[Y]มาแชร์ประสบการณ์ความรักให้ฟังครับ 42 พอเรากินข้าวกันเสร็จ
เรียกว่ากินข้าวแล้วกันเนอะ
ผมกับเขาก็นั่งคุยกันกินลมทะเลต่อไปอีกสักพักก็เข้าไปในห้อง เก็บของ แล้วเช็คเอ้าท์ออกจากรีสอร์ท
ผมถามเขาก่อนว่าจะกลับเลยมั้ย เขาส่ายหน้าตอบกลับมาว่า
เดี๋ยวกูพาไปกินเค้กในหัวหิน
ผมยิ่มร่าดีใจสุดๆ
เราสองคนออกจากชะอำประมาณเที่ยงกว่าๆ ไม่นานก็ไปถึงหัวหิน
เขาพาผมไปกินเค้กร้านๆหนึ่ง ที่เขาบอกว่ามาทีไรต้องมากินทุกที
บ้านใกล้วัง
ผมไม่รู้จะบรรยายบรรยากาศในร้านยังไงดี ยังไงลองเสริชอากู๋ ดูรูปเอานะครับ อิอิ
ตอนแรกพอเขาเข้าไปบอกพนักงานว่ามาสองคนพนักงานก็จัดให้เรานั่งโต๊ะที่ไม่ค่อยอยู่ริมทะเลเท่าไหร่
เขาขอพนักงานเปลี่ยนโต๊ะ แต่ผมบอกเขาว่าไม่เป็นไรยังไงก็มาเหมือนกัน
ปกติเขาจะโอเคตามผม ถ้าผมพูดแนวๆนี้ แต่ครั้งนี้ต่างออกไป
มาครั้งแรกทั้งที กูก็อยากให้มันออกมาดีที่สุด
ผมอึ้งครับ ไม่นึกว่าเขาจะคิดอะไรแบบนี้
ผมฉีกยิ้มยิงฟันสุดๆส่งมอบให้เขาก่อนจะพยักหน้ายอมทำตามแต่โดยดี
จริงๆแค่ได้อยู่กับมรึง กูก็พอใจแล้วนะ
ผมคิดแบบนี้ครับ แต่ไม่บอกเขาหรอก อิอิ
เรารอแค่แปปเดียวพนักงานก็เดินมาเรียกเราสองคนให้ไปนั่งโต๊ะไม้ริมทะเลมีร่มใหญ่กางบังแสงอาทิตย์ยามบ่าย
ผมหยิบเมนูมาดู ก่อนจะพบว่า แต่ละอย่างน่ากินหมดเลย
อันไหนดีวะ
ผมเงยหน้าละสายตาจากเมนูมองหน้าถามเขา
แต่มรึง!!!.....หยิบเมนูสิวะ จ้องกูทำไม
ผมเห็นเขายิ้มนิดนึง ก่อนจะหยิบเมนูของตัวเองขึ้นมาดูแล้วถามผมกลับ
เค้กมะพร้าวอันนี้ก็อร่อย
เขาบอกผม
แต่ผมหน่ะ ไม่ชอบกินเค้กมะพร้าวเลย ถ้าเป็นน้ำมะพร้าวหรือวุ้นมะพร้าว หรือเนื้อมะพร้าวที่อยู่ในน้ำมะพร้าวอ่ะ ผมจะชอบกินแต่ถ้าเอามาแปรรูปเป็นอย่างอื่นเนี่ย ผมจะไม่ค่อยชอบกิน
ผมส่ายหน้าบอกเขา
ไม่เอาอ่ะ กูไม่ชอบเค้กมะพร้าว
เขาละสายตาจากหน้าผม ก้มลงไปมองเมนูใหม่
แต่ครั้งนี้ผมไม่รอให้เขาเลือกให้ครับผมเลยพูดแทรกความคิดเขา
อันนี้น่ากินมะ
ผมยื่นเมนู แล้วชี้ให้เขาดู
เขาบอกว่าไม่เคยกิน ให้ลองดูผมเห็นดังนั้นก็เลยหันไปถามพี่หนักงาน
พี่ครับ อันนี้มันเป็นไงอ่ะ
พี่เขาชะโงกหน้ามาดูที่เมนูแปปนึง ก่อนจะตอบคำถามผม
เป็นเหมือนลาวาอ่ะค่ะ พอจิ้มตัวเค้กช็อคโกแลตร้อนๆก็จะไหลออกมา
ผมได้ยินดังนั้น ก็เลยหันไปพยักหน้าให้เขา
เขาพยักหน้าตอบ ก่อนจะสั่งเค้กเลมอนของเขาเอง
พนักงานหันมาถามว่าต้องการับเครื่องดื่มอะไร
ผมก้มลงไปดูเมนูอีกครั้ง แล้วก็สั่งเมนูยอดฮิตตามเดิม
คาปูชิโน่ปั่นครับ
ผมหันไปถามเขาว่าเขาจะเอาอะไร
เขาหันไปตอบพี่พนักงานว่า ช็อคโกแลตปั่น
พอพนักงานเดินจากไปเราสองคนก็นั่งเงียบไม่มีบทสนทนากันพักใหญ่
ผมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศเย็นสบายริมทะเลแม้ว่าจะมีแสงแดดยามบ่ายหน่อยๆ แต่มันก็ไม่ได้ร้อนไปเสียทีเดียว
ส่วนเขาก็คงดื่มด่ำไปกับลมเย็นๆริมทะเลเหมือนกันแหละครับ
แต่แค่ไม่ได้มองไปที่ทะเลเหมือนผม
อิอิ คงรู้นะครับว่าเขามองอะไร
พอผมรู้สึกว่าตัวเองโดนกินจนหายไปครึ่งตัวแล้วผมก็เลยหันไปสนใจคนตรงหน้าแทน
ผมชวนเขาคุยไปเรื่อย เล่านู้นเล่านี้ตลอด
เราสองคนมีเรื่องให้คุยกันตลอดเวลาอาจจะเพราะมีความเป็นเพื่อนสูงหลายๆเรื่องก็เลยไม่ต้องมานั่งคิดให้มันปวดหัวว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด
คุยไปได้สักพัก บรรดาของหวานก็มาตั้งอยู่บนโต๊ะ
ต้องขอบอกว่า น่ากินสุดๆ!!!
พอเค้กรูปหัวใจที่ผมสั่งมาวางอยู่ตรงหน้า ผมก็น้ำลายไหลแทบจะอยากเอานิ้วจิ้มแทนส้อมเลยด้วยซ้ำ
ลืมไปเลยว่าควรถ่ายรูปก่อน
ผมหยิบส้อมจิ้มตักเค้กทันที
เชร็ดดดดดดดดดด!!!ช็อคโกแลตไหลออกมาจริงๆด้วย
ผมทำหน้าเหมือนเด็กน้อยที่ได้เห็นแซนตาครอส
เขาหัวเราะตามกับท่าทางผม
เราสองคนสนใจเค้กตรงหน้าของตัวเอง ค่อยๆกินทีละคำเพื่อลิ้มรสความอร่อยอย่างเต็มที่
พอเรากินเค้กกันเสร็จ เขาก็เรียกพนักงานมาสั่งเค้กอีก4ชิ้น
ผมตกใจ ทำหน้าเหวอใส่เขา
มรึงสั่งอีกทำไม???
ผมโพล่งถามออกมาทั้งๆที่พี่พนักงานยังยืนอยู่เขาหันมาตอบผมก่อนจะหันไปสั่งเค้กต่อ
เอาไปฝากเพื่อนๆมรึงไง
อ่อ โอเค เข้าทางเพื่อนเลย
แต่ผมก็ยังด่าเขาตามธรรมเนียม
ไอฟายยยยยย เปลืองเงิน ไม่ต้องหรอก
เขาไม่สนใจ ยังคงสั่งพี่พนักงานต่อ
พอสั่งเสร็จ เขาก็หยิบกล้องโพลารอยด์ตัวเดิมขึ้นมาหันมาทางผม
มา กูถ่ายให้
ผมรีบคว้าแว่นกันแดดขึ้นมาใส่ แล้วส่งยิ้มไปให้เขา
แฉ๊ะ!
รูปถ่ายค่อยๆโผล่ขึ้นมาเหนือกล้อง ผมเอื้อมมือข้ามโต๊ะคว้าไปหยิบรูปมาดู
โหหหหหห หน้ากูเชรี่ยมาก
ผมสบทออกมาเสียงดัง พอได้เห็นรูป
เขาหัวเราะชอบใจนิดนึงก่อนผมจะเอื้อมมือข้ามโต๊ะไปหยิบกล้องจากมือเขา
มา กูถ่ายให้ จะเอาให้้เชรี่ยบ้าง
ผมพูดพลางยกกล้องขึ้นมาถ่ายเขา
แต่มุมนี้ มันน่าจะย้อนแสงนะ
ผมคิดได้ดังนั้น ก็เลยเปลี่ยนไปนั่งข้างๆเขาแทน
พอผมย้ายตัวมานั่งฝั่งเดียวกับเขา ผมก็ยกกล้องขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เขาคว้าแว่นกันแดดมาใส่เช่นกันแถมหยิบส้อมในจานมาคาบไว้ด้วย
ผมขยับตัวนิดหนึ่งเพื่อจะหามุมที่ถ่ายออกมาแล้วดูดีที่สุด
แฉ๊ะ!
พอผมกดชัตเตอร์ แล้วหยิบภาพสะบัดรอดู ก็เพิ่งได้ว่าผมทำผิดพลาดไปอย่างหนึ่ง
นี่กูจะถ่ายภาพให้มันออกมาเชรี่ยไม่ใช่รึไง
ผมสะบัดภาพเบา รอดูผลงานของตัวเอง
นั่นไง!!!! กูพลาดจริงๆ
รูปที่ผมถ่ายออกมาผิดกับรูปที่เขาถ่ายลิบลับ
ชายหนุ่มรูปงาม ใส่แว่นกันแดดสีดำเข้ากับรูปหน้าเผยให้เห็นจมูกโด่งคมสัน แถมกับริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆที่กำลังอมส้อมเหล็กสีเงินอยู่
สราดดดดดดดดด!!!! พ่อเทพบุตร!!!!!
ผมเผลอยิ้มออกมานิดนึง ก่อนจะยื่นให้เขาดู
สัส!
ผมด่าเขาตรงๆอีกครั้งนึงตามเคย
แหมมมม จะไม่ให้ด่าได้ไงหล่ะ ก็พอหยิบไปดูปุ๊ปก็หัวเราะเสียงหล่อทันที
เขายังคงหัวเราะอยู่อย่างนั้นไม่พูดอะไรก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวผมที่นั่งทำหน้าตาบูดเบี้ยวอยู่ข้างๆ แล้วพูดปลอบใจผม
555555 เอาหน่า อย่างน้อยมรึงก็มีแฟนหล่อนะเว้ย
แฟนลงแฟนหล่อเชรี่ยไร!!!!! กูหล่อกว่าเยอะ!!!!!
เห้ย!!! เดี๋ยวก่อนนะ!!!!! มะกี้ว่าไรนะ
แฟน.... แฟน ???? แฟน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แฟนพ่องมรึงเถอะ!!!!!
ผมเรียกสติตัวเองให้กลับมา หลังจากตกใจกับคำพูดของเขาก่อนจะเลื่อนหัวออกจากมือเขา แล้วพูดตอบกลับไป
ยังไม่ใช่แฟนเว้ย!!!!!!
เหมือนเขาจะไม่สนใจกับคำพูดผมเลยครับ
เพราะเขาก็ยังคงหัวเราะอยู่อย่างนั้น แถมยังลูบหัวผมต่อ
เออ โอเค รอบนี้กูยอม
ผมหดคอรับแรงลูบหัวเบาๆให้เขา
ยอมครั้งนี้ ไม่ใช่ยอมคงสถานะเป็นแฟนนะครับ
แค่ยอม ไม่เถียงเขา แค่นั้นเอง อิอิ
เรานั่งคุยกันได้สักพักโดยที่ผมยังนั่งอยู่ฝั่งเดียวกับเขานั่นแหละผมก็เริ่มสังเกตเห็นคนมายืนรอต่อคิวอยู่หน้าร้านเยอะขึ้นก็เลยบอกเขาว่าให้เก็บเงิน คนอื่นจะได้นั่งต่อ
เขาไม่ปฏิเสธครับ เพราะเขาคงชินแล้วกับนิสัยแบบนี้ของผมคือ โดยปกติแล้วถ้าไปนั่งร้านกาแฟ แล้วนั่งกินกันคุยกัน โดยไม่ได้เอาหนังสือไปอ่านหรือเอางานไปทำ เวลาผมเห็นคนมายืนรอ ผมจะเริ่มรู้สึกเกรงใจคนที่มายืนรอตลอดเพราะเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับผม ผมเคยยืนรออยู่นานมว๊ากกกกกกก รอโต๊ะว่างเพื่อจะได้นั่งทำงานรอจนกระทั่งพนักงานเดินมาเสริฟกาแฟทั้งๆที่กำลังยืนรออยู่ 555555
คือผมไม่ได้ว่ากล่าวใครนะครับที่ชอบนั่งคุยกันยาวหรือนั่งทำงานยาวในร้านกาแฟ
ผมเข้าใจครับ เพราะผมก็เป็น ยิ่งเวลาอยู่กับเพื่อนเราก็จะลืมเวลาไปเลย ผมไม่มีสิทธิ์ไปไล่เขา หรือไปด่าเขาหรือไปอารมณ์เสียใส่เขาเหล่านั้น เพราะผมรู้ว่ามันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะนั่งและผมไม่เคยถือโกรธคนเหล่านั้นเลย เพราะอย่างที่บอกครับ ผมใช้ความเข้าใจมากกว่าใช้อารมณ์
แล้วครั้งนั้นผมก็ผิดเองด้วยแหละที่ไม่ได้ดูก่อนว่ามีที่นั่งรึเปล่า
แต่เพราะผมเคยเจอเหตุการณ์อย่างนั้นกับผมผมก็เลยเข้าใจอารมณ์คนยืนรอที่นั่ง และถ้าเป็นไปได้ถ้าผมไม่มีธุระสำคัญอะไรที่ต้องนั่งต่อหรือเรื่องที่ผมนั่งคุยกันอยู่สามารถเดินไปคุยกันไปต่อได้ผมก็จะสละที่นั่งให้คนอื่นแทน
คือเรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดละอ่อนนะครับ ขอให้ใช้ความเข้าใจในการอ่านนะอย่าใช้อารมณ์ เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นความคิดส่วนตัวของใครของมันทั้งนั้นผมแค่อยากจะแชร์ความคิดของผมให้ฟัง
สำหรับตัวผม ผมไม่เคยบอกและไม่เคยคิดด้วยว่าคนที่นั่งในร้านกาแฟนานๆ หรือว่าร้านแมคโดนัลก็ตาม(เห็นเป็นข่าวอยู่ช่วงนึง)จะเป็นคนผิด คนเห็นแก่ตัว ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามผมคิดว่าคนเหล่านั้นมีสิทธิ์ที่จะนั่ง มีสิทธิ์ที่จะใช้พื้นที่ตรงนั้น(ยกเว้นกรณีที่เอาเก้าอี้ไปตั้งของส่วนตัวจนคนอื่นไม่มีที่นั่งอันนั้นผมว่าเกินไป) และถ้าไปถึงปุ๊ป ผมไม่มีที่นั่ง ผมก็มีสิทธิ์ที่จะเดินออกมาหรือไม่ก็ยืนรอ แต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่าผมไม่มีสิทธิ์ไปด่าเขาเหล่านั้นแน่นอนไม่ว่าจะด่าต่อหน้า หรือด่าในใจก็ตาม
ผมเลือกที่จะหันมามองตัวเองว่า ผมควรจะทำอะไรทางเลือกของผมคือ รอ กับไม่รอ แค่นั้นเอง ถ้าผมเลือกรอ ผมก็จะรออย่างใจเย็นแต่ถ้าผมเลือกไม่รอ ผมก็แค่เดินออกจากร้านไป ไม่ติดใจอะไรกับคนเหล่านั้นเลย
ผมพยายามพูดเรื่องนี้กับเพื่อนหลายคน หลายครั้งโดยเฉพาะช่วงสอบที่ไปร้านไหน ก็เต็มหมดทุกร้าน
เพื่อนผมหลายคนอารมณ์เสียตลอดที่ไปถึงปุ๊ป ร้านก็เต็มตลอดแต่ถึงแม้ผมจะอธิบายยังไง มันก็แล้วแต่คนจริงๆเลยครับ ว่าจะคิดเหมือนผมด้วยรึเปล่าแล้วคนที่ไม่ได้คิดเหมือนผม ผมก็ไม่เคยคิดว่าความคิดเค้าผิดเหมือนกันแค่เป็นความคิดที่ต่างกัน
มรึงจะไปด่าไปโกรธเขาทำไม สุดท้ายเค้าก็นั่งชิลๆอากาศเย็นสบาย แต่เป็นมรึงต่างหากที่ร้อนลุ่มอารมณ์เสียแทน แค่ปล่อยผ่านมันไปหาร้านอื่นนั่ง ไม่มีก็หาที่อื่น แค่นั้น ไม่ดีกว่าหรอวะ
ผมมักจะใช้คำพูดนี้เสมอ ในช่วงสอบ 55555555
อาจจะเป็นเพราะผมไม่ชอบคิดอะไรที่ทำให้ตัวเองอารมณ์เสียด้วยแหละผมก็เลยเปลี่ยนมุมมองเรื่องนี้สักหน่อย เพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเองมากกว่า อิอิ โหหห อ่านวันนี้แล้วรู้สึกว่านายหล่อกว่าพ่อนพพรของนายเลยนะนี่ อิอิ
โดย: อะจ๊าค IP: 183.88.26.200 วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:22:06:58 น.
ฮาตอนถ่ายรูปจังเลย
ถ่ายออกมายังไงก็ยังเป็นเทพบุตรอยู่ดี ปล. ตอนนี้มีข้อคิดที่ดีค่ะ โดย: กะเกิ้งแก้ว IP: 171.5.120.205 วันที่: 3 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:28:56 น.
55555
เขียนอะไรชอบมีข้อคิดตลอด สมกับที่ชอบอ่านหนังสือ อิอิ โดย: Mello IP: 101.51.223.13 วันที่: 5 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:18:13 น.
แอร๊ยยยย~~ฟิน
ชอบความคิดพี่มากเลย โดย: เป็ดน้อยก้าบๆ IP: 82.145.209.124 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา:9:56:36 น.
|
แนวนิ้วนิ้วแนว
![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
Group Blog
All Blog
Link |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |