ชื่อร้าน : เป็นลาวรายการอาหาร : อาหารอีสาน ไก่นาย่างสมุนไพร แกงลาวเห็ดสามอย่าง ไก่ต้มใบมะขามอ่อน ผัดหมี่โคราชเวลาเปิดบริการ : เปิดบริการทุกวันอังคารถึงอาทิตย์ เว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น.ที่ตั้งร้าน : 7/1 หมู่10 ถนนกุดคล้า-ผ่านศึก ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง นครราชสีมา 30130 โทร. 0834613666พิกัด GPS : 14° 32' 36.42"N 101° 20' 4.08"E (พิกัดอาจคลาดเคลื่อนได้ กรุณาตรวจสอบด้วยตัวเองอีกครั้ง) ดูแผนที่เพิ่มเติม
เป็นลาว เป็นชื่อร้านอาหารยอดนิยมแ่ห่งหนึ่งที่อยู่ในย่าน "เขาใหญ่" ฝั่งปากช่อง ฟังแค่ชื่อร้านก็คงเดากันได้ว่าร้านนี้ต้องขายอาหารอีสานอย่างแน่นอน ร้านนี้เขาเปิดมานานเกือบห้าปีแล้ว และเคยได้ไปออกรายการ "SME ตีแตก" ด้วย ยิ่งทำให้ร้านเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น จนลูกค้าแน่นร้านไปหมดโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ..... ผมเองก็เคยขับรถผ่านไปแถวนั้นอยู่หลายครั้ง ว่าจะแวะไปลองชิมดูบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะดันไปถึงตอนเที่ยงๆ รถจอดกันเป็นแถวยาวเหยียดเต็มหน้าร้านทั้งสองฝั่งถนนจนหาที่จอดไม่ได้ มาคราวนี้เข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วง low season ของเขาใหญ่ นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ผมเลยถือโอกาสขับรถข้ามเขาใหญ่ เพื่อจะไปตระเวนชิมอาหารอีสานที่ร้านดังแห่งนี้ดูซักครั้ง ..... +++ วันนี้ ผมจะพาไปตระเวนชิมอาหารอีสานรสแซ่บ ที่ร้าน "เป็นลาว" ร้านยอดนิยมในย่านเขาใหญ่ ++++++ ตามสองเด็กดื้อไปชิมกันเลยครับ +++ ร้าน "เป็นลาว" ตั้งอยู่บนถนนกุดคล้า-ผ่านศึก หากใช้เส้นมวกเหล็ก วิ่งมาจากกรุงเทพฯ ให้กลับรถเข้ามาทางร้านแดรี่โฮม วิ่งมาจนถึงกม.ที่ 17 ร้านจะอยู่ด้านขวามือ ใกล้กับร้านกาแฟคอฟฟี่มาเนีย และอยู่เยื้องกับ Primo Posto ประมาณ 300 เมตร ตัวร้านเป็นเรือนไม้ขนาดกลาง มีโต๊ะไม่มากนักประมาณ 30 กว่าโต๊ะ ดังนั้นหากใครไม่อยากผิดหวังไปถึงแล้วไม่มีที่นั่ง ควรโทรไปจองโต๊ะไว้ก่อนล่วงหน้าก็ดีนะครับ สำหรับอาหารจานเด่นที่เป็นเมนูแนะนำของที่นี่ มีให้เลือกชิมหลากหลายชนิด ตัวอย่างเช่น ไก่นาย่างสมุนไพร ซี่โครงหมูหมักไวน์แดง ไก่นาต้มใบมะขาม แกงลาวเห็ดสามอย่าง แกงอ่อมปลาทับทิม และบรรดาส้มตำทุกชนิด ที่สำคัญร้านนี้เขาไม่ใส่ผงชูรสด้วยนะครับ .....+++ ร้าน "เป็นลาว" เป็นร้านขนาดกลางตั้งอยู่บนถนนกุดคล้า-ผ่านศึก ทางลัดไปเขาใหญ่ ++++++ สามารถจอดรถได้ที่หน้าร้านและสองฝั่งถนน แต่ถ้าคนมากันเยอะ ที่ก็ไม่พอจอดเหมือนกัน ++++++ ร้านเขาเปิดทุกวันอังคารถึงอาทิตย์ หยุดทุกวันจันทร์ อย่าเผลอมาผิดวันนะ เดี๋ยวจะอดทาน ++++++ ภายในร้าน ตกแต่งแบบเรียบๆ ธรรมดาแต่ก็ดูสะอาดดี ++++++ ราคาอาหาร อยู่ในระดับกลางๆ ไม่แพงจนเกินไป ++++++ การบริการของร้าน ถือว่ารวดเร็วใช้ได้ สั่งอาหารไปไม่นานก็ได้ครบแล้ว ++++++ มาร้านอาหารอีสานทั้งทีก็ต้องไม่พลาดชิม ส้มตำไทย และ ส้มตำปู ++++++ อาหารสองรายการถัดมา ไก่ย่างสมุนไพร และ แกงลาวเห็ดสามอย่าง ++++++ อาหารสองรายการสุดท้าย คอหมูย่าง และ ไก่ต้มใบมะขามอ่อน +++ อาหารสองรายการแรกของเรา "ส้มตำไทยและส้มตำปู" สำหรับส้มตำปู รสเปรี้ยวนำเค็มตาม ใส่รสหวานนิดหน่อย รวมๆ แล้วกำลังดี อร่อยพอใช้ได้ แต่ส้มตำไทย ผมว่ารสชาติออกธรรมดาเกินไปไม่ีมีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ถือว่ายังไม่ผ่านครับ .....+++ ส้มตำปู รสเปรี้ยวนำเค็มตาม รวมๆ แล้วรสจัดจ้านกำลังดี ... ราคาจานละ 30 บาท +++ อาหารรายการถัดมา "ไก่นาย่างสมุนไพร" เป็นหนึ่งในอาหารแนะนำของที่นี่ ทางร้านใช้ไก่นาพันธุ์ตะนาวศรี ที่เลี้ยงด้วยสมุนไพรนานาชนิด เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ไพล มาหมักกับกระเทียมพริกไทยสูตรเฉพาะของทางร้าน แล้วนำไปย่างให้สุก เนื้อไก่ผมว่าเขาย่างได้นุ่มกำลังดี ไม่แห้งจนเกินไป ได้กลิ่นกระเทียมพริกไทยหอมแตะจมูก อร่อยจนเราต้องสั่งเพิ่มมาอีกจาน (หรือเพราะไก่เขาออกจะตัวเล็กไปหน่อยก็ไม่รู้เลยทานหมดเร็ว) .....+++ ไก่นาย่างสมุนไพร หนึ่งในเมนูแนะนำของที่นี่ ... ราคาครึ่งตัว 100 บาท +++ อาหารรายการที่สามของเรา "แกงลาวเห็ดสามอย่าง" เสิร์ฟมาในปิ่นโตแบบย้อนยุค เห็นแล้วคิดถึงสมัยตอนเด็กๆ ที่เคยหิ้วปิ่นโตไปกินที่โรงเรียน เมนูนี้ใช้เห็ด 3 อย่างประกอบไปด้วยเห็ดขอนขาว เห็ดฟาง และเห็ดนางฟ้า ต้มกับน้ำแกงคั้นจากน้ำใบย่านาง ซึ่งจากข้อมูลทางร้านเขาว่าเป็นสมุนไพรที่มากสรรพคุณ ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลของกรดในกระเพาะอาหาร เรียกว่าได้ทั้งความอร่อยและยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย .....+++ แกงลาวเห็ดสามอย่าง รสชาติใช้ได้ น้ำไม่ข้นมากจนเกินไป ... ราคา 80 บาท +++ อาหารรายการที่สี่ "คอหมูย่าง" เมนูยอดนิยมที่เรามักจะสั่งมาทานกันบ่อยๆ เวลามาร้านอาหารอีสาน เขาใช้เนื้อคอหมูมาหมักจนได้ที่ นำไปย่างให้สุกเหลือง ได้เนื้อนุ่มกำลังดี ไม่เหนียวหรือแห้งจนเกินไป จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรของทางร้าน ทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร .....+++ คอหมูย่าง เนื้อหมูนุ่ม เคี้ยวเพลิน ... ราคา 75 บาท +++ อาหารรายการสุดท้ายที่จะพาไปชิมในวันนี้ "ไก่ต้มใบมะขามอ่อน" ใช้ไก่นาสับเป็นชิ้นๆ พอดีคำ นำมาต้มกับใบมะขามอ่อนและเครื่องต้มยำ ปรุงรสกำลังดี ได้รสเปรี้ยวของใบมะขามอ่อน และน้ำมะนาว ซดคล่องคอ แซ่บถูกใจ เสียดายที่ให้เนื้อไก่มาน้อยชิ้นไปหน่อย .....+++ ไก่ต้มใบมะขามอ่อน รสเปรี้ยวกลมกล่อมกำลังดี ... ราคา 80 บาท ++++++ ข้าวเหนียวข้าวดำ เพิ่งเคยทานที่นี่แหละครับ ... ราคา 12 บาท +++ หลังจากอิ่มอร่ิอยกับเมนูอาหารอีสานรสแซ่บที่ร้าน "เป็นลาว" กันแล้ว เรายังพอมีเวลาเหลือ แถมอากาศยังเป็นใจ แม้ท้องฟ้าจะมีเมฆมาก ไร้สีสันดูไม่สดใส แต่ก็ดีตรงที่ไม่ร้อน เหมาะกับการหาที่เดินเล่นย่อยอาหารก่อนกลับบ้าน เราเลือกแวะไปเที่ยวที่ "Palio" เพราะอยากไปดูว่าตอนนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไหม หลังจากไม่ได้ไปที่นี่มาซะนาน ..... "Palio" ในวันนี้ แม้ว่าอาคารบางส่วนอาจจะเริ่มสีซีดจางลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงสีสันจัดจ้านเหมือนเดิม ร้านบางแห่งปิดตัวไป มีร้านใหม่ๆ เกิดขึ้นมาแทน นักท่องเที่ยวอาจน้อยลงกว่าตอนเปิดใหม่ๆ แต่ที่นี่ก็ยังคงดูมีเสน่ห์อยู่เสมอไม่ว่าจะมากี่ครั้ง เพียงแต่ว่ามาครั้งหลังๆ ความตื่นตาตื่นใจอาจจะลดน้อยลงไปบ้าง ก็เลยทำให้คราวนี้ผมเก็บภาพมาได้ไม่มากเท่าไหร่นัก .....+++ Palio เขาใหญ่ในช่วง low season นักท่องเที่ยวไม่ค่อยแน่น เดินเที่ยวสบายๆ ++++++ ถึงแม้ที่นี่จะเปิดมานานแล้ว แต่สีสันของอาคารส่วนใหญ่ ก็ยังคงสวยสดเหมือนเดิม ++++++ แม้ฟ้าจะไม่สดใส ถ่ายภาพไม่สวย แต่ก็ีดีตรงที่อากาศไม่ร้อน เดินเล่นได้สบายๆ ++++++ วันที่เราไปเที่ยว มีคนมาเดินเล่นที่นี่ไม่มากนัก ++++++ มาทีไรก็อดไม่ได้ต้องถ่ายภาพมุมนี้กลับไป ก็ตรงนี้เป็นมุมโปรดของผมนี่ครับ ++++++ รูปปั้นน่ารักบริเวณน้ำพุ ++++++ สองเด็กดื้อมา Palio หลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังอดตื่นเต้นกับที่นี่ไม่ได้ ++++++ กามเทพน้อยน่ารัก พบได้ทั่วไปใน Palio ++++++ ตัวตลกโบโซ่ ขวัญใจเด็กๆ เพราะบิดลูกโป่งเป็นรูปต่างๆ ได้สวยมาก ++++++ ดื้อเล็กพักทานสายไหมเติมพลังก่อนไปเดินเที่ยวต่อ ++++++ ดอกไม้สวยๆ ใน Palio ++++++ ฟ้าไม่สวย เลยลองจับมาย้อมสีดูเล่นๆ +++ เขาใหญ่วันนี้ แม้จะเป็นช่วง low season เพราะเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว แต่ก็ยังคงน่าเที่ยว เป็นช่วงที่ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มน่าสบายตาเป็นที่สุด ที่นี่มีร้านอาหารให้เลือกทานหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยที่ร้านครัวเขาใหญ่ หรืออาหารฝรั่งที่ร้าน Smoke House ส่วนใครที่นึกอยากจะทานอาหารอีสาน ก็ลองแวะไปชิมกันได้ที่ร้าน "เป็นลาว" แต่ถ้าไปทานแล้วไม่ถูกปากก็อย่าต่อว่ากันนะครับ เพราะแต่ละคนก็ชอบอาหารรสชาติไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ขอแนะนำไว้เป็นทางเลือกหนึ่งก็แล้วกัน สำหรับการพาไปตระเวนชิมริมทางของเรามื้อนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่บล็อกเอนทรี่หน้า สวัสดีครับ .....