นก็ตามใจเจ้า” นางถอนใจเบาๆ กับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย ลุกยืนเต็มความสูง “ก่อนได้ยาแก้พิษ เจ้าไม่ควรใช้วรยุทธ ไม่เช่นนั้นพิษจะเข้าสู่หัวใจเร็วขึ้น”

“ขอบคุณหยุนจือที่เตือน ข้าจะพยายาม”

สตรีในชุดเขียวปรายตามองผู้ที่เรียกชื่อตนอย่างสนิทสนม แต่นางกลับไม่พูดต่อว่าอะไร ก้าวไปสองก้าวก็พูดโดยไม่หันกลับมามอง

“ข้าจะออกไปข้างนอก เย็นๆ ถึงจะกลับ”

“ข้าจะให้พี่หงซิ่วกับจื่อยวนทำอาหารอร่อยๆ รอท่านกลับมาทานด้วยกันนะ” คนเจ็บเอ่ยชวน

เยี่ยหยุนจือไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ก้าวออกจากห้องนั้นไป

มู่หรงเหลียนซิงมองตามจนกระทั่งนางลับสายตา มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

OoXoO

ต้องมาดูว่าอ๋องน้อยจะก่อเรื่องอะไรอีก เรื่องนี้อาจมีเดินเรื่องช้าบ้างเร็วบ้างนะคะ มีลุ้นกันเรื่อยๆ เหมือนจะยาวกว่าพล็อตที่วางไว้เยอะมาก 5555  

ขอบคุณสำหรับทุกหัวใจ ทุกคอมเมนท์ ทุกการติดตามนะคะ ใครชอบก็เขียนบอกเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ  

นาง ^^

OoXoO




Create Date : 28 มกราคม 2565
Last Update : 28 มกราคม 2565 21:16:57 น. 0 comments
Counter : 522 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com